Dead stuff: The secret ingredient in our food chain - John C. Moore

Translator: prinda kanok Reviewer: Sakunphat Jirawuthitanant

If someone called you scum,

หากใครเรียกคุณว่าสวะ

you'd probably be offended,

คุณก็คงคิดว่าเป็นคำด่า

but scientifically,

แต่ในทางวิทยาศาสตร์

they might not be far off.

คำเรียกนี้ก็ไม่ได้เกินจริงไปนัก

Have you ever thought about

คุณเคยคิดไหม

where your food comes from?

ว่าอาหารที่กินมาจากไหน

You might say it comes from

คุณอาจตอบว่ามาจาก

plants, animals, or even fungi,

พืช สัตว์ หรือแม้แต่เห็ดรา

but you'd probably rather not

แต่คงเลือกจะไม่นึกถึง

think about the rotting organisms and poop

ของเน่าเสียและมูล

that feed those plants, animals, and fungi.

ซึ่งเป็นอาหารของพืช สัตว์ และเห็ดรา

So really, you and most of the matter in your body

ดังนั้นอันที่จริงคุณและสิ่งต่างๆ ในร่างกาย

are just two or three degrees of separation

ก็ห่างออกไปเพียง 2 หรือ 3 ขั้น

from things like pond scum.

จากสวะในหนองน้ำ

All species in an ecosystem,

ทุกๆ สายพันธุ์ในระบบนิเวศ

from the creatures in a coral reef

ตั้งแต่สัตว์ที่อาศัยในแนวปะการัง

to the fish in a lake

ปลาในทะเลสาบ

to the lions on the savannah,

ไปจนถึงสิงโตในสะวันนา

are directly or indirectly

ล้วนถูกหล่อเลี้ยงด้วย

nourished by dead stuff.

ซากอินทรีย์ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม

Most of the organic matter in our bodies,

อินทรียสารแทบทั้งหมดในร่างกายเรานั้น

if we trace it back far enough,

หากย้อนรอยกลับไปได้นานพอ

comes from CO2 and water

ก็จะพบว่ามาจากน้ำและคาร์บอนไดออกไซด์

through photosynthesis.

ผ่านการสังเคราะห์ด้วยแสง

Plants use the energy from sunlight

พืชจะใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์

to transform carbon dioxide and water from the environment

เพื่อเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์ และน้ำจากสิ่งแวดล้อม

into glucose and oxygen.

ให้เป็นกลูโคสและออกซิเจน

That glucose is then transformed

จากนั้นกลูโคสจะถูกเปลี่ยนเป็น

into more complex organic molecules

โมเลกุลอินทรีย์ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น

to form leaves, stems, roots, fruit, and so on.

เพื่อสร้างใบ ลำต้น ราก ผล และอื่นๆ

The energy stored in these organic molecules

พลังงานที่กักเก็บในโมเลกุลอินทรีย์เหล่านี้

supports the food chains with which we're familiar.

หล่อเลี้ยงห่วงโซ่อาหารซึ่งเราคุ้นเคยกันดี

You've probably seen illustrations like this

คุณคงเคยเห็นภาพวาดแบบนี้

or this.

หรือแบบนี้

These green food chains

ห่วงโซ่อาหารแบบผู้ล่าเช่นนี้

start with living plants at their base.

จะเริ่มจากพืชที่ยังมีชีวิต

But in real-life terrestrial ecosystems,

แต่ภายในระบบนิเวศบนบกของจริง

less than 10% of plant matter

มีพืชไม่ถึง 10%

is eaten while it's still alive.

ที่ถูกกินในตอนที่ยังมีชีวิต

แล้วอีก 90% ที่เหลือล่ะ

What about the other 90?

Well, just look at the ground

ลองมองดูตามพื้น

on an autumn day.

ในช่วงฤดูใบไม้ผลิสิ

Living plants shed dead body parts:

พืชที่ยังมีชีวิตจะสละส่วนที่ตายแล้ว

fallen leaves, broken branches,

เช่น ใบไม้ที่ร่วง กิ่งที่หัก

and even underground roots.

หรือแม้แต่รากใต้ดิน

Many plants are lucky enough

พืชมากมายโชคดีมากพอ

to go their whole lives without being eaten,

ที่ได้เติบโตและโรยราไปโดยไม่ถูกกิน

eventually dying and leaving remains.

และเมื่อตายก็จะทิ้งซากเอาไว้

All of these uneaten, undigested, and dead plant parts,

ซากส่วนประกอบพืชเหล่านี้ ที่ไม่ถูกกินหรือย่อยสลาย

that 90% of terrestrial plant matter?

หรือก็คือ 90% ของพืชบนบกทั้งหมด

That becomes detritus,

จะกลายเป็นซากอินทรีย์

the base of what we call the brown food chain,

ซึ่งเป็นพื้นฐานของ ห่วงโซ่อาหารแบบซากอินทรีย์

which looks more like this.

