The genius behind some of the world's most famous buildings | Renzo Piano

Translator: Nuchpraweepawn Saleeon Reviewer: Rawee Ma

Architecture is amazing, for sure.

แน่นอนว่า สถาปัตยกรรมนั้นน่าทึ่ง

It's amazing because it's art.

มันมหัศจรรย์เพราะมันคือศิลปะ

But you know, it's a very funny kind of art.

แต่คุณรู้ไหม มันเป็นงานศิลป์ที่น่าขัน

It's an art at the frontier between art and science.

เป็นงานศิลป์ที่พรมแดน ระหว่างศิลปะและวิทยาศาสตร์

It's fed by ...

มันถูกป้อน

by real life, every day.

โดยชีวิตจริงทุกวัน

It's driven by force of necessity.

มันถูกขับเคลื่อนโดยแรงกดดันด้านความจำเป็น

Quite amazing, quite amazing.

ค่อนข้างน่าทึ่ง ค่อนข้างมหัศจรรย์

And the life of the architect is also amazing.

และชีวิตของสถาปนิกก็น่าทึ่งเช่นกัน

You know, as an architect, at 10 o’clock in the morning,

ในฐานะที่เป็นสถาปนิก เวลา 10 โมงเช้า

you need to be a poet, for sure.

คุณจะต้องเป็นกวี

But at 11,

แต่ตอน 11 โมง

you must become a humanist,

คุณกลายเป็นนักมนุษยนิยม

otherwise you'd lose your direction.

มิเช่นนั้นคุณจะสูญเสียทิศทาง

And at noon, you absolutely need to be a builder.

และตอนเที่ยง คุณต้องเป็นช่างก่อสร้าง

You need to be able to make a building,

คุณจะต้องสร้างตึกให้ได้

because architecture, at the end, is the art of making buildings.

เพราะท้ายที่สุดแล้ว สถาปัตยกรรมคือศิลปะการก่อสร้างอาคาร

Architecture is the art of making shelter for human beings.

สถาปัตยกรรมคือศิลปะ การสร้างที่พักพิงของมนุษย์

Period.

จบ

And this is not easy at all.

และนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

It's amazing.

มันมหัศจรรย์

Look at this.

ดูนี่สิ

Here we are in London,

เราอยู่ในลอนดอน

at the top of the Shard of Glass.

เหนืออาคารชาร์ดออฟกลาส

This is a building we completed a few years ago.

นี่คืออาคารที่เราสร้างสำเร็จ เมื่อไม่กี่ปีก่อน

Those people are well-trained workers,

คนเหล่านี้คือคนงานที่ถูกฝึกมาอย่างดี

and they are assembling the top piece of the tower.

และพวกเขากำลังประกอบ ชิ้นส่วนบนสุดของตึก

Well, they look like rock climbers.

พวกเขาดูเหมือนนักปีนผา

They are.

พวกเขาเป็นนักปีนผา

I mean, they are defying the force of gravity,

พวกเขาท้าทายแรงโน้มถ่วง

like building does, by the way.

จะว่าไป ตัวอาคารก็เช่นกัน

We got 30 of those people --

เรามีคนงานเหล่านี้ 30 คน

actually, on that site, we got more than 1,400 people,

จริง ๆ แล้วบริเวณที่ก่อสร้าง เรามีมากกว่า 1,400 คน

coming from 60 different nationalities.

จาก 60 เชื้อชาติที่แตกต่างกัน

You know, this is a miracle. It's a miracle.

คุณรู้ไหมว่า นี่เป็นความมหัศจรรย์

To put together 1,400 people,

การรวมคนทั้ง 1,400 คน

coming from such different places, is a miracle.

ซึ่งมาจากที่ต่าง ๆ นั้นเข้าด้วยกัน คือเรื่องมหัศจรรย์

Sites are miracles.

ที่ก่อสร้างเป็นความมหัศจรรย์

This is another one.

นี่เป็นอีกแห่งหนึ่ง

Let's talk about construction.

เรามาพูดถึงการก่อสร้างกัน

Adventure, it's adventure in real life,

การผจญภัย นี่คือการผจญภัยในชีวิตจริง

not adventure in spirit.

