The scientific origins of the Minotaur - Matt Kaplan

Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Thitiporn Ratanapojnard

Far beneath the palace of the treacherous King Minos,

เบื้องล่างราชวัง ของกษัตริย์ไมโนส (Minos) ผู้ทุรยศ

in the damp darkness of an inescapable labryinth,

ในเขาวงกตไร้ทางออกที่มืดอับ

a horrific beast stalks the endless corridors of its prison,

อสูรร้ายเดินย่างกรายบนทางเดินไม่รู้จบ ในคุกของมัน

enraged with a bloodlust so intense that its deafening roar shakes the Earth.

ความเดือดดาลบ้าเลือดของมัน รุนแรงเสียจนเสียงคำรามกัมปนาทเขย่าปฐพี

It is easy to see why the Minotaur myth has a long history

มันไม่ยากที่จะเห็นว่าทำไมตำนานมิโนทอร์ จึงมีประวัติอันยาวนาน

of being disregarded as pure fiction.

ไม่ต่างอะไรกับนิยายเรื่องหนึ่ง

However, there's a good chance that the Minotaur

อย่างไรก็ดี มันเป็นไปได้ว่ามิโนทอร์

and other monsters and gods were created by our early ancestors

และสัตว์ประหลาดและทวยเทพอื่นๆ ถูกสร้างขึ้นโดยบรรพบุรุษยุคแรกของเรา

to rationalize the terrifying things that they saw in the natural world

เพื่อที่จะให้เหตุผลกับสิ่งที่น่ากลัว ที่พวกเขาเห็นในธรรมชาติ

but did not understand.

แต่ไม่เข้าใจ

And while we can't explain every aspect of their stories,

และในขณะที่เราไม่สามารถอธิบาย ทุกแง่มุมของเรื่องนี้ได้

there may be some actual science that reveals itself

มันอาจมีวิทยาศาสตร์บางส่วน ที่เปิดเผยออกมา

when we dissect them for clues.

เมื่อเราได้ทำการชำแหละหาเงื่อนงำ

So, as far as we know, there have never been human-bull hybrids.

เอาล่ะ เท่าที่เรารู้ มันไม่เคยมีลูกครึ่งคนกับกระทิง

But the earliest material written about the Minotaur

แต่บทความเก่าที่สุด ที่บันทึกไว้เกี่ยวกับมิโนทอร์

doesn't even mention its physical form.

ไม่ได้กล่าวถึงรูปลักษณ์ทางกายภาพ ของมันด้วยซ้ำ

So that's probably not the key part of the story.

ฉะนั้น นั่นอาจไม่ใช่สาระสำคัญของเรื่องนี้

What the different tellings do agree upon, however,

อย่างไรก็ดี สิ่งที่เรื่องเล่าทั้งหลาย ต่างเห็นตรงกัน

is that the beast lives underground,

คืออสูรนี้อาศัยอยู่ใต้ดิน

and when it bellows, it causes tremendous problems.

และเมื่อมันคำราม มันก็ก่อให้เกิดปัญหาใหญ่

The various myths are also specific in stating that genius inventor Daedalus,

ตำนานมากมายยังชี้ชัดลงไปว่า นักประดิษฐ์อัฉริยะนามเดียดาลัส (Daedalus)

carved out the labyrinth beneath the island of Crete.

สร้างเขาวงกตภายใต้เกาะครีต (Crete)

Archeological attempts to find the fabled maze

ความพยายามทางโบราณคดี ที่จะหาเขาวงกตในตำนานนี้

have come up empty handed.

เป็นอันต้องคว้าน้ำเหลว

But Crete itself has yielded the most valuable clue of all

แต่เกาะครีตเองก็ได้ให้เบาะแสที่มีค่าที่สุด

in the form of seismic activity.

ในรูปแบบของปรากฏการณ์แผ่นดินไหว

Crete sits on a piece of continental crust called the Aegean Block,

เกาะครีตตั้งอยู่บนแผ่นทวีปที่เรียกว่า อีเจียน บล๊อค (Aegean Block)

and has a bit of oceanic crust known as the Nubian Block

และมีบางส่วนตั้งอยู่บนแผ่นมหาสมุทร ที่เรียกว่า นูเบียน บล๊อค (Nubian Block)

sliding right beneath it.

เลื่อนอยู่ใต้มัน

This sort of geologic feature, called a subduction zone,

ลักษณะทางธรณีวิทยานี้ ที่เรียกว่าเขตมุดตัวของเปลือกโลก

is common all over the world and results in lots of earthquakes.

พบได้ทั่วโลก และเป็นสาเหตุทำให้เกิดแผ่นดินไหวมากมาย

However, in Crete the situation is particularly volatile

อย่างไรก็ดี สถานการณ์ของเกาะครีต ค่อนข้างที่จะรุนแรง

as the Nubian Block is attached

เพราะ นูเบียน บล๊อค ติดอยู่กับ

to the massive buoyant continental crust that is Africa.

แผ่นทวีปขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่ ซึ่งคือ ทวีปแอฟริกา

When the Nubian Block moves,

เมื่อ นูเบียน บล๊อค เคลื่อน

it does not go down nearly as easily or as steeply

มันไม่ได้เคลื่อนลงไปอย่างง่ายดาย หรือลึก

as oceanic crust does in most other subduction zones.

