Why is glass transparent? - Mark Miodownik

ทำไมแก้วจึงโปร่งใส? - มาร์ค ไมโอดาวนิค (Mark Miodownik)

4,576,381 views

2014-02-04 ・ TED-Ed


New videos

Why is glass transparent? - Mark Miodownik

ทำไมแก้วจึงโปร่งใส? - มาร์ค ไมโอดาวนิค (Mark Miodownik)

4,576,381 views ・ 2014-02-04

TED-Ed


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Pongsakorn Puavaranukroh Reviewer: Pakawat Wongwaiyut
00:07
Take a look out your window,
0
7789
1665
ลองมองออกไปนอกหน้าต่าง
00:09
put on your glasses if you wear them.
1
9454
1993
ใส่แว่นตาด้วย ถ้าคุณมี
00:11
You might want to grab a pair of binoculars, too,
2
11447
2045
จะใช้กล้องส่องทางไกลด้วยก็ได้
00:13
or a magnifying lens.
3
13492
1761
หรือแว่นขยายก็ดี
00:15
Now, what do you see?
4
15253
1449
ตอนนี้ คุณเห็นอะไร?
00:16
Well, whatever it is,
5
16702
1672
ใช่ ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม
00:18
it's not the multiple layers of glass
6
18374
1878
มันจะไม่ใช่แค่ชั้นแก้ว
00:20
right in front of you.
7
20252
1291
ที่อยู่ตรงหน้าคุณแน่นอน
00:21
But have you ever wondered
8
21543
1094
แต่คุณเคยสงสัยไหมว่า
00:22
how something so solid can be so invisible?
9
22637
2932
สิ่งที่แข็งเหล่านี้ใสทะลุปรุโปร่งได้ยังไง
00:25
To understand that,
10
25569
1434
เพื่อตอบคำถามนี้
00:27
we have to understand what glass actually is,
11
27003
2631
เราต้องเข้าใจจริงๆ ก่อนว่าแก้วคืออะไร
00:29
and where it comes from.
12
29634
1452
และมันถูกสร้างขึ้นมาอย่างไร
00:31
It all begins in the Earth's crust,
13
31086
2084
ทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นที่ชั้นเปลือกโลก
00:33
where the two most common elements are
14
33170
2000
ที่ซึ่งมีธาตุ2 ชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด
00:35
silicon and oxygen.
15
35170
2054
คือ ธาตุซิลิกอน และออกซิเจน
00:37
These react together to form silicon dioxide,
16
37224
3111
พวกมันทำปฏิกิริยากันเกิดเป็น ซิลิกอนไดออกไซด์ (silicon dioxide)
00:40
whose molecules arrange themselves
17
40335
1854
มันมีการจัดเรียงโมเลกุล
00:42
into a regular crystalline form known as quartz.
18
42189
2910
ในรูปผลึกที่เป็นระเบียบ เรียกว่า ควอตซ์ (quartz)
00:45
Quartz is commonly found in sand,
19
45099
2927
ควอตซ์ พบได้ทั่วไปในทราย
00:48
where it often makes up most of the grains
20
48026
1977
ที่ซึ่งมันได้แตกสลายเป็นเม็ดเล็กๆ
00:50
and is the main ingredient in most type of glass.
21
50003
2776
แล้วยังเป็นส่วนประกอบสำคัญในแก้วส่วนใหญ่
00:52
Of course, you probably noticed that glass
22
52779
2169
แน่นอน คุณอาจจะสังเกตเห็นว่าแก้ว
00:54
isn't made of multiple tiny bits of quartz,
23
54948
2556
ไม่ได้ทำมาจากเศษผลึกควอตซ์มารวมกัน
00:57
and for good reason.
24
57504
1332
และก็ดูมีเหตุผลดี
00:58
For one thing, the edges of the rigidly formed grains
25
58836
2619
มีอย่างหนึ่ง ณ เหลี่ยมของเม็ดแข็งๆ
01:01
and smaller defects within the crystal structure
26
61455
2501
และพวกตำหนิเล็กๆในโครงสร้างของผลึก
01:03
reflect and disperse light that hits them.
27
63956
2714
สะท้อนและกระจายแสงที่มากระทบมัน
01:06
But when the quartz is heated high enough
28
66670
2333
แต่เมื่อผลึกควอตซ์ถูกทำให้ร้อนถึงจุดหนึ่ง
01:09
the extra energy makes the molecules vibrate
29
69003
2630
พลังงานจำนวนมากทำให้โมเลกุลเกิดการสั่น
01:11
until they break the bonds holding them together
30
71633
2120
จนสลายพันธะที่เชื่อมต่อระหว่างกัน
01:13
and become a flowing liquid,
31
73753
1882
และกลายเป็นของเหลว
01:15
