The brilliance of bioluminescence - Leslie Kenna

การเรืองแสงทางชีวภาพอันน่าอัศจรรย์ - เลสลี่ เคนน่า (Leslie Kenna)

Translator: Andrea McDonough Reviewer: Jessica Ruby

Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Kanawat Senanan

Imagine a place so dark

ลองนึกถึงสถานที่ที่มึดมากๆ

you can't see the nose on your face.

คุณมองไม่เห็นอะไรเลยแม้กระทั่งจมูกของคุณเอง

Eyes opened or closed, it's all the same

จะลืมตาหรือหลับตา มันก็ไม่ต่างกัน

because the sun never shines there.

เพราะว่า ที่นี่แสงตะวันไม่เคยสาดส่อง

Up ahead, you see a light.

มองไปข้างหน้า คุณเห็นแสง

When you creep in to investigate,

เมื่อคุณคืบเข้าไปเพื่อจะสอดส่อง

a blue light flits around you.

แสงสีฟ้าก็โผบินรอบตัวคุณ

"I could watch this forever," you think.

"ฉันดูมันได้ทั้งวันเลยนะเนี่ย" คุณคิด

But you can't

แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น

because the mouth of an anglerfish has just sprung open

เพราะว่าปากของปลาตกเบ็ดอ้าออกอย่างรวดเร็ว

and eaten you alive.

และกินคุณไปทั้งตัวเลย

You are just one of many creatures

คุณเป็นหนึ่งในสิ่งชีวิตอีกมากมาย

at the bottom of the ocean who learn too late

ณ ใต้ก้นมหาสมุทร ที่เรียนรู้ช้าเกินไป

to appreciate the power of bioluminescence.

ที่จะซาบซึ้งถึงพบพลังของการเรืองแสงทางชีวภาพ

Bioluminescence refers to the ability

การเรืองแสงทางชีวภาพนั้น หมายถึงความสามารถ

of certain living things to create light.

ของสิ่งมีชีวิตบางชนิดที่สามารถสร้างแสงได้

The human body can make stuff

ร่างกายของมนุษย์สามารถสร้างสิ่งต่างๆ

like ear wax and toe nails,

เช่น ขี้หู หรือว่า เล็บเท้า

but these organisms can turn

แต่สิ่งมีชีวิตพวกนี้สามารถเปลี่ยน

parts of their body into glow sticks.

ส่วนของร่างกายของพวกมันเป็นแท่งเรืองแสงได้

It's like nature made them ready to rave.

มันเหมือนกับธรรมชาติสร้างให้พวกมันพร้อมจะอวดฟุ้ง

Why?

ทำไมน่ะหรือ

In one way or another,

ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

bioluminescence improves a living thing's chances of survival.

การเรืองแสงทางชีวภาพนั้นส่งเสริมให้สิ่งมีชีวิต มีโอกาสอยู่รอด

Take the firefly.

ยกตัวอย่างเช่น หิ่งห้อย

It's ability to glow green

ความสามารถของมันที่เรืองแสงสีเขียวได้

helps it attract a mate on a warm, summer night,

ช่วยมันในการหาคู่ ในคืนฤดูร้อนอันแสนอบอุ่น

but it's just one of many living things that can glow.

แต่มันก็เป็นแค่สิ่งมีชีวิตหนึ่งในอีกหลายชนิด ที่สามารถเรืองแสงได้

The railroad worm, Phrixothrix hirtus,

หนอนรถไฟ Phrixothrix hirtus

can light up its body in two colors:

สามารถทำให้ร่างกายของมันส่องสว่างได้สองสี

red and green.

แดงและเขียว

Would you eat something

คุณอยากที่จะกินอะไรบางอย่าง

that looks like an airport runway?

ที่เหมือนกับทางขึ้นลงเครื่องบินหรือเปล่าล่ะ

Neither would any sensible predator.

นักล่าที่มีวิจารณญาณก็คิดเช่นเดียวกัน

The flashing lights keep the worm safe.

แสงกระพริบนั้นทำให้หนอนปลอดภัย

Then there's the deep sea shrimp,

จากนั้นก็ยังมีกุ้งในทะเลลึก

Acantherphyra purpurea.

Acantherphyra purpurea

When it feels threatened,

เมื่อมันรู้สึกว่าถูกคุกคาม

it spews a cloud of glowing goo from its mouth.

มันพ่นหมอกเมือกที่เรืองแสงออกจากปากของมัน

Who doesn't run the other way

ใครจะไม่อยากวิ่งหนีไปอีกทาง

when they've just been puked on?

เมื่อพวกมันเพิ่งโดนอาเจียนใส่แบบนั้น

Plus, that puke attracts bigger predators

นอกจากนี้ เมือกนั้นยังล่อตานักล่าที่ตัวโตกว่า

who want to eat the shrimp's enemy.

ที่อยากจะกินศัตรูของกุ้ง

So what if you can't bioluminesce?

แล้วถ้าคุณเรืองแสงไม่ได้ล่ะ

No problem!

ไม่มีปัญหา

There are other ways for living things

มันยังมีอีกหลายหนทางสำหรับสิ่งมีชีวิต

to make bioluminescence work for them,

ที่จะทำให้การเรืองแสงทางชีวภาพทำประโยชน์ให้พวกมัน

even if they weren't born with the equipment to glow.

แม้ว่าพวกมันไม่ได้เกิดมากับสิ่งที่จะทำให้เรืองแสงได้

Let's revisit the anglerfish

ลองกลับไปดูปลาตกเบ็ดกัน

moments before it tried to eat you.

