Why is biodiversity so important? - Kim Preshoff

ทำไมความหลากหลายทางชีวภาพจึงสำคัญ - คิม เพรชอฟ (Kim Preshoff)

Translator: Thitiporn Ratanapojnard Reviewer: Kelwalin Dhanasarnsombut

Our planet's diverse thriving ecosystems may seem like permanent fixtures,

ระบบนิเวศน์อันหลากหลายอุดมสมบูรณ์ของโลกเรา อาจดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ยั่งยืน

but they're actually vulnerable to collapse.

แต่อันที่จริงแล้วมันเปราะบาง ต่อการล่มสลาย

Jungles can become deserts,

ป่าอาจกลายเป็นทะเลทราย

and reefs can become lifeless rocks,

และแนวปะการังอาจกลายเป็นแนวหินไร้ชีวิต

even without cataclysmic events, like volcanoes and asteroids.

แม้จะไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงทางธรรมชาติ เช่น ภูเขาไฟ หรือดาวเคราะห์ชนโลก

What makes one ecosystem strong and another weak in the face of change?

อะไรทำให้ระบบนิเวศน์หนึ่งแข็งแรง และอีกที่หนึ่งอ่อนแอท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง

The answer, to a large extent, is biodiversity.

คำตอบในภาพรวมคือ ความหลากหลายทางชีวภาพ

Biodiversity is built out of three intertwined features:

ความหลากหลายทางชีวภาพ เกิดขึ้นจากความพิเศษสามสิ่งที่เชื่อมโยงกัน

ecosystem diversity,

ความหลากหลายของระบบนิเวศน์

species diversity,

ความหลากหลายของสายพันธุ์

and genetic diversity.

และความหลากหลายทางพันธุกรรม

The more intertwining there is between these features,

ยิ่งสามสิ่งนี้มีความเชื่อมโยงกันมากเท่าใด

the denser and more resilient the weave becomes.

ความสัมพันธ์ก็ยิ่งแนบแน่น และยืดหยุ่นมากขึ้นเท่านั้น

Take the Amazon rainforest,

ตัวอย่าง เช่น ป่าฝนแอมะซอน

one of the most biodiverse regions on Earth

หนึ่งในพื้นที่ ที่มีหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดในโลก

due to its complex ecosystems,

เพราะระบบนิเวศน์ที่ซับซ้อนของมัน

huge mix of species,

สายพันธุ์ที่ผสมปนเปกันมากมาย

and the genetic variety within those species.

และความหลากหลายทางพันธุกรรม ภายในสายพันธุ์พวกนั้น

Here are tangled liana vines,

นี่คือเถาต้นเลียน่า (liana) อันคดเคี้ยว

which crawl up from the forest floor to the canopy,

ที่เลื้อยขึ้นมาจากพื้นป่ามาเป็นร่มเงา

intertwining with treetops

สอดประสานกับยอดไม้

and growing thick wooden stems that support these towering trees.

และลำต้นที่เป็นเนื้อไม้หนา ที่ประคองบรรดาต้นไม้ที่สูงราวกับหอคอย

Helped along by the vines,

ด้วยความช่วยเหลือของเถาวัลย์นี้

trees provide the seeds, fruits and leaves to herbivores,

ต้นไม้ให้เมล็ด ผลไม้ และใบไม้แก่สัตว์กินพืช

such as the tapir and the agouti,

เช่น สมเสร็จ และ หนูเข็ม

which disperse their seeds throughout the forest so they can grow.

ที่กระจายเมล็ดของมันไปทั่วป่า เพื่อให้มันสามารถเติบโตได้

Leftovers are consumed by the millions of insects

ส่วนที่เหลือถูกกินโดยแมลงนับล้านๆ

that decompose and recycle nutrients to create rich soil.

ที่ย่อยสลายและรีไซเคิลสารอาหาร เพื่อสร้างดินอันอุดมสมบูรณ์

The rainforest is a huge system filled with many smaller systems, like this,

ป่าร้อนชื้นเป็นระบบขนาดมโหฬาร ที่เต็มไปด้วยระบบเล็กๆ มากมายเช่นนี้

each packed with interconnected species.

แต่ละระบบอัดแน่นไปด้วยสายพันธุ์ ที่เชื่อมโยงซึ่งกันและกัน

Every link provides stability to the next,

ทุกความเชื่อมโยงให้ความมั่นคง กับความเชื่อมโยงถัดไป

strengthening biodiversity's weave.

ทำให้การโยงใยของความหลากหลายทางชีวภาพ มั่นคงแข็งแรง

That weave is further reinforced

การโยงใยนี้ถูกเสริมความแข็งแรงขึ้นอีก

by the genetic diversity within individual species,

ด้วยความหลากหลายทางพันธุกรรม ในแต่ละสายพันธุ์

which allows them to cope with changes.

ซึ่งทำให้มันสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลง

Species that lack genetic diversity due to isolation

สายพันธุ์ที่ขาดความหลากหลายทางพันธุกรรม เนื่องจากการแยก

or low population numbers,

หรือมีประชากรน้อย

are much more vulnerable to fluctuations

จะเปราะบางมากกว่าต่อการเปลี่ยนแปลง

caused by climate change, disease or habitat fragmentation.

ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ โรค และที่อยู่อาศัยที่ถูกแยกย่อย

Whenever a species disappears because of its weakened gene pool,

เมื่อใดก็ตามที่สายพันธุ์สูญหายไป เพราะแหล่งรวมพันธุกรรมของมันอ่อนแอ

a knot is untied and parts of the net disintegrate.

ปมนี้ก็จะถูกคลาย และส่วนของการโยงใยก็จะแยกสลาย

So, what if we were to remove one species from the rainforest?

แล้วถ้าเราเอาสิ่งมีชีวิตหนึ่งสายพันธุ์ออกจากป่าล่ะ

Would the system fall apart?

ระบบจะแตกสลายหรือเปล่า

Probably not.

อาจจะไม่

The volume of species,

ปริมาณของสายพันธุ์

their genetic diversity,

ความหลากหลายทางพันธุกรรมของมัน

and the complexity of the ecosystems

และความซับซ้อนของระบบนิเวศน์

form such rich biodiversity in this forest

ทำให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพ อันอุดมในป่านี้

that one species gap in the weave won't cause it to unravel.

ช่องว่างของหนึ่งสายพันธุ์ที่หายไปในการโยงใย ไม่ทำให้มันแตกสลาย

The forest can stay resilient and recover from change.

ป่าสามารถเยีวยาตัวเอง และฟื้นตัวจากการเปลี่ยนแปลงได้

But that's not true in every case.

แต่มันไม่ใช่แบบนี้ทุกกรณี

In some environments, taking away just one important component

ในสภาพแวดล้อมบางอย่าง การเอาส่วนสำคัญออกไปเพียงส่วนเดียว

can undermine the entire system.

ก็สามารถกร่อนทำลายทั้งระบบได้

Take coral reefs, for instance.

ตัวอย่างเช่น แนวปะการัง

Many organisms in a reef are dependent on the coral.

สิ่งมีชีวิตมากมายในแนวปะการัง ต้องพึ่งพาปะการัง

It provides key microhabitats, shelter and breeding grounds

มันให้ที่พักอาศัยขนาดจิ๋ว ที่กำบังและที่ผสมพันธุ์

for thousand of species of fish, crustaceans and mollusks.

สำหรับปลานับพันสายพันธ์ุ สัตว์พวกกุ้งหอยต่างๆ

Corals also form interdependent relationships with fungi and bacteria.

ปะการังยังมีความสัมพันธ์ที่พึ่งพากัน กับราและแบคทีเรีย

The coral itself is a loom

ตัวปะการังเองคือหูกทอผ้า

that allows the tangled net of biodiversity to be woven.

ที่การโยงใยของความหลากหลายทางชีวภาพ ได้ถูกถักทอขึ้น

That makes coral a keystone organism,

นั่นทำให้ปะการังเป็นสิ่งมีชีวิตหลัก

one that many others depend on for their suvival.

ที่ความอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตมากมาย ต้องพึ่งพามัน

So what happens when destructive fishing practices,

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าการจับปลาแบบทำลายล้าง

pollution and ocean acidification

มลภาวะ และภาวะทะเลเป็นกรด

weaken coral or even kill it altogether?

ทำให้ปะการังอ่อนแอ หรือฆ่ามันตายทั้งหมด

Exactly what you might think.

อย่างที่คุณคิดไว้เลย

The loss of this keystone species leaves its dependents at a loss, too,

การสูญเสียสายพันธุ์หลัก ทำให้สิ่งที่ต้องพึ่งพามันตายไปด้วย

threatening the entire fabric of the reef.

เป็นการคุกคามผืนปะการังทั้งหมด

Ecosystem, species and genetic diversity

ระบบนิเวศน์ สายพันธุ์ และความหลากหลายทางพันธุกรรม

together form the complex tangled weave of biodiversity

ร่วมกันถักทอเป็นที่การโยงใยซับซ้อน ของความหลากหลายทางชีวภาพ

that is vital for the survival of organisms on Earth.

ที่สำคัญต่อการอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตบนโลก

We humans are woven into this biodiversity, too.

มนุษย์เราก็ถูกถักทอเข้าใน ความหลากหลายทางชีวภาพนี้ด้วย

When just a few strands are lost,

เมื่อเส้นใยเพียงบางเส้นหายไป

our own well-being is threatened.

ความอยู่ดีมีสุขของเราก็ถูกคุกคาม

Cut too many links, and we risk unraveling it all.

ตัดเส้นใยออกไปมากเข้า เราก็เสี่ยงที่จะทำทุกอย่างแตกสลาย

What the future brings is unpredictable,

อนาคตจะเป็นอย่างไรไม่อาจคาดเดาได้

but biodiversity can give us an insurance policy,

แต่ความหลากหลายทางชีวภาพ สามารถให้หลักประกันแก่เรา

Earth's own safety net to safeguard our survival.

เป็นตาข่ายนิรภัยของโลก ที่จะปกป้องความอยู่รอดของพวกเรา