A brief history of video games (Part I) - Safwat Saleem

ประวัติวิดีโอเกมส์ (ภาคแรก) - สาฟวาต ซาลีม (Safwat Saleem)

Translator: Unnawut Leepaisalsuwanna Reviewer: Kanawat Senanan

Hi, I'm Medium Invader

สวัสดีครับ ผมคือ มีเดียมอินเวเดอร์

from the classic video game Space Invaders,

จากวีดีโอเกมส์สุดคลาสสิก สเปซอินเวเดอร์ (Space Invaders)

and I want to tell you a little bit

ผมอยากจะเล่าให้คุณฟัง

about where video games came from.

เกี่ยวกับที่มาของวิดีโอเกมส์

A video game is an electronic game

วิดีโอเกมส์เป็นเกมส์อิเล็กทรอนิกส์

that has an interface designed for human interaction

ที่มีรูปร่างหน้าตาที่ถูกออกแบบมา เพื่อให้มนุษย์สามารถใช้งานได้

on a video device.

บนอุปกรณ์ฉายภาพ

Simple.

ง่ายๆแค่นั้น

Video games are used by scientists,

วิดีโอเกมส์ถูกนำมาใช้โดยนักวิทยาศาสตร์

the military,

โดยกองทัพ

and people like you,

และคนทั่วไปอย่างคุณ

and their evolution has spread across arcades,

วิวัฒนาการของเกมส์เหล่านี้กลายเป็น เกมส์อาร์เขต

consoles,

computers,

เกมส์คอนโซล

เกมส์คอมพิวเตอร์

smart phones,

เกมส์บนสมาร์ทโฟน

and all kinds of other electronics.

และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่นๆ

These days video games are everywhere,

ทุกวันนี้เราพบวิดีโอเกมส์อยู่ในทุก ๆ ที่

but they were actually made in science labs.

จากเดิมที่ถูกพัฒนาขึ้นใน ห้องแล็บวิทยาศาสตร์

In fact, the earliest U.S. video game patent on record

และที่จริงแล้ว การจดลิขสิทธิ์ วิดีโอเกมส์ครั้งแรกในอเมริกา

was in 1948,

เกิดขึ้นเมื่อปี 1948

and at the time it was referred to

ซึ่งในตอนนั้นมันถูกเรียกว่า

as a cathode-ray tube amusement device.

อุปกรณ์บันเทิงที่ใช้หลอดรังสีแคโทด (cathode-ray tube)

That's a mouthful!

ชื่อมันยาวมาก ๆ เลย

Some of the earliest video games include

วิดีโอเกมส์ในยุคแรกนั้นรวมไปถึง

the Nimrod computer,

เครื่องนิมรอด (Nimrod)

OXO,

เกมส์โอเอ็กซ์ (OXO)

Tennis for Two,

เกมส์เทนนิส (Tennis for Two)

and my personal favorite, Spacewar!

และเกมส์โปรดของผม สงครามอวกาศ! (Spacewar!)

But none of these early video games

แต่เกมส์ในยุคแรกเหล่านี้

were ever sold to the public

ไม่เคยออกวางขาย

because they were either too huge

เพราะมันใหญ่เกินไป

or too expensive

หรือไม่ก็แพงเกินกว่า

to get out of the lab.

ที่จะเอามาพัฒนาต่อ นอกห้องแล็บ

This all changed when a man named Ralph Baer

สิ่งเหล่านี้เปลี่ยนไปเมื่อ ราล์ฟ แบร์ (Ralph Baerl)

looked at his television screen and wondered

มองดูที่จอทีวี แล้วคิดขึ้นมาว่า

how else it might be used.

จะเอามันมาใช้ทำอะไรได้อีกบ้าง

In 1972, Baer's idea to get video games

ในปี 1972 ความคิดของแบร์ ที่จะนำเอาวิดีโอเกมส์

out of the science lab and into the living room

ออกจากห้องแล็บมาสู่ห้องนั่งเล่น

led to the release of a game console

ทำให้เกิดการวางขายเครื่องเกมส์

called Odyssey.

ที่เรียกว่า โอดิซี (Odyssey)

Odyssey allowed you to play a game on your TV.

