Neil Burgess: How your brain tells you where you are

120,894 views ・ 2012-02-06

TED


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Chana Chananukul Reviewer: Techaphon Nitisaowaphak
00:15
When we park in a big parking lot,
0
15260
2000
เมื่อเรานำรถเข้าจอดในลานจอดรถขนาดใหญ่
00:17
how do we remember where we parked our car?
1
17260
2000
เราสามารถจำจุดที่เราจอดรถได้อย่างไร
00:19
Here's the problem facing Homer.
2
19260
3000
นี่คือปัญหาที่คุณโฮเมอร์(การ์ตูน ซิมป์สัน) กำลังประสบ
00:22
And we're going to try to understand
3
22260
2000
และเรากำลังพยายามทำความเข้าใจ
00:24
what's happening in his brain.
4
24260
2000
สิ่งที่เกิดขึ้นในสมองของเขา
00:26
So we'll start with the hippocampus, shown in yellow,
5
26260
2000
เราจะเริ่มต้นที่สมองส่วนที่ชื่อว่าฮิปโปแคมปัส(hippocampus) แสดงด้วยสีเหลืองในรูป
00:28
which is the organ of memory.
6
28260
2000
ซึ่งเป็นอวัยวะหน่วยความจำ
00:30
If you have damage there, like in Alzheimer's,
7
30260
2000
ที่หากได้รับความเสียหาย เช่นในกรณีเป็นโรคความจำเสื่อม (Alzheimer)
00:32
you can't remember things including where you parked your car.
8
32260
2000
คุณจะไม่สามารถจำสิ่งใด รวมทั้งจุดที่คุณจอดรถ
00:34
It's named after Latin for "seahorse,"
9
34260
2000
มันมีลักษณะคล้ายม้าน้ำ
00:36
which it resembles.
10
36260
2000
จึงถูกเรียกว่าฮิปโปแคมปัสซึงแปลว่าม้าน้ำในภาษาละติน
00:38
And like the rest of the brain, it's made of neurons.
11
38260
2000
มันประกอบด้วยเซลล์ประสาทเหมือนกับสมองส่วนอื่น ๆ
00:40
So the human brain
12
40260
2000
สมองของมนุษย์
00:42
has about a hundred billion neurons in it.
13
42260
2000
ประกอบด้วยเซลล์ประสาทประมาณหนึ่งแสนล้านเซลล์
00:44
And the neurons communicate with each other
14
44260
3000
และเซลล์ประสาทเหล่านี้จะสื่อสารกัน
00:47
by sending little pulses or spikes of electricity
15
47260
2000
ด้วยการส่งคลื่นไฟฟ้าขนาดเล็ก
00:49
via connections to each other.
16
49260
2000
ผ่านส่วนเชื่อมต่อถึงกันและกัน
00:51
The hippocampus is formed of two sheets of cells,
17
51260
3000
ฮิปโปแคมปัสถูกสร้างด้วยแผ่นเซลล์สมองสองแผ่น
00:54
which are very densely interconnected.
18
54260
2000
ที่เชื่อมต่อกันอย่างหนาแน่นมาก
00:56
And scientists have begun to understand
19
56260
2000
และนักวิทยาศาสตร์ได้เริ่มเข้าใจ
00:58
how spatial memory works
20
58260
2000
ว่าหน่วยความจำส่วนที่จดจำสถานที่และตำแหน่งทำงานอย่างไร
01:00
by recording from individual neurons
21
60260
2000
โดยการบันทึกแต่ละเซลล์ประสาท
01:02
in rats or mice
22
62260
2000
ในหนู
01:04
while they forage or explore an environment
23
64260
2000
ขณะที่พวกมันเที่ยวหาหรือสำรวจพื้นที่
01:06
looking for food.
24
66260
2000
เพื่อหาอาหาร
01:08
So we're going to imagine we're recording from a single neuron
25
68260
3000
ตอนนี้เราจะจินตนาการว่า เรากำลังบันทึกจากเซลล์ประสาทหนึ่งเซลล์
01:11
in the hippocampus of this rat here.