the same way that ice melts into water.
32
75635
2337
เหมือนกับที่น้ำแข็งละลายเป็นน้ำ
01:17
Unlike water, though, liquid silicon dioxide
33
77972
3281
แต่ไม่เหมือนน้ำตรงที่ ซิลิกอนไดออกไซด์เหลว
01:21
does not reform into a crystal solid when it cools.
34
81253
3349
จะไม่กลับไปเป็นผลึกแข็งอีกเมื่อเย็นตัว
01:24
Instead, as the molecules lose energy,
35
84602
2671
แต่ว่า ขณะโมเลกุลสูญเสียพลังงาน
01:27
they are less and less able
36
87273
1558
พวกมันจะยิ่งไม่สามารถ
01:28
to move into an ordered position,
37
88831
2004
กลับไปเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบได้
01:30
and the result is what is called an amorphous solid.
38
90835
2693
จากผลลัพธ์นี้เรียกว่า ของแข็งอสัณฐาน (amorphous solid)
01:33
A solid material with the chaotic structure of a liquid,
39
93528
3996
เป็นของแข็งที่มีโครงสร้าง ไร้รูปแบบเช่นของเหลว
01:37
which allows the molecules to freely fill in any gaps.
40
97524
3583
ซึ่งทำให้โมเลกุลไปเติมเต็ม บริเวณที่ว่างได้อย่างอิสระ
01:41
This makes the surface of glass uniform
41
101107
2167
นี่ทำให้ผิวนอกของแก้วเป็นเนื้อเดียวกัน
01:43
on a microscopic level,
42
103274
1721
เมื่อมองดูจากกล้องจุลทรรศน์
01:44
allowing light to strike it
43
104995
1445
ทำให้แสงที่เข้ามากระทบ
01:46
without being scattered in different directions.
44
106440
2729
ไม่แตกกระจายออกไป
01:49
But this still doesn't explain
45
109169
1522
แต่ก็ยังคงไม่ใช่คำอธิบาย
01:50
why light is able to pass through glass
46
110691
2632
ว่าทำไมแสงถึงสามารถทะลุผ่านแก้วได้
01:53
rather than being absorbed as with most solids.
47
113323
2892
แทนที่จะถูกดูดซับไปเหมือนของแข็งอื่น
01:56
For that, we need to go all the way down
48
116215
2059
สำหรับเรื่องนี้ เราต้องเจาะลึกลงไป
01:58
to the subatomic level.
49
118274
1736
จนถึงระดับที่เล็กกว่าอะตอม
02:00
You may know that an atom consists of a nucleus
50
120010
2544
คุณอาจจะรู้อยู่แล้วว่า อะตอมประกอบด้วยนิวเคลียส
02:02
with electrons orbiting around it,
51
122554
1979
โดยมีอิเล็คตรอนโคจรอยู่รอบๆ
02:04
but you may be surprised to know
52
124533
1695
แต่คุณอาจจะแปลกใจถ้ารู้ว่า
02:06
that it's mostly empty space.
53
126228
2002
เกือบทั้งหมดนั้นเป็นที่ว่างเปล่า
02:08
In fact, if an atom were the size of a sports stadium,
54
128230
2793
สมมติให้อะตอมมีขนาดเท่ากับสนามกีฬา
02:11
the nucleus would be like a single pea in the center,
55
131023
2794
นิวเคลียสจะเป็นเหมือนกับ เม็ดถั่วตรงกลางสนาม
02:13
while the electrons would be like grains of sand
56
133817
2586
ขณะที่อิเล็คตรอนเป็นเหมือนเม็ดทราย
02:16
in the outer seats.
57
136403
1919
อยู่ตามที่นั่งรอบนอก
02:18
That should leave plenty of space
58
138322
1284
นี่จะต้องมีที่ว่างมากมาย
02:19
for light to pass through
59
139606
1219
ให้แสงทะลุผ่านไป
02:20
without hitting any of these particles.
60
140825
2085
โดยที่ไม่ไปชนกับอนุภาคใดๆ
02:22
So the real question is not
61
142910
1364
แสดงว่า คำถามจริงๆ จึงไม่ใช่
02:24
why is glass transparent,
62
144274
1641
ทำไมแก้วถึงโปร่งใส
02:25
but why aren't all materials transparent?
63
145915
3251
แต่เป็น ทำไมวัตถุอื่นๆ ถึงไม่โปร่งใส?
02:29
The answer has to do with the different energy levels
64
149166
3000
คำตอบนั้น เกี่ยวกับ ระดับชั้นพลังงานที่แตกต่างกัน
02:32
that electrons in an atom can have.
65
152166
2858
ที่อิเล็คตรอนในอะตอมจะมีได้
02:35
Think of these as different rows of seats
66
155024
1731
ให้คิดถึงชั้นแถวเก้าอี้
02:36
in the stadium stands.
67
156755
1685
