20 English Idioms With Meanings And Examples

The English language is strange, breaking  a leg or getting knocked out is something  

ภาษาอังกฤษนั้นแปลก การหักขาหรือการล้มลงเป็นสิ่ง

most of us want to avoid, but  we use positive phrases like  

ที่พวกเราส่วนใหญ่ต้องการหลีกเลี่ยง แต่เราใช้วลีเชิงบวก เช่น

‘break a leg’ and ‘knock yourself out’  - and these are positive instructions.

'break a leg' และ 'knock yourself out' และนี่คือคำแนะนำในเชิงบวก

Are you confused?

คุณสับสนไหม?

In today’s lesson I am going to cover 20 funny and  

ในบทเรียนวันนี้ ฉันจะพูดถึง 20

weirdly wonderful English phrases that  are commonly used in everyday English.

วลีภาษาอังกฤษที่ตลกและแปลกประหลาดที่ใช้กันทั่วไปในภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน

You can download the lesson notes and worksheet by  

คุณสามารถดาวน์โหลดบันทึกบทเรียนและใบงานได้โดย

clicking on the link below  and entering your details.

คลิกที่ลิงค์ด้านล่างและป้อนรายละเอียดของคุณ

So, let’s get started.

มาเริ่มกันเลย

The first phrase is “hold your horses.”

วลีแรกคือ "จับม้าของคุณไว้"

This phrase means ‘wait a moment’ or ‘calm down’.

วลีนี้หมายถึง 'รอสักครู่' หรือ 'สงบสติอารมณ์'

“I know you’re hungry but hold  your horses, I haven't finished  

“ฉันรู้ว่าคุณหิว แต่จับม้าของคุณไว้ ฉันยังทำอาหารไม่เสร็จ

dishing up yet, and you need to wash your hands.”

และคุณต้องล้างมือ”

“The best thing since sliced bread.”

“สิ่งที่ดีที่สุดตั้งแต่ขนมปังหั่นบาง ๆ”

This phrase means that something  is very good or innovative.

วลีนี้หมายความว่าสิ่งที่ดีมากหรือนวัตกรรม

“This new toaster is the best  thing since sliced bread,  

“เครื่องปิ้งขนมปังรุ่นใหม่นี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดตั้งแต่ขนมปังที่หั่น

it makes perfect toast and can  even boil an egg at the same time.”

เป็นชิ้น ทำให้ขนมปังปิ้งสมบูรณ์แบบและยังสามารถต้มไข่ได้ในเวลาเดียวกัน”

Next, we have “elephant in the room.”

ต่อไปเรามี "ช้างอยู่ในห้อง"

This phrase refers to a problem or issue that  everyone is aware of but no one is discussing.

วลีนี้หมายถึงปัญหาหรือปัญหาที่ทุกคนทราบแต่ไม่มีใครพูดถึง

Everyone is simply ignoring it or not  talking about the most obvious thing.

ทุกคนเพียงแค่เพิกเฉยหรือไม่พูดถึงสิ่งที่ชัดเจนที่สุด

- Hi Sarah.

- สวัสดีซาร่าห์

- Hi.

- สวัสดี.

- Ermmm, so I… Is everything ok?

- เอิ่มม งั้นฉัน… ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม?

- Yes, yes fine… I just wondered…

- ใช่ ไม่เป็นไร… ฉันแค่สงสัย…

- What?

- อะไรนะ?

- I just wondered whether you had  read this letter from Mr Green?

- ฉันแค่สงสัยว่าคุณได้อ่านจดหมายฉบับนี้จากคุณกรีนหรือเปล่า?

- No, no I haven’t.

- ไม่ ไม่ ฉันไม่ได้

- Ok…errmmm, can we just address the  elephant in the room for a minute, please?

- ตกลง…เอิ่มมม เราขอคุยกับช้างในห้องสักครู่ได้ไหม

Why are you wearing a blue  T-shirt on your head to work?”

ทำไมคุณถึงสวมเสื้อยืดสีน้ำเงินบนหัวไปทำงาน”

- Oh, this. Sorry,  

- โอ้นี่ ขอโทษนะ

I should have said when I came in… I had a  little accident with the nose hair trimmers…

ฉันควรจะบอกตอนที่ฉันเข้ามา… ฉันประสบอุบัติเหตุนิดหน่อยกับที่กันจอนขนจมูก…

Next is “couch potato.”

