Is space trying to kill us? - Ron Shaneyfelt

อวกาศกำลังพยายามฆ่าเราหรือเปล่า - รอน เชนีเฟลท์ (Ron Shaneyfelt)

Translator: Andrea McDonough Reviewer: Jessica Ruby

Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Rawee Ma

There are still lots of things about space

ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างในอวกาศ

that we may never be able to answer,

ที่เราอาจไม่สามารถหาคำตอบได้

like is time travel possible?

เช่น การเดินทางข้ามเวลาเป็นไปได้หรือไม่

Or are aliens living somewhere else in the Milky Way?

หรือมีสิ่งมีชีวิตต่างดาว อาศัยอยู่ที่ไหนสักแห่งในทางช้างเผือกหรือเปล่า

But there is one thing I believe about space:

แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อเกี่ยวกับอวกาศ

Space is trying to kill me.

นั่นคือ อวกาศพยายามที่จะฆ่าผม

Space isn't out to get me personally.

อวกาศไม่ได้จะพยายามฆ่าผมคนเดียวหรอก

It's also trying to kill you and everybody else.

มันยังพยายามที่จะฆ่าคุณและคนอื่น ๆ ด้วย

Think about it.

ลองคิดดูสิ

Space doesn't naturally have what we need to survive

โดยธรรมชาติแล้ว อวกาศไม่มีอะไรที่จำเป็น ต่อการดำรงชีพของเราเลย

when we travel there:

เมื่อเราเดินทางไปอวกาศ

no air,

มันไม่มีอากาศ

it's too hot

มันร้อนเกินไป

or too cold,

หรือไม่ก็หนาวเกินไป

no ozone to protect us from those nasty UV rays, either.

ไม่มีโอโซน ที่จะปกป้องเราจากรังสียูวีที่น่ารังเกียจอีก

This all sounds bad,

นี่มันฟังดูแย่ทั้งนั้น

but what can space really do to me

แต่อวกาศจะทำอะไรผมได้

if I stay on Earth?

ถ้าผมอยู่บนโลก

What we need to understand is that objects in space

สิ่งที่เราต้องทำความเข้าใจก็คือ วัตถุในอวกาศ

can cause people to think their days are numbered,

ทำให้เราคิดว่า เรามีเวลามากมาย

even when there are events on Earth

แม้ว่าจะมีเหตุการณ์บนโลก

that can hurt or kill us

ที่สามารถทำอันตรายหรือฆ่าเราได้

before something from space does.

ก่อนที่อะไรบางอย่างจากอวกาศจะทำเช่นนั้น

So, what are the odds that one of these objects

ฉะนั้น จะมีโอกาสแค่ไหนกันที่หนึ่งในวัตถุเหล่านี้

will really affect Earth

จะมีผลกระทบต่อโลก

and you

และคุณ

and me

และผม

in our lifetime?

ในช่วงชีวิตของเรา

Well, we can take what we know about the universe

ครับ เราสามารถนำสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับอวกาศ

to try and figure that out.

มาพิจารณาและพยายามหาคำตอบ

You might have heard stories

คุณอาจเคยได้ยินเรื่องราว

about asteroids hitting the Earth.

เกี่ยวกับดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลก

That would be pretty bad.

นั่นค่อนข้างจะแย่ทีเดียว

Scientists think asteroids might have killed off

นักวิทยาศาสตร์คิดว่า

most of the dinosaurs.

ดาวเคราะห์น้อยอาจฆ่าไดโนเสาร์เกือบทั้งหมด

Sounds like something we should worry about, right?

ฟังดูเหมือนเป็นอะไรบางอย่างที่เราควรกังวล ใช่ไหมล่ะ

Well, astronomers can now watch asteroids in space

แต่ตอนนี้ นักดาราศาสตร์ สามารถเฝ้าดูดาวเคราะห์น้อยในอวกาศ

and see them coming using complex computer models

และเห็นว่าพวกมันกำลังมา โดยใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อน

to predict the deadly rock's path.

เพื่อคาดคะเนเส้นทางของหินอันตรายนี้

For a while, the reported odds

ในช่วงหนึ่ง รายงานความน่าจะเป็น

that asteroid Apophis would strike Earth in 2036

ที่ดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส (Appophis) อาจพุ่งชนโลกใน ค.ศ. 2036

were once 1 in 625.

คือ 1 ใน 625

But, after updating their data,

แต่หลังจากมีการปรับข้อมูลใหม่

astronomers now say the chances are extremely low.

