The sonic boom problem - Katerina Kaouri

5,017,397 views ・ 2015-02-10

TED-Ed


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Gosol Rattanapinta Reviewer: Kelwalin Dhanasarnsombut
00:06
Humans have been fascinated with speed for ages.
0
6616
3897
มนุษย์หลงใหลความเร็วมาเนิ่นนานแล้ว
00:10
The history of human progress is one of ever-increasing velocity,
1
10513
4233
สิ่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ความก้าวหน้าของมนุษย์ คือการเพิ่มความเร็วให้มากยิ่งขึ้น
00:14
and one of the most important achievements in this historical race
2
14746
3865
และหนึ่งในความสำเร็จที่สำคัญที่สุด ของความพยายามที่ยาวนานนี้
00:18
was the breaking of the sound barrier.
3
18611
2892
คือการทำลายกำแพงเสียงลงให้ได้
00:21
Not long after the first successful airplane flights,
4
21503
3368
ไม่นานนักหลังจากการนำเครื่องบิน ขึ้นบินได้สำเร็จเป็นครั้งแรก
00:24
pilots were eager to push their planes to go faster and faster.
5
24871
5112
นักบินต่างต้องการ ที่จะให้เครื่องบินบินให้เร็วขึ้นและเร็วขึ้นไปอีก
00:29
But as they did so, increased turbulence
6
29983
2401
แต่เมื่อทำเช่นนั้นแล้ว จะทำให้เครื่องบินสั่นมากขึ้น
00:32
and large forces on the plane prevented them from accelerating further.
7
32384
5304
แรงกดมหาศาลต่อเครื่องบิน ทำให้พวกเขาเร่งความเร็วขึ้นไปอีกไม่ได้
00:37
Some tried to circumvent the problem through risky dives,
8
37688
3959
บางคนพยายามแก้ปัญหา ด้วยการลองเสี่ยงดำลงไปในน้ำ
00:41
often with tragic results.
9
41647
2438
แต่ก็มักได้ผลลัพท์ที่น่าเศร้า
00:44
Finally, in 1947, design improvements,
10
44085
3465
ในที่สุด ในปี ค.ศ. 1947 มีการออกแบบที่ดีมากยิ่งขึ้น
00:47
such as a movable horizontal stabilizer, the all-moving tail,
11
47550
4752
เช่นมีที่ปรับตัวปรับสมดุลระดับแนวนอนเคลื่อนที่ได้ และหางเสือที่เคลื่อนไหวได้ทั้งหมด
00:52
allowed an American military pilot named Chuck Yeager
12
52302
3219
ทำให้ทหารอากาศชาวอเมริกันที่ชื่อว่า ชัค เยเกอร์
00:55
to fly the Bell X-1 aircraft at 1127 km/h,
13
55521
8200
นำเครื่องบิน เบลล์ เอ็กซ์วัน บินที่ความเร็ว 1,127 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้สำเร็จ
01:03
becoming the first person to break the sound barrier
14
63721
3203
กลายเป็นมนุษย์คนแรก ที่ทำลายกำแพงเสียงลงได้
01:06
and travel faster than the speed of sound.
15
66924
2796
และเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าความเร็วเสียง
01:09
The Bell X-1 was the first of many supersonic aircraft to follow,
16
69720
4209
เบลล์ เอ็กซ์วัน เป็นเครื่องบินเหนือเสียงลำแรก ก่อนที่จะมีรุ่นอื่น ๆ ตามมา
01:13
with later designs reaching speeds over Mach 3.
17
73929
3984
โดยรุ่นล่าสุดทำความเร็วเหนือเสียง ไปได้มากกว่า 3 มัคแล้ว
01:17
Aircraft traveling at supersonic speed create a shock wave
18
77913
3660
เครืองบินที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วเสียง จะสร้างคลื่นกระแทกออกมา
01:21
with a thunder-like noise known as a sonic boom,
19
81573
4109
ด้วยเสียงดังราวกับฟ้าผ่า ที่รู้จักกันในชื่อว่า คลื่นโซนิคบูม
01:25
which can cause distress to people and animals below
20
85682
3497
ที่อาจไปรบกวนคนและสัตว์ที่อยู่ด้านล่าง
01:29
or even damage buildings.