ไม่ใช่การผจญภัยในจิตวิญญาณ

This guy there is a deepwater diver.

ชายคนนี้คือนักดำน้ำลึก

From rock climbers to deepwater divers.

จากนักปีนผาสู่นักดำน้ำลึก

This is in Berlin.

นี่คือที่เบอร์ลิน

After the fall of the Wall in '89,

หลังจากที่กำแพงเบอร์ลินล่มสลายในปี 89

we built this building, connecting East Berlin to West Berlin,

เราสร้างอาคารนี้เชื่อมระหว่าง เบอร์ลินตะวันออกและตะวันตก

in Potsdamer Platz.

ในพอตส์ตามา พลัตซ์ (Potsdamer Platz)

We got on that project almost 5,000 people.

เราดำเนินโครงการด้วยคนกว่า 5,000 คน

Almost 5,000 people.

เกือบ 5,000 คน

And this is another site in Japan,

และนี่เป็นจุดก่อสร้างอีกแห่งในญี่ปุ่น

building the Kansai Airport.

การสร้างสนามบินคันไซ

Again, all the rock climbers, Japanese ones.

เช่นเดียวกัน เหล่านักปีนผา ชาวญี่ปุ่น

You know, making buildings together

คุณรู้ไหมว่า การสร้างอาคาร

is the best way to create a sense of cooperation.

คือวิธีที่ดีที่สุดในการสร้าง จิตสำนึกการทำงานร่วมกัน

The sense of pride -- pride is essential.

ความรู้สึกภาคภูมิใจ ความภาคภูมิใจเป็นสิ่งสำคัญ

But, you know, construction, of course,

แต่แน่นอนว่าการก่อสร้าง

is one of the reasons why architecture is amazing.

เป็นหนึ่งในหลายเหตุผลว่า ทำไมสถาปัตยกรรมถึงน่าทึ่ง

But there is another one, that is maybe even more amazing.

แต่ยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง ที่อาจจะน่าทึ่งมากขึ้นไปอีก

Because architecture is the art

เพราะสถาปัตยกรรมคือศิลปะ

of making shelter for communities,

ของการสร้างที่พักพิงให้สังคม

not just for individuals --

ไม่ใช่แค่ปัจเจกชน--

communities and society at large.

แต่ชุมชนและสังคมได้ทั้งหมด

And society is never the same.

และสังคมไม่เคยเหมือนเดิม

The world keeps changing.

โลกเปลี่ยนไปอยู่ตลอด

And changes are difficult to swallow by people.

และการเปลี่ยนแปลงนั้น ยากที่จะถูกซึมซับโดยผู้คน

And architecture is a mirror of those changes.

และสถาปัตยกรรมคือภาพสะท้อน ของการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น

Architecture is the built expression of those changes.

สถาปัตยกรรมคือการแสดงออกที่ถูกสร้าง ตามการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น

So, this is why it is so difficult,

ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมมันจึงยาก

because those changes create adventure.

เพราะการเปลี่ยนแปลง สรรค์สร้างการผจญภัย

They create adventure, and architecture is adventure.

มันสร้างการผจญภัย และสถาปัตยกรรมคือการผจญภัย

This is the Centre Georges Pompidou in Paris,

นี่คือซองเทอ จอร์จ ปองปิดู (Centre Georges Pompidou) ในปารีส

a long time ago.

นานมาแล้ว

That was back in time, '77.

ย้อนเวลากลับไปเมื่อปี 77

This was a spaceship landing in the middle of Paris.

นี่คือยานอวกาศลงจอดในใจกลางปารีส

Together with my friend in adventure, Richard Rogers,

ผมและเพื่อนร่วมการผจญภัย ริชาร์ด โรเจอร์ส

we were, at the time, young bad boys.

เราในตอนนั้นเป็นเด็กซน

Young, bad boys.

เด็กซุกซน

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

It was really only a few years after May '68.

จริง ๆ แล้วมันแค่ไม่กี่ปี หลังเดือนพฤษภาคม ยุค 68

So it was a rebellion, pure rebellion.

