This one weird trick will help you spot clickbait - Jeff Leek & Lucy McGowan

Translator: Pratchayasin Chomphoo Reviewer: Supanat Termchaianan

One simple vitamin can reduce your risk of heart disease.

มีวิตามินชนิดหนึ่งที่สามารถ ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้

Eating chocolate reduces stress in students.

การกินช็อกโกแลตลดความเครียดในเด็กนักเรียน

New drug prolongs lives of patients with rare disease.

ยาชนิดใหม่ยืดอายุผู้ป่วยที่เป็นโรคหายาก

Health headlines like these are published every day,

มีการนำเสนอ พาดหัวข่าวสุขภาพเช่นนี้ในทุก ๆ วัน

sometimes making opposite claims from each other.

ซึ่งบางครั้งก็มีข้อสรุป ที่ตรงข้ามกันในแต่ละแหล่ง

There can be a disconnect between broad,

อาจมีความไม่เกี่ยวข้องกันระหว่าง การพาดข่าวหัวกว้าง ๆ เพื่อดึงความสนใจ

attention-grabbing headlines and the often specific,

กับผลลัพธ์ที่มักเฉพาะเจาะจง และเป็นก้าวเล็ก ๆ

incremental results of the medical research they cover.

ของงานวิจัยทางการแพทย์ในตัวข่าว

So how can you avoid being misled by grabby headlines?

แล้วคุณจะป้องกันการถูกทำให้เข้าใจผิด จากพาดหัวยั่วให้อ่านเหล่านี้ได้อย่างไร?

The best way to assess a headline’s credibility

วิธีที่ดีที่สุดในการประเมิน ความน่าเชื่อถือของพาดหัว

is to look at the original research it reports on.

คือการเข้าไปดูงานวิจัยต้นฉบับที่ใช้อ้างถึง

We’ve come up with a hypothetical research scenario

เราได้จำลองสถานการณ์งานวิจัยสมมุติ

for each of these three headlines.

สำหรับ 3 พาดหัวต่อไปนี้

Keep watching for the explanation of the first example;

ให้ดูต่อไปสำหรับคำอธิบายของตัวอย่างแรก

then pause at the headline to answer the question.

จากนั้นกดหยุด ที่พาดหัวเพื่อตอบคำถาม

These are simplified scenarios.

นี่เป็นเพียงสถานการณ์ง่าย ๆ

A real study would detail many more factors and how it accounted for them,

งานวิจัยจริงจะมีปัจจัยเยอะกว่ามาก รวมถึงที่มาที่ไปของปัจจัยเหล่านั้น

but for the purposes of this exercise,

แต่เพื่อจุดประสงค์สำหรับการฝึก

assume all the information you need is included.

ให้สมมุติว่าคุณมีข้อมูล ที่จำเป็นเพียงพอแล้ว

Let’s start by considering the cardiovascular effects

เรามาเริ่มจากการพิจารณา ผลกระทบต่อระบบไหลเวียนโลหิต

of a certain vitamin, Healthium.

ของวิตามินชนิดหนึ่งที่ชื่อ เฮลเทียม

The study finds that participants taking Healthium

งานวิจัยนี้พบว่ากลุ่มตัวอย่าง ที่ได้รับเฮลเทียม

had a higher level of healthy cholesterol than those taking a placebo.

มีระดับคอเลสเตอรอลที่ดี สูงกว่ากลุ่มตัวอย่างที่ได้รับยาหลอก

Their levels became similar to those of people with naturally high levels

ระดับของพวกเขาใกล้เคียงกับระดับของ กลุ่มคนที่มีคอเลสเตอรอลนี้สูงโดยธรรมชาติ

of this kind of cholesterol.

Previous research has shown that people with naturally high levels

งานวิจัยก่อนหน้าชี้ว่ากลุ่มคนที่มี คอเลสเตอรอลนี้สูงโดยธรรมชาติ

of healthy cholesterol have lower rates of heart disease.

มีอัตราการเกิดโรคหัวใจต่ำกว่า

So what makes this headline misleading:

งั้นสิ่งที่พาดหัวนี้ชวนให้เข้าใจผิดคืออะไร

"Healthium reduces risk of heart disease."

"เฮลเทียมลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ"

The problem with this headline is that the research didn’t actually investigate

ปัญหาของพาดหัวนี้คือ ที่จริงแล้วงานวิจัยนี้ไม่ได้สำรวจ

whether Healthium reduces heart disease.

