A global pandemic calls for global solutions | Larry Brilliant

Transcriber: Ivana Korom Reviewer: Krystian Aparta

Translator: Thirakan Somsungnoen Reviewer: Yada Sattarujawong

Helen Walters: So, Chris, who's up first?

Helen Walters: Chris คะ ใครจะเป็นคนแรกดี

Chris Anderson: Well, we have a man who's worried about pandemics

Chris Anderson: ครับ มีชายคนหนึ่ง ที่ห่วงใยเรื่องโรคระบาดใหญ่

pretty much his whole life.

มาเกือบจะทั้งชีวิตของเขา

He played an absolutely key role, more than 40 years ago,

เขาทำหน้าที่สำคัญ มานานกว่า 40 ปี

in helping the world get rid of the scourge of smallpox.

ในการช่วยปกป้องโลก จากไข้ทรพิษที่ระบาดหนัก

And in 2006,

และในปี 2006

he came to TED to warn the world

เขามาพูดที่ TED เพื่อเตือนให้โลก

of the dire risk of a global pandemic,

ตระหนักถึงความเสี่ยง ที่ทั่วโลกจะเกิดโรคระบาดใหญ่

and what we might do about it.

และสิ่งที่เราอาจจัดการได้

So please welcome here Dr. Larry Brilliant.

ขอต้อนรับ Dr. Larry Brilliant ครับ

Larry, so good to see you.

Larry ดีใจที่ได้เจอกันครับ

Larry Brilliant: Thank you, nice to see you.

Larry Brilliant: ขอบคุณครับ ยินดีเช่นกัน

CA: Larry, in that talk,

CA: Larry ครับ ในการขึ้นพูดครั้งนั้น

you showed a video clip that was a simulation

คุณได้ให้ดูคลิปวิดีโอ ซึ่งเป็นภาพจำลอง

of what a pandemic might look like.

หน้าตาของการระบาดใหญ่

I would like to play it -- this gave me chills.

ขอเปิดให้ดูนะครับ มันทำให้ผมขนลุก

Larry Brilliant (TED2006): Let me show you a simulation

Larry Brilliant (TED2006): ผมจะแสดงภาพจำลองให้ดู

of what a pandemic looks like,

ว่าหน้าตาของการระบาดใหญ่ เป็นอย่างไร

so we know what we're talking about.

เราจะได้เข้าใจว่ากำลังพูดถึงอะไรอยู่

Let's assume, for example, that the first case occurs in South Asia.

เช่น ลองสมมติว่า มีโรคระบาดขึ้นครั้งแรกที่เอเชียใต้

It initially goes quite slowly,

โดยเป็นไปอย่างช้าๆ ในตอนแรก

you get two or three discrete locations.

จากสถานที่สองหรือสามแห่งแยกกัน

Then there will be secondary outbreaks.

จากนั้นก็เกิดการระบาดระลอกสอง

And the disease will spread from country to country so fast

แล้วโรคดังกล่าวก็จะแพร่จาก ประเทศหนึ่งไปอีกประเทศอย่างรวดเร็ว

that you won't know what hit you.

จนคุณไม่รู้ว่าอะไรโจมตีคุณ

Within three weeks, it will be everywhere in the world.

ภายในสามสัปดาห์ โรคนั้นก็แพร่ไปทั่วโลกแล้ว

Now if we had an undo button,

คราวนี้ถ้าเรามีปุ่มยกเลิกการกระทำ

and we could go back

และหากเราย้อนเวลาได้

and isolate it and grab it when it first started,

แล้วแยกผู้ป่วยออกมาตรวจ ตั้งแต่เริ่มแรก

if we could find it early and we had early detection

หากเราค้นพบโรคตั้งแต่ต้น ตรวจหาตั้งแต่ต้น

and early response,

และจัดการกับมันตั้งแต่ต้น

and we could put each one of those viruses in jail,

เราก็อาจควบคุมไวรัสแต่ละตัว ไว้ในที่คุมขังได้ทัน

that's the only way to deal with something like a pandemic.

นั่นเป็นวิธีเดียวในการรับมือ กับโรคระบาดใหญ่ครับ

CA: Larry, that phrase you mentioned there,

CA: Larry ครับ ประโยค ที่คุณพูดถึงตอนนั้นที่ว่า

"early detection," "early response,"

"ตรวจหาตั้งแต่ต้น" และ "จัดการตั้งแต่ต้น"

that was a key theme of that talk,

ซึ่งเป็นหัวข้อหลักในการพูดครั้งนั้น

you made us all repeat it several times.

ที่คุณได้ย้ำหลายรอบให้เราทุกคนฟัง

Is that still the key to preventing a pandemic?