ดังนั้นมันจึงเป็นการกบฏ การก่อกบฏอย่างแท้จริง

The idea was to make

แนวคิดคือการสร้าง

the proof that cultural buildings should not be intimidating.

พิสูจน์ว่าอาคารวัฒนธรรมไม่ควรดูน่ากลัว

They should create a sense of curiosity.

มันควรให้ความรู้สึกของความอยากรู้อยากเห็น

This is the way to create a cultural place.

นี่เป็นวิธีสร้างสถานที่ทางวัฒนธรรม

Curiosity is the beginning of a cultural attitude.

ความอยากรู้อยากเห็นคือจุดเริ่มต้น ของทัศนคติทางวัฒนธรรม

And there's a piazza there, you can see that piazza.

ตรงนั้นมีลานสาธารณะ คุณจะเห็นลานนั้น

And a piazza is the beginning of urban life.

และลานสาธารณะคือจุดกำเนิดของชีวิตในเมือง

A piazza is the place where people meet.

ลานสาธารณะที่คือที่ที่คนมาพบเจอกัน

And they mix experience.

และพวกเขาผสมผสานประสบการณ์

And they mix ages.

อายุ

And, you know, in some way,

และในทางใดทางหนึ่ง

you create the essence of the city.

คุณสร้างหัวใจของเมือง

And since then, we made, in the office, so many other places for people.

และตั้งแต่นั้นมา เราสร้างสรรค์ สถานที่มากมายสำหรับผู้คน

Here, in Rome, is a concert hall.

นี่คือโถงคอนเสิร์ตในโรม

Another place for people.

สถานที่อีกแห่งสำหรับผู้คน

This building inside is actually designed by the sound, you can see.

ภายในอาคารนี้จริง ๆ แล้ว ถูกออกแบบจากเสียง จะเห็นได้ว่า

It's flirting with sound.

มันเล่นล้อกับเสียง

And this is the Kansai Airport,

และนี่คือสนามบินคันไซ

in Japan.

ในญี่ปุ่น

To make a building, sometimes you need to make an island,

ในการสร้างอาคารหนึ่งหลัง บางครั้งคุณจำเป็นต้องสร้างเกาะ

and we made the island.

และเราสร้างเกาะขึ้นมา

The building is more than one mile long.

ตัวอาคารมีความยาวกว่าหนึ่งไมล์

It looks like an immense glider, landing on the ground.

มันดูเหมือนเครื่องร่อนขนาดมหึมา ลงจอดอยู่บนพื้น

And this is in San Francisco.

และนี่คือในซานฟรานซิสโก

Another place for people.

สถานที่อีกแห่งสำหรับผู้คน

This building is the California Academy of Sciences.

อาคารนี้คือวิทยาลัยวิทยาศาสตร์แคลิฟอร์เนีย

And we planted on that roof --

เราปลูกพืชไว้ด้านบน

thousands and thousands of plants that use the humidity of the air,

พืชหลายพันต้นที่ใช้ความชื้นจากอากาศ

instead of pumping water from the water table.

แทนการดูดน้ำขึ้นมาจากระดับน้ำใต้ดิน

The roof is a living roof, actually.

หลังคานี้คือหลังคาที่มีชีวิต

And this building was made Platinum LEED.

และตัวอาคารทำจากแพลตินัมลีด

The LEED is the system to measure, of course,

ลีดคือระบบที่ใช้วัด แน่นอน

the sustainability of a building.

ความยั่งยืนของอาคาร

So this was also a place for people

ดังนั้นนี่จึงเป็นสถานที่สำหรับผู้คนอีกแห่ง

that will stay a long time.

ที่จะคงอยู่ไปอีกนาน

And this is actually New York.

นี่คือนิวยอร์ก

This is the new Whitney,

นี่คือวิทนีย์หลังใหม่

in the Meatpacking District in New York.

ในย่านมีทแพคกิ้งในนิวยอร์ก

Well, another flying vessel.

เรือเดินสมุทรลอยฟ้าขนาดใหญ่

Another place for people.

