Why do you get a fever when you're sick? - Christian Moro

1,322,849 views ・ 2020-11-12

TED-Ed


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Reviewer: Thitiporn Ratanapojnard
00:06
In 1917, doctors proposed an outlandish treatment for syphilis,
0
6804
5361
ในปี 1917 แพทย์เสนอวิธีหลุดโลก ในการรักษาซิฟิลิส
00:12
the incurable bacterial infection that had ravaged Europe for centuries.
1
12165
4839
โรคติดเชื้อจากแบคทีเรียที่รักษาไม่หาย ซึ่งสร้างความย่อยยับให้ยุโรปมานับศตวรรษ
ขั้นที่ 1: ทำให้ผู้ป่วยที่ทรมาน จากซิฟิลิสระยะท้าย
00:17
Step 1: Infect patients suffering from the later stages of syphilis
2
17004
5114
00:22
with the parasite that causes malaria,
3
22118
2810
ติดเชื้อปรสิตที่ทำให้เกิดมาเลเรีย
00:24
the deadly but curable mosquito-borne disease.
4
24928
3942
โรคจากยุง ที่อาจถึงตาย แต่รักษาให้หายได้
00:28
Step 2: Hope that malarial fevers clear the syphilis.
5
28870
4981
ขั้นที่ 2 : หวังว่าไข้จากมาเลเรีย จะกำจัดซิฟิลิส
00:33
And step 3: Administer quinine to curb the malaria.
6
33851
4290
และขั้นที่ 3 : ให้ยาควินินรักษามาเลเรีย
00:38
If all went according to plan,
7
38141
1960
ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน
00:40
their patient would be left alive and free of both diseases.
8
40101
4289
ผู้ป่วยจะรอดตาย และหายจากทั้งสองโรค
00:44
This killed some 15% of patients, but for those who survived,
9
44390
5204
วิธีนี้ทำให้ผู้ป่วยตายไป 15 เปอร์เซ็นต์ แต่สำหรับคนที่รอด
00:49
it seemed to work.
10
49594
1660
มันดูเหมือนจะได้ผล
00:51
It actually became the standard treatment for syphilis
11
51254
2876
มันกลายเป็น การรักษามาตรฐานของซิฟิลิส
00:54
until penicillin was widely used decades later.
12
54130
3748
จนกระทั่งเพนนิซิลินถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย หลายสิบปีต่อมา
00:57
And its driving force was fever.
13
57878
3550
และสิ่งที่ทำให้มันได้ผลคือไข้
01:01
There are many mysteries around fever,
14
61428
2280
มีปริศนามากมายเกี่ยวกับไข้
01:03
but what we do know is that all mammals,
15
63708
2530
สิ่งที่เรารู้คือ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด
01:06
some birds and even a few invertebrate and plant species feel fever’s heat.
16
66238
6199
นกบางชนิด แม้แต่สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง บางชนิดและพืชบางพันธุ์ก็มีไข้
01:12
It has persisted for over 600 million years of evolution.
17
72437
4070
มันอยู่ยั้งยืนยง มากว่า 600 ปี ของวิวัฒนาการ
01:16
But it has a significant cost.
18
76507
2191
แต่มันก็สร้างความเสียหายไม่น้อย
01:18
For every 1 degree Celsius of temperature increase in the human body,
19
78698
4460
ทุก 1 องศาเซลเซียสที่สูงขึ้น ในร่างกายมนุษย์
01:23
there’s a 12.5 percent increase in energy required,
20
83158
4807
จะมีความต้องการพลังงาน เพิ่มขึ้น 12.5 เปอร์เซ็นต์
01:27
the equivalent of about 20 minutes of jogging for some.
21
87965
4070
เทียบเท่ากับการวิ่ง 20 นาที สำหรับบางคน
01:32
So, why and how does your body produce a fever?
22
92035
4746
แล้วร่างกายคุณมีไข้ไปเพื่ออะไร และมีไข้ได้อย่างไร
01:36
Your core temperature is maintained via thermoregulation,
23
96781
4120
อุณหภูมิแกนกลางร่างกายถูกควบคุมด้วย ระบบควบคุมอุณหภูมิ
01:40
a set of processes that usually keep you around 37 degrees Celsius.
24
100901
5152
กระบวนการที่ทำให้ร่างกาย มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส
01:46
These mechanisms are controlled by the brain’s hypothalamus,
25
106053
3660
กลไกนี้ควบคุมโดย ส่วนของสมองคือ ไฮโปทาลามัส
01:49
which detects minute temperature shifts
26
109713
2586
ที่จับการเปลี่ยนอุณภูมิของร่างกาย แม้น้อยนิด
01:52
and sends signals throughout the body accordingly.