ทั้งสองข้อยังเป็นปัจจัยหลัก ในการป้องกันโรคระบาดใหญ่อยู่ไหมครับ

LB: Oh, surely.

LB: ครับ แน่นอน

You know, when you have a pandemic,

เมื่อเกิดโรคระบาดใหญ่

something moving at exponential speed,

ที่แพร่ไปเร็วแบบเท่าทวีคูณ

if you miss the first two weeks, if you're late the first two weeks,

หากคุณพลาดช่วงสองสัปดาห์แรก หรือมัวช้าในสองสัปดาห์แรก

it's not the deaths and the illness from the first two weeks you lose,

คุณไม่ได้สูญเสียแค่ชีวิตคน ที่ป่วยในสองสัปดาห์แรก

แต่มันนำไปสู่จำนวนผู้เสียชีวิต ในช่วงสองอาทิตย์ที่มีการระบาดสูงสุด

it's the two weeks at the peak.

Those are prevented if you act early.

ซึ่งป้องกันได้หากคุณลงมือตั้งแต่ต้น

Early response is critical,

การรับมือแต่ต้นสำคัญมาก

early detection is a condition precedent.

การตรวจหาตั้งแต่ต้น เป็นสิ่งที่ต้องทำก่อน

CA: And how would you grade the world

CA: คุณจะให้คะแนนทั่วโลก

on its early detection, early response to COVID-19?

ในการตรวจหาและการรับมือโควิด-19 ตั้งแต่ต้นอย่างไรครับ

LB: Of course, you gave me this question earlier,

LB: คุณได้ส่งคำถามนี้ มาให้ผมก่อนแล้ว

so I've been thinking a lot about it.

ผมเลยได้ไปใคร่ครวญมาอย่างหนัก

ผมคิดว่าจะให้คะแนนเป็นกลุ่มประเทศ

I think I would go through the countries,

and I've actually made a list.

ที่จริงผมทำรายชื่อมาครับ

I think the island republics of Taiwan, Iceland and certainly New Zealand

ผมคิดว่าสาธารณรัฐที่เป็นเกาะ อย่างไต้หวัน ไอซ์แลนด์ และนิวซีแลนด์

would get an A.

ควรได้เกรดเอ

The island republic of the UK and the United States --

ประเทศเกาะอย่างสหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา

which is not an island, no matter how much we may think we are --

ซึ่งไม่ใช่เกาะ ไม่ว่าเราจะคิดอย่างไรก็ตาม

would get a failing grade.

แต่ทั้งสองประเทศสอบตก

I'd give a B to South Korea and to Germany.

ผมจะให้บีกับเกาหลีใต้และเยอรมนี

And in between ...

และคะแนนระดับกลางๆ ...

So it's a very heterogeneous response, I think.

การรับมือนั่นมีความหลากหลายมาก ผมว่านะครับ

The world as a whole is faltering.

ในภาพรวม ทั่วโลกทำงานอย่างตะกุกตะกัก

We shouldn't be proud of what's happening right now.

เราไม่ควรด่วนภูมิใจ ไปกับสถานการณ์ตอนนี้

CA: I mean, we got the detection pretty early,

CA: คือเรามีการตรวจพบโรค ค่อนข้างเร็ว

or at least some doctors in China got the detection pretty early.

หรืออย่างน้อยก็มีหมอบางคนในจีน ที่ตรวจพบโรคค่อนข้างเร็วนะครับ

LB: Earlier than the 2002 SARS, which took six months.

LB: ก่อนหน้านี้ในปี 2002 เราใช้เวลาถึงหกเดือนตรวจหาซาร์ส

This took about six weeks.

แต่โควิดใช้เวลาเพียงหกสัปดาห์

And detection means not only finding it,

การตรวจพบโรคไม่ได้หมายถึง การค้นให้เจอเท่านั้น

but knowing what it is.

แต่คือการรู้ว่ามันคืออะไร

So I would give us a pretty good score on that.

ผมว่าเราได้คะแนนค่อนข้างดีในแง่นี้

The transparency, the communication -- those are other issues.

แต่เรื่องความโปร่งใส การสื่อสาร พวกนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลย

CA: So what was the key mistake

CA: แล้วอะไรคือข้อผิดพลาดหลัก ๆ

that you think the countries you gave an F to made?

ที่คุณคิดว่าเกิดขึ้น ในประเทศที่สอบตกครับ

LB: I think fear,

LB: ผมคิดว่าเป็นความกลัว

political incompetence, interference,

การไร้ความสามารถ การแทรกแซงทางการเมือง

not taking it seriously soon enough --

การไม่จริงจังกับสถานการณ์ให้เร็วพอ

it's pretty human.

