The rise and fall of the Celtic warriors - Philip Freeman

Translator: Worawut Weerawan Reviewer: Sakunphat Jirawuthitanant

One summer evening in 335 BCE, Alexander the Great

เย็นฤดูร้อนวันหนึ่ง 335 ปีก่อนคริสตกาล อเล็กซานเดอร์มหาราช

was resting by the Danube River after a day of fighting the Scythian tribes

กำลังพักผ่อนอยู่ริมแม่น้ำดานูบ หลังจากสู้กับเผ่าไซเธียนไม่กี่วันก่อน

when a band of strangers approached his camp.

ในขณะที่มีกลุ่มคนแปลกหน้า มุ่งหน้ามายังที่พักของเขา

Alexander had never seen anything like these tall,

อเล็กซานเดอร์ไม่เคยพเห็นนักรบที่ตัวสูงใหญ่

fierce-looking warriors with huge golden neck rings and colorful cloaks—

ดูน่าเกรงขาม และสวมใส่เครื่องประดับอย่าง แหวนคอทองคำ กับผ้าคลุมหลากสีแบบนี้มาก่อน

so he invited them to feast with him.

เขาจึงเชื้อเชิญให้มาร่วมทานอาหารด้วยกัน

They proudly said they were Keltoi or Celts who came from the far-away Alps.

พวกเขาพูดอย่างภูมิใจว่า ตนคือชาวเคลทอย หรือเคลท์ที่มาจากเทือกเขาแอลป์อันไกลโพ้น

Alexander asked what they feared the most in the world,

อเล็กซานเดอร์เอ่ยถามไปว่า มีสิ่งใดที่พวกเขากลัวมากที่สุดในโลก

hoping they would say him.

โดยหวังว่าพวกเขาจะตอบว่าเป็นอเล็กซานเดอร์

They laughed and said they feared nothing at all.

พวกเขาหัวเราะ และพูดว่า พวกเขาไม่กลัวสิ่งใดทั้งนั้น

This is one of the earliest stories about the ancient Celts.

นี่คือเรื่องราวที่เก่าแก่ที่สุดเกี่ยวกับ ชาวเคลต์โบราณ

While we don’t know where the first Celts came from,

แม้เราจะไม่รู้ว่าชาวเคลท์รุ่นแรกมาจากไหน

by Alexander’s time they had spread across Europe

แต่ในช่วงเวลาที่อเล็กซานเดอร์มหาราชครองราช ชาวเคลท์ก็แผ่ขยายไปทั่วยุโรป

from Asia Minor in the east to Spain

ตั้งแต่เอเชียน้อยแถบตะวันออกไปถึงสเปน

and the Atlantic islands of Britain and Ireland in the west.

และหมู่เกาะแอตแลนติกอย่างบริเตน กับไอร์แลนด์ทางตะวันตก

The Celts were never one unified empire, and they didn’t build cities or monuments.

ชาวเคลท์ไม่เคยรวมเป็นอาณาจักรเดียวกัน และพวกเขาก็ไม่ได้สร้างเมืองหรืออนุเสาวรีย์

Instead, they were hundreds of independent tribes who spoke the same language.

พวกเขานั้นเป็นชนเผ่าอิสระนับร้อยเผ่า ที่พูดภาษาเดียวกัน

Each had its own warrior-king and religious center.

แต่ละเผ่าก็จะมีหัวหน้าเผ่าที่เป็นนักรบ และศูนย์กลางทางศาสนา

The tribes fought each other

ชนเผ่าต่างๆ ของเคลท์สู้รบกันเอง

as enthusiastically as they fought their enemies.

เหมือนที่สู้กับศัตรูของพวกเขาอย่างแรงกล้า

Few armies could stand up to them.

มีกองทัพเพียงน้อยนิดที่จะประมือกับพวกเขา ได้สูสี

Somewhat unusually for the time, the Celts believed in reincarnation—

ชาวเคลท์เชื่อในแนวคิดการจุติใหม่ ซึ่งเป็นแนวคิดที่แปลกในเวลานั้น

that they would be reborn on Earth to live and feast and fight again,

พวกเขาเชื่อว่าตนจะได้กลับมาเกิดบนโลก เพื่อใช้ชีวิต กินดื่ม และสู้รบอีกครั้ง

which may have contributed to their fearlessness in battle.

ซึ่งอาจมีส่วนว่าทำไมพวกเขา ถึงไร้ซึ่งความกลัวในการรบ

Some of them fought naked, scoffing at their enemies’ armor.

บางคนต่อสู้โดยไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้น และเหยียดหยามชุดเกราะที่ศัตรูสวมใส่

The greatest trophy a Celtic warrior could possess

รางวัลอันเป็นเกียรติแก่นักรบเคลติกที่สุด ที่พวกเขาจะครอบครองได้

was the severed head of a foe.

คือหัวที่หลุดจากบ่าของศัตรู

They preserved these heads in jars of cedar oil

พวกเขาจะเก็บรักษาหัวของศัตรู ในโหลที่ใส่น้ำมันซีดาร์เอาไว้

and showed them to guests who visited their homes.

และนำไปโชว์ให้แขกที่มาเยี่ยมบ้านของพวกเขา

Celtic warriors were so valued in the ancient world

นักรบเคลติกมีความสำคัญอย่างมาก ในโลกยุคโบราณ

that foreign kings often hired them as mercenary soldiers

มากจนกษัตริย์ต่างแดนมักจะจ้างพวกเขา ไปเป็นทหารรับจ้างอยู๋บ่อยครั้ง

to serve in their armies.

เพื่อรับใช้กองทัพ

But the Celts were much more than just warriors.