ว่าเฮลเทียมลดความเสี่ยงโรคหัวใจหรือไม่

It only measured Healthium’s impact

แต่เพียงสำรวจผลกระทบของเฮลเทียม

on levels of a particular kind of cholesterol.

ต่อระดับของคอเลสเตอรอลประเภทหนึ่งเท่านั้น

The fact that people with naturally high levels of that cholesterol

ความจริงที่ว่าผู้มีระดับ คอเลสเตอรอลนี้สูงโดยธรรมชาติ

have lower risk of heart attacks

มีความเสี่ยงต่อหัวใจวายต่ำกว่านั้น

doesn’t mean that the same will be true of people

ไม่ได้แปลว่าจะเป็นจริงเช่นเดียวกันกับผู้ที่ เพิ่มระดับคอเลสเตอรอลนี้โดยใช้เฮลเทียม

who elevate their cholesterol levels using Healthium.

Now that you’ve cracked the case of Healthium,

ในเมื่อคุณได้ไขปริศนา กรณีเฮลเทียมแล้ว

try your hand at a particularly alluring mystery:

ลองเผชิญกับความลึกลับน่าหลงใหลนี้ดู

the relationship between eating chocolate and stress.

ความสัมพันธ์ระหว่าง การกินช็อกโกแลตกับความเครียด

This hypothetical study recruits ten students.

สมมุติว่างานวิจัยนี้ มีการสำรวจนักเรียน 10 คน

Half begin consuming a daily dose of chocolate,

ครึ่งหนึ่งเริ่มบริโภคช็อกโกแลต เป็นประจำทุกวัน

while half abstain.

ส่วนอีกครึ่งงดบริโภค

As classmates, they all follow the same schedule.

ในฐานะเพื่อนร่วมห้อง ทุกคนใช้ตารางเรียนเดียวกัน

By the end of the study, the chocolate eaters are less stressed

เมื่อจบการสำรวจ

พบว่านักเรียนที่ได้กินช็อกโกแลต เครียดน้อยกว่านักเรียนที่ไม่ได้กิน

than their chocolate-free counterparts.

What’s wrong with this headline:

พาดหัวนี้ผิดตรงไหน

"Eating chocolate reduces stress in students"

"การกินช็อกโกแลต ลดความเครียดในเด็กนักเรียน"

It’s a stretch to draw a conclusion about students in general from a sample of ten.

มันน้อยเกินไปที่จะสรุปเกี่ยวกับนักเรียน อย่างกว้าง ๆ โดยใช้ตัวอย่างเพียงแค่ 10 คน

That’s because the fewer participants are in a random sample,

นั่นเพราะยิ่งผู้เข้าร่วมในตัวอย่างสุ่มน้อย โอกาสก็จะยิ่งต่ำที่ตัวอย่างเหล่านั้น

the less likely it is that the sample will closely represent

จะเป็นตัวแทนของประชากรเป้าหมาย ทั้งหมดได้อย่างใกล้เคียง

the target population as a whole.

For example, if the broader population of students is half male and half female,

เช่น หากประชากรทั้งหมดของนักเรียน เป็นเพศชายครึ่งหนึ่งหญิงครึ่งหนึ่ง

the chance of drawing a sample of 10

โอกาสที่จะสุ่มได้ตัวอย่าง 10 คน

that’s skewed 70% male and 30% is about 12%.

ที่โน้มไปทางเพศชาย 70% เพศหญิง 30%

มีประมาณ 12%

In a sample of 100 that would be less than a .0025% chance,

ในตัวอย่าง 100 คน โอกาสจะต่ำกว่า 0.0025%

and for a sample of 1000,

และในตัวอย่าง 1000 คน

the odds are less than 6 x 10^-36.

โอกาสจะต่ำกว่า 6×10^-36 %

Similarly, with fewer participants,

ในทำนองเดียวกัน ยิ่งผู้เข้าร่วมน้อย

each individual’s outcome has a larger impact on the overall results—

ผลลัพธ์ของตัวอย่างแต่ละคนก็ยิ่ง ส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์โดยรวมมาก

and can therefore skew big-picture trends.

และจึงอาจทำให้แนวโน้ม ในภาพรวมเพี้ยนไป

Still, there are a lot of good reasons for scientists to run small studies.

