EACH & EVERY | English Grammar Lesson

Well hey there I'm Emma from mmmEnglish!

สวัสดีค่ะ ฉัน ‘เอมมา’ จาก mmmEnglish

I'm here to answer each

วันนี้ฉันจะมาตอบคำถามแต่ละคำถาม

and every one of your questions today

และทุกคำถามที่ทุกคนส่งเข้ามา

so stay tuned!

รอชมกันนะคะ

So which one is it then? Each or every?

ว่าควรจะเลือกใช้คำไหนระหว่าง Each หรือ Every

It's pretty easy to confuse these two words.

มันง่ายมากที่จะสับสนระหว่าง 2 คำนี้

They look similar, they sound similar

เพราะความหมายและการใช้งานของมันก็คล้ายกันมาก

but they're not always used in the same way.

แต่มันก็ไม่ได้ใช้แทนกันได้ตลอดหรอกนะ

So in this lesson, we'll go over the subtle

ดังนั้นในบทเรียนวันนี้ เราจะอธิบายการใช้งานของ Each และ Every ที่เห็นในหัวเรื่อง

and important differences between these two words.

และที่สำคัญกว่านั้น เราจะอธิบายถึงความแตกต่างระหว่าง 2 คำนี้ด้วยค่ะ

We'll talk about the different situations

เอาล่ะ เราจะพูดถึงเหตุการณ์ที่แตกต่างกัน

where you would use one or the other

ที่จะทำให้คุณเห็นว่า คุณจะใช้คำไหน เมื่อไหร่

and of course, we'll practise a little bit together

และแน่นอน เราจะมีแบบฝึกหัดนิดหน่อย

later in the lesson.

ในช่วงท้ายของบทเรียนวันนี้

You know that I love to make my lessons for you

ฉันรักที่ได้ทำบทเรียนพวกนี้ให้คุณจัง

very practical so we'll get to that later on.

และบทเรียนพวกนี้มันเอาไปใช้ได้จริงด้วยนะ เอาล่ะเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า

Before we get started, a little reminder to

ก่อนอื่น ฉันของบอกคุณสักหน่อย

turn on the subtitles if you need to

คุณสามารถเปิดคำแปลในภาษาที่คุณต้องการได้นะ ถ้าคุณต้องการให้มัน

just down there.

ขึ้นด้านล่างของคลิปนี้

I write subtitles for every lesson on the

ฉันได้เขียนบทพูดในทุกบทเรียนจองฉันไว้แล้ว

mmmEnglish Channel so you can turn them on

ดังนั้นคุณสามารถเปิดใช้มันขึ้นมาได้

at any time.

ในทุกเมื่อ

And some of my amazing students here help me to

นอกจากนี้ ยังมีนักเรียนที่น่ารักของฉันได้ช่วยฉัน

translate these lessons into their own native language

แปลบทเรียนเป็นภาษาแม่ของพวกเค้าด้วย

so that more people can share and learn from them

นั่นจะช่วยเพิ่มความเข้าใจของผู้อื่นในเนื้อหาของบทเรียน เพื่อช่วยในการเรียนรู้ได้มากขึ้น

as well.

ด้วย

So if you're up for the challenge to add

และถ้าคุณอยากลองใส่

subtitles in your native language, there's a link

คำแปลเป็นภาษาแม่ของคุณเองบ้าง นี่ค่ะ link

in the description that will help you to do that.

ใน Description คุณสามารถเข้ามาแปลได้เมื่อเปิดมันขึ้นมาค่ะ

Your name's going to get shown in the description too

และแน่นอน ชื่อของคุณก็จะขึ้นใน Description ด้วย

as a thank you.

เป็นการแทนคำขอบคุณของฉัน

'Each' and 'every' can both be used with singular nouns.

ทั้ง Each และ Every สามารถใช้ได้กับนามเอกพจน์

All of these nouns are singular, right?

ทั้งหมดนี้มันคือนามเอกพจน์นะ

It's just one person or one thing.

หมายถึงคน 1 คน หรือของ 1 ชิ้น

So the words 'each' and 'every' can be used

ดังนั้น Each และ Every สามารถใช้ได้กับ นามเอกพจน์

with singular nouns that are part of a group

โดยนามเอกพจน์นั้นจะมองว่าเป็นกลุ่ม 1 กลุ่มก็ได้

but there is a subtle difference.