อย่างที่แผ่นมหาสมุทรเป็น ในส่วนเขตมุดตัวส่วนอื่นๆ ส่วนใหญ่

Instead, it violently and abruptly forces sections of the Mediterranean upwards

ในทางตรงข้าม มันดันส่วนเมดิเตอเรเนียนขึ้น อย่างรุนแรงและรวดเร็ว

in an event called uplift,

ที่เรียกกันว่า การยกตัว

and Crete is in uplift central.

และเกาะครีตก็ยกตัวในส่วนกลาง

In the year 2014, Crete had more than 1300 earthquakes

ในปี ค.ศ. 2014 เกาะครีตเกิดแผ่นดินไหว มากกว่า 1300 ครั้ง

of magnitude 2.0 or higher.

โดยมีความแรง 2.0 หรือมากกว่า

By comparison, in the same period of time,

เมื่อเทียบกัน ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น

Southern California, a much larger area, experienced a mere 255 earthquakes.

แคลิฟอร์เนียใต้ ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่กว่ามาก เกิดแผ่นดินไหวประมาณ 255 ครั้ง

Of course, we don't have detailed seismic records from the days of King Minos,

แน่ล่ะ เราไม่มีบันทึกแผ่นดินไหวอย่างละเอียด จากยุคของกษัตริย์ไมโนส

but we do know from fossil records and geologic evidence

แต่เรารู้จากบันทึกฟอสซิล และหลักฐานทางธรณีวิทยา

that Crete has experienced serious uplift events

ว่าเกาะครีตมีเหตุการณ์การยกตัวที่รุนแรง

that sometimes exceeded 30 feet in a single moment.

ที่บางครั้งสูงกว่า 30 ฟุต ในครั้งเดียว

Contrast this for a moment with the island of Hawaii,

ลองมาพิจารณาสิ่งที่ตรงข้ามกันสักเดี๋ยว กับหมู่เกาะฮาวาย

where earthquakes and volcanic activity

ที่ซึ่งการเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิด

were tightly woven to legends surrounding Pele,

มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด กับตำนานเกี่ยวกับเปเล่

a goddess both fiery and fair.

เทพธิดาแห่งไฟและความงาม

Like the Minotaur, her myths included tales of destruction,

เช่นเดียวกันมิโนทอร์ ตำนานของนาง เป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับการทำลายล้าง

but they also contained elements of dance and creation.

แต่ก็ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับการเต้นรำ และการสร้างสรรค์ด้วย

So why did Hawaii end up with Pele and Crete end up with the Minotaur?

ฉะนั้น ทำไมฮาวายมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับเปเล่ และครีตมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับมิโนทอร์ล่ะ

The difference likely comes down

ความแตกต่างน่าจะมีเหตุผลมาจาก

to the lava that followed many of Hawaii's worst earthquakes.

ลาวาที่เกิดขึ้นหลังจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ หลายครั้งในฮาวาย

The lava on Hawaii is made of basalt, which once cooled, is highly fertile.

ลาวาในฮาวายมาจากหินบะซอลท์ ซึ่งเมื่อเย็นลงจะมีธาตุอาหารอยู่มาก

Within a couple of decades of terrible eruptions,

ภายในสองสามทศวรรษ แห่งการปะทุที่รุนแรง

Islanders would have seen vibrant green life thriving

ชาวเกาะคงได้เห็นความเขียวขจี มีชีวิตชีวาจากพืชพันธุ์

on new peninsulas made of lava.

บนคาบสมุทรที่ทำจากลาวา

So it makes sense that the mythology captured this

ฉะนั้น จึงเข้าใจได้ว่า ตำนานจับเอาเรื่องราวตรงนี้

by portraying Pele as creator as well as a destroyer.

โดยให้บทบาทเปเล่ว่าเป็นผู้สร้าง เช่นเดียวกับที่เป็นผู้ทำลาย

As for the people of Crete,

สำหรับคนในเกาะครีต

their earthquakes brought only destruction and barren lands,

แผ่นดินไหวนำมาแต่การทำลายล้าง และแผ่นดินที่แห้งแล้ง

so perhaps for them the unnatural and deadly Minotaur was born.

ดังนั้น เป็นไปได้ว่า สำหรับพวกเขาแล้ว มิโนทอร์ที่แปลกประหลาดและดุร้ายได้กำเนิดขึ้น

The connections between mythical stories

ความเชื่อมโยงระหว่างเรื่องราวในตำนาน

and the geology of the regions where they originated

และสภาพทางธรณีวิทยา ของบริเวณที่พวกมันถือกำเนิดขึ้น

teach us that mythology and science are actually two sides of the same coin.

สอนเราว่า ตำนานและวิทยาศาสตร์ เป็นเหมือนเหรียญที่มีสองหน้า

Both are rooted in explaining and understanding the world.

ทั้งสองสิ่งนี้มีรากมาจากการอธิบาย และความเข้าใจต่อโลก

The key difference is that where mythology uses gods, monsters and magic,

ความแตกต่างหลักคือ ในขณะที่ตำนานใช้ทวยเทพ, อสูร และเวทย์มนต์

science uses measurements, records and experiments.

วิทยาศาสตร์ใช้การวัด, การบันทึก และการทดลอง