26
71260
3000
ที่อยู่ในฮิปโปแคมปัสของหนู
01:14
And when it fires a little spike of electricity,
27
74260
2000
และเมื่อเซลล์ส่งคลื่นไฟฟ้าขนาดเล็กออกมา
01:16
there's going to be a red dot and a click.
28
76260
3000
ก็จะมีจุดสีแดงปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียง คลิก
01:19
So what we see
29
79260
2000
ดังนั้นสิ่งที่เราเห็น
01:21
is that this neuron knows
30
81260
2000
ก็คือเซลล์ประสาทรับรู้
01:23
whenever the rat has gone into one particular place in its environment.
31
83260
3000
เมื่อใดก็ตามที่หนูไปยังตำแหน่งหนึ่ง ๆ ภายในพื้นที่
01:26
And it signals to the rest of the brain
32
86260
2000
และมันจะส่งสัญญาณไปยังสมองส่วนอื่น
01:28
by sending a little electrical spike.
33
88260
3000
ด้วยการส่งคลื่นไฟฟ้าขนาดเล็ก
01:31
So we could show the firing rate of that neuron
34
91260
3000
ดังนั้นเราจึงสามารถแสดง อัตราการส่งสัญญาณของเซลล์ประสาทนี้
01:34
as a function of the animal's location.
35
94260
2000
ที่แปรผันตามตำแหน่งของหนูได้
01:36
And if we record from lots of different neurons,
36
96260
2000
และถ้าเราบันทึกจากหลาย ๆ เซลล์ประสาทที่แตกต่างกัน
01:38
we'll see that different neurons fire
37
98260
2000
เราจะเห็นว่า เป็นเซลล์ประสาทที่ต่างกันที่ส่งสัญญาณออกมา
01:40
when the animal goes in different parts of its environment,
38
100260
2000
ขณะเมื่อหนูอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างกัน
01:42
like in this square box shown here.
39
102260
2000
เหมือนในรูปสี่เหลี่ยมแต่ละอันที่คุณเห็นอยู่นี้
01:44
So together they form a map
40
104260
2000
ซึ่งเมือนำทั้งหมดนี้มารวมกันก็จะเกิดเป็นแผนที่
01:46
for the rest of the brain,
41
106260
2000
สำหรับสมองส่วนอื่นๆ
01:48
telling the brain continually,
42
108260
2000
เพื่อบอกกับสมองอย่างต่อเนื่องว่า
01:50
"Where am I now within my environment?"
43
110260
2000
ขณะนี้ฉันอยู่ในตำแหน่งใดของพื้นที่?
01:52
Place cells are also being recorded in humans.
44
112260
3000
เพลสเซลล์ (Place Cell) ก็ถูกบันทึกในมนุษย์เช่นเดียวกัน
01:55
So epilepsy patients sometimes need
45
115260
2000
ผู้ป่วยโรคลมชักบางครั้งต้อง
01:57
the electrical activity in their brain monitoring.
46
117260
3000
เข้ารับการตรวจคลื่นไฟฟ้าในสมองของพวกเขา
02:00
And some of these patients played a video game
47
120260
2000
และผู้ป่วยบางคนจะเล่นวิดีโอเกม
02:02
where they drive around a small town.
48
122260
2000
ที่จำลองว่าเขาขับรถไปรอบๆ เมืองเล็กๆ
02:04
And place cells in their hippocampi would fire, become active,
49
124260
3000
และเพลสเซลล์ในฮิปโปแคมปัสก็จะตื่นตัว
02:07
start sending electrical impulses
50
127260
3000
และเริ่มส่งคลื่นไฟฟ้าออกมา
02:10
whenever they drove through a particular location in that town.
51
130260
3000
เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาขับรถผ่านสถานที่ใดสถานที่หนึ่งในเมืองนั้น
02:13
So how does a place cell know
52
133260
2000
แล้วเพลสเซลล์รู้
02:15
where the rat or person is within its environment?
53
135260
3000
ตำแหน่งของหนูหรือบุคคลภายในพื้นที่ได้อย่าง?