แต่มันก็มีความแตกต่างอยู่เล็กน้อย

When we use 'each', it emphasises or it puts more

คือ การใช้ Each เป็นการเน้น หรือเป็นการบอก

attention on the individual.

ถึงความเจาะจงของแต่ละ

The one person or the one thing.

บุคคล หรือของนั้นๆ

More than one person came to the dinner party.

เช่น คนมีคนมากกว่า 1 คนมาร่วมรับประทานอาหารเย็น

In fact, there was a whole group of people

ในความจริงคนเหล่านั้น สามารถถือเป็น 1 กลุ่มคนได้

who came to the dinner party.

ที่มาร่วมรับประทานอาหารเย็น

But each singular individual person bought a dish

แต่ แต่ละ (Each) คนที่มาร่วมงานนั้นนำอาหารมาด้วยคนละ 1 อย่าง

or a plate of food to share, right?

หรือจานที่มีอาการสำหรับแบ่งกัน

So he bought a dish,

ดังนั้น เขาก็นำอาหารมาก

she bought dessert,

เธอก็นำอาหารมา

she bought a salad,

เธอเอาสลัดมา

he bought some cheese and biscuits,

เขาเอาชีสกับขนมปังกรอบมา

right? So everyone has brought something.

เห็นไหม ทุก (Every) คนนำอาหารบางอย่างมา

Now let's compare this to 'every'.

ทีนี้เรามาดูความหมายของ Every บ้าง

'Every' refers to a group of individual objects

Every ใช้เมื่อเราต้องการกล่าวถึงกลุ่ม กลุ่มหนึ่ง

or people as one group altogether, right?

อาจจะเป็นคนหลายคนที่เรานับว่าอยู่ในกลุ่มกลุ่มเดียวกันก็ได้

The attention is on the group as a whole so

โดยความหมายจะเป็นในภาพรวม

So a group of people came to the dinner party

ดังนั้น กลุ่มคนที่มาร่วมงานเลี้ยงรับประทานอาหารเย็น

and all of these people brought a dish

และคนเหล่านี้ก็นำอาหารมาด้วย

but by using 'every', I'm putting emphasis on

แต่การใช้ Every เป็นการให้ความหมายในการกล่าวถึง

the group as a whole, right?

ในเชิงกลุ่มทั้งกลุ่ม

Everybody here bought a dish.

ทุก (Every) คนนำอาหารมาด้วย

Now in many situations, just like my example

ในหลายๆสถานการณ์ เหมือนในตัวอย่างของฉัน

about the dinner party, 'each' and 'every'

เกี่ยวกับงานเลี้ยงรับประทานอาหารเย็น Each และ Every

can be used interchangeably with just a

สามารถใช้แทนกันได้ แต่ก็มี

small difference in meaning, right?

ความแตกต่างในความหมายอยู่เล็กน้อย

You could use either of them and the difference is

คุณสามารถใช้คำไหนก็ได้ แต่ความแตกต่างมัน

very subtle.

เล็กน้อยมาก

But let's look at a few more examples to help

เราลองมาดูตัวอย่างอื่นๆสักหน่อยดีกว่า

make that clear.

จะได้เข้าใจมากขึ้น

So I'm putting all business owners together

ดังนั่น ฉันจะใช้ ‘กลุ่มเจ้าของกิจการ’

in one group there and I'm making a generalisation

ใน 1 กลุ่ม และจะใช้ประโยคที่พูดถึง ‘กลุ่มเจ้าของกิจการ’ ทั่วไป

about the group - all business owners.

เป็นกลุ่มของเจ้าของกิจการทุกแบบ

And I'm saying that as a group,

และฉันจะพูดถึงมันในความหมายของกลุ่ม

all of those business owners are clever.

เช่น เจ้าของกิจการเหล่านั้นฉลาด

So here I'm talking about the individual teachers

และนี่เป็นตัวอย่างของการพูดถึง ‘คุณครู’ โดยเจาะจงไปที่คุณครูแต่ละคน

at our school, each one of them is creative.

ที่โรงเรียน คุณครูแต่ละคนเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์

Not all teachers in general,

เห็นไหม ความหมายนั้นไม่ได้หมายความถึงคุณครูทุกคนแบบภาพรวม

not the group together, but each teacher

แต่หมายถึง ‘คุณครูแต่ละคน’

separately at the school is creative.