21
89179
1891
หรือแม้กระทั่งสร้างความเสียหาย ให้กับบ้านเรือน
01:31
For this reason,
22
91070
1000
ด้วยเหตุผลนี้เอง
01:32
scientists around the world have been looking at sonic booms,
23
92111
3234
นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกจึงสนใจคลื่นโซนิคบูมนี้
01:35
trying to predict their path in the atmosphere,
24
95345
2443
โดยพยายามทำนายเส้นทางของมันในบรรยากาศ
01:37
where they will land, and how loud they will be.
25
97788
4403
ที่ที่มันจะตกกระทบ และระดับเสียงของมัน
01:42
To better understand how scientists study sonic booms,
26
102191
3119
เพื่อให้เข้าใจได้ดีขึ้นว่า นักวิทยาศาสตร์ ศึกษาเรื่องของคลื่นโซนิคบูมอย่างไร
01:45
let's start with some basics of sound.
27
105310
2988
เรามาเริ่มจากพื้นฐาน การกำเนิดของเสียงกันก่อน
01:48
Imagine throwing a small stone in a still pond.
28
108298
3633
ลองคิดว่า เราโยนก้อนหินเล็ก ๆ ลงไปในบ่อน้ำที่สงบนิ่งดู
01:51
What do you see?
29
111931
1246
เห็นอะไรไหม
01:53
The stone causes waves to travel in the water
30
113177
2698
ก้อนหินทำให้เกิดคลื่นเดินทางไปในน้ำ
01:55
at the same speed in every direction.
31
115875
2795
ด้วยความเร็วเท่า ๆ กันในทุกทิศทาง
01:58
These circles that keep growing in radius are called wave fronts.
32
118670
4217
วงกลมที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆในทุกทิศทางนี้ เรียกว่าแนวคลื่น
02:02
Similarly, even though we cannot see it,
33
122887
3017
คล้ายกัน แม้เราจะมองไม่เห็นมันก็ตาม
02:05
a stationary sound source, like a home stereo,
34
125904
3402
แหล่งต้นกำเนิดเสียงของมัน ก็คล้ายกับเครื่องเสียงภายในบ้าน
02:09
creates sound waves traveling outward.
35
129306
2893
สร้างคลื่นเสียงที่เดินทางออกมาเรื่อย ๆ
02:12
The speed of the waves depends on factors
36
132199
2131
ความเร็วคลื่นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ
02:14
like the altitude and temperature of the air they move through.
37
134330
3780
รวมถึงระดับความสูงและอุณหภูมิของอากาศ ที่มันเคลื่อนที่ผ่านไป
02:18
At sea level, sound travels at about 1225 km/h.
38
138110
6353
ที่ระดับน้ำทะเล เสียงเคลื่อนที่เร็วประมาณ 1,225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
02:24
But instead of circles on a two-dimensional surface,
39
144463
2827
แต่แทนที่จะเป็นวงกลมบนพื้นผิวสองมิติ
02:27
the wave fronts are now concentric spheres,
40
147290
3442
ตอนนี้หน้าคลื่นมีศูนย์กลางเป็นทรงกลม
02:30
with the sound traveling along rays perpendicular to these waves.
41
150732
5169
โดยมีเสียงที่เดินทางไปตามแนวรังสี ที่ตั้งฉากกับแนวคลื่นเหล่านี้
02:35
Now imagine a moving sound source, such as a train whistle.
42
155901
4175
มาลองคิดถึงแหล่งกำเนิดเสียงที่เคลื่อนที่ อย่างนกหวีดรถไฟดู
02:40
As the source keeps moving in a certain direction,
43
160076
2958
เมื่อแหล่งกำเนิดเสียงกำลังเคลื่อนที่ ไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
02:43
the successive waves in front of it will become bunched closer together.
