What if we could look inside human brains? - Moran Cerf

220,010 views ・ 2013-01-31

TED-Ed


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

00:00
Transcriber: Andrea McDonough Reviewer: Bedirhan Cinar
0
0
7000
Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Rawee Ma
00:13
The brain is the center of all of our thoughts,
1
13854
2099
สมองเป็นศูนย์กลางของความคิด
00:15
dreams,
2
15953
934
ความฝัน
00:16
emotions,
3
16887
873
อารมณ์
00:17
and memories.
4
17760
1220
และความทรงจำ
00:18
It's what makes us who we are.
5
18980
2161
มันทำให้เราเป็นเรา
00:21
But, there is still a lot that we don't know about the brain.
6
21141
2632
แต่ ยังมีอะไรอีกมากที่เรายังไม่รู้ เกี่ยวกับสมองของเรา
00:23
Scientists have worked for years
7
23773
1786
นักวิทยาศาสตร์ใช้เวลานาน
00:25
on trying to understand the human brain
8
25559
2022
ในการพยายามทำความเข้าใจสมองมนุษย์
00:27
using techniques like EEG and FMRI,
9
27581
3113
โดยใช้เทคนิคที่เช่น EEG และ FMRI
00:30
where we scan the brain from the outside.
10
30694
2367
เพื่อตรวจดูสมองจากภายนอก
00:33
But what if we could look inside the brains of humans
11
33061
2798
แต่ถ้าหากเรามองเข้าไปภายในสมอง
00:35
and watch them as they work?
12
35859
1984
และดูขณะที่มันกำลังทำงานล่ะ
00:37
Well, now we can
13
37843
1655
อื่ม ตอนนี้เราสามารถทำอย่างนั้นได้
00:39
by looking at the brains of people
14
39498
1585
โดยการมองสมอง
00:41
who are already going through surgery for clinical reasons,
15
41083
2830
ของคนที่กำลังรับการผ่าตัดเพื่อการรักษา
00:43
like curing epilepsy.
16
43913
1925
เช่น การรักษาโรคลมชัก
00:45
Epilepsy is a disease
17
45838
1741
โรคลมชัก เป็นโรคชนิดหนึ่ง
00:47
in which a faulty part of the brain
18
47579
1622
ที่ส่วนของสมองที่ผิดปกติ
00:49
starts working spontaneously for no apparent reason.
19
49201
3561
ทำงานบางอย่างของมันเองอย่างไม่มีเหตุผล
00:52
It's like an earthquake
20
52762
1198
มันเหมือนกับแผ่นดินไหว
00:53
but inside your head.
21
53960
1835
ที่เกิดขึ้นในหัวของคุณ
00:55
There's no way to know in advance
22
55795
1706
มันไม่มีทางที่จะรู้ได้ล่วงหน้า
00:57
when a seizure will occur,
23
57501
1791
ว่าเมื่อไรจะเกิดอาการนี้
00:59
so the patients are always at risk
24
59292
1879
ฉะนั้น ผู้ป่วยจึงตกอยู่ในความเสี่ยง
01:01
of unexpectedly losing control.
25
61171
2594
ที่จะสูญเสียการควบคุมโดยไม่คาดคิด
01:03
There are drugs that treat epilepsy,
26
63765
2161
มียาที่สามารถรักษาโรคลมชักได้
01:05
but these don't always work.
27
65926
2002
แต่มันก็ไม่ได้ผลเสมอไป
01:07
Some patients who don't respond well to the drugs
28
67928
2972
ผู้ป่วยบางรายที่ตอบสนองต่อยาไม่ดีนัก
01:10
can undergo a different treatment
29
70900
1615
สามารถได้รับการบำบัดที่แตกต่างกัน
01:12
where the faulty part in their brain,
30
72515
2161
โดยสมองส่วนที่ผิดปกติ
01:14
the part that starts the seizures,
31
74676
1594
ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้เกิดอาการ
01:16
is surgically removed.
32
76270
1841
ถูกผ่าตัดออกไป
01:18
The challenge is knowing which part to take out.