ซึ่งมนุษย์ก็อย่างนี้นะครับ

I think throughout history,

ผมว่าตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา

pretty much every pandemic is first viewed with denial and doubt.

โรคระบาดส่วนใหญ่มักถูกมองว่า ไม่จริงในคราวแรกและถูกสงสัย

But those countries that acted quickly,

แต่ประเทศที่จัดการได้เร็ว

and even those who started slow, like South Korea,

และแม้แต่ประเทศที่เริ่มลงมือช้า อย่างเกาหลีใต้

they could still make up for it, and they did really well.

ก็ยังสามารถแก้ไขได้ และทำได้ดีมาก

We've had two months that we've lost.

เราเสียเวลาไปสองเดือน

We've given a virus that moves exponentially

เราทำให้ไวรัสมีโอกาส แพร่กระจายแบบเท่าทวีคูณ

a two-month head start.

ล่วงหน้าไปก่อนสองเดือน

That's not a good idea, Chris.

ซึ่งนั่นไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยครับ Chris

CA: No, indeed.

CA: ไม่ใช่จริง ๆ ครับ

I mean, there's so much puzzling information still out there

มีข้อมูลที่ยังคงเป็นปริศนาอยู่อีกมาก

about this virus.

เกี่ยวกับไวรัสนี้

What do you think the scientific consensus is going to likely end up being

คุณคิดว่าวงการวิทยาศาสตร์ จะได้ข้อสรุปอย่างไร

on, like, the two key numbers

ในแง่ของตัวเลขที่สำคัญสองประการ

of its infectiousness and its fatality rate?

นั่นคืออัตราการติดเชื้อ และการเสียชีวิตครับ

LB: So I think the kind of equation to keep in mind

LB: ผมคิดว่าสมการที่เราต้องคำนึงถึง

is that the virus moves dependent on three major issues.

คือการแพร่กระจายของไวรัสที่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักสามประการ

One is the R0,

หนึ่งคือค่า R0

the first number of secondary cases that there are when the virus emerges.

ซึ่งเป็นตัวเลขผู้ป่วยกลุ่มถัดมาที่ติดเชื้อ จากผู้ป่วยกลุ่มแรกเมื่อไวรัสปรากฏขึ้น

In this case,

ในกรณีนี้

people talk about it being 2.2, 2.4.

คนมักบอกว่ามีอัตราแพร่เชื้อ อยู่ที่ 2 ต่อ 2 หรือ 2 ต่อ 4 คน

But a really important paper three weeks ago,

แต่จากบทความวิชาการสำคัญ ในช่วงสามสัปดาห์ก่อน

in the "Emerging Infectious Diseases" journal came out,

ในหัวข้อ "โรคติดเชื้ออุบัติใหม่" ที่มีการเผยแพร่

suggesting that looking back on the Wuhan data,

ชี้ว่าจากการย้อนดูข้อมูลในอู่ฮั่น

it's really 5.7.

อัตราที่แท้จริงอยู่ที่ 5.7

So for argument's sake,

สมมตินะครับ

let's say that the virus is moving at exponential speed

ว่าไวรัสนี้แพร่ไปได้ ด้วยความเร็วแบบเท่าทวีคูณ

and the exponent is somewhere between 2.2 and 5.7.

และอัตราการติดเชื้ออยู่ที่ ระหว่าง 2.2 และ 5.7

The other two factors that matter

ปัจจัยอีกสองข้อที่สำคัญ

are the incubation period or the generation time.

คือระยะฟักตัวหรือ เวลาที่เชื้อเพิ่มจำนวน

The longer that is,

ซึ่งยิ่งนานมากเท่าไร

the slower the pandemic appears to us.

เราก็จะรับรู้ถึงการระบาดได้ช้าลงเท่านั้น

When it's really short, like six days, it moves like lightning.

แต่หากใช้เวลาไม่นาน อย่างหกวัน การระบาดก็จะเกิดขึ้นเร็ว

And then the last, and the most important --

และจบลงเร็ว และสิ่งที่สำคัญที่สุด

and it's often overlooked --

ซึ่งมักถูกมองข้าม

is the density of susceptibles.

คือความไวในการรับเชื้อ

This is a novel virus,

นี่เป็นไวรัสชนิดใหม่

so we want to know how many customers could it potentially have.

เราจึงต้องการรู้ว่าเชื้อนี้มีศักยภาพ ในการแพร่พันธุ์ได้ขนาดไหน

And as it's novel, that's eight billion of us.

และเพราะเป็นชนิดใหม่ สำหรับพวกเราถึงแปดพันล้านคน

The world is facing a virus

โลกจึงกำลังเผชิญกับไวรัส

that looks at all of us like equally susceptible.

