Nina Westbrook: How to support yourself (and others) through grief | TED

Transcriber:

Translator: Maria Tosa Reviewer: Sakunphat Jirawuthitanant

Cloe Shasha Brooks: Hello, TED Community,

โคลอี้ ชาช่า บรู๊คส์: สวัสดีค่ะ ชุมชน TED

you are watching a TED interview series

คุณกำลังรับชมซีรีส์สัมภาษณ์ TED

called How to Deal with Difficult Feelings.

มีชื่อว่า วิธีการรับมือกับ ความรู้สึกที่ยากลำบาก

I’m your host, Cloe Shasha Brooks, and a curator at TED.

ฉันคือเจ้าภาพของคุณ, โคลอี้ ชาช่า บรู๊คส์, และเป็นผู้ดูแลที่ TED ด้วย

This past year has been full of both personal and collective grief.

ปีที่ผ่านมาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ทั้งที่เป็นความเศร้าส่วนตัวและโดยรวม

And this grief has taken many forms.

และความเศร้าโศกนี้มีหลายรูปแบบ

And to dive deeper into the world of understanding and managing grief,

และเพื่อดำดิ่งสู่โลกแห่งความเข้าใจ ในการจัดการความเศร้าโศก

I'll be speaking first with Nina Westbrook,

ฉันจะคุยกับนีน่า เวสต์บรู๊คก่อน

a marriage and family therapist who has supported clients through loss.

นักบำบัดเรื่องการแต่งงานและครอบครัว ที่คอยประคับประคองลูกค้าที่ผ่านการสูญเสีย

Hi, Nina.

สวัสดี นีน่า

Nina Westbrook: Hi, Cloe, good to see you.

นีน่า เวสต์บรู๊ค: สวัสดี โคลอี้ ยินดีที่ได้พบคุณ

Thank you so much for having me.

ขอบคุณมากที่ให้ฉันได้เป็นส่วนหนึ่ง

CSB: Thanks for joining us.

ซีเอสบี: ขอบคุณที่เข้าร่วมกับเรา

Nina, you have talked about how grief can be about the loss of people

นีน่า, เธอเคยพูดถึงความเศร้าโศก เกี่ยวกับการสูญเสียคนไปแล้วบ้าง

and tangible things.

และสิ่งของที่จับต้องได้

But that it can also be about the loss of dreams,

แต่ว่ามันยังสามารถรวมถึง การสูญเสียความฝัน

something that many people have experienced over the past year.

สิ่งที่หลายคนเคยประสบในปีที่ผ่านมา

Can you give me some examples of grieving for lost dreams

คุณช่วยยกตัวอย่างความเศร้าโศก ให้กับความฝันที่ดับไปได้ไหม

and talk about what it means to experience this kind of grief?

และช่วยเล่าถึงการผ่านความเศร้าแบบนี้ มันหมายความว่าอย่างไร?

NW: Absolutely.

NW: แน่นอน

I believe that grief can take so many different forms,

ฉันเชื่อว่าความเศร้าโศก สามารถเป็นได้หลากหลายรูปแบบ

and I think oftentimes when we think about grief,

และฉันคิดว่าอาจเกิดเมื่อ เราคิดถึงเรื่องที่เศร้าโศก

we associate it with the emotional process

เราเชื่อมโยงมันเข้ากับกระบวนการทางอารมณ์

that takes place when we're coping with the death of a loved one.

ที่เกิดขึ้นเมื่อเรากำลังเผชิญ กับความตายของผู้เป็นที่รัก

I don't know.

ฉันไม่รู้ซิ

It's just not as common to associate grief

มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่จะ มีความเศร้าโศกมาเชื่อมโยง

or correlate grief with the loss of a dream.