นักดาราศาสตร์ตอนนี้บอกว่า โอกาสนั้นต่ำมาก

Okay, what about the sun?

โอเค แล้วดาวอาทิตย์ล่ะ

Hollywood movies like to pick on our sun

หนังฮอลลิวูดชอบที่จะเลือกดวงอาทิตย์ของเรา

by showing Earth destroyed by solar flares

โดยแสดงให้เห็นว่าโลกของเราถูกทำลาย โดยเปลวไฟสุริยะ

or the sun dying out,

หรือดวงอาทิตย์กำลังจะตาย

which would cause Earth to freeze.

ซึ่งจะทำให้โลกถึงเย็นยะเยือก

Astronomers predict our sun contains enough gas

นักดาราศาสตร์คาดว่า ดวงอาทิตย์ของเรามีก๊าซมากพอ

to make energy for another 3 to 5 billion years.

ที่จะผลิตพลังงานไปได้อีก 3 ถึง 5 พันล้านปี

So, in 3 to 5 billion years,

ฉะนั้น ใน 3 ถึง 5 พันล้านปี

if people still exist on Earth,

ถ้าคนยังอยู่บนโลก

they'll have to deal with that.

พวกเขาอาจจะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งนั้น

But today, well, we're safe.

แต่วันนี้ เอาเป็นว่าพวกเราปลอดภัย

Sometimes the sun does shoot flares at Earth,

บางครั้ง ดวงอาทิตย์ยิงเปลวไฟมายังโลก

but the magnetic fields surrounding our planet

แต่สนามแม่เหล็กที่อยู่รอบดาวเคราะห์ของเรา

blocks most of that radiation.

สกัดการแผ่รังสีส่วนใหญ่เอาไว้

The radiation that does get through

การแผ่รังสีที่ผ่านเข้ามา

creates things like the Aurora Borealis.

ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า ออโรรา โลเรียลิส (Aurora Borealis)

Gigantic solar flares can mess with our satellites

เปลวไฟสุริยะขนาดยักษ์ สามารถรบกวนดาวเทียมของเรา

and electrical equipment,

และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกได้

but the chances of it killing you are pretty slim.

แต่โอกาสที่มันจะฆ่าคุณนั้นเป็นไปได้ค่อนข้างยาก

Okay, what about that supermassive black hole

โอเค แล้วหลุมดำขนาดมหึมา

in the middle of our galaxy?

ที่อยู่ใจกลางดาราจักรล่ะ

What happens to Earth,

เกิดอะไรขึ้นกับโลก

and us,

กับเรา

when it pulls us in?

เมื่อมันดึงเราเข้าไป

After all, it is supermassive.

ไม่ว่าอย่างไรก็ดี มันมีขนาดใหญ่มาก

Nope, not going to happen.

ไม่ นั่นจะไม่เกิดขึ้น

That's one big object that can't bother us.

วัตถุใหญ่ยักษ์นั้นไม่สามารถทำอะไรเราได้

How can we be so sure?

เราจะแน่ใจได้อย่างไรล่ะ

Our solar system is on the edge of the Milky Way

ระบบสุริยะจักรวาลของเรา อยู่ที่ขอบของทางช้างเผือก

while the nearest supermassive black hole

ในขณะที่หลุมดำขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้ที่สุด

is about 26,000 light years from Earth.

อยู่ห่างออกไปจากโลกประมาณ 26,000 ปีแสง

That means we aren't on that black hole's menu.

นั่นหมายความว่าเราไม่ได้อยู่ในรายการของหลุมดำ

So, you still think space objects are trying to kill you

ฉะนั้น คุณยังคิดอยู่หรือเปล่าว่าวัตถุในอวกาศ กำลังพยายามฆ่าคุณ

even after what I've told you so far?

แม้ว่าผมจะได้บอกสิ่งเหล่านี้กับคุณไปแล้ว

I think I've even convinced myself

ผมคิดว่าผมเชื่อนะ

that odds are really good

ว่ามีโอกาสค่อนข้างมากทีเดียว

that space and the objects up there

ที่อวกาศและวัตถุต่าง ๆ ที่อยู่บนนั้น

won't kill me after all.

จะไม่ฆ่าผมหรอก

But I'll probably keep looking up

แต่ผมอาจจะมองขึ้นไปบ้าง

just to make sure nothing is headed my way.

เพียงแค่ให้แน่ใจว่าจะไม่มีอะไรพุ่งลงมาใส่ผม