How brass instruments work - Al Cannon

เครื่องดนตรีทองเหลืองทำงานได้อย่างไร - อัล แคนนอน (Al Cannon)

Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Suppadej Mahapokai

What gives the trumpet its clarion ring

อะไรให้เสียงดังแหลมกับทรัมเป็ต

and the tuba its gut-shaking "omm pah pah?"

และให้เสียงต่ำจากท้องแบบ "โอม ปา ปา" กับทูบา

And what makes the trombone so jazzy?

และอะไรที่ทำให้ทรอมโบนมีแสดงที่แสนหรูหรา

The answer lies not in the brass these instruments are made of,

คำตอบไม่ได้อยู่ที่ทองเหลือง วัสดุที่ใช้สร้างพวกมัน

but in the journey air takes

แต่การเดินทางของลม

from the musician's lungs to the instrument's bell.

จากปอดของนักดนตรี สู่เครื่องดนตรีหน้าตาเหมือนระฆัง

Like any sound, music consists of vibrations traveling through air.

เหมือนกับเสียงอื่นๆ ดนตรีประกอบด้วยการสั่นที่เดินทางผ่านอากาศ

Instruments are classified based on how those vibrations are produced.

เครื่องดนตรีถูกแบ่งชนิด ตามการสั่นสะเทือนที่ถูกสร้างขึ้นมา

Percussion instruments are struck.

เครื่องเคาะ ใช้การตี

String instruments are plucked or bowed.

เครื่องสาย ใช้การดีดหรือสี

Woodwinds have air blown against a reed or sharp edge.

เครื่องเป่าลิ้นไม้ ใช้การเป่า ผ่านลิ้นไม้หรือขอบคมๆ

For brass instruments, however,

อย่างไรก็ดี สำหรับเครื่องทองเหลือง

the vibration come directly from the musician's mouth.

การสั่นสะเทือน มาจากปากของนักดนตรีโดยตรง

One of the first things a brass player must learn is to breathe in deeply,

สิ่งแรกๆ ที่ผู้เล่นเครื่องดนตรีทองเหลือง ต้องเรียนรู้ คือการหลายใจเข้าลึกๆ

until every possible particle of air is crammed into the lungs.

จนกระทั่งเท่าที่ทุกอนุภาคอากาศ จะสามารถอัดเข้าไปในปอดได้

Once all that air is inside, it must come out through the mouth,

เมื่อได้มวลอากาศในนั้นแล้ว มันก็จะต้องออกมาทางปาก

but there, an internal battle takes place

แต่ตอนนั้น การต่อสู้ภายในจะเกิดขึ้น

as the musician simultaneously tries to hold their lips firmly closed

เมื่อนักดนตรีพยายามปิดริมฝีปากให้สนิท

while blowing enough air to force them open.

พร้อมๆ กับที่เป่าลมออกไป เพียงพอที่จะบังคับให้มันเปิดออก

The escaping air meets resistance from the lip muscles,

ลมที่หนีออกไปเจอกับการต้าน จากกล้ามเนื้อริมฝีปาก

forms an opening called the aperture

เกิดเป็นช่องเปิดที่เรียกว่าช่องทางออก

and creates the vibration that brass players call "the buzz."

และสร้างการสั่นสะเทือนที่ผู้เล่นเครื่องทองเหลือง เรียกว่า "เสียงหึ่งๆ"

When a mouthpiece is held up to those vibrating lips,

เมื่อกำพวด [ชิ้นส่วนเครื่องดนตรีที่ติดกับปาก] ถูกวางชิดกับริมฝีปากที่สั่นอยู่

it slightly refines the buzz,

มันปรับเสียงหึ่งเล็กน้อย

amplifying the vibration at certain frequencies.

ขยายการสั่นที่บางความถึ่

But things get really interesting

แต่มันน่าสนใจตรงที่ว่า

depending on what instrument is attached to that mouthpiece.

มันขึ้นอยู่กับว่ากำพวดนั้น เชื่อมต่อกับเครื่องดนตรีชนิดใด

A brass instrument's body is essentially a tube

ตัวเครื่องดนตรีทองเหลือง ทำหน้าที่สำคัญเป็นอุโมงค์

that resonates with the air column blowing through it.

ที่ทำให้เสียงดังก้องด้วยอุโมงค์อากาศ ที่ถูกเป่าผ่านมัน

The way that sound waves travel through this column

ทางที่คลื่นเสียงเดินทางผ่านอุโมงค์นี้

forms a limited pattern of pitches known as the harmonic series,

สร้างรูปแบบที่จำกัดของระดับเสียง ที่เรียกกันว่า "ฮาโมนิก ซีรีส์" (harmonic series)

with notes spaced far apart at the lower end,

ที่มีระยะระหว่างตัวโน้ตที่ห่างกัน ในช่วงต่ำ

but coming closer together as the pitch increases.

