How does your body know what time it is? - Marco A. Sotomayor

961,258 views ・ 2016-12-08

TED-Ed


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Napakcha P.
00:06
In 1962, a cave explorer named Michel Siffre
0
6988
4489
ในปี ค.ศ. 1962 นักสำรวจถ้ำนามว่า มิเชล ซิฟเฟอร์ (Michel Siffre)
00:11
started a series of experiments where he isolated himself underground for months
1
11477
5789
เริ่มทำการทดลองโดยการแยกตนเอง มาอยู่ใต้ดินนานหลายเดือน
00:17
without light or clocks.
2
17266
3139
โดยปราศจากแสงและนาฬิกา
00:20
He attached himself to electrodes that monitored his vital signs
3
20405
3891
เขาติดเครื่องอิเล็กโทรดไว้กับตัว เพื่อคอยติดตามสัญญาณชีพของเขา
00:24
and kept track of when he slept and ate.
4
24296
3929
และติดตามว่าเมื่อไรที่เขาหลับและกิน
00:28
When Siffre finally emerged,
5
28225
1940
เมื่อซิเฟอร์กลับออกมา
00:30
the results of his pioneering experiments
6
30165
2480
ผลลัพธ์จากการทดลองนำร่องของเขา
00:32
revealed that his body had kept to a regular sleeping-waking cycle.
7
32645
4930
เผยให้เห็นว่าร่างกายได้รักษา วัฎจักรการหลับ-ตื่นตามปกติเอาไว้
00:37
Despite having no external cues,
8
37575
3079
แม้ว่าจะไม่มีสัญญาณบอกเวลาจากภายนอก
00:40
he fell asleep,
9
40654
1381
เขาสามารถนอนหลับ
00:42
woke up,
10
42035
940
00:42
and ate at fixed intervals.
11
42975
3271
ตื่นนอน
และกินได้ตามช่วงเวลาปกติ
00:46
This became known as a circadian rhythm from the Latin for "about a day."
12
46246
6139
ต่อมา มันถูกเรียกว่า จังหวะรอบวัน (circadian rhythm) ซึ่งมาจากภาษาละตินที่แปลว่า "ประมาณหนึ่งวัน"
00:52
Scientists later found these rhythms affect our hormone secretion,
13
52385
4291
ภายหลัง นักวิทยาศาสตร์พบว่า จังหวะดังกล่าวส่งผลต่อการหลั่งฮอร์โมน
00:56
how our bodies process food,
14
56676
1887
การย่อยและแปรรูปอาหารของร่างกาย
00:58
and even the effects of drugs on our bodies.
15
58563
3244
และแม้แต่ผลของยาที่มีต่อร่างกายของเรา
01:01
The field of sciences studying these changes is called chronobiology.
16
61807
5859
วิทยาศาสตร์แขนงนี้ทำการศึกษา การเปลี่ยนแปลงที่เรียกว่า โครโนไบโอโลจี
01:07
Being able to sense time helps us do everything from waking and sleeping
17
67666
4611
ความสามารถในการรู้เวลาทำให้เรา ทำสิ่งต่าง ๆ ตั้งแต่การเดินและการนอน
01:12
to knowing precisely when to catch a ball that's hurtling towards us.
18
72277
5629
ไปจนถึงการรู้อย่างแน่ชัดว่าเมื่อใด ที่ควรจะรับลูกบอลที่กำลังพุ่งเข้ามาหาเรา
01:17
We owe all these abilities to an interconnected system of timekeepers
19
77906
4201
เราเป็นหนี้ความสามารถนี้ ซึ่งเป็นระบบ ที่สัมพันธ์กันกับตัวควบคุมเวลา
01:22
in our brains.
20
82107
1520
ในสมองของเรา
01:23
It contains the equivalent of a stopwatch telling us how many seconds elapsed,
21
83627
4490
มันทำหน้าที่เป็นเหมือนนาฬิกาจับเวลา ที่บอกเราว่าเวลาผ่านไปแล้วกี่วินาที
01:28
a clock counting the hours of the day,
22
88117
2659
เป็นนาฬิกาที่นับชั่วโมงของวัน
01:30
and a calendar notifying us of the seasons.
23
90776
3372
และเป็นปฏิทินที่บอกฤดูกาล
01:34
Each one is located in a different brain region.
24
94148
3309
แต่ละส่วนอยู่ในตำแหน่ง ที่แตกต่างกันไปของสมอง
01:37
Siffre, stuck in his dark cave, relied on the most primitive clock
25
97457
4460
ในถ้ำมืดนั้น ซิเฟอร์พึ่งพานาฬิกา ที่มีลักษณะเรียบง่ายที่สุด
01:41
in the suprachiasmatic nucleus, or SCN of the hypothalamus.