ที่มีลักษณะเช่นนี้

What happens to plants

สิ่งที่เกิดกับพืช

also happens to all other organisms up the food chain:

ก็เกิดขึ้นกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในห่วงโซ่อาหารเช่นกัน

some are eaten alive,

บางส่วนจะถูกจับกินทั้งเป็น

but most are eaten only

แต่ส่วนใหญ่จะถูกกินในตอนที่

when they're dead and rotting.

กลายเป็นซากเน่าเสียเท่านั้น

And all along this food chain,

นอกจากนี้ ภายในห่วงโซ่อาหาร

living things shed organic matter

สิ่งมีชีวิตจะสละอินทรียสาร

และปล่อยของเสียจากกระบวนการย่อยอาหาร

and expel digestive waste

before dying and leaving their remains to decay.

ก่อนจะตายไปและทิ้งซากเน่าเปื่อยไว้

All that death sounds grim, right?

ความตายเหล่านั้นฟังดูน่ากลัวใช่ไหม

But it's not.

ที่จริงแล้วไม่เลย

All detritus is ultimately consumed

ซากอินทรีย์ทั้งหมดจะเป็นอาหาร

by microbes and other scavengers,

ให้กับจุลชีพและสัตว์กินซากอื่นๆ

so it actually forms the base of the brown food chain

กลายเป็นพื้นฐานของ ห่วงโซ่อาหารแบบซากอินทรีย์

that supports many other organisms,

ที่หล่อเลี้ยงสิ่งมีชีวิตอื่นๆ อีกมากมาย

including us.

รวมถึงเรา

Scientists are learning

นักวิทยาศาสตร์เริ่มเข้าใจ ว่าซากอินทรีย์เหล่านี้

that this detritus

is an unexpectedly huge energy source,

เป็นแหล่งพลังงานที่ใหญ่เกินคาด

fueling most natural ecosystems.

สำหรับระบบนิเวศทางธรรมชาติส่วนใหญ่

But the interactions within an ecosystem

แต่ปฏิสัมพันธ์ภายในระบบนิเวศ

are even more complex than that.

มีความซับซ้อนยิ่งกว่านั้น

What a food chain really represents

ในความเป็นจริงแล้วห่วงโซ่อาหาร

is a single pathway of energy flow.

จะสื่อถึงหนึ่งเส้นทางการไหลของพลังงาน

And within any ecosystem,

และในทุกระบบนิเวศ

many of these flows

เส้นทางเหล่านี้

are linked together

ก็มักจะเชื่อมถึงกัน

to form a rich network of interactions,

กลายเป็นเครือข่ายปฏิสัมพันธ์อันซับซ้อน

or food web,

หรือสายใยอาหาร

with dead matter supporting that network at every step.

ซึ่งมีซากอินทรีย์คอยหล่อเลี้ยงในทุกขั้น

The resulting food web

ส่งผลให้สายใยอาหารเชื่อมโยงกันอย่างมาก

is so connected

that almost every species

ถึงขนาดที่แทบทุกสายพันธุ์

is no more than two degrees from detritus,

ไม่เคยห่างจากซากอินทรีย์เกิน 2 ขั้น

even us humans.

แม้แต่มนุษย์เรา

คุณคงไม่กินของเน่าเสีย

You probably don't eat rotting things,

poop, or pond scum directly,

มูล หรือสวะในหนองน้ำโดยตรง

but your food sources probably do.

แต่แหล่งอาหารของคุณคงกินแน่นอน

Many animals we eat

สัตว์มากมายที่เรากิน

either feed directly on detritus themselves,

หากไม่ได้กินซากอินทรีย์โดยตรง

like pork, poultry, mushrooms, shellfish,

เช่น หมู สัตว์ปีก เห็ด สัตว์น้ำมีเปลือก

or catfish and other bottom feeders,

หรือปลาดุกและสัตว์หน้าดินอื่นๆ

ก็คงกินสิ่งที่สัตว์ผลิตขึ้น

or they are fed animal by-products.

So, if you're thinking nature is full of waste,

ดังนั้น หากคิดว่าธรรมชาติเต็มไปด้วยของเสีย

you're right.

คุณคิดถูกแล้ว

But one organism's garbage is another's gold,

แต่ขยะจากสิ่งมีชีวิตหนึ่ง ก็มีค่าสำหรับสิ่งมีชีวิตอื่น

and all that rotting dead stuff

และซากอินทรีย์ที่เน่าเสียนี้

ultimately provides the energy that nourishes us

ก็คือสิ่งที่มอบพลังงานซึ่งหล่อเลี้ยงเรา

and most of life on Earth,

และชีวิตแทบทั้งหมดบนโลก

as it passes through the food web.

ในยามที่มันไหลผ่านไปตามสายใยอาหาร

Now that's some food for thought.

เรื่องนี้ก็นับเป็นอาหารสมองที่ไม่เลวเลย