ถัดไปคือ “โซฟามันฝรั่ง”

This phrase refers to someone  who is lazy and spends a lot  

วลีนี้หมายถึงคนที่ขี้เกียจและใช้เวลาส่วนใหญ่

of time sitting on the couch watching TV.

ไปกับการนั่งดูทีวีบนโซฟา

“I used to be a couch potato,  

"ฉันเคยเป็นมันฝรั่งที่นอน

but then I got up and realised there was  a whole world outside my living room.”

แต่แล้วฉันก็ตื่นขึ้นมาและรู้ว่ามีโลกทั้งใบอยู่นอกห้องนั่งเล่นของฉัน"

“Go bananas” or “Go nuts.”

“กินกล้วย” หรือ “กินถั่ว”

This phrase means to become very excited or  angry and to let loose, release all your energy.

วลีนี้หมายถึงการตื่นเต้นหรือโกรธมาก และปล่อยวาง ปลดปล่อยพลังงานทั้งหมดของคุณ

“I’ve been on hold for 25 minutes.  

“ฉันถูกระงับเป็นเวลา 25 นาที

I’m going to go bananas if they don’t pick  up soon (disconnect tone). They cut me off.”

ฉันจะไปกล้วยถ้าพวกเขาไม่มารับเร็ว ๆ นี้ (เสียงตัดการเชื่อมต่อ) พวกเขาตัดฉันออก”

“Knock yourself out.”

“เคาะตัวเองออก”

Now ‘knock out’ can mean to be made unconscious,  usually through an impact like a punch.

ตอนนี้ 'น็อกเอาต์' อาจหมายถึงการหมดสติ โดยปกติจะผ่านการกระแทกเช่นหมัด

“A boxer knocks out his opponent.”

“นักมวยทำให้คู่ต่อสู้น็อกเอาต์”

But if I tell you to knock yourself out  it means ‘go ahead’ or ‘do as you please’.

แต่ถ้าฉันบอกคุณว่าให้เอาชนะตัวเอง มันหมายถึง 'ไปข้างหน้า' หรือ 'ทำตามที่คุณต้องการ'

- Can I have some more pizza?

- ฉันขอพิซซ่าเพิ่มได้ไหม

- Yeah, knock yourself out.

- ใช่ เคาะตัวเองออก

“I've got a bone to pick with you.”

“ฉันมีกระดูกที่ต้องเลือกกับคุณ”

This phrase means ‘I have a problem or an  issue that I need to discuss with you’.

วลีนี้หมายถึง 'ฉันมีปัญหาหรือเรื่องที่ต้องปรึกษากับคุณ'

It often suggests that you  are in some sort of trouble.

มักบ่งบอกว่าคุณกำลังมีปัญหาบางอย่าง

“Annabelle come here,  

“แอนนาเบลล์ มานี่

I’ve got a bone to pick with you. You ate the  last of the ice cream and didn't save me any.”

สิ ฉันมีกระดูกให้นายเลือก คุณกินไอศกรีมชิ้นสุดท้ายและไม่ได้ช่วยอะไรฉันเลย”

“Don't give up your day job.”

“อย่าละทิ้งงานประจำวันของคุณ”

This phrase is used to tell someone that  they are not very good at something.

วลีนี้ใช้เพื่อบอกใครบางคนว่าพวกเขาไม่เก่งในบางสิ่ง

Be careful with this one as it  may upset the listener to hear it.

ระวังด้วยสิ่งนี้เพราะอาจทำให้ผู้ฟังไม่พอใจ

- I love singing in the shower.

- ฉันชอบร้องเพลงตอนอาบน้ำ

- Yeah, I heard you wailing  in the shower this morning.

- ใช่ ฉันได้ยินเธอร้องไห้ตอนอาบน้ำเมื่อเช้านี้

- Oh, sorry was I a bit loud?

- โอ้ขอโทษที่ฉันดังไปหน่อย?

- Just don’t give up your day job.

- อย่าละทิ้งงานประจำวันของคุณ

“Pardon my French.”

“ขออภัยภาษาฝรั่งเศสของฉัน”

This phrase is used as an  apology for using a swear word.

วลีนี้ใช้เป็นคำขอโทษที่ใช้คำสบถ

“Sorry, I’m late, the traffic  was a real pain in the a**.