02:18
Well these two cells here
54
138260
2000
เซลล์สองอันที่เห็นอยู่นี้
02:20
show us that the boundaries of the environment
55
140260
2000
แสดงให้เราเห็นว่า เส้นขอบเขตของพื้นที่
02:22
are particularly important.
56
142260
2000
คือสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
02:24
So the one on the top
57
144260
2000
เซลล์ที่อยู่ข้างบน
02:26
likes to fire sort of midway between the walls
58
146260
2000
จะส่งสัญญาณ ขณะที่หนูอยู่ในตำแหน่งแถว ๆ ตรงกลางระหว่างผนัง
02:28
of the box that their rat's in.
59
148260
2000
ของกล่อง
02:30
And when you expand the box, the firing location expands.
60
150260
3000
และเมื่อคุณขยายกล่อง ตำแหน่งที่เกิดการส่งสัญญาณก็จะขยายตาม
02:33
The one below likes to fire
61
153260
2000
เซลล์ด้านล่างก็จะส่งสัญญาณ
02:35
whenever there's a wall close by to the south.
62
155260
3000
เมื่อใดก็ตามที่มีผนังอยู่ใกล้ ๆ ทางทิศใต้
02:38
And if you put another wall inside the box,
63
158260
2000
และถ้าคุณใส่กำแพงอีกอันเข้าไปภายในกล่อง
02:40
then the cell fires in both place
64
160260
2000
เซลล์ก็จะส่งสัญญาณในทั้งสองตำแหน่ง
02:42
wherever there's a wall to the south
65
162260
2000
ซึ่งมีกำแพงผนังอยู่ใกล้ๆ ทางทิศใต้
02:44
as the animal explores around in its box.
66
164260
3000
ขณะที่หนูวิ่งสำรวจไปรอบๆ ในกล่องของมัน
02:48
So this predicts
67
168260
2000
ดังนั้น สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า
02:50
that sensing the distances and directions of boundaries around you --
68
170260
2000
การตรวจจับระยะและทิศทางของกำแพงรอบๆ ตัวคุณ
02:52
extended buildings and so on --
69
172260
2000
และอาคารถัดไป ถัดไป
02:54
is particularly important for the hippocampus.
70
174260
3000
เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับฮิปโปแคมปัส
02:57
And indeed, on the inputs to the hippocampus,
71
177260
2000
อันที่จริง ณ ขณะที่ส่งข้อมูลเข้าไปที่ฮิปโปแคมปัส
02:59
cells are found which project into the hippocampus,
72
179260
2000
เซลล์จะรู้ว่าอันไหนในฮิปโปแคมปัส
03:01
which do respond exactly
73
181260
2000
จะตอบสนอง
03:03
to detecting boundaries or edges
74
183260
3000
เพื่อการตรวจจับแนวเขตกำแพงหรือขอบ
03:06
at particular distances and directions
75
186260
2000
ที่มีระยะและทิศทางหนึ่งๆ
03:08
from the rat or mouse
76
188260
2000
จากตัวหนู
03:10
as it's exploring around.
77
190260
2000
ขณะที่มันสำรวจไปรอบๆ
03:12
So the cell on the left, you can see,
78
192260
2000
ซึ่งคุณจะเห็นว่าเซลล์ด้านซ้ายมือ
03:14
it fires whenever the animal gets near
79
194260
2000
จะส่งสัญญาณเมื่อไหร่ก็ตามที่หนูเข้ามาใกล้
03:16
to a wall or a boundary to the east,
80
196260
3000
กับกำแพงหรือสุดผนังทางทิศตะวันออก
03:19
whether it's the edge or the wall of a square box
81
199260
3000
ไม่ว่าจะเป็นสุดขอบหรือสุดผนังของกล่องสี่เหลี่ยม
03:22
or the circular wall of the circular box
82
202260
2000
หรือผนังของกล่องทรงกลม
03:24
or even the drop at the edge of a table, which the animals are running around.
