Forget shopping. Soon you'll download your new clothes - Danit Peleg

Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Sritala Dhanasarnsombut

In the past few months, I've been traveling for weeks at a time

ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ฉันเดินทางครั้งละหลายสัปดาห์

with only one suitcase of clothes.

โดยมีกระเป๋าเสื้อผ้าเพียงใบเดียว

One day, I was invited to an important event,

วันหนึ่ง ฉันได้รับเชิญไปงานสำคัญ

and I wanted to wear something special and new for it.

และฉันต้องการที่จะ ใส่ชุดที่ใหม่และพิเศษสักหน่อย

So I looked through my suitcase and I couldn't find anything to wear.

ฉันก็เลยดูในกระเป๋าเดินทางของฉัน และไม่เจออะไรที่จะใส่ได้เลย

I was lucky to be at the technology conference on that day,

ฉันโชคดีที่อยู่ในงานสัมนาเทคโนโลยี ในวันนั้น

and I had access to 3D printers.

และฉันเข้าถึงเครื่องพิมพ์สามมิติได้

So I quickly designed a skirt on my computer,

ฉันก็เลยออกแบบกระโปรงอย่างรวดเร็ว ในคอมพิวเตอร์

and I loaded the file on the printer.

และโหลดไฟล์ลงบนเครื่องพิมพ์

It just printed the pieces overnight.

มันพิมพ์ชิ้นส่วนกระโปรงออกมาในคืนนั้น

The next morning, I just took all the pieces,

และเช้าวันรุ่งขึ้น ฉันก็แค่เอาชิ้นส่วนเหล่านั้น

assembled them together in my hotel room,

ไปประกอบกันในห้องในโรงแรม

and this is actually the skirt that I'm wearing right now.

และอันที่จริง มันก็คือกระโปรง ที่ฉันใส่อยู่ในตอนนี้ค่ะ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

So it wasn't the first time that I printed clothes.

ฉะนั้น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันพิมพ์เสื้อผ้า

For my senior collection at fashion design school,

สำหรับคอลเลคชั่นระดับซีเนียร์ของฉัน ที่โรงเรียนการออกแบบแฟชั่น

I decided to try and 3D print an entire fashion collection from my home.

ฉันติดสินใจที่จะลองและพิมพ์คอลเลคชั่นแฟชั่น แบบสามมิติจากบ้านของฉันทั้งหมด

The problem was that I barely knew anything about 3D printing,

ปัญหาก็คือว่า ฉันแทบจะไม่รู้อะไรเลย เกี่ยวกับการพิมพ์สามมิติ

and I had only nine months to figure out how to print five fashionable looks.

และฉันมีเวลาเพียงเก้าเดือนในการศึกษา ว่าจะพิมพ์งานแฟชั่นห้างานได้อย่างไร

I always felt most creative when I worked from home.

ฉันรู้สึกมีความคิดสร้างสรรค์เสมอ เมื่อฉันได้ทำงานที่บ้าน

I loved experimenting with new materials,

ฉันรักการทดลองกับวัสดุใหม่ ๆ

and I always tried to develop new techniques

และฉันพยายามที่จะพัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ เสมอ

to make the most unique textiles for my fashion projects.

เพื่อสร้างเนื้อผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุด สำหรับโครงการแฟชั่นของฉัน

I loved going to old factories and weird stores

ฉันรักที่จะไปโรงงานเก่า และร้านแปลก ๆ

in search of leftovers of strange powders and weird materials,

เพื่อค้นหาผลแปลก ๆ และวัสดุแปลก ๆ ที่เหลืออยู่

and then bring them home to experiment on.

และจากนั้นก็นำกลับบ้าน และทำการทดลองกับมันดู

As you can probably imagine,

คุณก็คงจินตนาการออกว่า

my roommates didn't like that at all.

เพื่อนร่วมห้องของฉันไม่ชอบมันสักนิด

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

So I decided to move on to working with big machines,

ฉันก็เลยติดสินใจที่จะเปลี่ยนไปทำงาน กับเครื่องจักรใหญ่ ๆ

ones that didn't fit in my living room.

