Which sunscreen should you choose? - Mary Poffenroth

ครีมกันแดดแบบไหนที่คุณควรจะเลือก? - แมรี่ พัฟเฟนรอธ (Mary Poffenroth)

Translator: Chanyanart Kiattiporn-opas Reviewer: Pitipa Chongwatpol

Sunscreen comes in many forms,

ครีมกันแดดนั้นมีอยู่หลากหลายแบบ

each with its own impacts on your body and the environment.

ซึ่งต่างก็มีผลต่อร่างกายและ สิ่งแวดล้อมที่ต่างกันตามแบบของมัน

With so many options,

ด้วยตัวเลือกที่มากมายเหล่านี้

how do you choose which sunscreen is best for you?

คุณจะสามารถเลือกครีมกันแดด ที่ดีที่สุดต่อคุณได้อย่างไร

To answer that question,

การจะตอบคำถามนี้

we first have to understand how sunscreens work.

อันดับแรกเราจะต้องเข้าใจก่อนว่า ครีมกันแดดมีการทำงานอย่างไร

Sunlight is composed of electromagnetic waves

แสงแดดประกอบไปด้วย คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

and is our primary source of ultraviolet radiation,

และเป็นแหล่งปฐมภูมิของ รังสีอัลตราไวโอเลต

which has a shorter wavelength than visible light and carries more energy.

ที่มีลักษณะเป็นคลื่นที่สั้นกว่า แสงที่ตามองเห็นและนำพาพลังงานที่มากกว่า

UVA,

ทั้ง UVA

UVB,

UVB

and UVC are classified according to their wavelengths.

และ UVC ที่ถูกแบ่งประเภทตาม ความยาวของคลื่นแต่ละชนิด

Short wavelength UVC never reaches the Earth's surface,

ความยาวคลื่นช่วงสั้น UVC นั้นไม่สามารถส่องมาถึงพื้นผิวโลกได้

but UVB and UVA do.

แต่ UVB กับ UVA นั้นสามารถทำได้

Medium wavelength UVB rays can enter the skin's superficial layers

ความยาวคลื่นช่วงกลาง รังสี UVB สามารถเข้าสู่ผิวหนังชั้นนอกได้

and long length UVA rays can penetrate into the deeper layers.

และความยาวคลื่นช่วงกลาง รังสี UVA สามารถทะลุผ่านเข้าสู่ผิวหนังชั้นที่ลึกกว่า

UVB in small amounts actually helps us make vitamin D,

อันที่จริงแล้ว UVB จำนวนน้อยๆ ช่วยให้เราสร้างวิตามิน D

which enables our bodies to build and maintain strong bones.

ซึ่งทำให้ร่างกายนำมาสร้าง และรักษากระดูกให้แข็งแรง

However, prolonged exposure to UVA and UVB can damage DNA,

อย่างไรก็ดี การเผชิญกับรังสี UVA และ UVB เป็นระยะเวลานานจะไปทำลาย DNA

age your skin,

ทำให้ผิวของคุณแก่ลง

and promote the development of potentially deadly skin cancer.

และสามารถส่งผลให้มีการพัฒนาต่อ ไปเป็นมะเร็งผิวหนังที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตได้

Sunscreen protects your skin either physically by deflecting UV rays

ครีมกันแดดสามารถปกป้องผิวหนัง ทั้งแบบกายภาพโดยการช่วยเบนรังสี UV ออกไป

with an inorganic blocker like zinc oxide or titanium dioxide,

ด้วยสารป้องกันแดดอนินทรีย์ เช่น ซิงค์ออกไซด์ หรือไทเทเนียมไดออกไซด์

or chemically by using carbon-based compounds to absorb UV photons

หรือแบบเคมีโดยใช้ส่วนประกอบหลัก ที่เป็นคาร์บอนในการดูดซับโฟตอนของ UV

that are then harmlessly dissipated as heat.