83
204260
3000
หรือแม้แต่หยดน้ำที่ขอบโต๊ะ ซึ่งหนูกำลังวิ่งอยู่รอบๆ
03:27
And the cell on the right there
84
207260
2000
และเซลล์ที่อยู่ด้านขวานั้น
03:29
fires whenever there's a boundary to the south,
85
209260
2000
จะส่งสัญญาณ เมื่อสุดเขตทางทิศใต้
03:31
whether it's the drop at the edge of the table or a wall
86
211260
2000
ไม่ว่าจะเป็นหยดน้ำที่ขอบของโต๊ะหรือกำแพง
03:33
or even the gap between two tables that are pulled apart.
87
213260
3000
หรือแม้กระทั่งช่องว่างระหว่างโต๊ะสองตัวที่ถูกดึงออกจากกัน
03:36
So that's one way in which we think
88
216260
2000
ซึ่งนั่นก็คือ วิธีหนึ่งที่เราคิดว่า
03:38
place cells determine where the animal is as it's exploring around.
89
218260
3000
เพลสเซลล์ใช้บอกตำแหน่งของหนูขณะมันสำรวจไปรอบๆ
03:41
We can also test where we think objects are,
90
221260
3000
นอกจากนี้เรายังสามารถทดสอบ กับกรณีที่เราคิดว่าวัตถุตั้งอยู่ที่ใด
03:44
like this goal flag, in simple environments --
91
224260
3000
เช่น ธงอันนี้ปักอยู่ตรงไหนของพื้นที่
03:47
or indeed, where your car would be.
92
227260
2000
หรืออาจจะเป็น ตำแหน่งที่รถของคุณจอดอยู่
03:49
So we can have people explore an environment
93
229260
3000
ดังนั้นเราจะให้คนสำรวจไปรอบๆ พื้นที่
03:52
and see the location they have to remember.
94
232260
3000
และดูตำแหน่งที่พวกเขาต้องจดจำ
03:55
And then, if we put them back in the environment,
95
235260
2000
และจากนั้น ถ้าเราให้พวกเขากลับเข้าไปในพื้นที่
03:57
generally they're quite good at putting a marker down
96
237260
2000
โดยทั่วไปแล้ว พวกสามารถจะระบุตำแหน่ง
03:59
where they thought that flag or their car was.
97
239260
3000
ที่พวกเขาคิดว่าเคยมีธงหรือรถของพวกเขาเคยจอดอยู่ ได้อย่างถูกต้อง
04:02
But on some trials,
98
242260
2000
แต่ในการทดลองบางครั้ง
04:04
we could change the shape and size of the environment
99
244260
2000
เราจะเปลี่ยนรูปร่างและขนาดของพื้นที่
04:06
like we did with the place cell.
100
246260
2000
เหมือนที่เราทำกับเพลสเซลล์
04:08
In that case, we can see
101
248260
2000
ในกรณีนี้ เราจะเห็นว่า
04:10
how where they think the flag had been changes
102
250260
3000
การเปลี่ยนตำแหน่งของธงในความคิดของพวกเขา
04:13
as a function of how you change the shape and size of the environment.
103
253260
3000
แปรผันตาม การเปลี่ยนรูปร่างและขนาดของพื้นที่ของคุณอย่างไร
04:16
And what you see, for example,
104
256260
2000
และสิ่งที่คุณจะเห็น ตัวอย่างเช่น
04:18
if the flag was where that cross was in a small square environment,
105
258260
3000
ถ้าธงเคยปักอยู่ในตำแหน่งที่ทำเครื่องหมายในพื้นที่สี่เหลี่ยมเล็กนี้
04:21
and then if you ask people where it was,
106
261260
2000
แล้วถ้าคุณถามเขาว่าธงเคยปักอยู่ที่ใหน
04:23
but you've made the environment bigger,
107
263260
2000
โดยที่คุณได้ขยายพื้นที่ให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
04:25
where they think the flag had been
108
265260
2000
ตำแหน่งที่พวกเขาคิดว่าธงเคยปักอยู่
04:27
stretches out in exactly the same way
109
267260
2000
จะเลื่อนออกไปเช่นเดียวกับ
04:29
that the place cell firing stretched out.