ที่โรงเรียนนั้นเป็นคนที่มีความริดสร้างสรรค์

Before we move on, I want to point out something

ก่อนที่เราจะไปในประเด็นอื่น ฉันขอบอกอะไรคุณบางอย่าง

really important, something you might have been

ที่สำคัญมากๆ ที่บางทีคุณอาจจะเคย

thinking about already.

นึกถึง

But did you notice in my earlier examples that I wrote

ว่าแต่ คุณได้สังเกตุเห็นในตัวอย่างของฉันในตอนต้นบทเรียนบ้างไหมว่าฉันเขียน

'everyone' instead of 'every one'?

‘Everyone’ แทน ’Every one’

So if you want to talk about a group of people

ประเด็นคือแบบนี้ ถ้าคุณต้องการพูดถึงกลุ่มคน

as a whole, every person

ทั้งกลุ่ม, ทุกๆคนในกลุ่มนั้น

it's correct to use 'every one' or 'every body', right?

การใช้ ’Every one’ หรือ ‘Every body’ ถือว่าถูกต้อว

Every person is every one or every body.

เพราะ ‘Every person’ ก็คือ ‘Every one’ หรือ ‘Every body’ นั่นแหละ

Now 'every one' written in two words,

ทีนี้คำว่า ‘Every one’ ถ้าเราเขียนแยกกันแบบนี้

it actually puts more attention on the individuals

หมายถึง เราต้องการที่การเจาะจงไปยังบุคคลแต่ละคน

in the group and so it becomes a synonym

ในกลุ่มกลุ่มนั้น ซึ่งการเขียนแบบนี้จะมีความหมายเดียวกับ

closer to 'each', right?

‘Each’ ถูกไหม

Let's think of an example.

เราลองมาดูตัวอย่างกันดีกว่า

At school, did you have a teacher that you were kind of

ในตอนที่คุณอยู่ที่โรงเรียน คุณมีคุณครูที่คุณ

scared of? Like imagine them saying:

กลัวบ้างไหม ลองจินตนาการเวลาที่คุณครูพวกนั้นพูดหรือสั่งแบบนี้

Right? The emphasis is on the individual.

คำสั่งเหล่านั้นเป็นคำสั่งที่เน้นให้นักเรียนแต่ละคนต้องปฏิบัติตาม

But if they said:

แต่ถ้าพวกเค้าพูดหรือสั่งแบบนี้ล่ะ

then the emphasis is on the group, right?

มันจะเป็นการพูดเพื่อให้นักเรียน(ในภาพรวม)ปฏิบัติตาม

And it's a little less scary. It's a subtle difference

และมันก็ดูน่ากลัวน้อยลง นี่คือความแตกต่างเล็กๆน้อยๆ

but it's quite powerful in meaning.

ที่ทำให้ความหมายเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ

Notice as well that even though we're talking about

นอกจากนี้แม้ว่าเรากำลังพูดถึง

a group of people, 'everyone' and 'everybody'

กลุ่มคน ‘Everyone’ และ ‘Everybody’

use a singular verb form

เราก็ยังใช้คำกิริยาในรูปเอกพจน์อยู่นะ

because we're talking about the group

เพราะว่าเรากำลังพูดถึงกลุ่มนั้นๆ

as a singular thing, right?

กลุ่มเดียว นั่นคือรูปเอกพจน์

Not all of the individuals in it

สำหรับสิ่งที่อยู่ในกลุ่ม ไม่จำเป็นต้องเป็นเอกพจน์ก็ได้

but we're talking about the group, right?

แต่ตอนนี้เรากำลังพูดถึงกลุ่ม 1 กลุ่ม

A nice trick to check if you should be using 'everyone'

วิธีง่ายๆที่เอาไว้ตรวจดูว่าเราควรใช้ ‘Everyone’

or 'every one' is to see if everybody works

หรือ ‘Every one’ คือ ถ้าใช้คำว่า ‘Everybody’ แล้วดูเหมาะสม

in that sentence because then 'everyone' with one word

ดังนั้นประโยคนั้นก็ควรใช้คำว่า ’Everybody’ ที่เขียนเป็นคำเดียว

is also correct.