โอดิซีทำให้คุณสามารถเล่นเกมส์ บนโทรทัศน์ของคุณได้

At about the same time,

และในช่วงเวลาเดียวกันนั้น

two other people, Nolan Bushnell and Ted Dabney,

คนอีกสองคน โนแลน บุชเนล (Nolan Bushnell) และเท็ด แดบนีย์ (Ted Dabney)

were working on something similar

ก็กำลังพัฒนาเครื่องที่ทำหน้าที่คล้าย ๆ กัน

in a little company called Atari.

อยู่ในบริษัทเล็กๆ ที่ชื่อ อาตาริ (Atari)

You might have heard of it,

คุณอาจจะเคยได้ยินชื่อ

and even if you haven't,

หรือถ้าคุณไม่เคยได้ยิน

I'm sure that your Dad has.

ผมว่าคุณพ่อของคุณคงจะเคยได้ยิน

Atari's first major game release was in 1972,

เกมส์ชิ้นแรกของอาตาริ ออกวางขายในปี 1972

an arcade game called Pong.

มันเป็นเกมส์อาร์เขตชื่อว่า "ปอง" (Pong)

It was an immediate hit,

มันโด่งดังแทบจะในทันที

and it's credited

และทำให้มันเป็นที่รู้จัก

as the first commercially successful video game.

ในฐานะเกมส์แรก ที่ประสบความสำเร็จเชิงพาณิชย์

Atari then released a home version of Pong in 1974.

จากนั้นอาตาริก็ปล่อยเครื่องเกมส์ ปอง รุ่นใช้ที่บ้านในปี 1974

By 1978, competition between Atari

ภายในปี 1978 การแข่งขันระหว่าง อาตาริ

and another game company called Midway

กับบริษัทเกมส์อีกบริษัทหนึ่งชื่อ มิดเวย์ (Midway)

was heating up.

ก็กำลังรุนแรง

Midway had licensed an arcade game

มิดเวย์ ได้รับลิขสิทธ์เกมส์อาร์เขต

for the Japanese company, Taito,

จากบริษัทญี่ปุ่น เทโต (Taito)

that put them on the map.

ซึ่งนั่นทำให้พวกเขาเริ่มเป็นที่รู้จัก

The game:

อย่างเกมส์

Space Invaders.

สเปซอินเวเดอร์ (Space Invaders)

It featured iconic actors, like me,

มันประกอบด้วยตัวละครเด่นๆ อย่างตัวผมเอง

and it went on to become

และมันยังกลายเป็น

the second highest selling arcade game of all time.

เกมส์อาร์เขตที่ขายดีที่สุดตลอดกาลเป็นอันดับสอง

Space Invaders also helped kick off

สเปซอินเวเดอร์ ช่วยให้เกิด

what is known as the Golden Age of Arcade Games.

ยุคที่เรียกว่า ยุคทองของเกมส์อาร์เขต

In response, Atari followed

เพื่อเป็นการตอบโต้ อาตาริก็

with the release of the arcade game Asteroids,

ออกเกมส์อาร์เขตที่ชื่อ แอสตรอยด์ (Asteroids)

which ranked sixth on the list

ซึ่งขายดีติดอันดับที่หก

of highest selling arcade games.

ของเกมส์ขายดีที่สุดตลอดกาล

It was a good game,

มันก็เป็นเกมส์ที่ดี

but it's no Space Invaders.

แต่มันไม่ใช่ สเปซอินเวเดอร์

By 1980, color came to arcade games,

พอปี 1980 เริ่มมีจอสีในเกมส์อาร์เขด

and this was also the year

และปีนี้ยังเป็นปี

that another video gaming milestone was born.

ที่เกมส์สำคัญเกมส์หนึ่งเกิดขึ้น

Pac-Man, created by the Japanese company Namco,

แพคแมน (Pac-Man) ซึ่งออกแบบ โดยบริษัทญี่ปุ่นที่ชื่อ แนมโค (Namco)

was brought to the U.S. by Midway.

ถูกนำมาสู่สหรัฐฯ โดยมิดเวย์

Important to the spread

ซึ่งส่งผลต่อการแผ่ขยายความนิยม

of video games into popular culture,

ในการเล่นวิดีโอเกมส์ในวงกว้่าง

Pac-Man was a character that could be licensed.

