4 different ways you can power a car

Translator: Vanchai Ariyabuddhiphongs Reviewer: Thipnapa Huansuriya

Historically, most cars have run on gasoline,

ตามประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา รถยนต์ส่วนใหญ่วิ่งได้ด้วยน้ำมัน

but that doesn’t have to be the case in the future:

แต่ในอนาคต มันไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างนั้น

other liquid fuels and electricity can also power cars.

เชื้อเพลิงเหลวอื่น ๆ และไฟฟ้า ก็ขับเคลื่อนรถยนต์ได้

So what are the differences between these options?

อะไรล่ะคือความแตกต่างของทางเลือกเหล่านี้?

And which one’s best?

และทางเลือกใดดีที่สุด ?

Gasoline is refined from crude oil,

นำ้มันเบนซินกลั่นจากนำ้มันดิบ

a fossil fuel extracted from deep underground.

เป็นเชื้อเพลิงฟอสซิล ที่ถูกขุดมาจากใต้ดินลึก

The energy in gasoline comes from a class of molecules called hydrocarbons.

พลังงานในเบนซินมาจากโมเลกุลประเภทหนึ่ง เรียกว่าไฮโดรคาร์บอน

There are hundreds of different hydrocarbons in crude oil,

มีไฮโดรคาร์บอนนับร้อย ๆ ชนิดในนำ้มันดิบ

and different ones are used to make gasoline and diesel—

น้ำมันดิบชนิดต่าง ๆ กัน ถูกนำมากลั่นเป็นเบนซินและดีเซล

which is why you can't use them interchangeably.

ทำให้คุณใช้นำ้มันสองอย่างนี้สลับกันไม่ได้

Fuels derived from crude oil are extremely energy dense,

เชื้อเพลิงที่กลั่นจากนำ้มันดิบ มีพลังงานหนาแน่น

bringing a lot of bang for your buck.

ทำให้คุณได้พลังงานคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป

Unfortunately, they have many drawbacks.

น่าเสียดายที่นำ้มันเหล่านี้มีจุดอ่อน

Oil spills cause environmental damage and cost billions of dollars to clean up.

น้ำมันที่รั่วไหลทำลายส่ิงแวดล้อมและ ต้องใช้เงินทำความสะอาดนับพันล้านเหรียญ

Air pollution from burning fossil fuels like these

มลภาวะทางอากาศจากการเผานำ้มันเหล่านี้

kills 4.5 million people each year.

ทำให้มีคนตาย 4.5 ล้านคนทุกปี

And transportation accounts for 16% of global greenhouse gas emissions,

และ 16% ของก๊าซเรือนกระจกทั้งโลก ก็มาจากการขนส่ง

almost half of which comes from passenger cars burning fossil fuels.

โดยเกือบครึ่งมาจากรถยนต์นั่ง ที่เผาเชื้อเพลิงฟอสซิล

These emissions warm the planet and make weather more extreme.

ไอเสียที่พ่นออกมาทำให้โลกร้อนและ ลมฟ้าอากาศแปรปรวนสุดขั้ว

In the U.S. alone, storms caused by climate change

ในสหรัฐอเมริกาประเทศเดียว พายุที่เกิดจาก ความเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศ

caused $500 billion of damage in the last five years.

ทำให้เกิดความเสียหายเป็นเงิน 5 แสนล้านดอลลาร์ในห้าปีที่ผ่านมา

So while gas is efficient,

ถึงแม้น้ำมันเบนซินจะมีประสิทธิภาพ

something so destructive can't be the best fuel.

แต่อะไรที่มีผลทำลายล้างขนาดนี้ ย่อมเป็นเชื้อเพลิงที่ดีที่สุดไม่ได้

The most common alternative is electricity.

ทางเลือกที่ใช้กันมากคือไฟฟ้า

Electric cars use a battery pack and electric motor

รถยนต์ไฟฟ้าใช้แบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้า

instead of the internal combustion engine found in gas-powered cars,

แทนการใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ที่พบในรถยนต์ที่ใช้นำ้มัน

and must be charged at charging stations.

และต้องชาร์จไฟที่สถานีชาร์จไฟ

With the right power infrastructure, they can be as efficient as gas-powered cars.

ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม รถไฟฟ้า จะมีประสิทธิภาพเท่า ๆ รถยนต์ใช้นำ้มัน

If powered by electricity generated without fossil fuels,

ถ้ารถไฟฟ้าใช้พลังงาน ที่ไม่ได้มาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล

they can avoid greenhouse gas emissions entirely.

รถเหล่านี้ก็จะไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเลย

They’re more expensive than gas-powered cars,

รถไฟฟ้าราคาแพงกว่ารถยนต์ใช้นำ้มัน

but the cost difference has been shrinking rapidly since 2010.

แต่ความต่างของราคารถสองแบบนี้ ก็เริ่มลดลงตั้งแต่ปี 2010

The other alternatives to gasoline are other liquid fuels.

ทางเลือกอีกทางหนึ่ง คือการใช้เชื้อเพลิงเหลวอื่น ๆ

Many of these can be shipped and stored using the same infrastructure as gasoline,

ก๊าซเหลวเหล่านี้ถูกส่งและเก็บใว้ใน โครงสร้างเดียวกันกับนำ้มันเบนซิน

and used in the same cars.

