Could comets be the source of life on Earth? - Justin Dowd

ดาวหางคือต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้หรือไม่ - จัสติน ดาวด์ (Justin Dowd)

Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Pattapon Kasemtanakul

Humans have observed comets for thousands of years

มนุษย์ได้เฝ้าดูดาวหางมาเป็นพันๆ ปี

as their orbits have brought them within visible distance of Earth.

ในขณะที่วงโคจรของมันเข้ามา ในระยะที่มองเห็นได้จากโลก

Appearing throughout historical records,

เป็นที่ปรากฏในบันทึกทางประวัติศาสตร์ว่า

these mysterious lights that came out of nowhere

แสงปริศนาเหล่านี้ที่ไม่ทราบว่ามาจากไหน

and disappeared after a short while

และหายไปหลังจากปรากฏได้ไม่นาน

were thought to be ill omens of war and famine,

ถูกเข้าใจว่าเป็นลางร้ายของสงคราม และความอดอยาก

or the wrath of gods.

หรือความพิโรธของพระเจ้า

But recent research has revealed that comets may be even more deeply connected

แต่งานวิจัยล่าสุดได้เผยว่า ดาวหางอาจมีความเกี่ยวข้องลึกซึ้ง

to humanity and our presence on Earth

กับมนุษยชาติและสิ่งที่ปรากฏอยู่ของโลก

than any of these mythical explanations suggested.

มากกว่าคำอธิบายแนะนำปรัมปราใดๆ

When you think of our Solar System, you probably imagine the nine,

เมื่อคุณคิดถึงระบบสุริยจักรวาลของเรา คุณอาจคิดถึงดาวเคราะห์เก้าดวง

sorry eight, planets orbiting the Sun.

ไม่สิ แปดดวงที่โคจรรอบดวงอาทิตย์

But beyond Neptune, far from the heat of the Sun,

แต่ห่างพ้นออกไปจากเนปจูน ไกลออกไปจากความร้อนของดวงอาทิตย์

there is a sparse ring found formed by icy chunks

มีวงแหวนที่เกิดขึ้นจาก ก้อนน้ำแข็ง

ranging from the size of marbles to that of small planets.

ที่มีขนาดจากเท่ากับลูกแก้วถึงขนาดของดาวเล็กๆ

And thousands of times farther at the outer reaches of the Solar System

และไกลออกไปเป็นพันๆ เท่า ที่ปลายสุดของระบบสุริยจักรวาล

lies a spherical cloud of small fragments and gases.

มีเมฆทรงกลมของฝุ่นและก๊าซ

Many of these ancient clumps of stardust are leftovers from the formation

กระจุกของฝุ่นดาวโบราณมากมายเหล่านี้ ถูกทิ้งไว้จากการก่อกำเนิด

of the Solar System 4.6 billion years ago,

ของระบบสุริยจักรวาลกว่า 4.6 พันล้านปีมาแล้ว

while some of the most distant may even come from a neighboring system.

ฝุ่นดาวที่อยู่ห่างออกไปที่สุด อาจไกลถึงระบบดาวที่เป็นเพื่อนบ้านของเรา

But sometimes the gravity from passing planets or stars

แต่บางครั้ง แรงโน้มถ่วง จากดาวเคราะห์ที่พวกมันผ่าน

pulls them toward our sun,

ก็ดึงพวกมันเข้ามายังดวงอาทิตย์

beginning a journey that can take up to millions of years.

เริ่มต้นการเดินทางที่อาจกินเวลาเป็นล้านปี

As the frozen object travels further into the Solar System,

เมื่อวัตถุเย็นจัดนี้ เดินทางต่อไปในระบบสุริยจักรวาล

the sun grows from a distant spark to an inferno,

ดวงอาทิตย์ส่องสว่างจากระยะไกล ไปยันสุดขอบแห่งความมืดมิด

melting the ice for the first time in billions of years.

ละลายน้ำแข็งเป็นครั้งแรกในพันล้านปี

Gas and steam eject dust into space,

ก๊าซและไอน้ำปลดปล่อยฝุ่นไปยังอวกาศ

forming a bright surrounding cloud, called a coma,

ก่อให้เกิดเมฆส่องสว่างล้อมรอบ เรียกว่า โคม่า

that can grow even larger than the sun itself.