26
101917
5670
ในซุปเปอร์ไคแอสมาติกนิวเคลียส หรือ SCN ของไฮโปธาลามัส
01:47
Here's the basics of how we think it works based on fruitfly and mouse studies.
27
107587
5288
นี่คือความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการทำงานของมัน จากการศึกษาในแมลงหวี่และหนู
01:52
Proteins known as CLK, or clock, accumulate in the SCN throughout the day.
28
112875
5998
โปรตีนที่เป็นที่รู้จักกันว่า CLK หรือคล๊อค ที่รวมกลุ่มกันเป็น SCN ตลอดทั้งวัน
01:58
In addition to activating genes that tell us to stay awake,
29
118873
3784
นอกจากจะกระตุ้นยีนที่บอกให้เราตื่นตัวแล้ว
02:02
they make another protein called PER.
30
122657
2637
พวกมันยังสร้างโปรตีนอีกอย่างหนึ่ง ที่เรียกว่า PER
02:05
When enough PER accumulates,
31
125294
1880
เมื่อ PER รวมตัวกันมากพอ
02:07
it deactivates the gene that makes CLK,
32
127174
2544
มันยับยั้งยีนที่สร้าง CLK
02:09
eventually making us fall asleep.
33
129718
2259
ซึ่งในที่สุดจะทำให้เราง่วงนอน
02:11
Then, clock falls low, so PER concentrations also drop again,
34
131977
5279
เมื่อโปรตีนที่ชื่อคล๊อคลดต่ำลง ความเข้นข้นของ PER ก็ลดลงเช่นกัน
02:17
allowing CLK to rise,
35
137256
1902
ซึ่งทำให้ CLK เพิ่มขึ้น
02:19
starting the cycle over.
36
139158
2393
เป็นการเริ่มวัฎจักรใหม่อีกครั้ง
02:21
There are other proteins involved,
37
141551
1784
มีโปรตีนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
02:23
but our day and night cycle may be driven in part by this seesaw effect
38
143335
4983
แต่วัฎจักรวันและคืนของเรา ถูกขับเคลือนด้วยความสมดุล
02:28
between CLK by day and PER by night.
39
148318
3851
ระหว่าง CLK ในระหว่างวัน และ PER ในเวลากลางคืน
02:32
For more precision,
40
152169
2392
เพื่อให้มีความแม่นยำมากขึ้น
02:34
our SCNs also rely on external cues
41
154561
2136
SCN ของเราจึงยังพึ่งพา สัญญาณจากภายนอก
02:36
like light,
42
156697
730
ซึ่งก็คือแสง
02:37
food,
43
157427
710
อาหาร
02:38
noise,
44
158137
724
02:38
and temperature.
45
158861
1166
เสียง
และอุณหภูมิ
02:40
We called these zeitgebers,
46
160027
1632
เราเรียกมันว่า ไซท์เกเบอร์ส (zeitgeber)
02:41
German for "givers of time."
47
161659
2609
ซึ่งเป็นภาษาเยอรมัน แปลว่า "ตัวบอกเวลา"
02:44
Siffre lacked many of these cues underground,
48
164268
2559
ซิเฟอร์ไม่ได้รับสัญญาณเหล่านี้ เมื่ออยู่ใต้ดิน
02:46
but in normal life, they fine tune our daily behavior.
49
166827
4021
แต่ในชีวิตประจำวัน มันช่วยปรับพฤติกรรมของเราอย่างละเอียด
02:50
For instance, as natural morning light filters into our eyes,
50
170848
3530
ยกตัวอย่างเช่น แสงแดดตามธรรมชาติ ในตอนเช้าส่องผ่านเข้าสู่ตาของเรา
02:54
it helps wake us up.
51
174378
1831
มันช่วยปลุกให้เราตื่น
02:56
Traveling through the optic nerve to the SCN,
52
176209
2874
ด้วยการส่งสัญญาณผ่านเส้นประสาทตา ไปยัง SCN
02:59
it communicates what's happening in the outside world.
53
179083
3315
มันสื่อให้เรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ในสิ่งแวดล้อมข้างนอก
03:02
The hypothalamus then halts the production of melatonin,
54
182398
3270
จากนั้นไฮโปธาลามัส จะหยุดผลิตเมลาโทนิน
03:05
a hormone that triggers sleep.
55
185668
2191
ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นการนอนหลับ
03:07
At the same time,
56
187859
1119
ในเวลาเดียวกัน
03:08
it increases the production of vasopressin
57
188978
2661
มันเพิ่มการผลิตวาโซเปรสซิน
03:11
and noradrenaline throughout the brain,
58
191639
2471
และนอร์อะดรีนาลินไปทั่วทั้งสมอง
03:14
which help control our sleep cycles.