และนำไปใส่ในรถคันเดิม

They can also be carbon-neutral if they’re made using carbon dioxide

ก๊าซเหล่านี้อาจมีคาร์บอนเป็นกลาง

ถ้ามันถูกผลิตจาก คาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ

from the atmosphere—

meaning when we burn them, we release that same carbon dioxide back into the air,

หมายถึงว่า เมื่อเราเผามัน เราก็จะปล่อย คาร์บอนไดออกไซด์เดิมกลับเข้าไปในบรรยากาศ

and don't add to overall emissions.

โดยไม่ทำให้ก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้น

One approach to carbon-neutral fuel is to capture carbon dioxide

วิธีทำเชื้อเพลิงที่มีคาร์บอนเป็นกลาง วิธีหนึ่งคือการนำคาร์บอนไดออกไซด์

from the atmosphere and combine its carbon with the hydrogen in water.

จากบรรยากาศและ รวมคาร์บอนนี้เข้ากับไฮโดรเจนในนำ้

This creates hydrocarbons, the source of energy in fossil fuels—

ก็จะทำให้เกิดไฮโดรคาร์บอนที่เป็น แหล่งพลังงานของเชื้อเพลิงฟอสซิล

but without any emissions if the fuels are made using clean electricity.

แต่ไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หากผลิตโดยใช้ไฟฟ้าที่เป็นพลังงานสะอาด

These fuels take up more space

แต่เชื้อเพลิงเหล่านี้ใช้เนื้อที่

than an energetically equivalent amount of gasoline—

มากกว่าน้ำมันเบนซินที่มีพลังงานเท่ากัน

an obstacle to using them in cars.

ทำให้เป็นอุปสรรคหากจะใช้ในรถยนต์

Another approach is to make carbon-neutral fuels from plants,

อีกวิธีหนึ่งคือการผลิตพลังงาน ที่มีคาร์บอนเป็นกลางจากพืช

which sequester carbon from the air through photosynthesis.

ด้วยการแยกคาร์บอนจากอากาศ โดยการสังเคราะห์ด้วยแสง

But growing the plants also has to be carbon neutral—

แต่ขั้นตอนการปลูกพืช ก็ต้องมีคาร์บอนเป็นกลางด้วย

which rules out many crops that require fertilizer,

ทำให้ต้องตัดพืชมากมายที่ต้องใช้ปุ๋ยออกไป

a big contributor to greenhouse gas emissions.

เพราะปุ๋ยเป็นตัวการใหญ่ ที่ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก

So the next generation of these fuels must be made from either plant waste

ดังนั้น เชื้อเพลิงรุ่นหน้า จะต้องผลิตจากซากของพืช

or plants that don't require fertilizer to grow.

หรือพืชที่ไม่ใช้ปุ๋ยในการปลูก

Biofuels can be about as efficient as gasoline, though not all are.

เชื้อเพลิงชีวภาพอาจมีประสิทธิภาพพอกับ น้ำมันเบนซิน แต่ก็ไม่เสมอไปทุกชนิด

For a fuel to be the best option, people have to be able to afford it.

พลังงานที่จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ผู้ใช้ต้องสามารถซื้อหาได้

Unfortunately, the high upfront costs of implementing new technologies

น่าเสียดายที่ต้นทุนเริ่มแรกที่สูง ของการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ

and heavy subsidies for the producers of fossil fuels,

และการให้เงินอุดหนุนจำนวนมาก แก่ผู้ผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิล

mean that almost every green technology

ทำให้เทคโนโลยีสีเขียวเกือบทุกชนิด

is more expensive than its fossil-fuel-based cousin.

มีราคาสูงกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิล

This cost difference is known as a green premium.

ราคาที่ต่างกันนี้เรียกว่า พรีเมื่ยมสีเขียว

Governments have already started subsidizing electric vehicles

รัฐบาลหลายประเทศเริ่มให้เงินอุดหนุนรถไฟฟ้า

to help make up the difference.

เพื่อให้ความแตกต่างลดลง

In some places, depending on the costs of electricity and gas,

ดังนั้นตอนนี้ แล้วแต่ราคาของไฟฟ้าและนำ้มัน

electric cars can already be cheaper overall,

ในบางประเทศ การใช้รถไฟฟ้าอาจมีต้นทุนถูกกว่าแล้ว

despite the higher cost of the car.

ถึงแม้ว่าราคารถจะแพงกว่า

The other alternatives are trickier, for now—

ขณะนี้ ทางเลือกอื่น ๆ ดูยังมีปัญหา

zero-carbon liquid fuels can be double the price of gasoline or more.

เชื้อเพลิงเหลวที่มีคาร์บอนเป็นศูนย์อาจ แพงกว่านำ้มันเบนซินถึงสองเท่าหรือมากกว่า

Innovators are doing everything they can to bring green premiums down,

นักสร้างนวัตกรรมกำลังทำทุกอย่าง เพื่อให้ราคาเชื้อเพลิงพรีเมี่ยมสีเขียวลดลง

because in the end, the best fuel will be both affordable for consumers

เพราะในที่สุด เชื้อเพลิงที่ดีที่สุด

คือเชื้อเพลิงที่ทั้งผู้บริโภคหาซื้อได้

และยั่งยืนเพื่อโลกของเราด้วย

and sustainable for our planet.