แพคแมน ยังเป็นตัวละครที่สามารถจดลิขสิทธิ์ได้

It wasn't long before it had a song on the charts,

และไม่นานหลังจากนั้นมันก็มีเพลงติดอันดับ

a Saturday morning television show,

มีรายการทีวีเช้าวันเสาร์ของตัวเอง

and all sorts of other products.

และยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆอีก

In just a year, Pac-Man arcade games

ภายในปีเดียว เกมส์อาร์เขตแพคแมน

made over one billion dollars in quarters.

ทำเงินได้มากกว่าหนึ่งพันล้านดอลล่าร์ ในช่วงไตรมาสเดียว

Then, in 1981, a company called Nintendo

จากนั้นในปี 1981 บริษัทนินเทนโด (Nintendo)

started making waves in the U.S. video game market

ก็เริ่มคลื่นลูกใหม่ในตลาดวิดีโอเกมส์ ในสหรัฐฯ

with their release of Donkey Kong.

ด้วยการออกเกมส์ ดองกี้คอง (Donkey Kong)

It was the earliest video game

ซึ่งเป็นวีดีโอเกมส์ยุคแรกสุด

to have a story line.

ที่มีเรื่องราวของตนเอง

The story went a bit like this:

เรื่องเป็นอย่างนี้ครับ

Donkey Kong is the pet

ดองกี้คองเป็นสัตว์เลี้ยง

of a carpenter named Jumpman.

ของช่างไม้ที่ชื่อ จัมพ์แมน

Jumpman mistreats his pet ape,

จัมพ์แมน ทำไม่ดีกับลิงยักษ์ของเขา

so the ape steals his girlfriend,

ทำให้เจ้าลิงขโมยเพื่อนสาวของเขา

leaving the game player to assume the role

ทำให้ผู้เล่นต้องสวมบทบาทเป็น

of Jumpman and rescue the girl.

ตัวจัมพ์แมน เพื่อไปช่วยหญิงสาว

Jumpman was eventually renamed to Mario.

จัมพ์แมน ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น มาริโอ

Other iconic arcade games from the early 80s include

เกมส์อาร์เขตอื่นๆ ในตำนานในยุคปี 80 รวมไปถึง

Frogger,

ฟร็อกเกอร์ (Frogger)

Dragon's Lair,

ถ้ำมังกร (Dragon's Lair)

and Mario Brothers.

และพี่น้องมาริโอ (Mario Brothers)

Perhaps the last iconic game considered

เกมส์สุดท้ายที่จัดว่า

to be part of the Golden Age of Arcade Games

อยู่ในยุคของเกมส์อาร์เขต ก็คือ

is Double Dragon.

เกมส์ ดับเบิลดรากอน (Double Dragon)

It was the first really successful example

ซึ่งเป็นตัวอย่างแรกที่ประสบความสำเร็จ ของเกมส์

of the beat-them-up genre.

จำพวก "ตีมันให้ตาย"

It was released in 1987,

มันออกวางขายในปี 1987

and, like Donkey Kong,

และเช่นเดียวกับดองกี้คอง

it featured a damsel in distress storyline,

มันประกอบด้วยตัวละครหญิง ที่ตกอยู่ในอันตรายแบบเดียวกัน

a storyline common in many video games.

ซึ่งก็ยังคงเป็นเรื่องราวที่เห็นกัน ในวิดีโอเกมส์อีกมากมาย

By the mid-90s, the Golden Age of Arcade Games

ในช่วงกลางยุค 90 ยุคทองของเกมส์อาร์เขต

was coming to an end,

ก็ถึงจุดสิ้นสุด

and the home game console

และเครื่องเล่นเกมส์ที่บ้าน

was gaining in popularity.

ก็เริ่มได้รับความนิยม

While arcade games continued

ในขณะที่ร้านเกมส์อาร์เขตค่อยๆ

to decline in sales over the years,

ได้รับความนิยมลดลง และมียอดขายน้อยลงเรื่อยๆ

the popularity of video games was merely beginning,

ความนิยมในวิดีโอเกมส์เป็นเพียงจุดเริ่มต้น

and we'll talk about that

แต่เราจะพูดถึง

and a lot more

เรื่องอื่นๆ อีกมากมาย

in part two of a brief history of video games.

ในตอนต่อภาคสอง ของประวัติวิดีโอเกมส์