59
194110
2539
ซึ่งช่วยในการควบคุมวัฎจักรการนอนหลับ
03:16
At about 10 am,
60
196649
1340
ในเวลาประมาณ 10 โมงเช้า
03:17
the body's rising temperature drives up our energy and alertness,
61
197989
4071
อุณหภูมิร่ายกายที่สูงขึ้นจะช่วยขับเคลื่อน พลังงานของเราและทำให้เราตื่นตัว
03:22
and later in the afternoon,
62
202060
1560
และต่อมาในช่วงบ่าย
03:23
it also improves our muscle activity and coordination.
63
203620
3828
มันยังช่วยปรับปรุงการทำงานของกล้ามเนื้อ และประสาทสัมผัสของเราให้ดีขึ้น
03:27
Bright screens at night can confuse these signals,
64
207448
3351
จอภาพที่สว่างในยามค่ำคืน ทำให้สัญญาณเหล่านี้รวนได้
03:30
which is why binging on TV before bed makes it harder to sleep.
65
210799
5030
ซึ่งเป็นสาเหตุว่าทำไมการดูทีวีก่อนนอน จึงทำให้เราหลับยาก
03:35
But sometimes we need to be even more precise when telling the time,
66
215829
3721
แต่บางครั้ง เราต้องการ ความแม่นยำมากกว่านั้นในการบอกเวลา
03:39
which is where the brain's internal stopwatch chimes in.
67
219550
3450
ซึ่งเป็นส่วนที่นาฬิกาจับเวลาของสมอง ได้ก้าวเข้ามามีบทบาท
03:43
One theory for how this works involves the fact
68
223000
3087
หนึ่งในทฤษฎีเกี่ยวกับการทำงานของมัน คือข้อเท็จจริงที่ว่า
03:46
that communication between a given pair of neurons
69
226087
2982
การสื่อสารระหว่างเส้นประสาทหนึ่งคู่
03:49
always takes roughly the same amount of time.
70
229069
3512
จะใช้เวลาประมาณเท่า ๆ กันเสมอ
03:52
So neurons in our cortex and other brain areas
71
232581
3499
ฉะนั้น เส้นประสาทในคอร์เท็กซ์ และบริเวณอื่น ๆ ของสมอง
03:56
may communicate in scheduled, predictable loops
72
236080
3389
อาจสื่อสารกันตามแบบแผนวงจร ที่ถูกกำหนดเอาไว้
03:59
that the cortex uses to judge with precision how much time has passed.
73
239469
5201
ซึ่งคอร์เท็กซ์ใช้เพื่อตัดสินด้วยความแม่นยำ ว่าเวลาได้ผ่านไปแล้วนานเท่าไร
04:04
That creates our perception of time.
74
244670
2651
นั่นทำให้เราสามารถบอกเวลาได้
04:07
In his cave, Siffre made a fascinating additional discovery about this.
75
247321
4561
ในถ้ำ ซิเฟอร์ได้ค้นพบสิ่งที่น่าทึ่งอีกอย่าง
04:11
Every day, he challenged himself to count up to 120
76
251882
4430
ทุก ๆ วัน เขาได้ท้าทายตัวเอง ด้วยการนับให้ถึง 120
04:16
at the rate of one digit per second.
77
256312
3199
ด้วยอัตราหนึ่งตัวเลขต่อหนึ่งวินาที
04:19
Over time, instead of taking two minutes, it began taking him as long as five.
78
259511
5928
ตลอดช่วงเวลานั้น แทนที่เขาจะใช้เวลาสองนาที เขากลับใช้เวลานานถึงห้านาที
04:25
Life in the lonely, dark cave had warped Siffre's own perception of time
79
265439
5219
การมีชีวิตในถ้ำมืดที่แสนโดดเดี่ยว ทำให้การรับรู้เวลาของซิเฟอร์ผิดไป
04:30
despite his brain's best efforts to keep him on track.
80
270658
3763
แม้ว่าสมองของเขา จะพยายามทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ
04:34
This makes us wonder what else influences our sense of time.
81
274421
3911
นั่นทำให้เราได้ครุ่นคิดว่ามีอะไรอีกไหม ที่ยังมีอิทธิพลต่อการรับรู้เวลาของเรา
04:38
And if time isn't objective, what does that mean?
82
278332
3150
และถ้าเวลาไม่ได้เป็นแค่รูปธรรม มันหมายความว่าอย่างไร
04:41
Could each of us be experiencing it differently?
83
281482
2939
แต่ละคนมีประสบการณ์จากเรื่องนี้ ในแบบที่แตกต่างกันได้หรือไม่
04:44
Only time will tell.
84
284421
2130
เวลาเท่านั้น ที่จะบอกเราได้
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7