110
269260
2000
เพลสเซลล์ซึ่งส่งสัญญาณถูกขยายออกไป
04:31
It's as if you remember where the flag was
111
271260
2000
มันเหมือนกับว่าคุณจำว่าธงเคยปักอยู่ที่ตรงไหน
04:33
by storing the pattern of firing across all of your place cells
112
273260
3000
โดยการเก็บบันทึก รูปแบบการส่งสัญญาณของเพลสเซลล์ทั้งหมดของคุณ
04:36
at that location,
113
276260
2000
ที่ตำแหน่งนั้นไว้
04:38
and then you can get back to that location
114
278260
2000
และคุณสามารถกลับไปยังตำแหน่งเดิม
04:40
by moving around
115
280260
2000
ได้โดยการเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ
04:42
so that you best match the current pattern of firing of your place cells
116
282260
2000
เพื่อให้คุณสามารถสร้างรูปแบบการส่งสัญญาณของเพลสเซลล์ ณ ปัจจุบันของคุณให้ใกล้เคียงกับ
04:44
with that stored pattern.
117
284260
2000
รูปแบบที่ได้ถูกเก็บบันทึกไว้ก่อนหน้า
04:46
That guides you back to the location that you want to remember.
118
286260
3000
มันนำทางคุณกลับไปยังตำแหน่งที่คุณต้องการจดจำ
04:49
But we also know where we are through movement.
119
289260
3000
นอกจากนี้ เรายังทราบตำแหน่งของเราผ่านทางการเคลื่อนที่
04:52
So if we take some outbound path --
120
292260
2000
ถ้าหากเราเคลื่อนที่ในทิศทางออกสู่ข้างนอก
04:54
perhaps we park and we wander off --
121
294260
2000
เช่น เราจอดรถและเราก็เดินออกไป
04:56
we know because our own movements,
122
296260
2000
เรารู้เพราะว่าการเคลื่อนที่ของเรา
04:58
which we can integrate over this path
123
298260
2000
ซึ่งเราสามารถรวมเส้นทางเดินนี้เข้าไป
05:00
roughly what the heading direction is to go back.
124
300260
2000
โดยประมาณว่าเราจะต้องเคลื่อนที่ในทิศทางใดในการที่จะกลับมา
05:02
And place cells also get this kind of path integration input
125
302260
4000
และเพลสเซลล์สามารถรับรู้ข้อมูลเส้นทางเดินนี้
05:06
from a kind of cell called a grid cell.
126
306260
3000
จากเซลล์ที่เรียกว่ากริดเซลล์ (Grid Cell)
05:09
Now grid cells are found, again,
127
309260
2000
และกริดเซลล์จะถูกค้นพบและดึงออกมา,เช่นกัน,
05:11
on the inputs to the hippocampus,
128
311260
2000
ณ ขณะที่ส่งข้อมูลเข้าไปยังฮิปโปแคมปัส
05:13
and they're a bit like place cells.
129
313260
2000
และพวกมันก็คล้ายกับเพลสเซลล์
05:15
But now as the rat explores around,
130
315260
2000
แต่ว่า ในขณะที่หนูสำรวจไปรอบๆ
05:17
each individual cell fires
131
317260
2000
แต่ละเซลล์จะส่งสัญญาณออกมา
05:19
in a whole array of different locations
132
319260
3000
ในทุก ๆ ตำแหน่งที่ต่างกัน
05:22
which are laid out across the environment
133
322260
2000
ครอบคลุมพื้นที่ทั่วทั้งหมด
05:24
in an amazingly regular triangular grid.
134
324260
3000
ในรูปแบบตาข่ายของสามเหลี่ยมด้านเท่าอย่างน่าอัศจรรย์
05:29
And if you record from several grid cells --
135
329260
3000
และถ้าคุณบันทึกจากหลายๆ กริดเซลล์
05:32
shown here in different colors --
136
332260
2000
ที่แสดงให้เห็นอยู่นี้ด้วยสีที่แตกต่างกัน
05:34
each one has a grid-like firing pattern across the environment,
137
334260
3000
แต่ละอัน ก็จะมีรูปแบบการส่งสัญญาณที่คล้ายตาข่าย ครอบคลุมทั้งพื้นที่
05:37
and each cell's grid-like firing pattern is shifted slightly
138
337260
3000
และรูปแบบการส่งสัญญาณของแต่ละเซลล์ก็จะเหลี่อมกันเล็กน้อย
05:40
relative to the other cells.