“ขอโทษ ฉันมาสาย การจราจรติดขัดมากใน**

Oh, pardon my French.”

โอ้ ขออภัยภาษาฝรั่งเศสของฉัน”

“Put a sock in it.”

“ใส่ถุงเท้าเข้าไป”

If you tell someone to put a sock in it then  you are asking them to be quiet or stop talking.

ถ้าคุณบอกให้ใครใส่ถุงเท้า แสดงว่าคุณกำลังขอให้เขาเงียบหรือหยุดพูด

It shouldn’t be used in formal situations.

ไม่ควรใช้ในสถานการณ์ที่เป็นทางการ

“Can you put a sock in it?

“ใส่ถุงเท้าได้ไหม?

I'm trying to watch this movie.”

ฉันกำลังพยายามดูหนังเรื่องนี้อยู่”

“Lights are on but no one's home.”

“ไฟเปิดแต่ไม่มีใครอยู่บ้าน”

This phrase means someone is not paying  attention or they're not fully present.

วลีนี้หมายถึงบางคนไม่ให้ความสนใจหรือไม่ได้อยู่ครบ

“I keep trying to explain to  my teenage boy that he needs  

“ฉันพยายามอธิบายกับลูกชายวัยรุ่นของฉันเสมอว่าเขาต้อง

to put his laundry into the laundry  basket if he wants me to wash it,  

ใส่ผ้าลงในตะกร้าซักผ้าหากต้องการให้ฉันซัก

but it’s pointless, it’s like the  lights are on but no one's home.”

แต่ก็ไม่มีประโยชน์ เหมือนเปิดไฟแต่ไม่มีใครอยู่บ้าน”

“Drink like a fish.”

“ดื่มเหมือนปลา”

This phrase means to drink a lot of alcohol.

วลีนี้หมายถึงการดื่มแอลกอฮอล์มาก ๆ

“I imagine that his liver is very unhappy, he has  a terrible diet and always drinks like a fish.”

“ฉันคิดว่าตับของเขาไม่มีความสุขมาก เขาทานอาหารที่แย่มากและมักจะดื่มเหมือนปลา”

Next, we have “Break a leg.”

ต่อไปเรามี "หักขา"

And this phrase is used as a way  of wishing someone good luck,  

และวลีนี้ใช้เพื่ออวยพรให้ใครสักคนโชคดี

especially before a performance.

โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนการแสดง

“Oh, I’ll be in the front row watching you on  stage. Break a leg, you're going to be great.”

“โอ้ ฉันจะอยู่แถวหน้าเพื่อเฝ้าดูคุณบนเวที หักขาคุณจะดีมาก”

“Not playing with a full deck.”

“ไม่เล่นสำรับเต็ม”

This phrase means that someone is  not quite sane or not very smart.

วลีนี้หมายความว่าคนที่ไม่ค่อยมีสติหรือไม่ฉลาดมาก

“We should speak to the doctor about Dad. I  don’t think he's playing with a full deck,  

“เราควรคุยกับหมอเรื่องพ่อ ฉันไม่คิดว่าเขาเล่นเต็มสำรับ

he just tried to put his shoes on his hands.”

เขาแค่พยายามวางรองเท้าไว้บนมือ”

“Keep your eyes peeled.”

“พักสายตาไว้”

This phrase means to be alert and  watchful, to look out for something.

วลีนี้หมายถึงการตื่นตัวและระแวดระวังระวังบางสิ่งบางอย่าง

“Right keep your eyes peeled, we're  looking for the perfect picnic spot.”

“เอาล่ะ จับตาดูให้ดี เรากำลังมองหาจุดปิกนิกที่สมบูรณ์แบบ”

“Keep your shirt on.”

“เก็บเสื้อของคุณไว้”

This phrase means to stay calm and  not get too excited, in an angry way.

วลีนี้หมายถึงการสงบสติอารมณ์และไม่ตื่นเต้นมากเกินไปในทางที่โกรธ

- Oh, I am very angry!

- โอ้ฉันโกรธมาก!

- Keep your shirt on, there's no need to shout.

- สวมเสื้อของคุณไว้ ไม่จำเป็นต้องตะโกน

“I'll show myself out.”

“ฉันจะแสดงเอง”

This phrase means to leave a place without waiting  for someone to show you the way or saying goodbye.