หรือความเศร้าโศกกับการสูญเสียความฝัน

So when you think about dreams and when they begin

ดังนั้นเมื่อคุณคิดถึง ความฝันและเมื่อมันเริ่มต้น

and how deeply they're rooted into our daily lives and our routines

และหยั่งรากลึกในชีวิตประจำวัน และกิจวัตรของเรา

and how much our dreams

และความฝันเราบ่อยแค่ไหน

determine our decision-making process

ที่กำหนดกระบวนการตัดสินใจของเรา

and the choices that we make throughout the course of our lives,

และทางเลือกที่เราทำตลอดชีวิตของเรา

they hold a pretty significant amount of space

พวกมันมีพื้นที่ค่อนข้างมาก

in our minds and in our hearts.

ในความคิดและจิตใจของเรา

Imagine a child who,

จิตนาการถึงเด็กคนนึง

you know, from a young age, we begin to dream

คุณรู้ไหม ตั้งแต่อายุน้อย เราก็เริ่มที่จะฝัน

and they begin to dream about becoming an astronaut one day

และพวกเขาเริ่มมีความฝันว่า จะเป็นนักบินอวกาศให้ได้สักวันหนึ่ง

and walking on the moon or becoming a professional athlete.

และเดินขึ้นไปบนดวงจันทร์ หรือ อยากเป็นนักกีฬามืออาชีพ

And then as we grow older,

และเมื่อเราเติบโตขึ้น

we begin to focus in on what our needs are

เราก็โฟกัสไปถึงแต่สิ่งที่เราต้องการคืออะไร

and what our wants are,

และอะไรกันที่เราอยากได้

and our dreams begin to look more like acquiring our dream careers

และความฝันของเราก็เริ่ม เหมือนได้อาชีพในฝันของเรา

or job positions or opening businesses,

หรือตำแหน่งงาน หรือการเปิดธุรกิจ

having children or finding love.

การมีลูก หรือ การค้นหาความรัก

And the reality is that these dreams do not always work out

และความจริงก็คือความฝันเหล่านี้ ไม่ได้สำเร็จเสมอไป

and manifest themselves in a way that we have imagined, right?

และมันได้แสดงออกในแบบที่เราคิดไว้หรือไม่?

And that can be so devastating for so many people.

และนั่นก็สามารถสร้างความเสียหาย ให้กับคนจำนวนมากได้

The loss of careers and jobs

การสูญเสียอาชีพและการงาน

or our divorces, the loss of relationships,

หรือการหย่าร้างของเรา การสูญเสียความสัมพันธ์

or infertility can all be extremely devastating things

หรือภาวะมีบุตรยากล้วนเป็น สิ่งที่ทำลายล้างอย่างยิ่งยวด

and those types of devastating events

และเหตุการณ์ร้ายแรงพวกนี้

propel you into the emotional process

ขับเคลื่อนคุณเข้าสู่กระบวนการทางอารมณ์

that takes place during grief.

ที่เกิดขึ้นในยามทุกข์

CSB: Let's bring a question up from the audience.

CSB: ขอถามคำถามที่มาจากท่านผู้ชม

What are comforting things to do or say when someone is grieving?

สิ่งที่ช่วยบรรเทาที่ควรทำ หรือพูด เมื่อมีคนเศร้าโศกคืออะไร?

So I guess someone else in this case.

ดังนั้นฉันเดาว่า คนอื่น ที่กล่าวถึงในกรณีนี้

NW: That's a really amazing question.

NW: นั่นเป็นคำถามที่น่าทึ่งจริงๆ

A lot of the time, simply being present

หลายครั้งก็แค่การอยู่ในปัจจุบัน

and offering support and encouragement

และเสนอการประครอง และการสนับสนุน ส่งเสริม

is really going to be important

มันจะเริ่มเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ

when you're trying to support someone else through their grief.

เมื่อคุณกำลังพยายามที่จะช่วยใครสักคน ผ่านความเศร้าโศกของเขา

I think communication is also important,

ฉันคิดว่าการพูดคุยกัน ก็เป็นสิ่งที่สำคัญเหมือนกัน

asking that person,

การถามใครคนนั้น

"What can I do,"

“ฉันสามารถช่วยอะไรได้ไหม”

or "What do you need from me in this moment

หรือ “คุณมีอะไรที่ต้องการจากฉัน ในตอนนี้บ้างไหม

and how can I best support you,"

และฉันจะช่วยคุณอย่างดีที่สุด ได้อย่างไรกัน”

is kind of going to be the best way to figure out how to support this person.