139
340260
2000
เมื่อเทียบกับเซลล์อื่น ๆ
05:42
So the red one fires on this grid
140
342260
2000
ดังนั้น เซลล์สีแดงส่งสัญญาณบนตาข่ายนี้
05:44
and the green one on this one and the blue on on this one.
141
344260
3000
และสีเขียวบนนี้ และสีฟ้าบนนี้
05:47
So together, it's as if the rat
142
347260
3000
เมื่อรวมทั้งหมดเข้าด้วยกัน ก็จะเหมือนกับว่าหนู
05:50
can put a virtual grid of firing locations
143
350260
2000
สามารถสร้างตารางเสมือนของตำแหน่งการส่งสัญญาณ
05:52
across its environment --
144
352260
2000
ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด
05:54
a bit like the latitude and longitude lines that you'd find on a map,
145
354260
3000
เหมือนเส้นละติจูดและเส้นลองจิจูดบนแผนที่
05:57
but using triangles.
146
357260
2000
แต่เป็นสามเหลี่ยม
05:59
And as it moves around,
147
359260
2000
และขณะที่หนูมันเคลื่อนที่ไปรอบๆ
06:01
the electrical activity can pass
148
361260
2000
คลื่นไฟฟ้าสามารถวิ่งจาก
06:03
from one of these cells to the next cell
149
363260
2000
เซลล์หนึ่งไปยังเซลล์ถัดไป
06:05
to keep track of where it is,
150
365260
2000
เพื่อติดตามตำแหน่งของมัน
06:07
so that it can use its own movements
151
367260
2000
เพื่อที่มันจะสามารถใช้การเคลื่อนที่ของตัวมันเอง
06:09
to know where it is in its environment.
152
369260
2000
บอกให้รู้ตำแหน่งของตัวมันภายในพื้นที่
06:11
Do people have grid cells?
153
371260
2000
แล้วมนุษย์ล่ะ มีกริดเซลล์ใหม?
06:13
Well because all of the grid-like firing patterns
154
373260
2000
เนื่องจากรูปแบบการส่งสัญญาณคล้ายตาข่ายทั้งหมด
06:15
have the same axes of symmetry,
155
375260
2000
มีสมมาตรของแกนเหมือนกัน
06:17
the same orientations of grid, shown in orange here,
156
377260
3000
มีการเรียงตัวที่เหมือนกันของตาข่าย ดังที่เห็นเป็นสีส้ม
06:20
it means that the net activity
157
380260
2000
ซึ่งหมายความว่าคลื่นไฟฟ้าสุทธิ
06:22
of all of the grid cells in a particular part of the brain
158
382260
3000
ของกริดเซลล์ทั้งหมดในส่วนใดส่วนหนึ่งของสมอง
06:25
should change
159
385260
2000
ควรเปลี่ยน
06:27
according to whether we're running along these six directions
160
387260
2000
ตามสถานะว่าเราวิ่งไปตามทิศทางทั้งหกนี้
06:29
or running along one of the six directions in between.
161
389260
3000
หรือวิ่งไปตามทิศทางอันใดอันหนึ่ง ในหกอันที่อยู่ระหว่างกลาง
06:32
So we can put people in an MRI scanner
162
392260
2000
ดังนั้น เรานำคนเข้าเครื่องเอ็ม อาร์ ไอ (MRI)
06:34
and have them do a little video game
163
394260
2000
ให้พวกเขาเล่นวิดีโอเกมส์กัน
06:36
like the one I showed you
164
396260
2000
เหมือนกับที่ผมให้คุณดูก่อนหน้านี้
06:38
and look for this signal.
165
398260
2000
และมองหาสัญญาณนี้
06:40
And indeed, you do see it in the human entorhinal cortex,
166
400260
3000
และแน่นอน คุณจะเห็นมันในสมองของมนุษย์ ส่วนเอนโทรีนอล คอร์เท็กซ์(Entorhinal cortex)
06:43
which is the same part of the brain that you see grid cells in rats.
