What happens when you get heat stroke? - Douglas J. Casa

เกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณเป็นลมแดด - ดักลาส เจ คาซ่า (Douglas J. Casa)

Translator: Pongsakorn Puavaranukroh Reviewer: Pattapon Kasemtanakul

In 1985, 16-year-old Douglas Casa,

ในปี ค.ศ. 1985 เด็กหนุ่มวัย 16 ปี ชื่อ ดักลาส คาซ่า

ran the championship 10,000 meter track race at the Empire State Games.

วิ่งแข่ง 10,000 เมตรในการแข่งขันเอมไพน์ สเตต (Empire State)

Suddenly, with just 200 meters to go, he collapsed,

ขณะที่เหลืออีกเพียง 200 เมตร ก่อนจะเข้าเส้นชัย เขาก็ล้มพับลง

got back up and then collapsed again on the final straightaway,

ลุกขึ้นมาวิ่งต่อ แต่แล้วก็ล้มพับไปอีก ตรงทางตรงก่อนเข้าเส้นชัย

with his body temperature at dangerous levels.

โดยมีอุณหภูมิร่างกายสูงเข้าขั้นอันตราย

He had suffered an exertional heat stroke.

เขาล้มป่วยจากโรคลมแดดจากการออกกำลังหนัก (exertional heat stroke)

Fortunately, with immediate and proper treatment,

โชคดีที่ได้รับการพยาบาลอย่างเหมาะสมทันท่วงที

he survived the potentially fatal episode

เขาจึงรอดชีวิตจากภาวะวิกฤต

and has since helped save 167 people in similar circumstances.

และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขายังได้ช่วยอีก 167 คน จากภาวะแบบเดียวกันนี้

From ancient soldiers on the battlefield

ตั้งแต่ทหารยุคโบราณในสนามรบ

to modern day warriors on the gridiron,

ไปจนถึงนักฟุตบอลในสนาม

exertional heat stroke, or sunstroke, has long been a serious concern.

โรคลมแดดจากการออกกำลังหนัก เป็นปัญหาใหญ่มานานแล้ว

And unlike classical heat stroke, which affects vulnerable people

และไม่เหมือนกับโรคลมแดดทั่วไป ที่มักเกิดกับคนที่อ่อนแอ

such as infants and the elderly during heat waves,

เช่น ทารก หรือคนชรา ในช่วงที่เกิดคลื่นความร้อน

exertional heat stroke is caused by intense exercise in the heat,

โรคลมแดดจากการออกกำลังหนัก เกิดจาก การออกกำลังอย่างหนักท่ามกลางอากาศร้อน

and is one of the top three killers of athletes and soldiers in training.

และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตหนึ่งในสามอันดับแรก ของนักกีฬาหรือทหารระหว่างการฝึกซ้อม

When you exercise, nearly 80% of the energy you use

เมื่อคุณออกกำลังกาย เกือบ 80% ของพลังงานที่ใช้ไป

is transformed into heat.

ถูกเปลี่ยนไปเป็นความร้อน

In normal circumstances, this is what's known as

ในสภาวะปกติ นี่เป็นสิ่งที่เรียกว่า

compensable heat stress.

ภาวะเครียดจากความร้อนที่ปรับสมดุลย์ได้ (compensable heat stress)

And your body can dissipate the heat as quickly as it's generated

ซึ่งร่างกายคุณสามารถกำจัดความร้อน ได้เร็วพอๆ กับที่มันสร้าง

through cooling methods like the evaporation of sweat.

ด้วยวิธีลดอุณหภูมิ เช่น การระเหยของเหงื่อ

But with uncompensable heat stress,

แต่สำหรับ ภาวะเครียดจากความร้อน ที่ปรับสมดุลย์ไม่ได้

your body is unable to lose enough heat

ร่างกายจะไม่สามารถกำจัดความร้อนได้มากพอ

due to overexertion or high temperatures in humidity,

เนื่องจากการออกกำลังหนักเกินไป หรือเมื่ออากาศที่ร้อนและชื้น

which raises your core temperature beyond normal levels.

ซึ่งทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงเกินระดับปกติ

This causes the proteins and cell membranes to denature,

เป็นสาเหตุให้โปรตีน และเยื่อหุ้มเซลล์ต่างๆ เสื่อมสภาพ

creating cells that no longer function properly

จนเซลล์ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ

and begin to leak their contents.

และของเหลวในเซลล์เริ่มรั่วออกมา

If these leaky cells proliferate through the body,

ถ้าเซลล์เกิดปัญหาแบบนี้จนทั่วทั้งร่างกาย

the results can be devastating.

ผลเสียจะใหญ่หลวงมาก

Including liver damage, blood clot formation in the kidneys,

เช่น ตับได้รับความเสียหาย เกิดลิ่มเลือดในไต

damage to the gastrointestinal tract and even the failure of vital organs.

ทางเดินอาหารได้รับความเสียหาย หรือแม้แต่อวัยวะสำคัญทำงานล้มเหลว

So how do you diagnose an exertional heat stroke?