ช่วยให้อุณหภูมิความร้อนกระจายออกไป โดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย

So, what differentiates one sunscreen from another?

เช่นนั้น จะแยกความแตกต่างของ ครีมกันแดดได้อย่างไร

When we choose a sunscreen,

เมื่อเราเลือกครีมกันแดด

we can compare application method,

เราสามารถเปรียบเทียบวิธีการใช้งาน

the SPF,

ค่า SPF

and the active ingredients.

และสารออกฤทธิ์

Sprays can be convenient to put on, especially when you're wet,

สเปรย์สามารถใช้งานได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่คุณเปียก

but a recent study found that most people don't apply a thick enough layer

แต่จากการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้พบว่า คนส่วนใหญ่ฉีดไม่หนาพอ

to get full protection.

เพื่อที่ได้รับการป้องกันอย่างเต็มที่

And the possible health risks of inhaling sunscreen compounds from a spray cloud

และอาจเกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพโดย การสูดสารประกอบครีมกันแดดจากสเปรย์

might make you consider reaching for that bottle of lotion instead.

ด้วยเหตุนี้อาจทำให้คุณพิจารณา เลือกใช้ขวดโลชั่นแทน

Opt for a sunscreen with an SPF of at least 15, although 30 is better.

เลือกครีมกันแดดจาก SPF ที่อย่างน้อย 15 แม้ว่า 30 จะดีกว่า

SPF is a nonlinear scale of how much UVB radiation is needed

ซึ่ง SPF เป็นมาตรวัดที่ไม่ได้เป็นเส้นตรง ของปริมาณรังสี UVB ที่จำเป็น

to give protected skin a sunburn.

ในการป้องกันผิวไหม้

SPF 15 does a pretty good job by blocking 93% of UVB rays.

SPF 15 นั้นถือว่าดีใน การป้องกันรังสี UVB ได้ 93%

You get a slight increase as SPF goes up,

คุณจะถูกป้องกันเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อค่า SPF สูงขึ้น

with SPF 30 blocking 97%,

ถ้า SPF 30 การป้องกันจะเป็น 97%

and 50 blocking 98%.

และถ้า 50 ก็ป้องกัน 98%

SPF is based on the quantity of solar exposure.

ค่า SPF ขึ้นอยู่กับปริมาณแสงแดดที่เราเผชิญ

So how much time you have before you start to burn

ดังนั้นคุณมีเวลาเท่าไร ก่อนที่ผิวของคุณจะเริ่มไหม้

really depends on a long list of factors,

จริง ๆ แล้วขึ้นอยู่กับปัจจัยมากมาย

including your genetics,

รวมถึงยีนของคุณด้วย

and when, where, and how you spend your time in the sun.

และคุณใช้เวลากับพระอาทิตย์ ตอนไหน ที่ใด และอย่างไร

Even though US marketed sunscreens have been deemed safe by the FDA,

แม้ว่าครีมกันแดดในตลาดอเมริกา ได้รับรองความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยา

scientists are still researching the effects of many active ingredients

นักวิทยาศาสตร์ก็ยังคงค้นคว้าวิจัย ถึงผลกระทบของสารออกฤทธิ์

on the human body.

ที่มีต่อร่างกายมนุษย์

So if you're worried about potential irritants,

ถ้าหากคุณกังวลว่าจะระคายเคือง

look for mineral-based formulas with zinc oxide or titanium dioxide.

ให้หาสูตรที่เป็นแร่ธาตุทางธรรมชาติ ที่มีซิงค์ออกไซด์หรือไทเทเนียมไดออกไซด์

Even though they may go on a bit thick at first,

แม้ว่าคุณอาจจะรู้สึกเหนียวในตอนแรก ๆ

they're less irritating than carbon-based chemical sunscreens.

แต่มันก็ยังมีการระคายเคืองน้อยกว่า ครีมกันแดดที่ประกอบด้วยคาร์บอน

These mineral-based sunscreens are preferential for the environment, too.