167
403260
3000
ซึ่งเป็นสมองส่วนเดียวกันกับที่คุณเห็นกริดเซลล์ในหนู
06:46
So back to Homer.
168
406260
2000
ดังนั้น กลับไปที่โฮเมอร์
06:48
He's probably remembering where his car was
169
408260
2000
เขาอาจจะจำจุดที่เขาจอดรถได้
06:50
in terms of the distances and directions
170
410260
2000
ในแง่ของระยะทางและทิศทาง
06:52
to extended buildings and boundaries
171
412260
2000
เที่ยบกับอาคารและขอบเขตของพื้นที่
06:54
around the location where he parked.
172
414260
2000
รอบๆ สถานที่ที่เขาจอดรถ
06:56
And that would be represented
173
416260
2000
และนั่นจะถูกแสดงด้วย
06:58
by the firing of boundary-detecting cells.
174
418260
2000
การส่งสัญญาณของเซลล์ที่ทำหน้าที่ตรวจจับขอบเขต
07:00
He's also remembering the path he took out of the car park,
175
420260
3000
และเขายังสามารถจดจำเส้นทางที่เขาเดินออกจากที่จอดรถ
07:03
which would be represented in the firing of grid cells.
176
423260
3000
ซึ่งสามารถแสดงได้ด้วยการส่งสัญญาณของกริดเซลล์
07:06
Now both of these kinds of cells
177
426260
2000
ซึ่งเซลล์ทั้งสองชนิดนี้
07:08
can make the place cells fire.
178
428260
2000
สามารถทำให้เพลสเซลล์ส่งสํญญาณออกมาได้
07:10
And he can return to the location where he parked
179
430260
2000
และเขาสามารถกลับไปยังตำแหน่งที่เขาจอดรถได้
07:12
by moving so as to find where it is
180
432260
3000
โดยการเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ เพื่อหาตำแหน่ง
07:15
that best matches the firing pattern
181
435260
2000
ที่มีรูปแบบการส่งสัญญาณ
07:17
of the place cells in his brain currently
182
437260
2000
ของเพลสเซลล์ในสมองของเขา ณ ขณะนั้น
07:19
with the stored pattern where he parked his car.
183
439260
3000
ตรงกับรูปแบบการส่งสัญญาณที่ถูกเก็บไว้ขณะที่เขาจอดรถ
07:22
And that guides him back to that location
184
442260
2000
และมันคือสิ่งนำทางให้เขากลับไปยังตำแหน่งเดิมได้
07:24
irrespective of visual cues
185
444260
2000
ไม่ว่าภาพที่ปรากฏต่อสายตาจะเป็นอย่างไร
07:26
like whether his car's actually there.
186
446260
2000
เช่นไม่ว่ารถของเขาจะอยู่ตรงนั้นหรือไม่
07:28
Maybe it's been towed.
187
448260
2000
บางทีมันอาจจะก็ถูกลากไปแล้วก็ได้
07:30
But he knows where it was, so he knows to go and get it.
188
450260
3000
แต่เขาก็รู้ว่ามันเคยอยู่ที่ไหน เขารู้เส้นทางที่จะไปเอามัน
07:33
So beyond spatial memory,
189
453260
2000
ดังนั้น นอกเหนือจากหน่วยความจำส่วนที่จดจำตำแหน่งและสถานที่
07:35
if we look for this grid-like firing pattern
190
455260
2000
ถ้าเรามองหารูปแบบการส่งสัญญาณที่คล้ายตาข่าย
07:37
throughout the whole brain,
191
457260
2000
ทั่วทั้งสมอง
07:39
we see it in a whole series of locations
192
459260
3000
เราพบมันได้หลายแห่ง
07:42
which are always active
193
462260
2000
ซึ่งมันจะทำงานเสมอ
07:44
when we do all kinds of autobiographical memory tasks,
194
464260
2000
เมื่อเราย้อนคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต
07:46
like remembering the last time you went to a wedding, for example.