33
78111
2643
ความท้าทายก็คือ การที่เราต้องรู้ว่าส่วนใดที่จะตัดออก
01:20
How do you figure out which bit of the brain is faulty?
34
80754
2814
เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ส่วนไหนของสมองที่ผิดปกติ
01:23
In order to find the exact location of the seizure onset,
35
83568
3337
เพื่อที่จะหาตำแหน่งที่แน่นอน ที่ทำให้เกิดอาการนี้
01:26
doctors embed electrodes directly into the patient's brain
36
86905
3676
แพทย์ฝังอิเล็กโทรดโดยตรง ลงไปในสมองของผู้ป่วย
01:30
around the suspected seizure center.
37
90581
2546
รอบ ๆ ศูนย์กลางที่คิดว่าทำให้เกิดอาการนี้
01:33
The patient then stays in the hospital for a few days,
38
93127
2244
จากนั้น ผู้ป่วยก็จะอยู่ที่โรงพยาบาล ประมาณสองสามวัน
01:35
waiting to have a seizure
39
95371
1679
รอให้เกิดอาการ
01:37
with the electrodes constantly recording
40
97050
2518
ซึ่งอิเล็กโทรดจะทำการบันทึก
01:39
the activity inside his or her brain.
41
99568
2858
กิจกรรมที่เกิดขึ้นในสมองของผู้ป่วยทันที
01:42
Yes, now we want the patient to have a seizure
42
102426
3087
ใช่แล้ว ตอนนี้เราต้องการให้ผู้ป่วยมีอาการ
01:45
so doctors can use the embedded electrodes
43
105513
2095
เพื่อที่แพทย์จะสามารถฝังอิเล็กโทรด
01:47
to measure it and learn exactly where its origin was.
44
107608
3655
เพื่อวัดมันและรู้ให้ได้ว่า จุดกำเนิดมันอยู่ตรงไหน
01:51
After doctors are sure where the seizures
45
111263
2025
หลังจากที่แพทย์มั่นใจแล้วว่าอาการที่เกิดขึ้น
01:53
come from in the brain,
46
113288
1660
มาจากส่วนใดของสมอง
01:54
they can take the electrodes out.
47
114948
1862
พวกเขาจะนำอิเล็กโทรดออก
01:56
Now they know what part of the brain they can remove
48
116810
2461
ตอนนี้ พวกเขารู้ว่าสมองส่วนไหน ที่พวกเขาจะต้องตัดออก
01:59
in order to cure the patient.
49
119271
1918
เพื่อที่จะรักษาผู้ป่วย
02:01
These brain electrodes can tell us
50
121189
1966
อิเล็กโทรดสมองเหล่านี้สามารถบอกเรา
02:03
more than just where the seizures happen.
51
123155
3294
ได้มากกว่าแค่ตำแหน่งที่เกิดอาการ
02:06
Based on where the doctors place the electrodes in the brain,
52
126449
3387
ขึ้นอยู่กับว่า แพทย์จะวางอิเล็กโทรดไว้ตรงไหน
02:09
we can ask questions about what the brain does.
53
129836
2884
เราสามารถถามคำถามเกี่ยวว่า สมองทำหน้าที่อะไร
02:12
Sometimes we find one cell that starts bursting in activity
54
132720
4576
บางครั้งเราพบเซลล์หนึ่งที่เริ่มทำกิจกรรม
02:17
every time the patient sees a particular picture,
55
137296
3205
ทุกครั้งที่ผู้ป่วยเห็นรูปบางอย่าง
02:20
for example, a picture of Marilyn Monroe.
56
140501
3736
ยกตัวอย่างเช่น รูปมาริลิน มอนโรล
02:24
See, every time the patient sees Marilyn Monroe,
57
144237
3187
เห็นไหม ทุกครั้งที่ผู้ป่วย เห็นรูปมาริลิน มอนโรล
02:27
some specific cells fire in the brain.