ที่สามารถขยายได้มากกว่าดวงอาทิตย์เสียอีก

Meanwhile, the intense stream of high-energy particles

ระหว่างนั้น แนวของอนุภาคพลังงานสูงที่เบียดกันแน่น

constantly emitted by the Sun, known as the solar wind,

ถูกส่งผ่านออกมาอย่างต่อเนื่องจากดวงอาทิตย์ ซึ่งเรียกกันว่า ลมสุริยะ

blows particles away from the comet's core,

เป่าเอาอนุภาคออกจากแกนกลางของดาวหาง

forming a trail of debris up to millions of miles long.

ทำให้เกิดเป็นหางของฝุ่นละออง ยาวกว่าพันๆ ไมล์

The ice, gas and dust reflect light glowing brightly.

น้ำแข็ง ก๊าซ และฝุ่น สะท้อนแสง เรืองสว่างไสว

A comet is born, now orbiting the sun along with the rest of the objects

ดาวหางได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว และมันโคจรรอบดวงอาทิตย์ เหมือนกับวัตถุอื่นๆ

in our Solar System.

ในระบบสุริยะจักรวาล

But as the comet travels through the Solar System,

แต่ขณะที่ดาวหางเดินทางผ่านระบบสุริยจักรวาล

the solar wind tears apart and recombines molecules into various compounds.

ลมสุริยะฉีกและรวมโมเลกุล เป็นองค์ประกอบต่างๆ

In some of the compounds that scientists found,

ในบางสารประกอบที่นักวิทยาศาสตร์พบ

first in the rubble left by a meteorite that disintegrated above northern Canada,

ครั้งแรกในเศษซากก้อนอุกกาบาต ที่สลายตัว เหนือแคนาดาเหนือ

and then in samples collected by a space craft from a passing comet's tail,

และจากนั้นในตัวอย่างที่เก็บมาได้โดย ยานอวกาศ จากหางของดาวหาวที่ผ่านไป

were nothing less important than amino acids.

ก็เจอกรดอะมิโน ที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน

Coming together to form proteins according to the instructs encoded in DNA,

ที่เข้ามารวมกันเพื่อประกอบเป็นโปรตีน ตามรหัสที่กำกับโดยดีเอ็นเอ

these are the main active components in all living cells,

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบหลัก ในทุกเซลล์ที่มีชีวิต

from bacteria to blue whales.

จากแบคทีเรียถึงวาฬสีน้ำเงิน

If comets are where these building blocks of life were first formed,

ถ้าดาวหางเป็นที่แรกซึ่งสารตั้งต้นของสิ่งมีชีวิตนี้ ถูกสร้างขึ้น

then they are the ultimate source of life on Earth,

ดังนั้นพวกมันก็จะเป็นต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตบนโลก

and, perhaps, some of the other places they visited as well.

และบางที ในที่อื่นๆ ซึ่งมันได้ผ่านไปเช่นเดียวกัน

We know that planets orbit nearly every star in the night sky,

เรารู้ว่าดาวเคราะห์ที่โคจรใกล้ๆ เกือบจะทุกดาวในท้องฟ้ายามค่ำคืน

with one in five having a planet similar to Earth in size and temperature.

จะมีหนึ่งในห้าดวงที่คล้ายกับโลก ทั้งขนาดและอุณหภูมิ

If Earth-like planets and the molecules found in DNA are not anomalies,

ถ้าดาวเคราะห์ที่คล้ายโลกและโมเลกุลที่พบในดีเอ็นเอ ไม่ได้แปลกไปจากปกติ

we may be only one example of what's possible

เราอาจจะเป็นเพียงตัวอย่างเดียว ของสิ่งที่เป็นไปได้

when a planet under the right conditions is seeded with organic molecules

เมื่อดาวเคราะห์ที่อยู่ในสภาวะเหมาะเจาะ ได้รับซึ่งโมเลกุลของสารอินทรีย์

by a passing comet.

ที่ตกลงมาจากดางหางที่กำลังผ่านไป

So, rather than an omen of death,

ดังนั้น แทนที่จะเป็นลางร้ายแห่งความตาย

the comet that first brought amino acids to Earth

ดางหางที่นำกรดอะมิโนมาสู่โลกเป็นครั้งแรก

could have been a portent of life,

อาจเป็นสัญญาณแห่งชีวิต

a prediction of a distant future, where creatures of stardust

เป็นคำพยากรณ์ถึงอนาคตอันไกลโพ้น ที่ซึ่งสิ่งมีชีวิตแห่งดาวหาง

would return to space to find the mysteries of where they came from.

จะกลับไปยังอวกาศ เพื่อไขปริศนาว่าพวกเขามาจากที่ใดกันแน่