มันค่อนข้างจะเป็นทางที่ดีที่สุด เพื่อที่จะหาวิธีในการช่วยใครคนนี้

Sometimes they just want someone to listen to.

บางครั้งพวกเขาก็แค่อาจจะต้องการคนคอยรับฟัง

Sometimes they need someone to make them laugh or to help, you know,

บางครั้งพวกเขาก็ต้องการใครสักคนที่จะช่วย ทำให้เขาหัวเราะ หรือ แค่ช่วยเขา คุณรู้ไหม

keep them distracted for a moment

ช่วยให้เขาไม่สนใจกับปัญหาซักชั่วขณะ

or sometimes they just need someone to be around them.

หรือบางเวลาพวกเขาอาจนะต้องการใครสักคนใกล้ๆ

It just really depends on the person,

จริง ๆ มันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

since grief is so subjective in the way that we go through it.

เนื่องจากความเศร้าโศกเป็นเรื่องส่วนตัว ในวิธีที่เราเองต้องผ่านมันไป

CSB: Totally.

CSB: นั่นนะสิ

And let's go right into some strategies, too.

และมาดูกลยุทธ์บางอย่างกัน

So I'm sure you have strategies for managing the grief of lost dreams.

ฉันแน่ใจว่าคุณมีกลยุทธ์ในการจัดการ ความเศร้าโศกของความฝันที่ถูกดับลง

How do people pick themselves back up after that?

หลังจากนั้นผู้คนจะดึงตัวเอง กลับมาได้อย่างไร?

NW: You want to give yourself permission to grieve, first off.

NW: ก่อนอื่นเลย คุณต้องอนุญาตให้ตัวเองเสียใจก่อน

And it's not a linear journey,

และไม่ใช่การเดินทางเชิงเส้น

there is going to be lots of ups and downs that take place.

ที่มันจะมีขึ้นและลงที่เกิดขึ้นมากมาย

Some days you're going to be OK and some days you might cry

บางวันคุณจะเป็นปกติ และ บางวันคุณอาจต้องร้องไห้

and sometimes you might go a month without crying.

และบางครั้งคุณอาจผ่านไปสักเดือน ที่ไม่มีการร้องไห้เลย

And then one day everything comes crashing down all at once.

และเมื่อวันนึงที่ทุก ๆ อย่างผ่านเข้ามา และพังทลายลงในครั้งเดียว

It's just a matter of giving yourself permission to go through these feelings

ก็แค่ยอมอนุญาต ให้ตัวคุณผ่านความรู้สึกนี้ไป

and knowing and reassuring yourself that this is OK and it's normal.

และการรู้และปลอบใจตัวเอง ว่าเป็นเรื่องปกติและมันเป็นเรื่องธรรมดา

And also keeping in mind

และโปรดจำไว้ด้วยว่า

that it's OK to feel joy even in those moments of sadness

มันก็เป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกถึงความสุข ในช่วงที่อยู่ความเศร้าเช่นกัน

that you're going to experience when you're grieving.

ที่คุณจะได้สัมผัสเมื่อคุณเศร้าโศก

The other thing that I think is really important

อีกอย่างที่คิดว่าสำคัญจริงๆ

is just to be proactive in the grieving process.

คือเพียงการกระตุ้น ในกระบวนการของความเศร้าโศก

Don't ignore your grief.

อย่าละเลยต่อความเศร้าโศก

You can seek support.

คุณสามารถมองหาความช่วยเหลือ

You can't be afraid to ask for support

ไม่ต้องกลัวที่จะขอการสนับสนุน

or lean on others, people that you trust,

หรือพึ่งพาผู้อื่น คนที่คุณไว้วางใจ

friends, family members, coworkers, whomever it may be for support.

เพื่อน ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน ใครก็ได้ที่ให้การสนับสนุน

And then making a plan, making a new plan.

