Attack of the killer algae - Eric Noel Muñoz

Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Rawee Ma

We've all seen the movies where a monster,

เราทุกคนต่างเคยเห็นภาพยนตร์

created by a scientist in a laboratory,

ที่สัตว์ประหลาดที่ถูกสร้างขึ้นในห้องทดลอง โดยนักวิทยาศาสตร์

escapes to wreak havoc on the outside world.

หนีออกมาและก่อหายนะให้กับโลกภายนอก

But what if the monster was not some giant rampaging beast,

แต่ถ้าหากสัตว์ประหลาดที่ว่าไม่ได้เป็น อสูรกายยักษ์ที่ย่ำเท้าไปทั่ว

destroying a city, but just a tiny amount of seaweed

ที่ทำลายบ้านเมือง แต่เป็นแค่สาหร่ายที่มีปริมาณไม่มาก

with the potential to disrupt entire coastal ecosystems?

ที่มีความสามารถในการทำลาย ระบบนิเวศน์ชายฝั่งทั้งระบบล่ะ

This is the story of Caulerpa taxifolia,

นี่เป็นเรื่องราวของ Caulerpa taxifolia

originally a naturally occurring seaweed

สาหร่ายที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ

native to tropical waters.

ที่มีแหล่งดั้งเดิมอยู่ในแหล่งน้ำเขตร้อน

In the 1980s, one strain was found to thrive in colder environments.

ในยุค 1980 สายพันธุ์หนึ่งของมัน ถูกพบในสิ่งแวดล้อมที่หนาวกว่า

This trait, combined with its beautiful, bright green color

ลักษณะดังกล่าว รวมถึงสีเขียวสดใส ที่สวยงามของมัน

and ability to grow quickly without maintenance

และความสามารถในการเติบโตได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องได้รับการดูแล

made it ideal for aquariums, which it helped keep clean

ทำให้มันเป็นพืชน้ำที่เหมาะสม ที่ช่วยทำให้ตู้เลี้ยงปลาสะอาด

by consuming nutrients and chemicals in the water.

โดยการบริโภคสารอาหารและสารเคมีในน้ำ

Further selective breeding made it even heartier,

การคัดพันธุ์ต่อมาทำให้มันทนทานมากขึ้น

and soon it was used in aquariums around the world.

และไม่นานมันก็ถูกใช้ในตู้ปลาทั่วโลก

But it was not long before a sample of this

แต่ไม่นานนักก่อนที่พวกมัน

aquarium-developed super algae

สุดยอดสาหร่ายที่ถูกพัฒนาในตู้ปลาเหล่านี้

turned up in the Mediterranean Sea

จะปรากฏตัวขึ้นในทะเลแถบเมนิเตอเรเนียน

near the famed Oceanographic Museum of Monaco.

ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ทางทะเลของโมนาโค ที่โด่งดัง

The marine biologist who found it believed that

นักชีววิทยาทางทะเลผู้พบมันเชื่อว่า

the museum had accidentally realeased it into the ocean

พิพิธภัณฑ์ปล่อยมันลงทะเลโดยบังเอิญ

along with aquarium waters,

พร้อมกับน้ำจากตู้ปลา

while museum directors claimed

ในขณะที่ผู้บริหารพิพิธภัณฑ์อ้างว่า

it had be carried into the area by ocean currents.

มันถูกพัดพามายังบริเวณดังกล่าว โดยคลื่นในมหาสมุทร

Regardless of how it ended up there,

ไม่ว่ามันจะมาถึงที่นั่นด้วยวิธีใด

the non-native Caulerpa multiplied rapidly,

Caulerpa ที่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตประจำถิ่น เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว

having no natural predators

มันไม่มีผู้ล่าตามธรรมชาติ

due to releasing a toxin that keeps fish away.

เนื่องจากการปล่อยสารพิษ ทำให้ปลาไม่อยู่ในบริเวณนั้น

And like some mythical monster, even a tiny piece that broke off

และเช่นเดียวกับสัตว์ประหลาดในตำนาน แม้กระทั่งชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่แยกออกมา

could grow into a whole new colony.

ก็สามารถเติบโตเป็นโคโลนีใหม่ได้

Through water currents and contact with boat anchors and fishing lines,

ด้วยกระแสน้ำและการสัมผัสกับสมอเรือ และแนวการตกปลา

it fragmented and spread throughout Mediterranean coastal cities

มันแยกออกและกระจายออกไป ทั่วเมืองตามชายฝั่งทะเลเมนิเตอเรเนียน

covering coral reefs.

ปกคลุมปะการัง

So what was the result of this invasion?

แล้วผลจากการบุกรุกคืออะไรกันล่ะ

Well, it depends on who you ask.

มันขึ้นอยู่กับว่าคุณไปถามใคร

Many scientists warned that the spread of Caulerpa

นักวิทยาศาสตร์มากมายเตือนว่า การแพร่กระจายของ Caulerpa

reduces biodiversity by crowding out native species of seaweed

ลดความหลากหลายทางชีวภาพ จากลดจำนวนของกลุ่มสาหร่ายประจำถิ่น

that are eaten by fish,

ที่เป็นอาหารของปลา

with the biologist who first discovered its presence dubbing it

นักชีววิทยาที่ค้นพบมันเป็นคนแรก และคนทั่วไปเรียกมันว่า

Killer Algae.