44
163034
4532
คลื่นด้านหน้าของมันที่มีความต่อเนื่อง จะทำให้คลื่นรวมใกล้กันมากขึ้น
02:47
This greater wave frequency is the cause of the famous Doppler effect,
45
167566
5070
คลื่นความถี่ที่สูงขึ้นนี้ ทำให้เกิดปรากฏการณ์ดอปเปลอร์ที่โด่งดัง
02:52
where approaching objects sound higher pitched.
46
172636
3093
ที่ยิ่งวัตถุนั้นเข้าใกล้มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมึเสียงแหลมสูงมากขึ้นเท่านั้น
02:55
But as long as the source is moving slower than the sound waves themselves,
47
175729
4198
แต่ตราบใดที่ต้นเสียงยังเคลื่อนที่ช้ากว่า คลื่นเสียงที่มันสร้างขึ้น
02:59
they will remain nested within each other.
48
179927
2829
พวกมันจะซ้อนยู่ภายในซึ่งกันและกัน
03:02
It's when an object goes supersonic, moving faster than the sound it makes,
49
182756
5015
แต่เมื่อวัตถุกลายเป็นซุปเปอร์โซนิค ที่เคลื่อนที่ได้เร็วกว่าเสียงที่มันสร้าง
03:07
that the picture changes dramatically.
50
187771
2826
นั่นทำให้เกิดความแตกต่างขึ้นอย่างมาก
03:10
As it overtakes sound waves it has emitted,
51
190597
2603
ในขณะที่มันแซงหน้าคลื่นที่มันได้ปล่อยออกมา
03:13
while generating new ones from its current position,
52
193200
2502
ระหว่างนั้นมันก็สร้างคลื่นขึ้นใหม่ ณ ตำแหน่งที่มันอยู่
03:15
the waves are forced together, forming a Mach cone.
53
195702
4118
คลื่นจะถูกอัดเข้าด้วยกันกลายเป็นกรวยหน้าคลื่นมัค (Mach cone)
03:19
No sound is heard as it approaches an observer
54
199820
2988
ผู้สังเกตุการณ์จะไม่ได้ยินเสียงใด ๆ ในขณะที่มันเข้ามาใกล้
03:22
because the object is traveling faster than the sound it produces.
55
202808
5080
เพราะวัตถุเคลื่อนที่เร็วกว่า เสียงที่มันสร้างขึ้นมา
03:27
Only after the object has passed will the observer hear the sonic boom.
56
207888
5163
หลังจากวัตถุผ่านไป ผู้สังเกตุการณ์ถึงจะได้ยินเสียงโซนิคบูมนี้
03:33
Where the Mach cone meets the ground, it forms a hyperbola,
57
213051
3956
เมื่อกรวยมัคกระทบกับพื้นดิน มันจะสร้างไฮเพอร์โบลาขึ้นมา
03:37
leaving a trail known as the boom carpet as it travels forward.
58
217007
4299
ทิ้งหางที่รู้จักกันในชื่อว่าหางพรม (boom carpet) เมื่อมันเคลื่อนที่ไปข้างหน้า
03:41
This makes it possible to determine the area affected by a sonic boom.
59
221306
4947
นี่จึงทำให้เราสามารถวัดพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบของโซนิคบูมได้
03:46
What about figuring out how strong a sonic boom will be?
60
226253
3050
แล้วจะหาความแรง ของคลื่นโซนิคบูมได้อย่างไรล่ะ
03:49
This involves solving the famous Navier-Stokes equations
61
229303
3566
มันต้องใช้การแก้ปัญหาสมการนาเวียร์-สโตกส์ ที่มีชื่อเสียง
03:52
to find the variation of pressure in the air
62
232869
3396
เพื่อค้นหาความแปรผันของความกดอากาศ
03:56
due to the supersonic aircraft flying through it.
63
236265
3251
อันเนื่องมาจากการบินผ่าน ของเครื่องบินเหนือเสียง
03:59
This results in the pressure signature known as the N-wave.
64
239516
4337
ผลลัพธ์ก็คือคลื่นที่เป็นเอกลักษณ์ ที่เรียกว่า เอ็นเวฟ (N-wave)
04:03
What does this shape mean?