วลีนี้หมายถึงการออกจากสถานที่โดยไม่รอให้ใครมาชี้ทางหรือบอกลา

“I’ll just see myself out. Don't worry about me.”

“ฉันแค่จะดูตัวเองออก ไม่ต้องห่วงฉัน”

“I’m sorry to say that you've run  out of cake, it was delicious.  

“ฉันขอโทษที่บอกว่าเค้กคุณหมด มันอร่อยมาก

Erm, I will show myself out, shall  I? Sorry, for eating all your cake.”

เอิ่ม ฉันจะแสดงตัวออกมาใช่ไหม ขอโทษที่กินเค้กของคุณหมด”

“Up to my eyeballs in something.”

“ขึ้นอยู่กับลูกตาของฉันในบางสิ่ง”

This phrase means to be extremely  busy or overwhelmed with tasks.

วลีนี้หมายถึงยุ่งมากหรือมีงานล้นมือ

“I'm up to my eyeballs in work. I am  practically swimming in paperwork.”

“ฉันขึ้นอยู่กับดวงตาของฉันในการทำงาน ฉันกำลังว่ายน้ำอยู่กับงานเอกสาร”

“Fly off the handle.”

“บินออกจากที่จับ”

This phrase means to lose your temper  or become very angry very quickly.

วลีนี้หมายถึงอารมณ์เสียหรือโกรธเร็วมาก

“She flew off the handle when I told  her I’d eaten the last of her bananas,  

“เธอบินออกจากด้ามจับเมื่อฉันบอกเธอว่าฉันกินกล้วยชิ้นสุดท้ายของเธอ

I didn't know they were her special bananas.”

ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นกล้วยชนิดพิเศษของเธอ”

“Cheesed off.”

“ชีสออก.”

I love this phrase.

ฉันรักวลีนี้

“Cheesed off.”

“ชีสออก.”

This phrase means to be annoyed or irritated.

คำนี้มีความหมายว่า รำคาญหรือฉุนเฉียว

Like you're sniffing cheese.

เหมือนคุณกำลังดมชีส

“I'm really cheesed off. They cancelled the  concert and I was really looking forward to it.”

“ฉันชีสออกจริงๆ พวกเขายกเลิกคอนเสิร์ตและฉันก็ตั้งหน้าตั้งตารอจริงๆ”

“Eat someone or something for breakfast.”

“กินใครหรืออะไรเป็นอาหารเช้า”

This phrase means to easily defeat  or overpower someone or something.

วลีนี้หมายถึงการเอาชนะหรือเอาชนะบางคนหรือบางสิ่งได้อย่างง่ายดาย

There’s a very funny line  in the film “Happy Gilmore”  

มีประโยคที่ตลกมากในภาพยนตร์เรื่อง "Happy Gilmore"

where the bully says to the main character Happy  

ที่ผู้รังแกพูดกับตัวละครหลัก Happy

“I eat pieces of S*** like you for breakfast.”  and Happy replies, “You eat sh** for breakfast?”

ว่า "ฉันกินชิ้นส่วนของ S*** อย่างคุณเป็นอาหารเช้า" และตอบกลับอย่างมีความสุขว่า “คุณกิน sh** เป็นอาหารเช้าไหม”

“You better study for your Algebra test tomorrow.”

“คุณควรศึกษาสำหรับการทดสอบพีชคณิตของคุณในวันพรุ่งนี้ดีกว่า”

“Yeah, Algebra-smalgebra, I  eat Algebra for breakfast.”

“ใช่ Algebra-smalgebra ฉันกิน Algebra เป็นอาหารเช้า”

Next, we shall hear these idioms  in the context of a conversation.

ต่อไป เราจะได้ยินสำนวนเหล่านี้ในบริบทของการสนทนา

Idioms are important to learn if you  are hoping to become fluent in English,  

สำนวนเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเรียนรู้หากคุณหวังว่าจะเก่งภาษาอังกฤษ

as native speakers use them regularly.

เพราะเจ้าของภาษาใช้เป็นประจำ

And if fluency is a real goal for you then you  should register for my free fluency masterclass.

และถ้าความคล่องแคล่วเป็นเป้าหมายที่แท้จริงสำหรับคุณ คุณควรลงทะเบียนสำหรับมาสเตอร์คลาสความคล่องแคล่วของฉันฟรี

I've put a link in the description below.