195
466260
3000
เช่นการคิดถึงงานแต่งงานที่คุณไปครั้งล่าสุด
07:49
So it may be that the neural mechanisms
196
469260
2000
ดังนั้นจึงอาจเป็นไปได้ว่ากลไกประสาท
07:51
for representing the space around us
197
471260
3000
สำหรับแสดงพื้นที่รอบๆ ตัวเรา
07:54
are also used for generating visual imagery
198
474260
4000
ยังถูกใช้ในการสร้างจินตนาการภาพ
07:58
so that we can recreate the spatial scene, at least,
199
478260
3000
เพื่อให้อย่างน้อยที่สุด เราสามารถจะสร้างภาพสถานที่ในความทรงจำ
08:01
of the events that have happened to us when we want to imagine them.
200
481260
3000
ของเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นกับเราขึ้นมา เมื่อเราต้องการที่จะคิดถึงมัน
08:04
So if this was happening,
201
484260
2000
ดังนั้น หากสิ่งนี้กำลังเกิดขึ้น(คุณกำลังคิดถึงภาพในอดีต)
08:06
your memories could start by place cells activating each other
202
486260
3000
ระบบความจำของคุณจะเริ่มต้นด้วยเพลสเซลล์กระตุ้นซึ่งกันและกัน
08:09
via these dense interconnections
203
489260
2000
ผ่านการเชื่อมโยงที่หนาแน่น
08:11
and then reactivating boundary cells
204
491260
2000
จากนั้นก็ไปกระตุ้นเซลล์ที่เก็บขอบเขตของพื้นที่ให้ทำงาน
08:13
to create the spatial structure
205
493260
2000
เพื่อสร้างโครงสร้างของพื้นที่
08:15
of the scene around your viewpoint.
206
495260
2000
ของภาพรอบๆ มุมมองของคุณ
08:17
And grid cells could move this viewpoint through that space.
207
497260
2000
และกริดเซลล์จะสามารถย้ายมุมมองนี้ผ่านพื้นที่นั้น
08:19
Another kind of cell, head direction cells,
208
499260
2000
และเซลล์อีกชนิดหนึ่ง คือ เซลล์บอกทิศทาง
08:21
which I didn't mention yet,
209
501260
2000
ซึ่งผมยังไม่ได้พูดถึง
08:23
they fire like a compass according to which way you're facing.
210
503260
3000
จะส่งสัญญาณเหมือนเข็มทิศ ขึ้นอยู่กับว่าคุณหันหน้าไปทางไหน
08:26
They could define the viewing direction
211
506260
2000
มันจะกำหนดทิศทางของมุมมอง
08:28
from which you want to generate an image for your visual imagery,
212
508260
3000
ที่ซึ่งคุณต้องการสร้างภาพของจินตภาพที่คุณต้องการขึ้นมา
08:31
so you can imagine what happened when you were at this wedding, for example.
213
511260
3000
เช่นคุณสามารถจินตนาการสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคุณอยู่ที่งานแต่งงาน
08:34
So this is just one example
214
514260
2000
นี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่ง
08:36
of a new era really
215
516260
2000
ของยุคใหม่อย่างแท้จริง
08:38
in cognitive neuroscience
216
518260
2000
ของวงการประสาทวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการรับรู้ (Cognitive neuroscience)
08:40
where we're beginning to understand
217
520260
2000
ที่เรากำลังเริ่มที่จะเข้าใจ
08:42
psychological processes
218
522260
2000
กระบวนการทางจิตวิทยา
08:44
like how you remember or imagine or even think
219
524260
3000
เช่น คุณ จดจำ หรือ จินตนาการ หรือแม้กระทั่ง คิด ได้อย่างไร
08:47
in terms of the actions
220
527260
2000
ในแง่ของการทำงานของ
08:49
of the billions of individual neurons that make up our brains.
221
529260
3000
แต่ละเซลล์ประสาทจำนวนหลายพันล้านเซลล์ ที่รวมกันเป็นสมองของเรา
08:52
Thank you very much.
222
532260
2000
ขอบคุณมากครับ
08:54
(Applause)
223
534260
3000
(ปรบมือ)
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7