ที่มองว่าเราทุกคน มีความไวต่อการรับเชื้อเท่า ๆ กัน

Doesn't matter our color, our race,

ไม่ว่าเราจะมีสีผิว เชื้อชาติ

or how wealthy we are.

หรือร่ำรวยแค่ไหนก็ตาม

CA: I mean, none of the numbers that you've mentioned so far

CA: เท่าที่คุณกล่าวมา ไม่มีตัวเลขไหนเลย

are in themselves different from any other infections in recent years.

ที่แตกต่างไปจาก การติดเชื้ออื่น ๆ ในช่วงหลายปีมานี้เลย

What is the combination that has made this so deadly?

ส่วนผสมอะไรที่ทำให้ไวรัสนี้ มีอันตรายถึงชีวิตครับ

LB: Well, it is exactly the combination

LB: แน่นอนว่าคือส่วนผสมระหว่าง

of the short incubation period and the high transmissibility.

ระยะฟักตัวที่สั้น กับอัตราการติดต่อที่สูงครับ

But you know, everybody on this call has known somebody who has the disease.

แต่ทุกคนในสถานการณ์นี้ รู้จักบางคนที่ป่วยจากโควิด

Sadly, many have lost a loved one.

น่าเศร้าที่หลายคนสูญเสียคนที่รักไป

This is a terrible disease when it is serious.

โรคนี้อันตราย เมื่อมีอาการรุนแรง

And I get calls from doctors in emergency rooms

ผมได้รับสายจากหมอในห้องฉุกเฉิน

and treating people in ICUs all over the world,

และหมอที่ดูแลผู้ป่วยในไอซียู จากทั่วโลก

and they all say the same thing:

ทุกคนล้วนพูดเหมือนกันว่า

"How do I choose who is going to live and who is going to die?

"เราจะเลือกได้อย่างไรว่าใครสมควรอยู่ และใครสมควรตาย

I have so few tools to deal with."

เรามีอุปกรณ์น้อยมาก ในการรับมือกับโรคนี้"

It's a terrifying disease,

โรคนี้น่ากลัวมาก

to die alone with a ventilator in your lungs,

กับการต้องตายอย่างโดดเดี่ยว โดยมีเครื่องช่วยหายใจอยู่ที่ปอด

and it's a disease that affects all of our organs.

และเป็นโรคที่ส่งผลกับ อวัยวะทุกส่วนของเรา

It's a respiratory disease --

เป็นโรคทางเดินหายใจ

perhaps misleading.

ที่อาจถูกเข้าใจผิด

Makes you think of a flu.

โดยทำให้คุณคิดว่าเป็นแค่ไข้หวัด

But so many of the patients have blood in their urine

แต่ผู้ป่วยหลายคนมีเลือดปนในปัสสาวะ

from kidney disease,

จากโรคไต

they have gastroenteritis,

หลายคนกระเพาะอาหาร และลำไส้อักเสบ

they certainly have heart failure very often,

หลายคนมีอาการหัวใจล้มเหลว อยู่บ่อยครั้ง

we know that it affects taste and smell, the olfactory nerves,

เรารู้ว่าโรคนี้ส่งผลต่อการรับรสและ การดมกลิ่น ซึ่งหมายถึงประสาทรับรู้

we know, of course, about the lung.

เรารู้แน่ชัดว่าโรคนี้ส่งผลกับปอด

The question I have:

คำถามที่ผมมีก็คือ

is there any organ that it does not affect?

มีอวัยวะไหนบ้างที่ไม่ได้รับผลกระทบ

And in that sense,

ซึ่งในแง่นั้น

it reminds me all too much of smallpox.

มันทำให้ผมนึกถึงไข้ทรพิษมากเกินไป

CA: So we're in a mess.

CA: งั้นเราก็กำลังโกลาหลกัน

What's the way forward from here?

หนทางข้างหน้าจากนี้ จะเป็นยังไงต่อครับ

LB: Well, the way forward is still the same.

LB: หนทางข้างหน้า ก็ยังเป็นเหมือนเดิมครับ

Rapid detection,

นั่นคือตรวจหาโรคโดยเร็ว

rapid response.

จัดการรับมือโดยเร็ว

Finding every case,

ค้นหาผู้ป่วยให้เจอทุกเคส

and then figuring out all the contacts.

จากนั้นค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดทั้งหมด

We've got great new technology for contact tracing,

เรามีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการตามรอยผู้สัมผัสใกล้ชิด

we've got amazing scientists working at the speed of light

เรามีนักวิทยาศาสตร์เก่ง ๆ ที่ทำงานกันอย่างติดจรวด

to give us test kits and antivirals and vaccines.