สถานที่อีกแห่งสำหรับผู้คน

Here we are in Athens, the Niarchos Foundation.

ตอนนี้เราอยู่ในเอเธนส์ มูลนิธินิอาร์กอส

It's a library,

มันคือห้องสมุด

it's an open house, a concert hall

มันคือสถานที่สาธารณะ คือโถงคอนเสิร์ต

and a big park.

และสวนขนาดใหญ่

This building is also a Platinum LEED building.

อาคารนี้ก็สร้างจากแพลตนัมลีดเช่นเดียวกัน

This building actually captures the sun's energy with that roof.

อาคารนี้สร้างพลังงานจากดวงอาทิตย์ด้วยหลังคา

But, you know, making a building a place for people is good.

แต่การสร้างอาคารให้เป็นสถานที่ สำหรับผู้คนเป็นสิ่งที่ดี

Making libraries, making concert halls,

การสร้างห้องสมุด การสร้างโถงคอนเสิร์ต

making universities, making museums is good,

การสร้างมหาวิทยาลัย การสร้างพิพิธภัณฑ์นั้นดี

because you create a place that's open, accessible.

เพราะคุณได้สร้างสถานที่ ที่เปิดกว้าง เข้าถึงได้

You create a building for a better world, for sure.

คุณสร้างอาคารสำหรับโลก ที่ดีกว่าเดิมอย่างแน่นอน

But there is something else

แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่ง

that makes architecture amazing, even more.

ที่ทำให้สถาปัตยกรรมน่าทึ่งมากขึ้นไปอีก

And this is the fact that

นี่เป็นความจริงที่ว่า

architecture doesn't just answer to need and necessity,

สถาปัตยกรรมไม่เพียงตอบสนอง ความต้องการและความจำเป็น

but also to desires -- yes, desires -- dreams, aspirations.

แต่ยังสนองความปรารถนา ความฝัน ความทะเยอทะยาน

This is what architecture does.

นี่คือสิ่งที่สถาปัตยกรรมทำ

Even the most modest hut on earth

แม้แต่กระท่อมที่เล็กที่สุดในโลก

is not just a roof.

มันไม่ใช่แค่หลังคา

It's more than a roof.

มันเป็นมากกว่าหลังคา

It's telling a story;

มันบอกเล่าเรื่องราว

it's telling a story about the identity of the people living in that hut.

มันเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวตน ของคนที่อาศัยอยู่ในกระท่อมนั้น

Individuals.

แต่ละบุคคล

Architecture is the art of telling stories.

สถาปัตยกรรมคือศิลปะการเล่าเรื่อง

Like this one.

เช่นอาคารนี้

In London: the Shard of Glass.

อาคารชาร์ดออฟกลาสในลอนดอน

Well, this building is the tallest building in Western Europe.

เป็นอาคารที่สูงที่สุดในยุโรปตะวันตก

It goes up more than 300 meters in the air, to breathe fresh air.

สูงมากกว่า 300 เมตรเพื่อสูดรับอากาศสดชื่น

The facets of this building are inclined,

เหลี่ยมมุมของอาคารนี้ลาดเอียง

and they reflect the sky of London, that is never the same.

และสะท้อนท้องฟ้าของลอนดอน ที่ไม่เคยเหมือนเดิม

After rain, everything becomes bluish.

หลังฝนตก ทุกอย่างกลายเป็นสีน้ำเงิน

In the sunny evening, everything is red.

ในตอนเย็นที่แดดจัดทุกอย่างเป็นสีแดง

It's something that is difficult to explain.

เป็นสิ่งหนึ่งที่ยากจะอธิบาย

It's what we call the soul of a building.

นี่คือสิ่งที่เราเรียกว่าจิตวิญญาณของอาคาร

On this picture on the left, you have the Menil Collection,

ในรูปด้านซ้ายคือเมนิล คอลเลคชั่น

used a long time ago.

เปิดใช้เมื่อนานมาแล้ว

It's a museum.

มันคือพิพิธภัณฑ์

On the right is the Harvard Art Museum.