สาหร่ายนักฆ่า

Other studies instead claim

การศึกษาอื่น ๆ รายงานผลที่ตรงข้าม

that the algae actually had a beneficial effect

ว่าอันที่จริงสาหร่ายให้ผลดี

by consuming chemical pollutants --

ต่อการดูดซับมลพิษเคมี --

one reason the aquariums strain was developed.

เหตุผลหนึ่งที่สายพันธุ์ในตู้ปลา ถูกพัฒนาขึ้น

But the disruption of a natural ecosystem

แต่การบุกรุกระบบนิเวศน์ทางธรรมชาติ

by an introduced foreign species

โดยการนำสายพันธุ์ต่างถิ่นเข้ามา

can have unpredictable and uncontrollable effects

อาจทำให้เกิดผลกระทบที่ไม่อาจคาดเดา และไม่อาจควบคุมได้

that may not be immediately visible.

ที่อาจไม่สามารถเห็นได้ในทันที

So when Culerpa taxifolia was discovered

ฉะนั้น เมื่อ Culerpa taxifolia ถูกค้นพบ

at Carlsbad's Agua Hedionda Lagoon,

ที่ทะเลสาบ อากัว เฮดิออนดา ของ คาร์ลส์บัด

near San Diego in the year 2000,

ใกล้กับ ซานดิเอโก ในปี ค.ศ. 2000

having most likely come from the dumping

ที่น่าจะมาจากการทิ้ง

of home aquarium water into a connecting storm drain,

จากตู้ปลาในบ้านลงไปในท่อน้ำทิ้ง

it was decided to stop it before it spread.

พวกเขาคิดว่าจะต้องหยุดยั้งมัน ก่อนที่มันจะแพร่กระจายออกไป

Tarps were placed over the Culerpa colonies

ตัวดักจับถูกวางเอาไว้เหนือโคโลนีของ Culerpa

and chlorine injected inside.

และคลอรีนก็ถูกปล่อยลงไป

Although this method killed

แม้ว่าวิธีการนี้จะฆ่า

all other marine life trapped under the tarps,

สิ่งมีชีวิตในน้ำอื่น ๆ ก็ติดอยู่ใต้ตัวดักจับด้วย

it did succeed in eradicating the algae

มันช่วยกำจัดสาหร่ายดังกล่าวได้สำเร็จ

and native eelgrass was able to emerge in its place.

และพืชน้ำประจำถิ่นอื่น ๆ ก็สามารถเติบโต ขึ้นในที่ของมันได้

By responding quickly, authorities in California

ด้วยการตอบสนองที่รวดเร็ว ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในแคลิฟอร์เนีย

were able to prevent Culerpa from propagating.

สามารถที่จะป้องกัน Culerpa จากการแพร่กระจายออกไปได้

But another occurrence of the strain,

แต่อีกสายพันธุ์หนึ่งที่เกิดขึ้น

in the coastal wetlands of southeast Australia,

ทางชายฝังพื้นที่ชุ่มน้ำทางตะวันออกเฉียงใต้ ของออสเตรเลีย

was left unchecked and allowed to spread.

กำลังไม่ได้รับการดูและถูกปล่อยปะละเลย ให้แพร่กระจายออกไป

And unfortunately, a tarp cannot cover the Mediterranean Sea

และโชคร้ายที่ตัวดักจับไม่สามารถปกคลุม ทะเลเมนิเตอเรเนียน

or the Australian coast.

หรือชายฝั่งออสเตรเลียได้

Invasive species are not a new problem,

สายพันธุ์ที่บุกรุกเข้ามานี้ไม่ใช่ปัญหาใหม่

and can indeed occur naturally.

และสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ

But when such species are the results of

แต่เมื่อสายพันธุ์เช่นนี้ที่เป็นผลจาก

human directed selective breeding or genetic modification

การคัดพันธุ์โดยตรงโดยมนุษย์ หรือการตัดต่อพันธุกรรม

and then released into the natural environment,

ถูกปล่อยลงสู่สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ

their effect on ecosystems

ผลกระทบของพวกมันที่มีต่อระบบนิเวศน์

can be far more radical and irreversible.

อาจมีมากกว่าและไม่อาจย้อนกลับได้

With the proliferation of new technologies

ด้วยการเกิดขึ้นใหม่ของเทคโนโลยี

and multiple threats to the environment,

และการคุกคามมากมายต่อสิ่งแวดล้อม

it is more important than ever for scientists

มันสำคัญยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ ที่นักวิทยาศาสตร์

to monitor and evaluate the risks and dangers,

จะติดตามและประเมินความเสี่ยงและอันตราย

and for the rest of us to remember

และสำหรับพวกเราที่เหลือที่จะจดจำ

that what starts in our backyard

ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในสนามหญ้าของเรา

can effect ecosystems half a world away.

สามารถที่จะส่งผลต่อระบบนิเวศน์ ที่อยู่ห่างออกไปครึ่งโลกได้