27
112299
3570
และส่งสัญญาณไปทั่วร่างกาย
01:55
If you’re too hot, the hypothalamus produces signals
28
115869
2970
ถ้าคุณอุณหภูมิสูงเกิน ไฮโปทาลามัสจะส่งสัญญาณ
01:58
that activate your sweat glands or make your blood vessels dilate,
29
118839
4560
กระตุ้นต่อมเหงื่อของคุณ หรือทำให้เส้นเลือดคุณขยายตัว
02:03
moving blood closer to the skin’s surface—
30
123399
3240
ทำให้เลือดใกล้ผิวหนังมากขึ้น
02:06
all of which releases heat and cools you off.
31
126639
3620
ทั้งหมดนี้ช่วยปล่อยความร้อน และทำให้ตัวคุณเย็นลง
02:10
And if you’re too cold,
32
130259
1486
และถ้าคุณอุณหภูมิต่ำเกิน
02:11
your blood vessels will constrict and you may start to shiver,
33
131745
3780
เส้นเลือดของคุณจะหดตัว และคุณอาจจะเริ่มตัวสั่น
02:15
which generates heat.
34
135525
1780
ซึ่งทำให้เกิดความร้อน
02:17
Your body will disrupt its usual temperature equilibrium to induce a fever,
35
137305
5424
ร่างกายคุณจะตัดสมดุลย์อุณหภูมิปกติ เพื่อทำให้เกิดไข้
02:22
which sets in above 38 degrees Celsius.
36
142729
3600
ซึ่งเร่ิมที่อุณหภูมิเกิน 38 องศาเซลเซียส
02:26
Meanwhile, it has mechanisms in place to prevent it
37
146329
2916
ขณะเดียวกัน มันมีกลไกที่จะป้องกัน
02:29
from exceeding 41 degrees Celsius, when organ damage could occur.
38
149245
5217
ไม่ให้ไข้สูงเกิน 41 องศาเซลเซียส ซึ่งอาจทำให้อวัยวะเสียหาย
02:34
Immune cells that are fighting an infection can induce a fever
39
154462
3720
เซลล์ภูมิคุ้มกันที่ต่อสู้กับการติดเชื้อ สามารถทำให้เกิดไข้ได้
02:38
by triggering a biochemical cascade that ultimately instructs
40
158182
4173
ด้วยการกระตุ้นขั้นตอนทางชีวเคมี ตามลำดับจนทำให้
02:42
your hypothalamus to increase your baseline temperature.
41
162355
4088
ไฮโปทาลามัส เพิ่มระดับอุณหภูมิพื้นฐาน
02:46
Your body then gets to work to meet its new “set point” using the mechanisms
42
166443
5207
ร่างกายคุณจึงทำงานเพื่อให้เข้ากับ “อุณหภูมิระดับใหม่“ด้วยการใช้กลไก
02:51
it would to generate heat when cold.
43
171650
3160
ที่ทำให้เกิดความร้อนเมื่อรู้สึกหนาว
02:54
Until it reaches this new temperature, you’ll feel comparatively cool,
44
174810
4165
คุณจะรู้สึกหนาว จนกว่าจะถึงอุณหภูมิระดับใหม่นี้
02:58
which is why you might experience chills.
45
178975
3090
นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมคุณอาจเกิดอาการหนาวสั่น
03:02
But why does your body do this?
46
182065
2000
ทำไมร่างกายคุณถึงทำแบบนี้ล่ะ
03:04
While the jury's still out on how higher temperatures directly affect pathogens,
47
184065
5013
แม้ว่ายังไม่ทราบชัดว่าอุณหภูมิที่สูงขี้น มีผลโดยตรงต่อเชื้อโรคอย่างไร
03:09
it seems that fever's main effect
48
189078
2580
ดูเหมือนว่าการออกฤทธิ์หลักของไข้คือ
03:11
is in rapidly inducing a whole-body immune response.
49
191658
5284
คือการกระตุ้นให้เกิดการตอบสนอง ของภูมิคุ้มกันทั่วร่างกายอย่างรวดเร็ว
03:16
Upon exposure to raised internal temperatures,
50
196942
3190
เมื่อเผชิญกับอุณหภูมิภายในที่สูงขึ้น
03:20
some of your cells release heat shock proteins, or HSPs,
51
200132
5623
บางเซลล์ของคุณจะปล่อย ฮีทช็อคโปรตีน หรือ เอชเอสพี
03:25
a family of molecules produced in response to stressful conditions.
52
205755
4614
กลุ่มของโมเลกุลที่ถูกสร้าง เพื่อตอบสนองสถานการณ์ที่มีความเครียด
03:30
These proteins aid lymphocytes, one of several kinds of white blood cells
53
210369
5658
โปรตีนพวกนี้ช่วยให้เซลล์ลิมโฟไซต์ หนึ่งในบรรดาเซลล์เม็ดเลือดขาว
03:36
that fight pathogens, to travel more rapidly to infection sites.