ด้านขวาคือพิพิธภัณฑ์ศิลปะฮาร์วาร์ด

Both those two buildings flirt with light.

อาคารสองหลังนี้เล่นล้อกับแสง

Light is probably one of the most essential materials in architecture.

แสงน่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ในสถาปัตยกรรม

And this is in Amsterdam.

และนี่คือในอัมสเตอร์ดาม

This building is flirting with water.

อาคารหลังนี้เล่นกับน้ำ

And this is my office, on the sea.

นี่คือที่ทำงานของผม บนทะเล

Well, this is flirting with work.

มันเล่นกับงาน

Actually, we enjoy working there.

จริง ๆ แล้วเราชอบทำงานที่นั่น

And that cable car is the little cable car that goes up to there.

กระเช้าไฟฟ้านั้น คือกระเช้าเล็ก ๆ ที่ขึ้นไปที่นั่น

That's "The New York Times" in New York.

นี่คือเดอะนิวยอร์กไทม์ในนิวยอร์ก

Well, this is playing with transparency.

มันเล่นกับความโปร่งแสง

Again, the sense of light, the sense of transparency.

อีกครั้ง ความรู้สึกบางเบา ความรู้สึกของความโปร่งแสง

On the left here, you have the Magic Lantern in Japan,

ด้านซ้ายคือเมจิกแลนเทิร์นในญี่ปุ่น

in Ginza, in Tokyo.

ในย่านกินซ่า โตเกียว

And in the center is a monastery in the forest.

ใจกลางคือวัดในป่า

This monastery is playing with the silence and the forest.

วัดนี้เล่นไปกับความเงียบและป่า

And a museum, a science museum.

และพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์

This is about levitation.

มันเป็นเรื่องของการลอยตัว

And this is in the center of Paris,

นี่คือใจกลางปารีส

in the belly of the whale.

ในท้องของปลาวาฬ

This is the Pathé Foundation in Paris.

นี่คือมูลนิธิปาเธย์ ในปารีส

All those buildings have something in common:

อาคารเหล่านี้มีบางอย่างที่คล้ายกัน

it's that something is searching for desire, for dreams.

นั่นคือบางอย่างกำลังตามหา ความปราถนา ความฝัน

And that's me.

และนั่นคือผม

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Well, it's me on my sailing boat.

นั่นคือผมบนเรือใบ

Flirting with breeze.

หยอกล้อกับสายลม

Well, there's not a very good reason to show you this picture.

ไม่ใช่เหตุผลที่ดีในการแสดงภาพนี้

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

I'm trying, I'm trying.

ผมพยายามอยู่

You know, one thing is clear: I love sailing, for sure.

รู้ไหมว่าสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ ผมรักการแล่นเรือใบ

I actually also love designing sailing boats.

จริง ๆ แล้วผมยังชอบออกแบบเรือใบอีกด้วย

But I love sailing, because sailing is associated with slowness.

แต่ผมรักการแล่นเรือ เพราะมันสัมพันธ์กับความเชื่องช้า

And ...

และ

and silence.

และความเงียบงัน

And the sense of suspension.

และความรู้สึกของการหยุดชั่วขณะ

And there is another thing that this picture says.

ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่รูปนี้บอกเรา

It says that I'm Italian.

มันบอกว่าผมเป็นชาวอิตาเลียน

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Well, there is very little I can do about that.

ผมทำอะไรกับมันมากไม่ได้ในเรื่องนี้

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

I'm Italian, and I love beauty.

ผมเป็นคนอิตาลีและผมรักความสวยงาม

I love beauty.

ผมรักความสวยงาม

Well, let's go sailing, I want to take you sailing here,

ไปแล่นเรือกัน ผมอยากพาคุณไปแล่นเรือที่นี่

to this place,

ที่แห่งนี้

in the middle of the Pacific Ocean.

ณ ใจกลางมหาสมุทรแปซิฟิก

This is the Jean-Marie Tjibaou Center.

นี่คือศูนย์วัฒนธรรม ชอง-มารี ทิโบว

It's for the Kanaky ethnic group.