58
147424
3299
เซลล์บางอย่างกระพริบขึ้นในสมอง
02:30
You can now know when the patient is thinking of Marilyn Monroe
59
150723
3436
ตอนนี้คุณก็จะรู้ว่า เมื่อไรที่ผู้ป่วยคิดถึงมาริลิน มอลโรล
02:34
just by listening to these cells fire.
60
154159
3243
แค่โดยฟังเซลล์ที่กระพริบเหล่านี้
02:37
When we find one or a few of these cells with each patient,
61
157402
3667
เมื่อเราพบว่าเซลล์หนึ่ง หรือบางเซลล์ ในผู้ป่วยแต่ละคนแล้ว
02:41
we can then do all kinds of fancy things.
62
161069
3078
จากนั้น เราสามารถทำอะไรที่น่าสนใจได้อีก
02:44
For example, we can connect the recording electrode
63
164147
2925
ยกตัวอย่างเช่น เราสามารถเชื่อมต่อ อิเล็กโทรดที่ทำการบันทึก
02:47
to a cursor on a screen
64
167072
1664
กับตัวชี้ตำแหน่งบนจอฉายภาพ
02:48
and have the patient move the cursor left or right
65
168736
2336
และให้ผู้ป่วยขยับตัวชี้ตำแหน่ง ไปทางซ้ายหรือขวา
02:51
just by thinking of things.
66
171072
2342
โดยแค่คิดถึงสิ่งต่าง ๆ
02:53
This can help people
67
173414
812
สิ่งนี้สามารถช่วย
02:54
who lost the ability to move their hands,
68
174226
2093
ให้คนที่เสียความสามารถในการขยับมือ
02:56
like people with spinal cord injuries or wounded soldiers,
69
176319
3162
เช่นคนที่ได้รับบาดเจ็บที่ไขสันหลัง หรือทหารที่บาดเจ็บ
02:59
by having them control a prosthetic arm
70
179481
1935
โดยให้พวกเขาบังคับแขนประดิษฐ์
03:01
directly with their brain.
71
181416
2085
โดยตรงจากการสั่งงานของสมอง
03:03
Our brain is a brilliant device
72
183501
2062
สมองของเราเป็นอุปกรณ์อันมหัศจรรย์
03:05
which can make predictions about the future.
73
185563
2406
ซึ่งสามารถทำการทำนายเกี่ยวกับอนาคตได้
03:07
For example, we can all know
74
187969
1919
ยกตัวอย่างเช่น เราสามารถรู้
03:09
which word will appear at the end of this...
75
189888
2831
ว่าคำไหนจะปรากฏหลัง ...
03:12
sentence.
76
192719
1464
ประโยคนี้
03:14
The brain can solve complicated problems,
77
194183
2186
สมองสามารถแก้โจทย์ปัญหาที่ซับซ้อนได้
03:16
imagine the entire universe,
78
196369
2454
ลองนึกถึงทั้งจักรวาล
03:18
and grasp concepts such as infinity
79
198823
2234
และทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเป็นอนันต์
03:21
or unicorns.
80
201057
2090
หรือยูนิคอน
03:23
The brain produces complex emotions like love or jealousy,
81
203147
3500
สมองสร้างอารมณ์ที่ซับซ้อน เช่น รัก หรืออิจฉา
03:26
it's what makes us creative and curious,
82
206647
3339
มันทำให้เราสร้างสรรค์ หรือฉงนสงสัย
03:29
and it can even contemplate about itself.
83
209986
2501
และมันกระทั่งพินิจพิเคราะห์ตัวเอง
03:32
And the brain is the organ we use to study the brain.
84
212487
3338
และสมองของเราก็เป็นอวัยวะ ที่พวกเราใช้ศึกษาสมอง
03:35
I think that the brain is the most beautiful organ in our body,
85
215825
3980
ผมคิดว่าสมอง เป็นอวัยวะที่สวยงามที่สุดในร่างกาย
03:39
but then I ask myself,
86
219805
1609
แต่แล้วผมก็ถามตัวเองว่า
03:41
"Which organ is making me think that?"
87
221414
2353
"อวัยวะอะไรที่ทำให้ผมคิดอย่างนั้น"
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7