The evolution of the coffee cup lid | Small Thing Big Idea, a TED series

Transcriber: TED Translators admin Reviewer: Camille Martínez

Translator: Dollaya Piumsuwan Reviewer: Sakunphat Jirawuthitanant

You never give it any thought,

คุณอาจจะไม่เคยคิดถึงมันเลย

and there are billions of them out there,

และในโลกนี้มีกว่าพันล้านชิ้น

but the amount of design and passion and creativity

แต่การออกแบบ แรงบันดาลใจ และความสร้างสรรค์

that goes into this little disc is remarkable.

ที่หล่อหลอมเป็นแผ่นกลมเล็ก ๆ มันมากมายเสียเหลือเกิน

[Small thing.]

[สิ่งเล็ก ๆ]

[Big idea.]

[ไอเดียยิ่งใหญ่]

The coffee cup lid is a lid for your coffee cup.

ฝากาแฟ คือ ฝาปิดแก้วกาแฟของคุณ

It snaps on.

มันปิดแน่น

It has an opening.

และมีช่อง

You've got lids with a little latch that opens and closes.

คุณต้องเคยได้แบบที่มี ช่องล็อกเล็ก ๆ เปิดปิดได้

You've got ones that are in creative shapes.

คุณต้องเคยได้ฝาที่มีรูปทรงสร้างสรรค์

Coffee cup lids have their own vocabulary.

ตัวฝากาแฟมีคำเรียก ส่วนของมันมากมาย

People talk about the "peripheral skirts,"

มันมีส่วนที่เรียกว่า "ฝากระโปรง"

the "press-in dimples," the "fragrance outlets,"

"รอยบุ๋ม" "รูระบายกลิ่นหอม"

the "slosh factor."

"ตัวกันกระฉอก"

But you need these words,

คุณต้องรู้จักคำเหล่านี้

because so much thought and innovation

เพราะมันมาจากไอเดียและ นวัตกรรมมากมาย

goes into these coffee cup lids.

จนเกิดเป็นฝากาแฟ

Our society is just more and more mobile.

สังคมของเรามีการเดินทาง เคลื่อนที่มากขึ้นทุกวัน

Everything is on the move.

ทุก ๆ อย่างเคลื่อนที่

The good part: it's convenient.

ข้อดีคือ: มันสะดวก

You can drink coffee anywhere, you don't have the stay in the diner.

คุณสามารถดื่มกาแฟที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องนั่งที่ร้าน

อาจจะเป็นที่สถานีรถไฟใต้ดิน หรือเดินไปดื่มไป

It can be in the subway. You can be walking.

ข้อเสียคือมันยาก ที่จะดื่มด่ำกาแฟ

The bad part is, it's harder to savor a coffee

when you're taking it on the road.

เวลาที่คุณเดินถือมันไปตามถนน

The first patent for a lid on a cup

ฝาแก้วที่จดสิทธิบัตรครั้งแรก

was in 1934,

คือในปี 1934

but it was for cold beverages.

แต่เป็นฝาสำหรับเครื่องดื่มเย็น

And in 1950, this guy named James Reifsnyder

ต่อมาในปี 1950 ชายที่ชื่อว่า เจมส์ รัฟสไนด์เดอร์

invented the first snap-on lid.

คิดค้นฝาปิดแบบสนิท (Snap-on) ขึ้น

But it didn't have an opening for drinking.

แต่มันไม่มีช่องสำหรับดื่มเครื่องดื่ม

In the '60s there was this huge cultural shift,

ในยุค 60 มีการเปลี่ยนแปลง ทางวัฒนธรรมที่สำคัญ

where people started drinking coffee on the move.

ที่คนเริ่มดื่มกาแฟระหว่างเดินทาง

And 7-Eleven was the first to sell coffee to go.

ร้าน 7/11 เป็นร้านแรกที่ขายกาแฟแบบกลับบ้าน

And then came this revolution in 1967.

จากนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ เกิดขึ้นในปี 1967

A man named Alan Frank invented a lid

ชายที่ชื่อว่า อลัน แฟรงค์ คิดค้นฝา

that you could peel a tab off,

ที่คุณสามารถฉีกเปิดแผ่นเล็ก ๆ

like in the shape of a guitar pick,

ที่มีรูปร่างเหมือนปิ๊กกีตาร์

and drink it from there.

และดื่มจากช่องตรงนั้น

In 1975, another big advance:

ในปี 1975 มีการพัฒนาที่สำคัญ

you could peel back a tab and attach it to the lid itself.

คุณสามารถเปิดแผ่นเล็ก ๆ นั้น และกดให้มันติดไปกับฝา

So, more and more people started drinking coffee on the go.

แล้วก็มีคนจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่ดื่มกาแฟระหว่างเดินทาง

In 1984, a watershed moment in the history of coffee cup lids:

ในปี 1984 เกิดจุดพลิกผัน ในประวัติศาสตร์ของฝากาแฟ:

the birth of the traveler lid.

เกิดมีฝาสำหรับนักเดินทางขึ้น

And it is iconic -- you've seen it a million times.

ซึ่งมันเจ๋งมาก -- คุณเคยได้เห็นมันมาแล้วเป็นล้าน ๆ ครั้ง

And it solved a whole host of problems.

มันแก้ปัญหาทั้งหมดทั้งปวง ของการดื่มกาแฟ

It's designed so that you don't splash your face,

มันถูกออกแบบให้กาแฟไม่กระเด็นใส่หน้าของคุณ

because it's higher than any of the other ones.

เพราะทรงมันสูงกว่าแบบอื่น ๆ

And it's got this protruding rim,

มันมีขอบที่ยื่นออกมา

so it slightly cools the coffee before it hits your lips.

ซึ่งช่วยลดความร้อนของกาแฟ ก่อนที่กาแฟจะแตะปากของคุณ

It's got a small depression in the center for your nose,

มันมีร่องเล็ก ๆ อยู่ตรงกลาง เพื่อให้เข้ากับรูปจมูกของคุณ

so you can really get in there and get maximum aroma.

ทำให้คุณได้ดื่มด่ำกาแฟ และสูดกลิ่นหอมของมันอย่างเต็มที่

It's got this tiny air hole that lets the steam out

ตัวฝามีรูระบายอากาศเล็ก ๆ ที่ช่วยระบายไอร้อน

and stops it from creating a vacuum.

และช่วยลดการเกิดสูญญากาศ

This is one of those objects where you just don't notice it

นี่คือของอย่างหนึ่งที่คุณไม่เคยสังเกตเห็น

until it dribbles on your lap.

จนกระทั่งกาแฟหยดใส่ตักคุณ

So I think the coffee cup lid will just continue to evolve,

ผมคิดว่าฝากาแฟ จะถูกพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ

and you're going to see a move away from single-use plastic lids

และคุณอาจจะได้เห็นพัฒนาการ จากฝาพลาสติกที่ใช้แล้วทิ้ง

to lids that are a little more sustainable.

ไปสู่ฝาที่ยั่งยืนมากขึ้น

We're not going to stop moving.

เราจะไม่หยุดเดินทาง

We're not going to stop drinking coffee.

เราจะไม่หยุดดื่มกาแฟ

And I think that's what these coffee lid engineers are trying to do,

และผมคิดว่าสิ่งที่วิศวกรฝากาแฟ พยายามจะทำ

is to make it so that the experience of taking it on the road

คือสร้างฝาที่ช่วยให้การดื่มกาแฟขณะเดินถนน

is as good as sitting in a restaurant, drinking from a ceramic cup.

เป็นประสบการณ์ที่ดีเท่ากับ การนั่งดื่มกาแฟจากถ้วยเซรามิคในร้านกาแฟ

Because, you know, coffee is serious business.

เพราะกาแฟเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