ในอัฒจันทร์สนามกีฬา
02:38
An electron is initially assigned to sit in a certain row,
68
158440
3334
ตอนแรก อิเล็คตรอนจะถูกกำหนด ให้อยู่ในแถวของมัน
02:41
but it could jump to a better row,
69
161774
1989
แต่มันสามารถข้ามไปแถวที่ดีกว่าได้
02:43
if it only had the energy.
70
163763
1877
ถ้ามันมีพลังงาน
02:45
As luck would have it,
71
165640
1466
เกิดมันโชคดี
ได้รับพลังงานจากอนุภาคแสง (Photon)
02:47
absorbing one of those light photons
72
167106
1619
02:48
passing through the atom can provide
73
168725
1781
ที่ผ่านเข้ามาในอะตอม ทำให้
02:50
just the energy the electron needs.
74
170506
2185
มันมีพลังงานถึงระดับที่มันต้องการ
02:52
But there's a catch.
75
172691
1500
แต่สิ่งสำคัญก็คือ
02:54
The energy from the photon
76
174191
1290
พลังงานจากอนุภาคแสง
02:55
has to be the right amount
77
175481
1503
ต้องมีเพียงพอสำหรับ
02:56
to get an electron to the next row.
78
176984
2252
อิเล็คตรอน เพื่อข้ามไปยังแถวถัดไปได้
02:59
Otherwise, it will just let the photon pass by,
79
179236
3253
มิฉะนั้น มันแค่ทำให้อนุภาคแสงผ่านไปเฉยๆ
03:02
and it just so happens that in glass,
80
182489
2035
ซึ่งนั่น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในแก้ว
03:04
the rows are so far apart
81
184524
1969
แถวแต่ละแถวนั้นห่างกันมาก
03:06
that a photon of visible light
82
186493
1863
ทำให้อนุภาคแสงของแสงขาว (visible light)
03:08
can't provide enough energy for an electron
83
188356
2208
ไม่เพียงพอที่จะให้พลังงานแก่อิเล็คตรอน
03:10
to jump between them.
84
190564
1698
เพื่อข้ามระดับชั้นระหว่างกัน
03:12
Photons from ultraviolet light, on the other hand,
85
192262
2416
ในทางกลับกัน อนุภาคแสงจากแสงอัลตราไวโอเล็ท
03:14
give just the right amount of energy,
86
194678
1916
ให้พลังงานแก่อิเล็คตรอนได้มากพอ
03:16
and are absorbed,
87
196594
1166
เลยถูกดูดซับ
03:17
which is why you can't get a suntan through glass.
88
197760
3000
เป็นเหตุผลว่า ทำไมผิวจึงไม่คล้ำเมื่ออยู่ในกระจก
03:20
This amazing property of being both
89
200760
1959
คุณสมบัติอันน่าทึ่งของการเป็นทั้ง
03:22
solid and transparent has given glass many uses
90
202719
3252
ของแข็งและโปร่งใส ทำให้แก้วถูกใช้อย่างแพร่หลาย
03:25
throughout the centuries.
91
205971
1373
มานานหลายศตวรรษ
03:27
From windows that let in light
92
207344
1548
ตั้งแต่กระจกหน้าต่างโปร่งใส
03:28
while keeping out the elements,
93
208892
1416
ในขณะที่คอยกันสิ่งต่างๆ
03:30
to lenses that allow us to see both
94
210308
1952
ไปจนถึงเลนส์ ที่ทำให้เราสามารถเห็น
03:32
the vast worlds beyond our planet,
95
212260
1668
ห้วงอวกาศอันไพศาลนอกโลก
03:33
and the tiny ones right around us.
96
213928
2172
และโลกระดับจุลภาคที่อยู่รอบๆเรา
03:36
It is hard to imagine
97
216100
1050
มันยากที่จะนึกภาพถึง
03:37
modern civilization without glass.
98
217150
2528
สังคมสมัยใหม่ที่ปราศจากแก้ว
03:39
And yet for such an important material
99
219678
1893
และแม้ว่ามันจะมีความสำคัญมาก
03:41
we rarely think about glass and its impact.
100
221571
2818
เราก็ไม่ค่อยนึกถึงแก้ว และผลประโยชน์จากมัน
03:44
It is precisely because the most important
101
224389
2270
คงเป็นเพราะสิ่งที่สำคัญ
03:46
and useful quality of glass is
102
226659
1777
และเป็นประโยชน์มากที่สุดของแก้ว คือ
03:48
being featureless and invisible
103
228436
2046
การไม่มีจุดเด่นและไม่ถูกมองเห็น
03:50
that we often forget that it's even there.
104
230482
2120
ซึ่งทำให้เรามักลืมไปว่า มันมีอยู่ตรงนั้น
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7