ฉันได้ใส่ลิงค์ในคำอธิบายด้านล่าง

- How are things with your mum and Derek?

- แม่กับเดเร็กเป็นอย่างไรบ้าง?

- Hold your horses, I need a  cuppa before I talk about him.

- ขี่ม้าของคุณ ฉันต้องการคัปป้าก่อนที่จะพูดถึงเขา

- Oh, what about a coffee instead.  I have a new coffee machine and  

- โอ้แล้วกาแฟแทนล่ะ ฉันมีเครื่องชงกาแฟเครื่องใหม่ และ

it is the best thing since sliced  bread, does a gorgeous cappuccino.

มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดตั้งแต่ขนมปังหั่นบาง ๆ และทำคาปูชิโน่ที่สวยงาม

- “So, how's things with you and your bloke?”

- “แล้วคุณกับคนรักเป็นไงบ้าง”

- Well he’s getting on my nerves to be honest.  He’s become a bit of a couch potato these past  

- เขากวนประสาทฉันพูดตามตรง ในช่วง ไม่กี่เดือน ที่ผ่านมาเขากลายเป็นมันฝรั่งที่นอน

few months. He's just been lounging around  the house watching telly all the time.

เขาแค่นอนเล่นในบ้านดูทีวีตลอดเวลา

- Oh, Really!?

- โอ้จริงเหรอ!?

- Do you mind…can we talk  about the elephant in the room?

- คุณว่าอะไรนะ…เราขอคุยเรื่องช้างในห้องได้ไหม?

- “Huh?”

- “ฮะ?”

- Julie, come on, you aren’t hiding it  very well. You’re pregnant aren’t you?

- จูลี่ เอาเถอะ เธอซ่อนมันได้ไม่ดีนัก คุณกำลังตั้งครรภ์ใช่ไหม

- Is it really that obvious?

- มันชัดเจนขนาดนั้นจริงเหรอ?

- Ah, so you are pregnant. That’s so exciting.

- อ่าคุณกำลังตั้งครรภ์ นั่นเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก

- Ok, please don’t go bananas about  it. I’ve not got my head around it yet.  

- ตกลงโปรดอย่าไปกล้วยกับมัน ฉันยังไม่ได้คิดอะไรเลย

I’m sorry I didn’t tell you, it’s been driving  me up the wall keeping it a secret from you.

ฉันขอโทษที่ไม่ได้บอกคุณ มันกำลังผลักฉันขึ้นไปบนกำแพง ทำให้เป็นความลับจากคุณ

- I bet. Oh, do you mind if I  put some more milk in my coffee?

- ฉันพนันว่า. โอ้ คุณจะว่าอะไรไหมถ้าฉันจะใส่นมเพิ่มในกาแฟ

- Oh, knock yourself out.

- โอ้เคาะตัวเองออก

- I've got a bone to pick with you, remember I  asked you to keep the 3rd of March free so that  

- ฉันมีกระดูกต้องเลือกกับคุณ จำได้ไหมว่าฉันขอให้คุณปล่อยให้วันที่ 3 มีนาคมว่าง เพื่อ

we could do a spa day? Well, your mum told me that  you are now booked to go to Wales that weekend?”

เราจะได้ทำสปากัน แม่ของคุณบอกฉันว่าตอนนี้คุณถูกจองเพื่อไปเวลส์ในสุดสัปดาห์นั้น”

- Oh no I totally forgot about your  spa day, I’m so sorry. I’ll keep my  

- โอ้ ไม่ ฉันลืมวันสปาของคุณไปหมดแล้ว ฉันขอโทษจริงๆ ฉันจะคอย

eyes peeled for another spa deal, if you  like? Please don’t be cheesed off with me.

จับตาดูข้อตกลงสปาอื่น ๆ ถ้าคุณต้องการ? โปรดอย่ามายุ่งกับฉัน

- Don’t worry. So, what are  you planning to do in Wales?”

- ไม่ต้องกังวล. แล้วคุณวางแผนจะทำอะไรที่เวลส์”

- It’s actually my cousin’s hen do. I am dreading  it because she drinks like a fish and well,  

- มันเป็นแม่ไก่ของลูกพี่ลูกน้องของฉันจริงๆ ฉันกลัวเพราะเธอดื่มเหมือนปลาและ

I won’t be drinking at all. So, I think  I will most likely be looking after her.