ณ วินาทีก่อนที่มันพยายามจะกินคุณ

That glowing bait on top of its head?

เหยื่อล่อที่เรืองแสงบนหัวของมัน

It comes from a pocket of skin called the esca.

มันเป็นถุงหนังที่เรียกว่า เอสก้า (esca)

The esca holds bioluminescent bacteria.

ในถุงนั้นบรรจุแบคทีเรียที่สามารถเรืองแสงได้

The anglerfish can't glow there by itself,

ปลาตกเบ็ดเรืองแสงเองไม่ได้

so it holds a sack of glowing bacteria instead.

ดังนั้นมันจึงถือถุงที่มีแบคทีเรียเรืองแสงได้แทน

Remember the firefly?

จำหิงห้อยได้ไหม

It can actually make itself glow.

มันสามารถเรืองแสงเองได้จริงๆ

Inside its lantern are two chemicals,

ในโคมของมันมีสารเคมีอยู่สองชนิด

a luciferin and a luciferase.

ลูซิเฟอริน (luciferin) กับ ลูซิเฟอเรส (luciferase)

When firefly luciferase and luciferin mix together

เมื่อลูซิเฟอเรสและลูซิเฟอรินของหิงห้อยเข้าผสมกัน

in the presence of oxygen

ในภาวะที่มีออกซิเจน

and fuel for the cell, called ATP,

และพลังงานจากเซลล์ที่เรียกว่า เอทีพี (ATP)

the chemical reaction gives off energy in the form of light.

ปฎิกิริยาเคมีนั้นให้พลังงาน ปรากฎออกมาในรูปของแสง

Once scientists figured out

เมื่อนักวิทยาศาสตร์เข้าใจว่า

how the firefly creates its luciferase and luciferin,

หิงห้อยสร้างลูซิเฟอเรสและลูซิเฟอรินของมันได้อย่างไร

they used genetic engineering

พวกเขาใช้เทคนิคการตัดต่อพันธุกรรม

to make this light-producing reaction

เพื่อที่จะสร้างปฎิกิริยาที่ให้แสง

occur inside other living things that can't glow.

ให้เกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิตอื่นๆที่ไม่สามารถเรืองแสงได้

For example, they inserted the genes,

ยกตัวอย่างเช่น พวกเขาแทรกยีน

or instructions, for a cell

หรือคู่มือสำหรับเซลล์

to create firefly luciferase and luciferin into a tobacco plant.

เพื่อสร้างลูซิเฟอเรสและลูซิเฟอรินของหิงห้อย ในต้นยาสูบ

Once there, the tobacco plant followed the instructions

เมื่อมันอยู่ในนั้นแล้ว ต้นยาสูบก็ทำตามคู่มือ

slipped into its DNA and lit up like a Christmas tree.

รวมมันเข้าไปในดีเอ็นเอของตัวเอง และส่องแสงเหมือนกับไฟต้นคริสมาส

The beauty of bioluminescence,

ความงามแห่งการเรืองแสงทางชีวภาพ

unlike the light from the sun or an incandescent bulb,

ไม่เหมือนกับแสงจากดวงอาทิตย์หรือหลอดไส้

is that it's not hot.

ตรงที่มันไม่ร้อน

It takes place in a range of temperatures

มันเกิดขึ้นในช่วงอุณหภูมิ

that don't burn a living thing.

ที่จะไม่สามารถเผาสิ่งมีชีวิตได้

And unlike a glow stick,

และไม่เหมือนกับแท่งเรืองแสง

which fades out as the chemicals inside get used up,

ซึ่งจะค่อยๆจางไปเมื่อสารเคมีข้างในถูกใช้หมด

bioluminescent reactions use replenishable resources.

ปฎิกิริยาการเรืองแสงทางชีวภาพนั้น ใช้แหล่งพลังงานที่มีการเติมกลับเข้าไปได้

That's one reason engineers

นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่ว่าทำไมวิศวกร

are trying to develop bioluminescent trees.

กำลังพยายามที่จะพัฒนาต้นไม้ที่เรืองแสงได้

Just think, if planted on the side of highways,

ลองคิดดูสิ ถ้าต้นไม้บนข้างทางหลวง

they could light the way, using only oxygen

สามารถส่องสว่างให้กับทาง โดยใช้แค่เพียงออกซิเจน

and other freely available, clean resources to run.

และวัตถุดิบอื่นๆที่สะอาด และมีอยู่ทั่วไปใช้ได้ฟรีๆ

Talk about survival advantage!

ลองพูดถึงเรื่องความได้เปรียบในการอยู่รอด

That could help our planet live longer.

นั่นอาจทำให้โลกของเราอยู่ได้นานขึ้น

Do you find yourself thinking of other ways

คุณกำลังคิดถึงทางเลือกอื่นๆอยู่อีกหรือเปล่า

to put bioluminescence to good use?

ที่จะนำการเรืองแสงทางชีวภาพมาทำประโยชน์

That glow stick you swing at a rave

แท่งเรืองแสงที่คุณแกว่งไปมาในงานคอนเสิร์ต

may help you find a mate,

อาจช่วยคุณในการหาคู่

but how else can bioluminescence improve your survival?

แต่การเรืองแสงนั้นจะช่วยส่งเสริมให้คุณอยู่รอดได้อย่างไร

If you start thinking in this way,

ถ้าคุณเริ่มที่จะคิดมาในแนวทางนี้

you have seen the light.

คุณก็ได้เห็นแสงสว่างแล้ว