เราจะวินิจฉัยภาวะโรคลมแดด จากการออกกำลังหนักได้อย่างไร

The main criterion is a core body temperature greater than 40 degrees Celsius

ข้อบ่งชี้หลัก คือ อุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส

observed along with physical symptoms

ร่วมกับการตรวจพบอาการทางร่างกาย

such as increased heart rate, low blood pressure and rapid breathing

เช่น หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตต่ำลง และการหายใจเร็วกว่าปกติ

or signs of central nervous system disfunction

หรือ พบการทำงานผิดปกติ ของระบบประสาทส่วนกลาง

such as confused behavior, aggression or loss of consciousness.

เช่น อาการสับสน ก้าวร้าว หรือ หมดสติ

The most feasible and accurate way to assess core body temperature

วิธีการวัดอุณหภูมิร่างกายที่เหมาะสม และแม่นยำที่สุด

is with a rectal thermometer

คือ การใช้ปรอทวัดอุณหภูมิทางทวารหนัก

as other common temperature-taking methods are not accurate in these circumstances.

เพราะในกรณีนี้ ถ้าวัดด้วยวิธีอื่นจะไม่แม่นยำพอ

As far as treatment goes,

ระหว่างการปฐมพยาบาล

the most important thing to remember is cool first, transport second.

จำไว้ว่าสิ่งสำคัญที่สุด คือ ลดอุณหภูมิก่อน เคลื่อนย้ายผู้ป่วยทีหลัง

Because the human body can withstand a core temperature above 40 degrees Celsius

เพราะร่างกายมนุษย์สามารถทนความร้อน ที่เกิน 40 องศาเซลเซียส

for about 30 minutes before cell damage sets in,

ได้เพียงประมาณ 30 นาที ก่อนเซลล์จะเริ่มถูกทำลาย

it's essential to initiate rapid cooling on site

การลดอุณหภูมิร่างกาย ณ ที่เกิดเหตุ จึงสำคัญมาก

in order to lower it as quickly as possible.

เพื่อให้อุณหภูมิร่างกายลดลงเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

After any athletic or protective gear has been removed from the victim,

หลังจากถอดเครื่องป้องกัน หรืออุปกรณ์กีฬาของผู้ป่วยออก

place them in an ice water tub while stirring the water

นำผู้ปวยไปแช่ในอ่างน้ำใส่น้ำแข็ง ขณะที่กวนน้ำในอ่างไปด้วย

and monitoring vitals continuously.

และวัดสัญญาณชีพอย่างต่อเนื่อง

If this is not possible,

ถ้าเกิดไม่สามารถทำแบบนี้ได้

dousing in ice water and applying wet towels over the entire body can help.

ใช้ผ้าเปียกชุบน้ำเย็น โปะให้ทั่วร่างกายก็สามารถช่วยได้

But before you start anything, emergency services should be called.

แต่ก่อนจะลงมือช่วยผู้ป่วย ควรเรียกรถฉุกเฉินก่อน

As you wait, it's important to keep the victim calm

ขณะที่คุณรอ มันสำคัญที่จะทำให้ผู้ป่วยอยู่ในความสงบ

while cooling as much surface area as possible

ในขณะที่พยายามลดอุณหภูมิบนผิว ของผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด

until emergency personnel arrive.

จนกระทั่งรถพยาบาลมา

If medical staff are available on site, cooling should continue

ถ้ามีทีมพยาบาลอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว การลดอุณภูมิร่างกายควรทำต่อไป

until a core temperature of 38.9 degrees Celsius is reached.

จนกว่าอุณหภูมิจะลดลง จนเหลือ 38.9 องศาเซลเซียส

The sun is known for giving life,

เป็นที่รู้กันว่าดวงอาทิตย์มอบชีวิตให้แก่เรา

but it can also take life away if we're not careful,

แต่มันก็พรากชีวิตไปได้เช่นกัน ถ้าเราไม่ระวัง

even affecting the strongest among us.

แม้แต่ในคนที่แข็งแรงที่สุดก็ตาม

As Dr. JJ Levick wrote of exertional heat stroke in 1859,

ดังที่ นายแพทย์ เจเจ เลวิค เขียนเกี่ยวกับ โรคลมแดดจากการออกกำลังหนัก ในปี ค.ศ.1859

"It strikes down its victim with his full armor on.

"มันคร่าชีวิตเหยื่อของมัน แม้เขาจะสวมเกราะเต็มตัว

Youth, health and strength oppose no obstacle to its power."

ความหนุ่มสาว สุขภาพสมบูรณ์ ร่างกายแข็งแรง ไม่เป็นอุปสรรคต่อความร้ายกาจของมัน"

But although this condition is one of the top three leading causes of death in sports,

แม้ว่าภาวะนี้จะเป็นหนึ่งในสามสาเหตุสำคัญ ของการเสียชีวิตในนักกีฬา

it has been 100% survivable with proper care.

แต่ก็มีโอกาสรอด 100% ถ้าได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม