The most successful pirate of all time - Dian Murray

Translator: Vera Chicharito Reviewer: Sritala Dhanasarnsombut

At the height of their power,

ณ จุดสูงสุดแห่งอำนาจ

infamous Caribbean pirates like Blackbeard and Henry Morgan

โจรสลัดจอมโฉดแห่งแคริบเบียน อย่าง โจรสลัดเคราดำ และเฮนรี มอร์แกน

commanded as many as ten ships and several hundred men.

ที่บัญชาการเรือมากถึง 10 ลำ พร้อมทั้งลูกเรือหลายร้อยชีวิต

But their stories pale next to the most successful pirate of all time.

ทว่าเรื่องราวโจรสลัดเหล่านี้ยังต้องหลีก ให้กับโจรสลัดผู้ประสบความสำเร็จสูงสุด

Madame Zheng commanded 1800 vessels,

"ฮูหยินเจิ้ง" บัญชาการเรือถึง 1,800 ลำ

made enemies of several empires,

สร้างศัตรูไปทั่ว ทุกสารทิศ

and still lived to old age.

และมีชีวิตอยู่ตราบจนวัยชรา

Madame Zheng began her life as a commoner

ฮูหยินเจิ้งเริ่มต้นชีวิตเช่นสามัญชนทั่วไป

working on one of the many floating brothels, or flower boats,

ทำงานใน "หอคณิกากลางน้ำ" หรือ "เรือมวลบุปผา" แห่งหนึ่ง

in the port city of Guangzhou.

ณ ท่าเรือนครกว่างโจว

By 1801, she had attracted the attention

เมื่อปี ค.ศ. 1801 เธอเป็นที่ต้องตาต้องใจ กัปตันโจรสลัดท้องถิ่นผู้หนึ่ง

of a local pirate captain named Zheng Yi, and the two soon married.

นาม "เจิ้ง อี" และได้ครองคู่กันในเวลาต่อมา

Guangzhou’s fishermen had long engaged in small-scale piracy

ชาวประมงนครกว่างโจวมีส่วนเกี่ยวข้องใน การปล้นสะดมทางทะเลระดับย่อมมานานแล้ว

to supplement their meager incomes in the offseason.

เพื่อเป็นหารายได้เสริมจากงาน รายได้น้อยนิดช่วงนอกฤดูกาลจับปลา

But a successful peasant uprising in neighboring Vietnam

ทว่าความสำเร็จจากการลุกฮือของชาวนา ในเวียดนาม ประเทศเพื่อนบ้าน

at the end of the 18th century had raised the stakes.

เมื่อปลายศตวรรษที่ 18 รังแต่จะเพิ่มความเสี่ยงยิ่งขึ้น

The victorious Tây Sơn rebels had unified their country

เหล่าผู้นำการปฏิวัติเตย เชอน (Tây Sơn) ได้รวบรวมประเทศให้เป็นปึกแผ่น

only to face a Chinese invasion

เพียงเพื่อจะมาผจญกับการรุกรานของจีน

and ongoing maritime battles with the Vietnamese rulers they had overthrown.

และการสู้รบทางน้ำอย่างเนืองนิจกับบรรดา ผู้ปกครองเวียดนามที่พวกเขาถอดจากอำนาจ

So they commissioned Guangzhou’s pirates to raid the coast

ฉะนั้น กลุ่มผู้นำการปฏิวัติจึงให้ โจรสลัดกว่างโจวยกพลขึ้นบก

and join the fight against their enemies.

และเข้าร่วมการรบกำจัดศัตรูของพวกเขา

Serving their Vietnamese patrons turned the Zhengs and other pirates

การรับใช้ผู้อุปถัมภ์เวียดนาม ได้แปรเปลี่ยนเจิ้งพร้อมทั้งโจรสลัดทั้งหลาย

from ragtag gangs aboard single vessels

จากแก๊งค์ไร้ระเบียบบนเรือลำเดียว

into professional privateer fleets

ให้กลายเป็นกองเรือจอมสลัดหลวง เชี่ยวชาญการศึก

with dozens of ships able to hold their own at sea.

พร้อมด้วยเรือเป็นสิบ ๆ ที่สามารถ แล่นเป็นอิสระในน่านน้ำ

In 1802, the Tây Sơn were overthrown

ครั้นปี ค.ศ. 1802 กลุ่มเตย เชอน ก็ถูกขจัดไปจนสิ้นซาก

and the pirates lost their safe harbor in Vietnam.

และเหล่าลูกสมุนที่สูญเสียท่าเรือที่มั่น อันปลอดภัยในเวียดนาม

But instead of scattering,

ทว่า แทนที่จะแตกไปคนละทิศ

the Zhengs met the crisis by uniting the rival Cantonese pirate groups

พวกเจิ้งกลับเผชิญหน้าวิกฤติด้วยการจับมือ กับคู่แข่งอย่างกลุ่มโจรสลัดกวางตุ้ง

into a formidable alliance.

ให้เป็นกลุ่มพันธมิตรอันแข็งแกร่ง

At its height, the confederation included 70,000 sailors

ณ จุดรุ่งโรจน์ถึงขีดสุด สมาพันธ์จอมสลัด ประกอบด้วยลูกเรือเจ็ดหมื่นชีวิต

with 800 large junks

พร้อมด้วยเรือสำเภาขนาดใหญ่ 800 ลำ

and nearly 1,000 smaller vessels.

และเรือลำเล็กอีกเรือนพัน

Those were organized into six fleets marked by different colored flags.

ทั้งหมดถูกจัดแบ่งออกเป็น 6 กองเรือ ด้วยสีธงแตกต่างกันไป

The Zhengs were unlike many other historically-known privateers,

พวกเจิ้งนั้นต่างจากจอมสลัดหลวง ที่มีชื่อจารึกในประวัติศาสตร์คนอื่น ๆ

such as Henry Morgan or Barbarossa,

เช่น เฮนรี มอร์แกน หรือบาบารอสซา

who acted on behalf of various naval powers.

ผู้กระทำการในนามมหาอำนาจทางทะเล หลาย ๆ พรรคพวก

Instead, the Zhengs were now true outlaws,

ครานี้ พวกเจิ้งได้กลายเป็น บุคคลนอกกฎหมายโดยแท้จริง

operating without support or approval from any government.

ที่ดำเนินการโดยปราศจาก การสนับสนุนหรือการรับรองจากรัฐบาลใด

Zheng Yi met an untimely end in 1807,

เจิ้งอีพบกับจุดจบก่อนวัยอันควร เมื่อปี ค.ศ. 1807

but his widow didn’t hesitate to secure their gains.

หากแต่ภรรยาหม้ายหาได้ลังเล ที่จะรักษาผลประโยชน์ที่พวกเขาได้มาไม่

Through skillful diplomacy,

ด้วยวิธีทางการทูตอันชาญฉลาด

Madame Zheng took charge of the confederation,

ฮูหยินเจิ้งรับหน้าที่ หัวเรือใหญ่สมาพันธ์จอมสลัด

convincing the captains that their best interests lay in continued collaboration.

จูงใจเหล่ากัปตันว่าผลประโยชน์ที่ดีที่สุด สำหรับทุกฝ่ายคือการร่วมมือกันต่อไป

Meanwhile, she appointed Zhang Bao, the young protege of her late husband,

ระหว่างนั้นเอง เธอก็แต่งตั้ง "จางเป่า" เด็กหนุ่มในปกครองของสามีผู้ล่วงลับ

as the commander of her most powerful squadron, the Red Flag Fleet.

ให้เป็นผู้บัญชาการ "กองเรือธงแดง" กองเรืออันทรงพลานุภาพที่สุดของเธอ

Zhang became not only her right-hand man, but her lover and, soon, her new husband.

จางไม่เพียงได้เป็นมือขวาของเธอเท่านั้น แต่ยังเป็นคนรักและสามีใหม่ในเวลาต่อมา

Madame Zheng consolidated her power through strict military discipline

ฮูหยินเจิ้งได้รวบอำนาจของเธอให้มั่นคง ผ่านวินัยทางทหารอันเข้มงวด

combined with a surprisingly progressive code of laws.

ประกอบกับตัวบทกฎหมายที่ ล้ำหน้าอย่างเหลือเชื่อ

Female captives were theoretically protected from sexual assault,

เชลยหญิงที่ถูกจับจะได้รับการคุ้มครอง จากการข่มขืนโดยนิตินัย

and while pirates could take them as wives,

แม้พวกโจรสลัด จะสามารถรับพวกเธอมาเป็นภรรยาได้

mistreatment or infidelity towards them was punishable by death.

แต่หากปฏิบัติต่อพวกเธออย่างทารุณ หรือไม่ซื่อสัตย์ก็จะถูกลงโทษด้วยความตาย

Under Madame Zheng’s leadership,

ภายใต้ร่มการนำของฮูหยินเจิ้ง

the pirates greatly increased their power,

โจรสลัดทั้งหลายมีอำนาจเพิ่มมากมายล้นฟ้า

with 200 cannons and 1300 guns in the Red Flag Fleet alone.

ลำพังแค่กองเรือธงแดงก็ถือครอง ปืนใหญ่ถึง 200 ลำ และปืน 1,300 กระบอก

Within a few years, they destroyed 63 of Guangdong Province’s 135 military vessels,

ภายในเวลาไม่กี่ปี พวกเขาได้ถล่มเรือรบ ของ 63 หัวเมืองในกว่างตงไปถึง 135 ลำ

forcing their commanders to hire more than 30 private junks.

บีบให้แม่ทัพเจ้าของเรือต้องยอมเช่า เรือสำเภาส่วนบุคคลไปกว่า 30 ลำ

Madame Zheng was so feared that Chinese commanders charged with apprehending her

ฮูหยินเจิ้งเกรงว่าเหล่าแม่ทัพต้าชิง ที่รับหน้าที่ตามล่าตัวเธอ

spent most of their time ashore,

จะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่แต่ชายฝั่ง

sometimes sabotaging their own vessels to avoid battle at sea.

บางครั้งก็ถึงกับทำลายเรือของพวกตัวเสีย เพื่อหลีกเลี่ยงการสู้รบทางทะเล

With little to stop them,

น้อยคนนักที่ต่อกรกับโจรสลัดได้

the pirates were able to mount successful —and often brutal—

พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และบ่อยครั้ง

raids on garrisons, villages, and markets throughout the coast.

ที่บุกเข้าโจมตีป้อมปราการ หมู่บ้าน และตลาดตลอดแนวชายฝั่งอย่างโหดเหี้ยม

Using her administrative talents,

จากการใช้พรสวรรค์ในการบริหารของเธอ

Madame Zheng established financial offices in cities and villages,

ฮูหยินเจิ้งได้ก่อตั้งสถาบันทางการเงิน ขึ้นในเมืองและหมู่บ้าน

allowing her pirates to extract regular protection payments on land and sea alike.

ให้ลูกน้องเธอได้เรียกเก็บค่าคุ้มครอง ทั้งบนบกและทางทะเลก็เช่นกัน

This effectively created a state within a state

นี่เป็นการ "สร้างรัฐภายในรัฐ" อย่างมีประสิทธิภาพ

whose influence reached far beyond the South China Sea.