ได้เลย

If everybody doesn't work in the sentence then

แต่ถ้ามันดูไม่เหมาะสมในประโยคนั้น

'every one' with two words

ก็ใช้ ’Every one’ ที่เขียนแยกเป็นสองคำ

is the correct option, right? Let's look at an example.

แทน เราลองมาดูสรุป

Right we can say:

ทางด้านขวากัน

So let's do a quick recap before we move on.

อย่างรวดเร็วก่อนที่เราจะเข้าประเด็นถัดไป

We use 'each' and 'every' with singular nouns.

เราใช้ ‘Each’ และ ‘Every‘ กับคำกิริยารูปเอกพจน์

'Each' puts more emphasis on the individual

‘Each’ จะเน้นความหมายที่เฉพาะเจาะจงลงไปในแต่ละตัวบุคคล

within the group

ในกลุ่มกลุ่มนั้น

and 'every' puts our attention on the group as a whole.

ส่วน ‘Every‘ จะให้ความหมายถึงกลุ่มกลุ่มหนึ่งในภาพรวม

Got it?

เข้าใจไหมคะ

Good!

เก่งมากค่ะ

But there's still some important things

แต่ก็ยังมีประเด็กสำคัญบางอย่าง

that you need to know.

ที่คุณควรจะต้องรู้เอาไว้

So when you're talking about exactly two things,

เมื่อคุณต้องการพูดถึงของจำนวน 2 ชิ้น

you can use 'each',

คุณสามารถใช้ ’Each’

not when you're talking about three or four or ten things.

แต่คุณไม่สามารถใช้ ’Each’ ได้ถ้าคุณพูดถึงของจำนวนสามชิ้น สี่ชิ้น หรือสิบชิ้น

Only when you're talking about two.

คุณจะใช้มันได้ต่อเมื่อพูดถึงของสองสิ่งเท่านั้น

I've got two ears,

เช่น ฉันมีหูสองข้าง

so I can use 'each' to talk about my ears

เห็นไหม ฉันใช้คำว่า ‘Each’ เพื่อพูดถึงหูของฉัน

but I can't use 'every', alright?

แต่ฉันไม่สามารถใช้คำว่า ‘Every’ ได้ คุณเข้าใจใช่ไหมคะ

I have an earring in every ear.

ฉันใส่ต่างหูที่ทุก(Every)หูของฉัน

it sounds really quite strange like,

มันฟังดูแปลกๆใช่ไหม

how many ears do you have?

คนอื่นอาจจะงง และตั้งคำถามว่า คุณมีหูกี่ข้างกันแน่

Earlier I told you that 'each' and 'every' are usually used

ก่อนหน้านี้ฉันได้บอกว่าโดยทั่วไป ‘Each’ และ ‘Every’ ใช้กับ

with singular nouns

นามเอกพจน์

but there is a little exception or a rule

แต่กฎนี้ก็มีข้อยกเว้นนิดหน่อย

that we've got to talk about here.

นั่นก็คือ

'Every' can't be used with plural nouns

’Every’ ไม่สามารถใช้กับนามพหูพจน์ได้

but 'each' can be used with plural nouns

แต่ ‘Each’ สามารถใช้กับนามพหูพจน์ได้

with a small change in form.

ก็ต่อเมื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้เล็กน้อย

To use 'each' with plural nouns,

กรณีที่ต้องการใช้ ’Each’ กับนามพหูพจน์

you need to add the word 'of'.

คุณจำเป็นต้องเพิ่งคำว่า ’of’ ลงไป

We can't say:

เราไม่สามารถใช้ ‘Each’ แบบนี้

But we can say:

แต่เราสามารถใช้ ‘Each’ แบบนี้ได้

Now there's not much difference in meaning

แต่ความหมายมันไม่ได้แตกต่างกันมากนัก

between these two correct sentences

ระหว่างประโยคทั้งสอง ซึ่งเป็นประโยคที่ถูกต้องทั้งคู่

but it's important to notice that we do include

แต่มีจุดสำคัญที่คุณต้องรู้อีก คือ เราจะต้องใส่

the article 'the' here.

คำนำหน้าคำนามคือคำว่า ‘The’ ตรงนี้

It's really important, right? You must use it

มันสำคัญมากนะ และคุณต้องใส่ ‘The’ ลงไปนะ

unless you're using the plural determiners or pronouns

ยกเว้นแต่คุณใช้สรรพนามรูปพหูพจน์

like 'us' or 'them'

เช่น ‘us’ หรือ ‘them’

or 'these' or 'those', we don't need to use the article then.