65
243853
1630
รูปร่างนี้มีความหมายว่าอย่างไร
04:05
Well, the sonic boom occurs when there is a sudden change in pressure,
66
245483
4023
โซนิคบูมเกิดขึ้น เมื่อความดันเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
04:09
and the N-wave involves two booms:
67
249506
2412
และเอ็นเวฟเกี่ยวข้องกับโซนิคบูมสองครั้ง
04:11
one for the initial pressure rise at the aircraft's nose,
68
251918
3579
ส่วนแรกคือความดันแรก ที่เพิ่มขึ้นบริเวณส่วนปลายหัวของเครื่องบิน
04:15
and another for when the tail passes,
69
255497
2852
และอีกส่วนที่หางที่ผ่านเข้ามา
04:18
and the pressure suddenly returns to normal.
70
258349
2668
และความดันก็กลับไปสู่ปกติในทันที
04:21
This causes a double boom,
71
261017
2113
มันจึงทำให้เกิดโซนิคบูมสองครั้ง
04:23
but it is usually heard as a single boom by human ears.
72
263130
3506
แต่หูมนุษย์มักจะได้ยินเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
04:26
In practice, computer models using these principles
73
266636
3242
ในทางปฎิบัติ ตัวอย่างจำลองในคอมพิวเตอร์ ที่ใช้หลักการเดียวกันนี้
04:29
can often predict the location and intensity of sonic booms
74
269878
4145
สามารถคาดการณ์ตำแหน่ง และความเข้มของโซนิคบูมได้
04:34
for given atmospheric conditions and flight trajectories,
75
274023
3603
ในแต่ละสภาพบรรยากาศและวิถีการบิน
04:37
and there is ongoing research to mitigate their effects.
76
277626
3112
และก็มีการวิจัยที่กำลังศึกษา เพื่อลดผลกระทบผลของมัน
04:40
In the meantime, supersonic flight over land remains prohibited.
77
280738
5071
ระหว่างนี้ เครื่องบินเหนือเสียง ยังคงถูกห้ามบินเหนือผืนดิน
04:45
So, are sonic booms a recent creation?
78
285809
2763
แล้วโซนิคบูมเป็นสิ่งใหม่ ที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นใช่ไหม
04:48
Not exactly.
79
288572
1516
ก็ไม่ใช่เสียทีเดียว
04:50
While we try to find ways to silence them,
80
290088
2428
ในขณะที่เรากำลังพยายามหาทาง ทำให้มันเงียบลงอยู่นั้น
04:52
a few other animals have been using sonic booms to their advantage.
81
292516
3529
สัตว์บางชนิดใช้คลื่นเหนือเสียงนี้ ให้เป็นประโยชน์
04:56
The gigantic Diplodocus may have been capable of cracking its tail
82
296045
4909
ไดโนเสาร์ ไดพลอโดคัส อาจสามารถสะบัดหางของมัน
05:00
faster than sound, at over 1200 km/h, possibly to deter predators.
83
300998
6939
ด้วยความเร็วเหนือเสียงที่มากกว่า 1,200 กิโลเมตรต่อขั่วโมงเพื่อไล่นักล่า
05:07
Some types of shrimp can also create a similar shock wave underwater,
84
307937
4500
กุ้งบางชนิดสามารถสร้างสิ่งที่คล้ายกันนี้ อย่างคลื่นกระแทกใต้น้ำ
05:12
stunning or even killing pray at a distance
85
312437
3726
ทำให้เหยื่อหยุดค้างอยู่กับที่ หรือทำให้เหยื่อตายในระยะไกล
05:16
with just a snap of their oversized claw.
86
316163
3570
เพียงแค่ดีดก้ามใหญ่โตของมันเท่านั้น
05:19
So while we humans have made great progress
87
319733
2470
ในขณะที่มนุษย์กำลังพัฒนา สุดยอดความก้าวหน้านี้ขึ้นมา
05:22
in our relentless pursuit of speed,
88
322203
2650
ด้วยการแสวงหาความรวดเร็วอย่างไม่หยุดยั้ง
05:24
it turns out that nature was there first.
89
324853
2560
กลับกลายเป็นว่าธรรมชาติทำได้ก่อนแล้ว
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7