ถึงกระนั้น

ก็มีเหตุผลที่ดีหลายเหตุผล ให้นักวิทยาศาสตร์ทำวิจัยขนาดเล็ก

By starting with a small sample,

โดยเริ่มจากกลุ่มตัวอย่างขนาดเล็ก

they can evaluate whether the results are promising enough

พวกเขาสามารถประเมินได้ว่า ผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่าพอหรือไม่

to run a more comprehensive, expensive study.

ที่จะทำวิจัยที่ครบถ้วนมากขึ้น ด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นตาม

And some research requires very specific participants

และบางวิจัยก็ต้องการ กลุ่มตัวอย่างที่เฉพาะมาก ๆ

that may be impossible to recruit in large numbers.

ซึ่งอาจเป็นไปไม่ได้ที่จะหา ตัวอย่างเหล่านั้นเป็นจำนวนมาก

The key is reproducibility—

สิ่งสำคัญคือ การทำซ้ำได้

if an article draws a conclusion from one small study,

หากบทความหนึ่งทำการสรุป จากงานวิจัยขนาดเล็กชิ้นเดียว

that conclusion may be suspect—

ข้อสรุปนั้นอาจน่าเคลือบแคลง

but if it’s based on many studies that have found similar results,

แต่หากมีการใช้งานวิจัยหลายชิ้น ที่ได้ผลลัพธ์คล้ายกัน

ข้อสรุปนั้นก็น่าเชื่อถือมากขึ้น

it’s more credible.

We’ve still got one more puzzle.

เรายังเหลืออีกหนึ่งปริศนา

In this scenario, a study tests a new drug for a rare, fatal disease.

ในสถานการณ์นี้

งานวิจัยหนึ่งทดสอบผลของยาชนิดใหม่ สำหรับโรคหายากร้ายแรง

In a sample of 2,000 patients,

ในกลุ่มตัวอย่างผู้ป่วย 2,000 คน

the ones who start taking the drug upon diagnosis

พบว่าผู้ที่เริ่มรับยาชนิดใหม่นี้ หลังวินิจฉัยโรค

live longer than those who take the placebo.

มีชีวิตยืนยาวกว่าผู้ที่ได้รับยาหลอก

This time, the question is slightly different.

คราวนี้คำถามต่างออกไปเล็กน้อย

What’s one more thing you’d like to know before deciding if the headline,

ยังมีอีกอย่างที่คุณควรต้องรู้ ก่อนจะตัดสินพาดหัว

"New drug prolongs lives of patients with rare disease", is justified?

"ยาชนิดใหม่ยืดอายุผู้ป่วยที่เป็นโรคหายาก" นี่สมเหตุสมผลหรือไม่?

Before making this call,

ก่อนที่จะตัดสิน

you’d want to know how much the drug prolonged the patients’ lives.

คุณควรต้องรู้ว่ายานี้ยืดชีวิต ผู้ป่วยได้ยาวขึ้นแค่ไหน

Sometimes, a study can have results that,

บางครั้ง งานวิจัยอาจได้ผลลัพธ์ที่

while scientifically valid, don’t have much bearing on real world outcomes.

แม้จะถูกต้องในทางวิทยาศาสตร์ แต่ไม่ได้มีนัยสำคัญในโลกความเป็นจริง

For example, one real-life clinical trial of a pancreatic cancer drug

เช่น การทดลองทางการแพทย์ของจริงครั้งหนึ่ง ของยาต้านมะเร็งตับอ่อน

found an increase in life expectancy— of ten days.

พบว่าอายุขัยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็นเวลา 10 วัน

The next time you see a surprising medical headline,

ครั้งต่อไปที่คุณพบพาดหัว ทางการแพทย์ที่น่าตื่นตา

take a look at the science it’s reporting on.

ให้ดูไปที่งานวิจัยที่ใช้อ้างถึงด้วย

Even when full papers aren’t available without a fee,

ถึงแม้งานวิจัยตัวเต็ม ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการอ่าน

you can often find summaries of experimental design

คุณก็ยังสามารถหาสรุปแบบแผนการทดลอง

and results in freely available abstracts,

และผลการทดลองได้ในบทคัดย่อ ซึ่งเปิดให้อ่านได้ฟรี

or even within the text of a news article.

หรือกระทั่งในตัวข่าวนั่นเอง

It’s exciting to see scientific research covered in the news,

มันน่าตื่นเต้นที่ได้เห็น งานวิจัยครอบคลุมเนื้อหาในข่าวนั้น

and important to understand the studies’ findings.

และมันก็สำคัญเช่นกันที่ต้องเข้าใจ สิ่งที่พบในงานวิจัยนั้น ๆ