เพื่อสร้างชุดทดสอบ ยาต้านไวรัส และวัคซีนให้กับเรา

We need to slow down,

เราต้องทำให้ช้าลง

the Buddhists say slow down time

อย่างที่ชาวพุทธเรียกว่า ช่วงเวลาแห่งความเชื่องช้า

so that you can put your heart, your soul, into that space.

เพื่อให้เราใส่หัวใจ ใส่จิตวิญญาณ ลงในช่วงเวลาแห่งความว่างนั้น

We need to slow down the speed of this virus,

เราต้องทำให้ความเร็วในการแพร่ ของไวรัสนี้ช้าลง

which is why we do social distancing.

นั่นคือเหตุผลที่เราต้องรักษา ระยะห่างทางสังคม

Just to be clear --

พูดอย่างชัด ๆ ก็คือ

flattening the curve, social distancing,

ลดระดับเส้นกราฟลง รักษาระยะห่างทางสังคม

it doesn't change the absolute number of cases,

มันอาจไม่ได้เปลี่ยน จำนวนผู้ป่วยโดยรวม

but it changes what could be a Mount Fuji-like peak

แต่จำนวนที่อาจพุ่งสูง เป็นยอดภูเขาไฟฟูจิก็อาจเปลี่ยน

into a pulse,

เป็นคลื่นเล็ก

and then we won't also lose people because of competition for hospital beds,

จากนั้นเราก็จะไม่ต้องสูญเสียชีวิตใคร จากการแย่งชิงเตียงในโรงพยาบาล

people who have heart attacks, need chemotherapy, difficult births,

คนที่ป่วยเป็นโรคหัวใจวาย คนที่ต้องทำคีโม คนที่คลอดยาก

can get into the hospital,

ก็สามารถไปโรงพยาบาล

and we can use the scarce resources we have,

และเราสามารถใช้ทรัพยากร ที่มีอย่างจำกัด

especially in the developing world,

โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา

to treat people.

เพื่อรักษาชีวิตคน

So slow down,

ลดความเร็ว

slow down the speed of the epidemic,

ลดความเร็วของการระบาดลง

and then in the troughs, in between waves,

จากนั้นในช่องทาง ระหว่างที่มีการระบาดเป็นระลอก

jump on, double down, step on it,

ให้เข้าร่วม เพิ่มความพยายาม เร่งดำเนินการ

and find every case,

และค้นหาผู้ป่วยทุกเคส

trace every contact,

ตามรอยผู้สัมผัสใกล้ชิดทุกคน

test every case,

ทดสอบทุกเคส

and then only quarantine the ones who need to be quarantined,

จากนั้นกักตัวเฉพาะผู้ที่จำเป็นต้องกัก

and do that until we have a vaccine.

และทำเช่นนี้ไปจนกว่าเราจะมีวัคซีน

CA: So it sounds like we have to get past the stage of just mitigation,

CA: ฟังดูเหมือนเราต้องผ่าน ขั้นของการบรรเทาโรค

where we're just trying to take a general shutdown,

โดยการพยายามหยุดเชื้อ ด้วยการปิดตัวลง

to the point where we can start identifying individual cases again

เพื่อให้ไปถึงจุดที่เราสามารถ ระบุผู้ป่วยเป็นราย ๆ ได้อีกครั้ง

and contact-trace for them

และค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิด

and treat them separately.

และรักษาแยกกัน

I mean, to do that,

ผมหมายถึงการจะทำแบบนั้น

that seems like it's going to take a step up of coordination,

ดูเหมือนจะต้องมีการประสานงาน

ambition, organization, investment,

ความมุ่งมั่น การจัดการอย่างเป็นระบบ การลงทุน

that we're not really seeing the signs of yet in some countries.

ซึ่งเรายังมองไม่เห็นสัญญาณ ที่เป็นไปได้ในบางประเทศ

Can we do this, how can we do this?

เราจะทำได้ไหม และเราจะทำได้อย่างไรครับ

LB: Oh, of course we can do this.

LB: เราทำได้แน่นอนครับ

I mean, Taiwan did it so beautifully,

ไต้หวันก็ทำได้อย่างสวยงาม

Iceland did it so beautifully, Germany,

ไอซ์แลนด์เองก็เช่นกัน หรือเยอรมนี

all with different strategies,

ทั้งหมดล้วนมีกลยุทธ์ต่างกัน

South Korea.

หรืออย่างเกาหลีใต้

It really requires competent governance,

เรื่องนี้ต้องอาศัยความสามารถ ในการกำกับดูแล

a sense of seriousness,

การเห็นเป็นเรื่องที่จริงจัง

and listening to the scientists, not the politicians following the virus.