แล้วก็ลองวางแผน วางแผนใหม่

Mourning happens over time.

ความโศกเศร้าเกิดขึ้นตามกาลเวลา

What it's doing, what we're doing,

มันกำลังทำอะไร เรากำลังทำอะไร

and all of the emotions that were going through

และทุกอารมณ์ที่ผ่านไป

during that mourning process

ในระหว่างการทุกข์นั้น

is we're literally detaching ourselves emotionally from the dream

คือ การที่เรากำลังแยกตัว ออกจากความฝันอย่างแท้จริง

that we are mourning

ที่เราทุกข์

or from the object that we're mourning.

หรือจากสิ่งที่เรากำลังทุกข์

And what that's doing is opening yourself up

และที่กำลังทำอยู่คือการเปิดใจ

and making space for new dreams

และสร้างพื้นที่สำหรับความฝันใหม่

and new experiences and new opportunities in the future.

และประสบการณ์ใหม่ๆ และโอกาสใหม่ๆ ในอนาคต

So goal setting and planning is going to be key.

ดังนั้นการตั้งเป้าหมายและ การวางแผนจึงเป็นกุญแจสำคัญ

A lot of the time we really focus on plan A.

หลายครั้งที่เราโฟกัสไปที่แผน เอ จริงๆ

So this is a great time to pivot

นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะหมุน

and focus on planning for a new future and a new outcome.

และเน้นการวางแผน เพื่ออนาคตใหม่ และผลลัพธ์ใหม่

CSB: Absolutely.

CSB: แน่นอนที่สุด

And just one final quick question for you,

และคำถามสุดท้ายสั้นๆ เพียงคำถามเดียวสำหรับคุณ

which is that sometimes people get mad at themselves

ซึ่งก็คือบางครั้งคนเราก็โกรธตัวเอง

for not getting over their grief.

เพื่อไม่สามารถพ้น จากความรู้สึกผิด

What would you say to those people?

คุณจะพูดอะไรกับคนเหล่านั้น?

NW: It's really important to keep healing at the forefront of your mind.

NW: การรักษาให้อยู่ใน ระดับแนวหน้าของจิตใจเป็นสิ่งสำคัญมาก

And I think that understanding the grief process

และฉันคิดว่าการเข้าใจกระบวนการความเศร้าโศก

and going through the ups and downs

และผ่านการขึ้น ๆ ลง ๆ

and knowing that that's all a part of it,

และรู้ว่านั่นทั้งหมดคือส่วนหนึ่ง

you have to be patient with yourself,

คุณต้องมีความอดทนต่อตัวเอง

you have to give yourself grace

คุณต้องให้เกียรติตัวเอง

and understand that you're going to have good days,

และเข้าใจว่าคุณกำลังจะมีวันที่ดี

you're going to have bad days.

คุณก็จะมีวันที่เลวร้าย

But when it all comes down to it,

แต่เมื่อทุกอย่างได้มาถึง

if you're keeping the idea of healing in the forefront,

หากคุณยังคงมีแนวความคิด ในการรักษาแนวหน้าไว้

then you can focus your energy and your time into that process

จากนั้นคุณสามารถมุ่งเน้นพลังงาน และเวลาของคุณในกระบวนการนั้น

and going through it in a way that is productive

และผ่านมันไปทางใดทางหนึ่งที่มีประสิทธิภาพ

to your emotional well-being in the future.

เพื่อสภาพอารมณ์ของคุณที่ดีขึ้นในอนาคต

CSB: Wonderful.

CSB: มหัศจรรย์

Well, thank you so much for this conversation, Nina.

ขอบคุณมากสำหรับการสนทนานี้นะ นีน่า

We have come to the end,

เราก็ได้มาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว

but really grateful to you for joining us.

แต่ก็ขอบคุณจริงๆ ที่มาร่วมงานกับเรา

Take care.

เทคแคร์

NW: Thank you so much for having me. Take care.

NW: ขอบคุณมาก ที่ให้ฉันได้เป็นส่วนหนึ่ง เทคแคร์