แต่ชาวเคลท์เป็นมากกว่านักรบ

Among them were many skilled craftsmen, artists, and great poets called bards.

พวกเขายังเป็นช่างฝีมือดี จิตรกร และนักกวีที่เรียกว่า บาร์ด

The bards sang of the brave deeds of their ancestors

บาร์ดจะขับร้องเพลงเกี่ยวกับ วีรกรรมอันกล้าหาญของบรรพบุรุษของพวกเขา

and praised the accomplishments of warrior kings—

และเชิดชูสิ่งที่ราชานักรบได้กระทำสำเร็จ

and composed biting satires about cowardly or selfish leaders.

และยังมีการประพันธ์เพลงเสียดสีจิกกัด ผู้นำที่ขี้ขลาดและเห็นแก่ตัว

The Celts worshipped many gods,

ขาวเคลท์บูชาพระเจ้าหลายองค์

and priests known as druids oversaw this worship.

และนักบวชที่รู้จักกันในชื่อ ดรูอิด เป็นผู้ควบคุมพิธีบูชาดังกล่าว

Anyone could become a druid,

ใครก็สามารถเป็นดรูอิดได้

but the training required many years of study and memorization—

แต่การฝึกฝนเพื่อเป็นดรูอิดนั้น ใช้เวลาในการเรียนและจำหลายปี

the druids were not allowed to record any of their teachings in writing.

ดรูอิดจะไม่ได้รับอนุญาติให้บันทึก สึ่งที่ตนสอนในงานเขียนของพวกเขา

Druids supervised religious practices and sacrifices to the gods,

ดรูอิดจะคอยกำกับดูแลพิธีกรรมทางศาสนา และการบูชายัญแด่พระเจ้า

but they were also teachers, healers, judges, and scientists.

แต่พวกเขาก็เป็นครู หมอ ทนาย และนักวิทยาศาสตร์อีกด้วย

They were so respected that they could step between warring tribes

พวกเขานั้นได้รับความเคารพอย่างมาก มากเสียจนสามารถ

in the middle of a battle and call an end to the fighting.

เข้าไปห้ามเผ่าที่กำลังรบกันอยู่ และยุติสงครามได้

No Celt would dare to harm a druid, or question their decisions.

ไม่มีชาวเคลท์คนไหนกล้าทำร้ายดรูอิด หรือตั้งคำถามเกี่ยวกับการตัดสินใจของพวกเขา

In the 2nd century BCE, the Romans began to encroach on Celtic territory,

ในช่วงศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล ชาวโรมันเริ่มบุกรกเขตแดนของชาวเคลท์

conquering the tribes of northern Italy.

จนสามารถครองเผ่าแถบอิตาลีเหนือได้

Rather than unite against the Roman legions in response to this defeat,

แต่แทนที่จะรวมกับฝ่ายโรมัน จากความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้น

the Celts maintained their tribal divisions.

ชาวเคลท์ยังคงไว้ซึ่ง ระบบเผ่าของตน

The tribes of Spain fell soon after.

และชนเผ่าเคลท์ในสเปนก็ล่มสลายหลังจากนั้น

In the 1st century BCE, Julius Caesar marched his armies across France,

ศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาล จูเลียส ซีซาร์ ได้นำทัพผ่านฝรั่งเศส

using bribery, threats, and lies to turn tribes against each other.

โดยให้สินบน ข่มขู่ และหลอกลวง ให้ชนเผ่าหันมาสู้กันเอง

Only in the closing days of this great war

ในช่วงเวลาแห่งสงครามอันยิ่งใหญ่นี้

did the Celts unite against their common enemy

ชาวเคลท์จึงได้ร่วมมือกันต่อสู้กับ ศัตรูคนเดียวกันสักที

under the leadership of king Vercingetorix,

ภายใต้การนำของราชา เวอร์คินเกเตอร์ริกซ์

but it was too late.

แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว

Countless warriors and their families died or were enslaved

นักรบนับไม่ถ้วนและครอบครัวได้ตาย หรือถูกจับไปเป็นทาส

as the Romans conquered France.

เมื่อโรมันได้ยึดครองฝรั่งเศส เป็นที่เรียบร้อย

Protected by the surrounding waters,

ที่ที่ล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำนั้น

the Celtic tribes of Britain and Ireland were the last holdouts.

ยังมีเผ่าเคลติกในหมู่เกาะบริเตน และไอร์แลนด์อยู่เป็นที่สุดท้าย

When the Romans finally invaded Britain,

เมื่อโรมันเข้ามาบุกบริเตน

the queen Boudicca united her tribe in a revolt after her husband was killed.

ราชินีบูดิกาได้รวมพลกับเผ่าที่เหลือ เพื่อต่อกรกับโรมัน หลังจากสามีถูกฆ่าไป

She almost succeeded in driving the Roman legions out of Britain

เธอเกือบจะขับไล่ชาวโรมัน ออกไปจากบริเตนได้แล้ว

before dying as she led a final battle against the enemy.

ก่อนตาย เธอได้นำทัพต่อสู้ ครั้งสุดท้ายกับศัตรู

By the end of the 1st century CE, Ireland alone, far out at sea,

สิ้นสุดศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาล เกาะไอร์แลนด์ที่อยู่ตัวเดียว ห่างไกลออกไป

remained unconquered by Rome.

ไม่ได้ถูกโรมันยึดครองไว้

There, the ways of the ancient Celts survived untouched by the outside world

ซึ่งทำให้ชาวเคลท์โบราณยังคงอยู่รอด โดยโลกภายนอกมิอาจมาแตะต้อง

long after Rome itself lay in ruins.

อยู่รอดหลังจากที่โรมเองก็เสื่อมสลาย ตามกาลเวลา