และการรับฟังเรื่องไวรัส จากนักวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่นักการเมือง

Of course we can do this.

เราทำได้แน่นอนครับ

Let me remind everybody --

ผมขอย้ำกับทุกคนอีกครั้งว่า

this is not the zombie apocalypse,

นี่ไม่ใช่วันสิ้นโลกแบบในหนังซอมบี้

it's not a mass extinction event.

ไม่ใช่เหตุการณ์การสูญพันธ์ุครั้งใหญ่

You know, 98, 99 percent of us are going to get out of this alive.

มนุษย์ 98 ถึง 99 เปอร์เซ็นต์ จะรอดพ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไปได้

We need to deal with it the way we know we can,

เราต้องจัดการ แบบที่เรารู้ว่าจะทำได้

and we need to be the best version of ourselves.

และเราต้องทำให้ดีที่สุด ในแบบของตัวเอง

Both sitting at home

ทั้งการอยู่บ้าน

as well as in science, and certainly in leadership.

รวมทั้งเชื่อในวิทยาศาสตร์ และในความเป็นผู้นำ

CA: And might there be even worse pathogens out there

CA: แล้วจะมีเชื้อโรคที่เลวร้ายกว่านี้

in the future?

ในอนาคตไหมครับ

Like, can you picture or describe

คุณสามารถวาดภาพหรืออธิบาย

an even worse combination of those numbers

ตัวเลขโดยรวมที่แย่ยิ่งกว่า

that we should start to get ready for?

ที่เราควรเริ่มเตรียมใจรับได้ไหมครับ

LB: Well, smallpox had an R0 of 3.5 to 4.5,

LB: ไข้ทรพิษมีค่า R0 อยู่ที่ 3.5 จนถึง 4.5

so that's probably about what I think this COVID will be.

นั่นน่าจะเป็นตัวเลขของโควิด ที่ผมคิด

But it killed a third of the people.

แม้ไข้ทรพิษคร่าชีวิตคนถึงหนึ่งในสาม

But we had a vaccine.

แต่เราก็มีวัคซีน

So those are the different sets that you have.

ซึ่งนั่นเป็นโรคอีกกลุ่มที่ต่างกัน

But what I'm mostly worried about,

แต่สิ่งที่ผมกังวลมากที่สุด

and the reason that we made "Contagion"

และเป็นเหตุผลที่เราทำ เรื่อง "Contagion"

and that was a fictional virus --

ซึ่งเกี่ยวกับไวรัสในนิยาย

I repeat, for those of you watching,

ผมขอย้ำกับทุกคนที่ฟังอยู่

that's fiction.

ว่ากำลังพูดถึงนิยาย

We created a virus that killed a lot more than this one did.

เราสร้างไวรัสที่ฆ่าคนไป มากกว่าที่โควิดฆ่าเสียอีก

CA: You're talking about the movie "Contagion"

CA: เรากำลังพูดถึงหนังเรื่อง "Contagion"

that's been trending on Netflix.

มีคนดูใน Netflix เยอะมากครับ

And you were an advisor for.

ซึ่งคุณเป็นที่ปรึกษาให้ด้วย

LB: Absolutely, that's right.

LB: ใช่ครับ

But we made that movie deliberately

แต่เราตั้งใจสร้างหนังเรื่องนั้นขึ้นมา

to show what a real pandemic looked like,

เพื่อแสดงให้เห็นภาพการระบาดที่แท้จริง

but we did choose a pretty awful virus.

แต่เราเลือกไวรัสที่ค่อนข้างรุนแรง

And the reason we showed it like that,

และสาเหตุที่เราแสดงให้เห็นการระบาด

going from a bat to an apple,

เริ่มจากค้างคาวไปยังแอปเปิล

to a pig, to a cook, to Gwyneth Paltrow,

ไปยังหมู ไปยังอาหาร จนไปถึง Gwyneth Paltrow

was because that is in nature what we call spillover,

เพราะนั่นคือลักษณะธรรมชาติ ของสิ่งที่เรียกว่า การแพร่กระจาย

as zoonotic diseases,

ของโรคติดเชื้อจากสัตว์สู่คน

diseases of animals, spill over to human beings.

นั่นคือการที่โรคในสัตว์ แพร่กระจายสู่คน

And if I look backwards three decades

หากผมมองย้อนไปสามทศวรรษ

or forward three decades --

หรือมองไปข้างหน้าอีกสามทศวรรษ

looking backward three decades, Ebola, SARS, Zika,

สามทศวรรษที่แล้วก็จะมี อีโบลา ซาร์ส ซิก้า

swine flu, bird flu, West Nile,

ไข้หวัดหมู ไข้หวัดนก ไวรัสเวสต์ไนล์

we can begin almost a catechism

เราแทบจะก่อตั้งลัทธิ

and listen to all the cacophony of these names.