สำหรับกลุ่มชาติพันธุ์คานากี

It's in Nouméa, New Caledonia.

ตั้งอยู่ในนูมีอา นิวคาลีโดเนีย

This place is for art.

สถานที่แห่งนี้มีไว้เพื่อศิลปะ

Art and nature.

ศิลปะและธรรมชาติ

And those buildings actually flirt with the wind,

และอาคารเหล่านั้นหยอกล้อกับลม

with the trade winds.

ลมสินค้า

They have a sound, they have a voice, those buildings.

อาคารเหล่านั้นมีเสียง เสียงพูด

I'm showing this because it's about beauty.

ผมแสดงรูปนี้เพราะมันคือเรื่องของความสวยงาม

It's about pure beauty.

เกี่ยวกับความงามบริสุทธิ์

And let's talk about beauty for a moment.

เรามาคุยเรื่องความสวยงามกันสักนิด

Beauty is like the bird of paradise:

ความสวยงามเปรียบเหมือนปักษีสวรรค์

the very moment you try to catch it, it flies away.

วินาทีที่คุณพยายามจะจับมัน มันก็บินหนีไป

Your arm is too short.

แขนของคุณเอื้อมไม่ถึง

But beauty is not a frivolous idea.

แต่ความสวยงามไม่ใช่ความคิดที่เหลาะแหละ

It's the opposite.

มันคือสิ่งตรงกันข้าม

In my native language, that is Italian,

ในภาษาพื้นเมืองของผม ซึ่งก็คืออิตาเลียน

"beautiful" is "bello."

คำว่าสวยงามคือ " เบลโล"

In Spanish, "beauty" is "belleza."

ในภาษาสเปน ความสวยงาม คือ "เบลเลซซา"

In Greek, "beautiful" is "kalos."

ในภาษากรีก สวยงาม คือ "คาลอส"

When you add "agathos," that means "beautiful and good."

เมื่อคุณเติม "อะกาธอส" จะแปลว่า "สวยงามและดี"

In no one of those languages, "beautiful" just means "beautiful."

ไม่มีภาษาใดในภาษาเหล่านั้น ที่คำว่าสวยงามจะแปลได้แค่ สวยงาม

It also means "good."

มันยังหมายความว่าดีด้วย

Real beauty is when the invisible

ความสวยงามที่แท้จริง คือเมื่อสิ่งที่มองไม่เห็น

joins the visible, coming on surface.

รวมกับสิ่งที่มองเห็นได้มาจากภายนอก

And this doesn't apply only to art or nature.

และมันไม่เพียงปรับใช้ได้ แค่กับศิลปะหรือธรรมชาติ

This applies to science, human curiosity, solidarity --

มันใช้ได้กับวิทยาศาสตร์ ความฉงนของมนุษย์ ความสมัครสมาน

that's the reason why you may say,

นั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงบอกว่า

"This is a beautiful person,"

"นี่คือคนสวย"

"That's a beautiful mind."

"นั่นคือจิตใจที่งดงาม"

This, this is the beauty that can change people

นี่คือความสวยงามที่เปลี่ยนคน

into better people,

ให้เป็นคนที่ดีกว่าเดิม

by switching a special light in their eyes.

โดยจุดประกายความตื่นเต้นให้พวกเขา

And making buildings for this beauty

และการสร้างอาคารสำหรับความสวยงามนี้

makes cities better places to live.

ทำให้เมืองเป็นสถานที่น่าอยู่กว่าเดิม

And better cities

และเมืองที่น่าอยู่

make better citizens.

สร้างประชากรที่ดีกว่า

Well, this beauty --

ความสวยงามนี้

this universal beauty, I should say --

ผมควรจะพูดว่าความสวยงามสากลนี้

is one of the few things that can change the world.

คือหนึ่งในไม่กี่สิ่งที่สามารถเปลี่ยนโลกได้

Believe me, this beauty will save the world.

เชื่อผมเถอะว่าความสวยงามนี้จะช่วยโลกได้

One person at a time, but it will do it.

แม้จะทีละคนก็ตาม แต่มันจะช่วยได้

Thank you.

ขอบคุณครับ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)