54
216027
5078
ที่ต่อสู้เชื้อโรค ไปยังจุดที่มีการติดเชื้ออย่างรวดเร็ว
03:41
HSPs do this by enhancing the “stickiness” of lymphocytes,
55
221105
4748
ฮีทช็อคโปรตีนทำแบบนี้ได้ด้วยการเพิ่ม “ความหนืด” ของลิมโฟไซต์
03:45
enabling them to adhere to and squeeze through blood vessel walls
56
225853
4442
ทำให้มันสามารถยึดติด และแทรกตัวเองผ่านผนังเส้นเลือด
03:50
so they can reach the areas where infection is raging.
57
230295
4200
เพื่อให้มันสามารถไปย้ง ตำแหน่ง ที่การติดเชื้อรุนแรง
03:54
In the case of viral infections,
58
234495
1970
ในกรณีการติดเชื้อไวรัส
03:56
HSPs help tell nearby cells to dampen their protein production,
59
236465
4848
ฮีทช็อคโปรตีนช่วยบอกเซลล์ข้างเคียง ให้ลดการผลิตโปรตีน
04:01
which limits their ability to replicate.
60
241313
2690
ที่จะจำกัดความสามารถ ในการแบ่งตัวของไวรัส
วิธีนี้จะหยุดการแพร่กระจายของไวรัส เพราะมันต้องอาศัย
04:04
This stunts the virus’s spread because they depend on
61
244003
3026
04:07
their host’s replicative machinery to reproduce.
62
247029
3713
กลไกการสร้างโปรตีนของมนุษย์ ในการขยายพันธุ์
04:10
It also protects surrounding cells from damage since some viruses spread
63
250742
4764
วิธีนี้ยังปกป้องเซลล์รอบ ๆ จากการถูกทำลาย เพราะไวรัสบางชนิดแพร่กระจาย
04:15
by rupturing their host cells, which can lead to large-scale destruction,
64
255506
4545
ด้วยการทำให้เซลล์ของมนุษย์แตกตัว ซึ่งทำให้เกิดการทำลายล้างอย่างมหาศาล
04:20
the build-up of detritus, and potentially even organ damage.
65
260051
4677
เกิดการสะสมของเศษซากเซลล์ และอาจถึงขั้นอวัยวะเสียหาย
04:24
The ability of HSPs to protect host cells and enhance immune activity
66
264728
5598
ความสามารถของฮีทช็อคโปรตีนในการปกป้อง เซลล์มนุษย์และเพิ่มการทำงานของภูมิคุ้มกัน
04:30
can limit the pathogen’s path of destruction inside of the body.
67
270326
4602
สามารถจำกัดการทำลายล้าง ของเชื้อโรคภายในร่างกาย
04:34
But for all we know about fever’s role in immune activation,
68
274928
4320
สิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับ บทบาทของไข้ในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันคือ
04:39
some clinical trials have shown that fever suppressor drugs
69
279248
4087
งานวิจัยบางเรื่องพบว่ายาลดไข้
04:43
don’t worsen symptoms or recovery rates.
70
283335
3227
ไม่ทำให้อาการแย่ลงหรือหายช้า
04:46
This is why there’s no definitive rule on whether to suppress a fever
71
286562
4524
นี่เป็นสาเหตุว่าทำไมจึงไม่มีกฏตายตัว ว่าควรลดไข้
04:51
or let it ride.
72
291086
1521
หรือปล่อยให้ไข้ขึ้น
04:52
Doctors decide on a case-by-case basis.
73
292607
3359
แพทย์จะตัดสินใจเป็นราย ๆ ไป
04:55
The fever’s duration and intensity, as well as their patient’s immune status,
74
295966
4925
ระยะเวลาของไข้ ไข้สูงหรือต่ำ รวมทั้งสภาพภูมิคุ้มกันของผู้ป่วย
05:00
comfort level, and age will all play a role in their choice of treatments.
75
300891
5111
อาการ และอายุก็มีส่วน ในการเลือกวิธีการรักษา
และถ้าแพทย์ปล่อยให้ไข้ขึ้นแล้วละก็
05:06
And if they do let a fever ride,
76
306002
2340
05:08
they’ll likely prescribe rest and plenty of fluids to prevent dehydration
77
308342
5324
แพทย์มักจะบอกให้พักผ่อน ดื่มนำ้มากๆ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ
05:13
while the body wages its heated battle.
78
313666
2790
ขณะที่ร่างกายต่อสู้สงครามอันร้อนรุ่ม
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7