และสวดมนต์ด้วยชื่อพวกนั้นได้เลย

But there were 30 to 50 novel viruses that jumped into human beings.

แต่มีไวรัสใหม่ ๆ 30 ถึง 50 ตัว ที่โดดมาเล่นงานมนุษย์

And I'm afraid, looking forward,

และผมเกรงว่าในอนาคต

we are in the age of pandemics,

เราจะอยู่ในยุคสมัยแห่งโรคระบาด

we have to behave like that,

เราต้องปรับตัวตาม

we need to practice One Health,

เราต้องใช้หลักสุขภาพหนึ่งเดียว

we need to understand that we're living in the same world

เราต้องเข้าใจว่า เราอยู่ในโลกใบเดียวกัน

as animals, the environment, and us,

กับสัตว์ สิ่งแวดล้อมและตัวเรา

and we get rid of this fiction that we are some kind of special species.

และควรจะเลิกเชื่อว่า มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่พิเศษ

To the virus, we're not.

สำหรับไวรัส พวกเราไม่ได้พิเศษเลย

CA: Mmm.

CA: อืม

You mentioned vaccines, though.

แต่คุณก็พูดถึงวัคซีน

Do you see any accelerated path to a vaccine?

คุณคิดว่ามีหนทาง ที่จะเร่งการสร้างวัคซีนไหมครับ

LB: I do.

LB: ผมว่ามีครับ

I'm actually excited to see that we're doing something

ที่จริงผมตื่นเต้นที่จะได้เห็น ว่าเรากำลังทำสิ่งน่าทึ่ง

that we only get to think of in computer science,

ที่เรานึกออกแค่ในวงการ วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์

which is we're changing what should have always been,

ซึ่งก็คือการที่เรากำลังเปลี่ยนแปลง กระบวนการทำซ้ำเป็นลำดับ

or has always been, rather,

ที่ควรจะเป็น

multiple sequential processes.

หรือที่เคยเป็นมาตลอด คือการทำงานอย่างเป็นลำดับ

Do safety testing, then you test for effectiveness,

นั่นคือทำการทดสอบความปลอดภัย จากนั้นทดสอบเพื่อหาประสิทธิผล

then for efficiency.

และหาประสิทธิภาพ

And then you manufacture.

แล้วก็นำไปผลิต

We're doing all three or four of those steps,

เรากำลังทำสามหรือสี่ขั้นตอนนั้น

instead of doing it in sequence, we're doing in parallel.

แต่แทนที่จะทำไปทีละขั้น เราทำไปพร้อมๆกัน

Bill Gates has said he's going to build seven vaccine production lines

Bill Gates กล่าวว่าเขาจะสร้าง แหล่งผลิตวัคซีนเจ็ดแห่ง

in the United States,

ในสหรัฐอเมริกา

and start preparing for production,

และเริ่มเตรียมการผลิต

not knowing what the end vaccine is going to be.

โดยไม่รู้เลยว่าวัคซีนที่ออกมาจะเป็นอย่างไร

We're simultaneously doing safety tests and efficacy tests.

เรากำลังทำการทดสอบความปลอดภัย และประสิทธิภาพไปพร้อมกัน

I think the NIH has jumped up.

ผมคิดว่าสถาบันสุขภาพแห่งชาติก็โดดมาร่วมวง

I'm very thrilled to see that.

ผมตื่นเต้นมากที่จะได้เห็นสิ่งนั้น

CA: And how does that translate into a likely time line, do you think?

CA: แล้วสิ่งนั้นจะใช้เวลาประมาณไหน ครับ ในความคิดของคุณ

A year, 18 months, is that possible?

หนึ่งปีหรือ 18 เดือน เป็นไปได้ไหมครับ

LB: You know, Tony Fauci is our guru in this,

LB: Tony Fauci เป็นกูรูในด้านนี้ครับ

and he said 12 to 18 months.

เขาบอกว่าประมาณ 12 ถึง 18 เดือน

I think that we will do faster than that in the initial vaccine.

ผมคิดว่าเราจะทำวัคซีนตัวแรก ได้เร็วกว่านั้น

But you may have heard that this virus

แต่คุณอาจเคยได้ยินว่าไวรัสนี้

may not give us the long-term immunity --

อาจไม่ทำให้เรามีภูมิคุ้มกันในระยะยาว

that something like smallpox would do.