ครีมกันแดดที่มีแร่ธาตุทางธรรมชาติเหล่านี้ นั้นก็ดีต่อธรรมชาติด้วยเช่นกัน

If you plan on catching rays while splashing in a river or the ocean,

ถ้าหากคุณวางแผนที่จะเล่นน้ำในแม่น้ำ หรือมหาสมุทรที่ต้องสัมผัสกับรังสี

keep in mind that carbon-based chemical sunscreens

พึงตระหนักว่าครีมกันแดด ที่มีสารประกอบของคาร์บอน

can harm marine life.

สามารถทำร้ายสัตว์น้ำ

Take coral reefs, for example.

ตัวอย่างเช่น แนวประการัง

Although they cover less than 1% of the Earth's underwater surface,

แม้ว่าคุณจะอยู่ในน้ำน้อยกว่า 1% จากพื้นผิวน้ำ

they're home to nearly 25% of all fish species,

แต่ก็เป็นที่อยู่ของปลาเกือบ 25% จากสายพันธ์ุปลาทั้งหมด

making them the most diverse and productive marine ecosystems.

ที่ก่อให้เกิดความหลากหลายและ ระบบสืบพันธ์ุในระบบนิเวศน์

Research shows that carbon-based chemical sunscreen ingredients,

งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าสารประกอบ ของครีมกันแดดที่เป็นคาร์บอน

like oxybenzone, butylparaben, octinoxate, and 4MBC

เช่น ออกซิเบนโซน, บิวทิลพาราเบน, ออกทินอกเซท และโฟร์เอ็มบีซี

contribute to a stress condition called coral bleaching in corals,

มีส่วนทำให้เกิดภาวะเครียดที่เรียกว่า ปรากฎการณ์ปะการังฟอกขาวในแนวประการัง

which are living creatures.

ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิต

Exposure to these organic compounds

การสัมผัสกับองค์ประกอบชีวภาพเหล่านี้

results in the death of the coral's symbiotic algae.

เป็นผลให้สาหร่ายที่อาศัยอยู่กับ ปะการังตายลง

In addition to providing a reliable food source,

นอกจากเป็นแหล่งอาหารที่ดีแล้ว

these algae give coral their brilliant rainbow of colors.

สาหร่ายเหล่านี้ทำให้ปะการังมีสีสันสดใส

Without them, corals turn a bleached white

ถ้าหากปราศจากพวกมัน ปะการังก็จะเปลี่ยนกลายเป็นซีดขาว

and are susceptible to disease and possibly death.

รวมถึงไวต่อเชื้อโรค และอาจตายได้

And once the coral dies,

เมื่อปะการังตายลง

the entire reef ecosystem is not far behind.

ระบบนิเวศน์แนวปะการังทั้งหมดนั้น ก็คงจะตามไปอีกไม่นาน

So you're now ready to make an informed choice when picking out your next sunscreen.

ตอนนี้คุณก็มีตัวเลือกสำหรับการตัดสินใจ เลือกซื้อครีมกันแดดในครั้งต่อไปแล้ว

SPF is clearly labeled on the front.

SPF ที่เป็นป้ายที่ชัดเจนอยู่ด้านหน้า

On the back under "active ingredients,"

ส่วนด้านหลังนั้นก็อยู่ใต้ "สารออกฤทธิ์"

you can find whether zinc oxide,

คุณจะพบซิงค์ออกไซด์

titanium dioxide,

ไทเทเนียมไดออกไซด์

and those coral-harming components are present.

และองค์ประกอบที่ทำร้ายปะการัง ปรากฎอยู่หรือไม่

Taking a bit more time to check can be well worth it

หากใช้เวลาเพียงเล็กน้อย ตรวจสอบสักนิดจะก่อให้เกิดผลดี

for both you and the environment.

ทั้งต่อตัวคุณและสภาพแวดล้อม