แต่เข้ามาใกล้กันมากขึ้น เมื่อระดับเสียงเพิ่มขึ้น

The musician can alter the pitch of the note

นักดนตรีสามารถเปลี่ยนระดับเสียงของโน้ต

through slight contractions of the lips and alterations to air volume and speed.

ผ่านการบีบเข้าด้วยกันของริมฝีปาก และการเปลี่ยนปริมาตรอากาศ และความเร็ว

Slower, warm sighing air produces lower pitches,

ลมอุ่นๆ ที่ออกมาอย่างช้าๆ ให้ระดับเสียงต่ำ

and faster, cool, flowing air produces higher pitches in the series.

ลมที่เร็วและเย็น ให้ระดับเสียงที่สูงในซีรีส์นั้น

But any single harmonic series has gaps where pitches are missing

แต่ว่า แต่ละฮาร์โมนิก ซีรีส์ มีช่วงว่าง ที่ระดับเสียงหายไป

and the versatility of brass instruments

และด้วยความสามารถอันหลากหลาย ของเครื่องดนตรีทองเหลือง

lies in their ability to switch between multiple series.

พวกมันมีคุณสมบัติสับเปลี่ยนได้หลายซีรีส์

On instruments like the trumpet, valves can be lowered

เครื่องดนตรีอย่างทรัมเป็ด กระบอกสูงสามารถลดต่ำลงมาได้

to increase the length of tubing the air travels through,

เพื่อเพิ่มความยาวของท่อที่อากาศเดินทางผ่าน

while on a trombone, this is done by extending its slide.

ในขณะที่ในทรอมโบม มันเกิดขึ้นโดยการยืดออกของท่อเลือน

Lengthening the tube stretches the vibrating air column,

ทำให้ท่อยืดยาวออกไป ยืดอุโมงค์อากาศที่กำลังสั่น

reducing the frequency of vibrations and resulting in a lower pitch.

ลดความถึ่ของการสั่น และเป็นผลให้เกิดระดับเสียงที่ต่ำลง

This is why the tuba, the largest brass instrument,

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมทูบา เครื่องดนตรีทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุด

is also the one capable of playing the lowest notes.

ก็เป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีที่เล่นเสียงตัวโน้ต ได้ต่ำที่สุด

So changing the instrument length shifts its harmonic series,

ฉะนั้น การเปลี่ยนความความยาวของเครื่องดนตรี เป็นการเปลี่ยนฮาโมนิก ซีรีส์

while slight variations of the air flow and the player's lips

ในขณะที่การเปลี่ยนการสั่นเล็กน้อย ของอากาศที่ผ่าน และริมฝีปากของผู้เล่น

produce the different notes within it.

ให้โน้ตที่แตกต่างกัน

And those notes finally emerge through the flared bell opening at the end.

และโน้ตเหล่านั้นสุดท้ายแล้วก็จะออกมา ทางปลายปากกระฆังที่บานออก

What started as a deep breath and a vibrating buzz on the lips

ในตอนแรกที่เริ่มด้วยการหายใจเข้า และการสั่นบนริมฝีปาก

has now been transformed into a bold and brassy tune.

ได้ถูกเปลี่ยนเป็นเสียงที่ห้าวและแหบ

The musician's skillful manipulation of every part of the process

การความคุมอย่างชำนาญของนักดนตรี ในทุกขั้นตอน

from lungs,

จากปอด

to lips,

ถึงริมฝีปาก

to the mouthpiece,

ไปยังกำพวด

to the instrument itself creates an amazing palette of pitches

ไปยังเครื่องดนตรีเอง สร้างความหลากหลายแห่งระดับเสียง

that can be heard in musical genres across the globe.

ที่สามารถได้ยินในงานประพันธ์ทางดนตรี หลากชนิดทั่วโลก

By harnessing the power of natural resonance

โดยการควบคุมพลังของการสะท้อนตามธรรมชาติ

in a flexible and controllable way,

ในแบบที่ปรับเปลี่ยนและควบคุมได้

brass instruments are great examples of the fusion of human creativity

เครื่องดนตรีทองเหลืองเป็นตัวอย่างที่ดี ของการหลอมรวมความสร้างสรรค์ของมนุษย์

with the physics of our world.

กับฟิสิกส์ในโลกของเรา