ซึ่งต่างจากไข้ทรพิษ

So we're trying to make vaccines where we add adjuvants

ดังนั้น เราจึงกำลังสร้างวัคซีน ที่เพิ่มตัวช่วยเข้าไป

that actually make the vaccine create better immunity

ซึ่งจริง ๆ จะทำให้วัคซีน สร้างภูมิคุ้มกันได้ดี

than the disease,

มากกว่าที่เกิดจากโรค

so that we can confer immunity for many years.

ดังนั้นเราจึงมีภูมิคุ้มกัน ไปได้อีกหลายปี

That's going to take a little longer.

ซึ่งจะใช้เวลานานขึ้นอีกนิด

CA: Last question, Larry.

CA: คำถามสุดท้ายครับ Larry

Back in 2006, as a winner of the TED Prize,

ย้อนไปปี 2006 ในฐานะผู้ชนะรางวัล TED Prize

we granted you a wish,

เราให้คุณขอพรข้อหนึ่ง

and you wished the world would create this pandemic preparedness system

และคุณขอให้โลกสร้างระบบ สำหรับเตรียมรับมือกับโรคระบาด

that would prevent something like this happening.

ที่จะป้องกันไม่ให้ เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น

I feel like we, the world, let you down.

เรารู้สึกว่าพวกเราทั้งโลก ทำให้คุณผิดหวัง

If you were to make another wish now,

หากคุณสามารถขอพรได้อีกข้อ ในตอนนี้

what would it be?

คุณอยากขออะไรครับ

LB: Well, I don't think we're let down in terms of speed of detection.

LB: ผมคิดว่าเราไม่ได้ผิดหวัง ในแง่ความเร็วของการตรวจหาโรค

I'm actually pretty pleased.

ที่จริงผมค่อนข้างพอใจเลย

When we met in 2006,

ตอนที่เราพบกันเมื่อปี 2006

the average one of these viruses leaping from an animal to a human,

ไวรัสที่ติดจากสัตว์สู่คนโดยเฉลี่ย

it took us six months to find that --

ใช้เวลานานถึงหกเดือนกว่าจะค้นพบ

like the first Ebola, for example.

เช่น การติดเชื้ออีโบลาครั้งแรก

We're now finding the first cases in two weeks.

ตอนนี้เราสามารถตรวจพบ ผู้ป่วยรายแรกได้ในสองสัปดาห์

I'm not unhappy about that,

ผมไม่ได้รู้สึกแย่กับเรื่องนั้น

I'd like to push it down to a single incubation period.

ผมอยากจะขอพูดถึง ระยะฟักตัวเพียงอย่างเดียว

It's a bigger issue for me.

ซึ่งเป็นประเด็นที่ใหญ่กว่า

What I found is that in the Smallpox Eradication Programme

สิ่งที่ผมค้นพบคือ ในโครงการกำจัดเชื้อไข้ทรพิษ

people of all colors, all religions, all races,

ผู้คนทุกสีผิว ทุกศาสนา ทุกเชื้อชาติ

so many countries,

จากหลายประเทศ

came together.

ร่วมมือกัน

And it took working as a global community

และทำงานร่วมกันเป็นสมาคมระดับโลก

to conquer a global pandemic.

เพื่อเอาชนะโรคระบาดทั่วโลก

Now, I feel that we have become victims of centrifugal forces.

ตอนนี้ผมรู้สึกว่าเรากลายเป็นเหยื่อ ของแรงเหวี่ยงจากศูนย์กลาง

We're in our nationalistic kind of barricades.

เรามีความคิดชาตินิยมเป็นอุปสรรค

We will not be able to conquer a pandemic

ทำให้เราอาจจะไม่สามารถ เอาชนะโรคระบาดได้

unless we believe we're all in it together.

เว้นแต่เราจะเชื่อว่า เราทุกคนได้รับผลกระทบร่วมกัน

This is not some Age of Aquarius, or Kumbaya statement,

นี่ไม่ใช่การเข้าสู่ยุคใหม่ หรือประกาศเลิกทาส

this is what a pandemic forces us to realize.

นี่เป็นสิ่งที่โรคระบาด บังคับให้เราตระหนัก

We are all in it together,

เราทุกคนได้รับผลกระทบร่วมกัน

we need a global solution to a global problem.

เราจึงต้องการวิธีแก้ไขระดับโลก ให้กับปัญหาระดับโลก

Anything less than that is unthinkable.

อะไรที่น้อยไปกว่านั้นถือว่า เป็นเรื่องไม่สมควร

CA: Larry Brilliant, thank you so very much.

CA: Larry Brilliant ขอบคุณมากครับ

LB: Thank you, Chris.

LB: ขอบคุณครับ Chris