"รัฐ" ที่อิทธิพลได้แผ่ขยาย ไปไกลเกินกว่าทะเลจีนใต้

At the peak of her power,

ณ จุดเรืองอำนาจสูงสุดของเธอ

Madame Zheng’s confederation drove five American schooners

สมาพันธ์จอมสลัดของฮูหยินเจิ้ง ได้ตะเพิดเรืออเมริกันสคูนเนอร์ 5 ลำ

to safe harbor near Macao,

เตลิดไปถึงท่า อันปลอดภัยใกล้มาเก๊า

captured a Portuguese brig,

ยึดเรือใบสองเสาของโปรตุเกส

and blockaded a tribute mission from Thailand

และขัดขวางภารกิจส่งเครื่องบรรณาการ จากแดนสยาม

—all in a single day.

ทั้งหมดเพียงในวันเดียวเท่านั้น

But perhaps Madame Zheng’s greatest success lay in knowing when to quit.

ทว่า บางทีความสำเร็จสูงสุดของฮูหยินเจิ้ง อาจขึ้นอยู่กับ "รู้ว่าเวลาใดควรหยุด"

By 1810, increasing tension between the Red and Black Flag Fleets

พอปี ค.ศ. 1810 ความตึงเครียดระหว่าง กองเรือธงแดงและกองเรือธงดำก็เพิ่มขึ้น

weakened the confederation from within

บั่นทอนกำลังของสมาพันธ์จากภายใน

and rendered it more vulnerable to attack from without.

ทำให้สมาพันธ์ยิ่งเปราะบาง ง่ายต่อการโจมตีจากภายนอก

So, when the Chinese government, desperate to stop the raids,

ดังนั้น เมื่อทางการต้าชิงที่ปรารถนา จะหยุดการโจมตีอย่างแรงกล้า

offered amnesty in exchange for the pirates’ surrender,

ได้ยื่นข้อเสนอนิรโทษกรรม แลกกับ กับการยอมจำนนของโจรสลัด

Madame Zheng and Zhang Bao agreed, but only on their own terms.

ฮูหยินเจิ้งและจางเป่าตอบตกลง แต่ภายใต้เงื่อนไขของพวกเขาเท่านั้น

Their confederation was successfully and peacefully dismantled in April 1810,

สมาพันธ์จอมสลัดได้ยุติลงด้วยดี และเป็นผลสำเร็จในเดือนเมษายน ค.ศ. 1810

while Zhang Bao was allowed to retain 120 junks for personal use

โดยที่จางเป่าได้รับอนุญาตให้ครอบครองเรือ สำเภา 120 ลำต่อไปเพื่อใช้เป็นการส่วนตัว

and became an officer in the Chinese navy.

และมีตำแหน่งเป็นขุนนาง ในกองทัพเรือต้าชิง

Now fighting pirates himself,

ด้วยฝีมือการสู้รบกับพวกโจรสลัด

Zhang Bao quickly rose through the ranks of military command,

จางเป่าได้เลื่อนตำแหน่งบัญชาการ ทางทหารขึ้นอย่างรวดเร็ว

and Madame Zheng enjoyed all the privileges of her husband’s status.

ส่วนฮูหยินเจิ้งก็มีความสุขกับเอกสิทธิ์ ทั้งมวลที่มาจากตำแหน่งของผู้เป็นสามี

After Zhang Bao died in 1822,

หลังการจากไปของจางเป่าในปี ค.ศ. 1822

Madame Zheng returned with their eleven-year-old son to Guangzhou,

ฮูหยินเจิ้งก็หวนคืนสู่นครกว่างโจว พร้อมบุตรชายวัยสิบเอ็ดปี

where she opened a gambling house and quietly lived off the proceeds.

ที่ที่เธอเปิดสถานการพนัน และดำเนินชีวิตต่อไปอย่างสงบเงียบ

She died at the age of 69—an uncommonly peaceful end to a pirate’s life.

เธอถึงแก่กรรมสิริอายุได้ 69 ปี จุดจบที่สุขสงบยากจะพบในชีวิตโจรสลัดคนหนึ่ง