ที่ไม่สามารถจะวางไว้ในห้องฉันได้

I love the exact and the custom work I can do

ฉันชอบงานที่ปราณีตถูกต้องตามต้องการ

with all kinds of fashion technologies,

ที่ฉันจะทำได้ด้วยเทคโนโลยีแฟชั่นต่าง ๆ

like knitting machines and laser cutting and silk printing.

เช่น เครื่องถักทอ การตัดด้วยเลเซอร์ และการพิมพ์ไหม

One summer break, I came here to New York for an internship

ช่วงพักฤดูร้อนหนึ่ง ฉันมาที่นิวยอร์คเพื่อฝึกงาน

at a fashion house in Chinatown.

ที่แฟชั่นเฮาส์ในย่านคนจีน

We worked on two incredible dresses that were 3D printed.

เราทำงานกับชุดกระโปรงที่น่าทึ่งนี้ ที่พิมพ์แบบสามมิติ

They were amazing -- like you can see here.

พวกมันดูน่าทึ่ง อย่างที่คุณได้เห็น

But I had a few issues with them.

แต่ฉันมีปัญหากับมันนิดหน่อย

They were made from hard plastics and that's why they were very breakable.

พวกมันทำมาจากพลาสติกแข็ง ๆ และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้มันแตกหักง่ายมาก

The models couldn't sit in them,

นางแบบใส่มันแล้วจะไม่สามารถนั่งได้

and they even got scratched from the plastics under their arms.

พวกเขาโดนพลาสติก ที่อยู่ใต้วงแขนครูดเอาอีกด้วย

With 3D printing, the designers had so much freedom

ด้วยการพิมพ์แบบสามมิติ นักออกแบบมีอิสระมากมาย

to make the dresses look exactly like they wanted,

ที่จะทำให้ชุดกระโปรง ออกมาเป็นอย่างที่เขาต้องการ

but still, they were very dependent on big and expensive industrial printers

แต่กระนั้น พวกเขาก็ยังต้องพึ่งพา เครื่องพิมพ์ระดับอุตสาหกรรมที่แพงและใหญ่

that were located in a lab far from their studio.

ที่ตั้งอยู่ในห้องทดลอง ไกลจากสตูดิโอของพวกเขา

Later that year, a friend gave me a 3D printed necklace,

ต่อมาในปีนั้น เพื่อนของฉัน ให้สร้อยคอที่พิมพ์แบบสามมิติกับฉัน

printed using a home printer.

โดยเครื่องพิมพ์ที่บ้าน

I knew that these printers were much cheaper

ฉันรู้ว่าเครื่องพิมพ์เหล่านี้มันถูกกว่ามาก

and much more accessible than the ones we used at my internship.

และเข้าถึงได้ง่ายกว่าเครื่องที่ฉันเคยใช้ ตอนที่ฝึกงาน

So I looked at the necklace,

ฉันมองที่สร้อยคอ

and then I thought, "If I can print a necklace from home,

และจากนั้นฉันก็คิด "ถ้าฉันสามารถพิมพ์สร้อยคอได้ที่บ้าน

why not print my clothes from home, too?"

ทำไมฉันจะไม่ลองพิมพ์เสื้อผ้าที่บ้านบ้างล่ะ"

I really liked the idea that I wouldn't have to go to the market

ฉันชอบความคิดนี้มาก ที่ว่าฉันไม่ต้องออกไปตลาด

and pick fabrics that someone else chose to sell --

และเลือกผ้าที่มีคนเลือกมาวางขาย

I could just design them and print them directly from home.

ฉันสามารถออกแบบพวกมัน และพิมพ์พวกมันออกได้โดยตรงที่บ้าน

I found a small makerspace,

ฉันพบกับที่สำหรับกลุ่มนักประดิษฐ์

where I learned everything I know about 3D printing.

ที่ซึ่งฉันได้เรียนรู้ทุกอย่าง ที่ต้องรู้เกี่ยวกับการพิมพ์สามมิติ

Right away, they literally gave me the key to the lab,

พวกเขาให้กุญแจไปยังห้องทดลองกับฉันในทันที

so I could experiment into the night, every night.

ฉันก็เลยสามารถทำการทดลองได้จนดึกดื่น ทุก ๆ คืน

The main challenge was to find the right filament for printing clothes with.

ความท้าทายหลักคือการค้นหาเส้นใย ที่เหมาะสมต่อการพิมพ์เสื้อผ้า

So what is a filament?

แล้วเส้นใยนั้นคืออะไร

Filament is the material you feed the printer with.

เส้นใยคือวัสดุที่คุณป้อนให้กับเครื่องพิมพ์

And I spent a month or so experimenting with PLA,

และฉันใช้เวลาประมาณเดือนหนึ่งได้ ในการทดลองกับพีแอลเอ

which is a hard and scratchy, breakable material.

ซึ่งเป็นวัสดุที่แข็ง ยืดได้ และหักได้

The breakthrough came when I was introduced to Filaflex,

การค้นพบที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้น เมื่อฉันได้พบกับฟิลาเฟล็ค (Filaflex)

which is a new kind of filament.

ซึ่งคือเส้นใยชนิดใหม่

It's strong, yet very flexible.

มันแข็งแรง แต่ยังยืดหยุ่นมาก

And with it, I was able to print the first garment,

และเมื่อใช้มัน ฉันสามารถพิมพ์เครื่องนุ่งห่มตัวแรก

the red jacket that had the word "Liberté" --

เสื้อนอกสีแดงที่มีคำว่า "ลีเบร์เต้"

"freedom" in French --

"อิสระภาพ" ในภาษาฝรั่งเศส

embedded into it.

ฝังอยู่บนนั้น

I chose this word because I felt so empowered and free

ฉันเลือกคำนี้เพราะฉันรู้สึกว่า ได้รับอำนาจและอิสระภาพ

when I could just design a garment from my home

เมื่อฉันสามารถออกแบบเครื่องนุ่งห่ม ได้จากบ้านของฉัน

and then print it by myself.

และเมื่อพิมพ์มันออกมาด้วยตนเอง

And actually, you can easily download this jacket,

และอันที่จริง คุณสามารถดาวโหลดเสื้อนอกตัวนี้ได้

and easily change the word to something else.

และเปลี่ยนคำนั้นเป็นอย่างอื่น

For example, your name or your sweetheart's name.

ยกตัวอย่างเช่น ชื่อของคุณ หรือชื่อของหวานใจของคุณ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

So the printer plates are small,

แท่นพิมพ์นั้นมีขนาดเล็ก

so I had to piece the garment together, just like a puzzle.

ฉันจึงต้องติดชิ้นส่วนเครื่องนุ่งห่ม เข้าด้วยกันเหมือนกับตัวต่อ

And I wanted to solve another challenge.

และฉันต้องการที่จะชนะความท้าทายอีกอย่าง

I wanted to print textiles

ฉันต้องการที่จะพิมพ์สิ่งทอ

that I would use just like regular fabrics.

ที่ฉันจะใช้เป็นผ้าได้ตามปกติ

That's when I found an open-source file

เมื่อฉันได้พบกับไฟล์โอเพิล-ซอร์ส

from an architect who designed a pattern that I love.

จากสถาปนิกผู้ออกแบบลวดลายที่ฉันชอบ

And with it, I was able to print a beautiful textile

และฉันก็สามารถพิมพ์สิ่งทอที่สวยงามนี้ด้วยมัน

that I would use just like a regular fabric.

ซึ่งฉันจะสามารถนำมันไปเป็นผ้าตามปกติได้

And it actually even looks a little bit like lace.

และอันที่จริง มันค่อนข้างจะคล้ายกับเชือก

So I took his file and I modified it, and changed it, played with it --

ฉันนำไฟล์ของเขา และดัดแปลงมัน และเปลี่ยนมัน และลองเล่นมันดู

many kinds of versions out of it.

ได้มันมาหลายรูปแบบ

And I needed to print another 1,500 more hours

และฉันต้องการพิมพ์มันออกมา โดยใช้เวลาอีก 1,500 ชั่วโมง

to complete printing my collection.

เพื่อที่จะพิมพ์คอลเลคชันของฉันจนเสร็จ

So I brought six printers to my home and just printed 24-7.

ฉันจึงนำเครื่องพิมพ์หกเครื่องมาที่บ้าน และทำการพิมพ์ทั้งวันทั้งคืน

And this is actually a really slow process,

และนี่เป็นกระบวนการที่ช้ามาก

but let's remember the Internet was significantly slower 20 years ago,

แต่ลองคิดดูนะคะ ว่าอินเทอร์เน็ต เมื่อ 20 ปีก่อน ช้ากว่านี้มาก

so 3D printing will also accelerate

ฉะนั้นการพิมพ์แบบสามมิติจะเร็วขึ้น

and in no time you'll be able to print a T-Shirt in your home

และไม่กี่อึดใจ คุณก็จะสามารถพิมพ์เสื้อยืด ได้ที่บ้าน

in just a couple of hours, or even minutes.

ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงหรือนาที

So you guys, you want to see what it looks like?

ฉะนั้น ทุกคนคะ อยากดูไหมคะ ว่ามันออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร

Audience: Yeah!

ผู้ชม: อยาก

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

Danit Peleg: Rebecca is wearing one of my five outfits.

ดานิท ดีเลก: รีเบคก้ากำลังใส่ชุด หนึ่งในห้าชุดของฉัน

Almost everything here she's wearing, I printed from my home.

เกือบทุกอย่างตรงนี้ ที่เธอใส่อยู่ ฉันพิมพ์เองจากที่บ้าน

Even her shoes are printed.

แม้กระทั่งรองเท้าก็พิมพ์ด้วยค่ะ

Audience: Wow!

ผู้ชม: ว้าว!

Audience: Cool!

ผู้ชม : เจ๋งไปเลย

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

Danit Peleg: Thank you, Rebecca.

ดานิท พีเลก: ขอบคุณค่ะ รีเบคก้า

(To audience) Thank you, guys.

(พูดกับผู้ชม) ขอบคุณนะคะ ทุกคน

So I think in the future, materials will evolve,

ฉะนั้น ฉันคิดว่าในอนาคต วัสดุต่าง ๆ จะพัฒนา

and they will look and feel like fabrics we know today,

และพวกมันจะมีรูปลักษณ์และสัมผัส ที่เหมือนกับผ้าที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน

like cotton or silk.

เช่น ฝ้าย หรือ ไหม

Imagine personalized clothes that fit exactly to your measurements.

ลองจินตนาการถึงเสื้อผ้าที่ทำมาเฉพาะบุคคล ที่พอดิบพอดีกับสัดส่วนของคุณ

Music was once a very physical thing.

ดนตรีเคยเป็นสิ่งของทางกายภาพ

You would have to go to the record shop and buy CDs,

คุณจะต้องออกไปยังร้านเพื่อซื้อซีดี

but now you can just download the music --

แต่ตอนนี้ คุณสามารถดาวน์โหลดดนตรีได้

digital music --

ดนตรีดิจิตัล

directly to your phone.

เข้ามายังโทรศัพท์ของคุณโดยตรง

Fashion is also a very physical thing.

แฟชั่นยังเป็นสิ่งของทางกายภาพ

And I wonder what our world will look like

และฉันก็อยากจะรู้จริง ๆ ว่า โลกของเราจะเป็นอย่างไร

when our clothes will be digital, just like this skirt is.

เมื่อเสื้อผ้าของพวกเราจะเป็นดิจิตัล เหมือนกับกระโปรงตัวนี้

Thank you so much.

ขอบคุณมากค่ะ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

[Thank You]

[ขอบคุณค่ะ]

(Applause)

(เสียงปรบมือ)