ฉันก็จะไม่ดื่มเลย ดังนั้นฉันคิดว่าฉันน่าจะดูแลเธอมากที่สุด

- Your cousin Jane? Wow, yes she can be a handful,  well, break a leg. Who is she getting married to?

- ลูกพี่ลูกน้องของคุณเจน? ว้าว ใช่ เธอสามารถกำมือได้ ดี หักขา เธอจะแต่งงานกับใคร?

- Young Fred from the post office, you  know the guy… lights on but no one's  

- เฟร็ดหนุ่มจากที่ทำการไปรษณีย์ คุณรู้จักชายคนนั้น… เปิดไฟแต่ไม่มีใคร

home… Not sure if he’s playing with  a full deck… Do you know who I mean?

อยู่บ้าน… ไม่แน่ใจว่าเขาเล่นไพ่เต็มสำรับหรือเปล่า… คุณรู้ไหมว่าฉันหมายถึงใคร

- Oh, FRED! Holy sh**, pardon my French…  

- โอ้ เฟรด! โอ้โฮ** ขอโทษชาวฝรั่งเศสของฉัน…

He is such a pushover, your  cousin will eat him for breakfast.

เขาช่างใจร้อนเหลือเกิน ลูกพี่ลูกน้องของคุณจะกินเขาเป็นอาหารเช้า

- I know, it’s crazy but they are in love so…

- ฉันรู้ว่ามันบ้า แต่พวกเขารักกัน ดังนั้น...

- So, my mum and Derek.

- แม่ของฉันกับดีเร็ก

- Oh yes tell me.

- โอ้ใช่บอกฉัน

- So, we were at a restaurant last week and my  mum was humming along to a song that was playing  

- สัปดาห์ที่แล้วเราอยู่ที่ร้านอาหาร และแม่ของฉันกำลังฮัมเพลงคลอไปกับเพลงที่เล่น

in the background. Derek told mum to put a sock  in it, which I thought was a bit rude, but mum  

อยู่เบื้องหลัง เดเร็กบอกแม่ให้ใส่ถุงเท้า ซึ่งฉันคิดว่ามันหยาบคายนิดหน่อย แต่แม่

just laughed and said she loved singing, to which  Derek replied, “Well, don’t give up your day job”.

แค่หัวเราะและบอกว่าเธอชอบร้องเพลง ซึ่งเดเร็กตอบว่า “ก็ อย่าเลิกทำงานประจำวันของคุณ”

My mum flew off the handle, like screaming  and shouting at him in front of everyone.

แม่ของฉันบินออกจากที่จับเหมือนกรีดร้องและตะโกนใส่เขาต่อหน้าทุกคน

I told her to keep her shirt  on but she stormed off.

ฉันบอกให้เธอเก็บเสื้อไว้ แต่เธอก็เดินออกไป

Then I had a heart to heart with Derek  who explained that he’d been up to his  

จากนั้นฉันก็เปิดใจกับดีเร็กซึ่งอธิบายว่าเขาเคยเป็น

eyeballs in debt and really stressed out about it.

หนี้บุญคุณและเครียดกับเรื่องนี้มาก

Oh, it's all a bit of a mess really.

โอ้ มันค่อนข้างยุ่งเหยิงจริงๆ

- Oh no, that’s not good.

- โอ้ ไม่ นั่นไม่ดี

- Ahh is that the time. I’m sorry.  I’ve got to run, I’m late for work.

- อ่าถึงเวลาแล้ว ฉันขอโทษ. ฉันต้องวิ่ง ฉันไปทำงานสาย

I’ll show myself out.

ฉันจะแสดงตัวออกมา

I'll catch you later.

ฉันจะจับคุณในภายหลัง

Bye.

- See ya!

บาย.

- แล้วเจอกัน!

Now it’s your turn, comment below using  one of the idioms from today’s lesson,  

ตอนนี้เป็นตาของคุณแล้ว แสดงความคิดเห็นด้านล่างโดยใช้หนึ่งในสำนวนจากบทเรียนวันนี้

and boop the like button while you’re there.

และกดปุ่มถูกใจขณะที่คุณอยู่ที่นั่น

Until next time, take care and goodbye.

จนกว่าจะถึงครั้งต่อไป ดูแลและลาก่อน