หรือ ’these’ หรือ ‘those’ ถ้าเราใช้คำพวกนี้เราไม่จำเป็นต้องใช้คำนำหน้าคำนามเลย

Right so let's look at a couple of examples

เราลองมาดูตัวอย่างสักสองสามประโยค

of how they're used.

ว่ามันใช้อย่างไร

It's really important there that we are using our finger

มันสำคัญนะที่เราจะต้องชี้นิ้วของเราออกไป

ชี้สิ่งที่เราพูดถึงอยู่

to point at what we're talking about.

Another useful thing to keep in mind is that 'every'

อีกเรื่องที่เราควรจะจำได้ขึ้นใจคือ ‘Every’

is more commonly used with time expressions.

มักใช้เมื่อเราต้องการพูดถึงเวลา

Now actually 'each' wouldn't be wrong

แต่จริงๆแล้วจะใช้ ‘Each’ ก็ได้นะ ไม่ผิดหรอก

in either of these sentences. You could use 'each' with

ในประโยคตรงนี้ คุณจะใช้ ’Each’ ก็ได้ หรือจะใช้ใน

many of these time expressions

การพูดถึงเวลาก็ได้

but 'every' is just more common and it usually sounds

แต่คำที่เป็นที่นิยมกว่าคือคำว่า ‘Every’ ซึ่งมันจะทำให้รูปประโยค

a little more natural,

ฟังดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

The difference is very subtle.

ความแตกต่างระหว่าการใช้ ’Each’ หรือ ‘Every’ ในประเด็นนี้มันเล็กน้อยมากๆ

That's fine.

ดังนั้นจึงใช้แทนกันได้

It's a little better, it sounds a little more natural.

มันก็แค่ ‘Every’ มันฟังดูดีกว่า และเป็นธรรมชาติมากกว่า

So right now it's time to see if you've been

และตอนนี้เป็นเวลาที่จะทดสอบดูว่า

paying attention through this lesson because

คุณได้ตั้งใจเรียนรู้จากบทเรียนนี้ไหม เพราะ

we're about to practise. So I want you to see if you can

เรากำลังจะทำแบบฝึกหัดกันค่ะ ทีนี้ฉันอยากจะให้คุณดูที่หน้าจอ ถ้าคุณสะดวกที่จะทำนะ

complete each of the sentences that you see up here

และเติมคำในช่องว่างของประโยคที่กำลังจะขึ้นมา

with the right word.

ด้วยคำที่ถูกต้อง

You have to think about the subtle differences.

คุณต้องคิดถึงความแตกต่างเล็กๆน้อยๆของคำสองคำนั้นด้วยนะ

So let's assume that the emphasis is on the

สมมติว่าประโยคนี้ต้องการที่จะเน้นไปที่

individual cup here.

แก้วแต่ละแก้วตรงนี้

So 'each' would be correct because of the singular noun.

เพราะฉะนั้น ‘Each’ เป็นคำตอบที่ถูกต้อง เพราะมันเป็นนามเอกพจน์

What about this one?

แล้วประโยคนี้ล่ะ

Yep, 'every' because Saturday morning is

ใช่ค่ะ ‘Every’ นั่นก็เพราะเช้าวันเสาร์

a time expression. What about this one?

เป็นการระบุเวลา แล้วประโยคนี้ละคะ

It has to be 'each', doesn't it?

มันจะต้องเป็น ‘Each’ ใช่ไหมล่ะ

Because there are exactly two wrists.

เพราะข้อมือน่ะ มีแค่ 2 ข้าง

Perfect.

เก่งมากๆเลยค่ะ

I guess that has to be 'every', right?

ฉันคิดว่ามันจะต้องเป็น ‘Every’ ถูกไหมละคะ

Because we're talking about the group as a whole.

เพราะเรากำลังพูดถึงกลุ่มกลุ่มหนึ่งในภาพรวม

And so when we're talking about everyone as a group,

และเมื่อเราต้องการพูดถึงทุกคนในภาพรวมแบบกลุ่ม

you need to use 'every'.

เราจะต้องใช้ ‘Every’

Alright in this last example here,

ตัวอย่างสุดท้ายแล้วค่ะ

let's keep our attention on the house as a whole, okay?

พยายามมองบ้านหนึ่งหลังแบบภาพรวมนะคะ

Our emphasis and our attention is on the whole house

เรากำลังเน้นความหมาย และความสนใจไปที่บ้านทั้งหลัง

not the individual rooms inside.

ไม่ใช่ห้องแต่ละห้องในบ้านหลังนั้น

So 'every' would be perfect

ดังนั้นมันความจะเป็นคำว่า ‘Every’ ถึงจะถูกต้อง

but of course, you could use 'each' if you were

แต่แน่นอน คุณสามารถใช้คำว่า ‘Each’ ได้ถ้าคุณต้องการ

emphasising each of the individual rooms.

สื่อความหมายถึงห้องแต่ละห้องในบ้านหลังนั้น

All right I do have one more final question for you.

เอาล่ะค่ะ ครั้งนี้เป็นคำถามข้อสุดท้ายจริงๆแล้ว

Do you remember at the start of this video when I said

คุณจำเมื่อตอนต้นของบทเรียนได้ไหมคะ ฉันได้พูดว่า

that I'm here to answer each and every one

ฉันมาให้คำตอบในทุกๆคำถามเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ

of your English questions?

จากทุกๆคน

So in that sentence, which option is the best option?

จากประโยคนี่ คำไหนเป็นคำที่เหมาะสมที่สุดระหว่าง ‘Each’ หรือ ‘Every’

It's a trick question because you could use either okay?

เป็นคำถามที่ยากใช่ไหมคะ เพราะว่าจริงๆแล้วคุณจะใช้คำไหนก็ได้ค่ะ

But you can also use them together like this.

หรือคุณจะใช้มันพร้อมกันเลยก็ได้ แบบนี้ค่ะ

The phrase 'each and every' is really common

วลี ‘Each and every’ เป็นวลีที่ใช้กันบ่อยๆ

in spoken English and it puts all of the emphasis on

ในภาษาพูดของภาษาอังกฤษ มันถูกใช้เพื่อเน้นความหมาย

the whole group but every single person in the group.

ในเชิงภาพรวมของกลุ่ม และเฉพาะเจาะจงลงไปในแต่ละคน หรือสิ่ง ในกลุ่มนั้นด้วย

So it's like a combination, right?

เป็นเหมือนการเอาความหมายของมันมารวมกัน

And it's a fixed expression that you'll see

เป็นลักษณะการใช้งานที่คุณสามารถเห็นได้

from time to time

เป็นครั้งคราว

and you'll see both of these words together and that's

และคุณจะได้เห็นหารใช้คำสองคำนี้ด้วยกันแบบนี้

perfectly acceptable

ได้ และมันก็เป็นที่ยอมรับ

especially when you are trying to emphasise

โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องการที่จะสื่อความหมายไปในทั้ง

each and every person in the group is important.

‘Each and every person’ ในกลุ่มกลุ่มนั้น

So before I say goodbye to each and every one of you,

และก่อนที่จะกล่าวลากับพวกคุณทุกๆคน

I want you to tell me in the comments if there are any

ฉันอยากให้คุณบอกฉันผ่านทางช่องรับความคิดเห็นด้านล่าง

other English words like 'each' and 'every' that confuse

คุณมีคำคัพท์ภาษาอังกฤษคำไหนไหมที่คุณยังสับสนเหมือน ’Each’ และ ‘Every’

you a little, that you'd like me to explain more

และคุณอยากให้ฉันอธิบาย หรือช่วยทำให้คุณหายสงสัย

because I'll be making more videos just like this one

เพราะฉันจะทำคลิปแบบนี้อีก

to help you understand some of the more subtle

เพื่อช่วยเพิ่มความเข้าใจในความแตกต่าง

differences between English words and help you

เล็กๆน้อยๆ ของคำศัพท์ภาษาอังกฤษ และช่วยให้คุณ

to sound a little more natural as you're using English.

ใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น

Now make sure you subscribe to my channel by clicking

นอกจากนี้อย่าลืมกดติดตามช่องของฉันโดยคลิ๊ก

that button right down there

บนปุ่มด้านล่างนี้

and then come and check out

และเข้ามาดู

this lesson right here. I think you're going to love it.

บทเรียนในนี้ ฉันเชื่อว่าคุณจะรักพวกมันค่ะ

I'll see you in there!

แล้วพบกันใหม่นะคะ