Can you freeze your body and come back to life? - Shannon N. Tessier

Translator: Nunnaphat Khananai Reviewer: Sakunphat Jirawuthitanant

On January 12th, 1967, James Bedford passed away.

เจมส์ เบดฟอร์ด ได้จากโลกนี้ไปเมื่อ 12 มกราคม ปี 1967

But— he had a plan to cheat death.

แต่เขามีแผนที่จะโกงความตาย

Bedford was the first person to be cryogenically frozen.

เบดฟอร์ดคือมนุษย์คนแรก ที่ถูกแช่แข็งด้วยความเย็นจัด

This process promised to preserve his body until a theoretical future

กระบวนการนี้สัญญาว่าจะรักษาร่างของเขา ไว้จนถึงอนาคตในทางทฤษฎี

when humanity could cure any illness, and essentially, reverse death.

เมื่อมนุษยชาติรักษาโรคต่าง ๆ ได้ และในทางปฏิบัติสามารถคืนชีพได้

This is the dream of cryonics.

นี่คือความฝันของการแช่แข็งร่างมนุษย์

But here’s the catch: to revive people in the future,

แต่ประเด็นสำคัญคือ : ในการจะคืนชีพมนุษย์ในอนาคต

we need to properly preserve them in the present.

เราจำเป็นต้องเก็บรักษาร่างพวกเขา อย่างเหมาะสมในปัจจุบัน

So, is it currently possible to freeze a human,

ดังนั้น เป็นไปได้หรือไม่ในปัจจุบัน ที่จะแช่แข็งมนุษย์

preserve them indefinitely, and then safely thaw them out?

รักษาสภาพร่างเขาเหล่านั้นไปเรื่อย ๆ แล้วละลายพวกเขาออกมาอย่างปลอดภัย

To understand the hurdles of human cryopreservation,

เพื่อให้เข้าใจอุปสรรคในการแช่แข็งมนุษย์

we need to leave the theoretical realm of cryonics,

เราจำเป็นต้องออกจากขอบเขต ทางทฤษฎีของการแช่แข็งร่างมนุษย์

and turn to the scientific field of cryobiology.

และกลับมาสู่หลักการวิทยาศาสตร์ ของชีววิทยาการแช่แข็ง

This discipline studies the effects of low temperatures

สาขานี้ศึกษาถึงผลกระทบของอุณหภูมิต่ำ

on various living systems,

ต่อระบบของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ

and it is true that decreasing an organism’s temperature

และมันถูกต้องที่ว่า การลดอุณหภูมิของสิ่งมีชีวิตลง

also decreases its cellular function.

ยังลดการทำงานของเซลล์อีกด้วย

For example, at temperatures below -130 degrees Celsius,

เช่น ที่อุณหภูมิต่ำกว่าลบ 130 องศาเซลเซียส

human cellular activity grinds to a halt.

การทำงานของเซลล์มนุษย์จะหยุดชะงักลง

So if you could bring an entire human body below that temperature,

ดังนั้น หากคุณนำทั้งร่างของมนุษย์ ไปอยู่ต่ำกว่าอุณหภูมินั้นได้

theoretically you could preserve it indefinitely.

ตามทฤษฎีแล้ว คุณจะสามารถเก็บรักษาร่างไปเรื่อย ๆ ได้

The hard part is doing this without damaging the body.

ส่วนที่ยากคือ การดำเนินการโดยไม่ทำให้ร่างกายเสียหาย

For example, let's try to freeze a single red blood cell.

เช่น ลองแช่แข็งเซลล์เม็ดเลือดแดง เพียงเซลล์เดียว

It typically sits at a temperature of 37 degrees Celsius

โดยทั่วไปอุณหภูมิของมันอยู่ที่ 37 องศาเซลเซียส

in a solution of water and substances known as chemical solutes,

ในสารละลายของน้ำและ สารที่เรียกกันว่า สารละลายทางเคมี

which dissolve under certain conditions.

ซึ่งละลายภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง

But once the temperature drops below freezing,

แต่เมื่ออุณหภูมิลดลงต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง

water outside and inside the cell hardens into damaging ice crystals.

น้ำภายนอกและภายในเซลล์แข็งตัว เป็นผลึกน้ำแข็งที่ทำให้เกิดความเสียหาย

Without the correct concentration of water,

หากปราศจากความเข้มข้นของน้ำที่เหมาะสม

the chemical solutes are unable to dissolve.

สารละลายเคมีจะไม่สามารถละลายได้

And as the water freezes, they become increasingly concentrated

และเมื่อน้ำแข็งตัว มันก็จะเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ

in a destructive process known as osmotic shock.

ในกระบวนการทำลายที่เรียกกันว่า ออสโมติกช็อก

Without any intervention,

หากไม่มีข้อผิดพลาดใด ๆ

these factors are guaranteed to destroy our red blood cell

รับประกันว่าปัจจัยเหล่านี้ จะทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงของเราแน่นอน

before it reaches -130 degrees.

ก่อนมันจะถึงลบ 130 องศาเซลเซียส

Not all cells are this fragile,

ไม่ใช่ทุกเซลล์จะเปราะบางแบบนี้

and many animals have evolved to survive extreme conditions.

และสัตว์หลายชนิดได้ปรับตัว ที่จะดำรงชีวิตในสภาวะที่สุดขั้วได้

Some cold-tolerant fish synthesize antifreeze proteins

ปลาบางชนิดที่ทนความเย็น ได้สังเคราะห์โปรตีนกันการแข็งตัว

to prevent ice formation at sub-zero temperatures.

เพื่อป้องกันการแข็งตัวเป็นน้ำแข็ง ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 0

And freeze-tolerant frogs use protective agents to survive

และกบที่ทนความเย็นจัด ใช้สารป้องกันเพื่อให้ตัวมันอยู่รอด

when up to 70% of their body water is trapped as ice.

เมื่อถึง 70% ของน้ำในร่างกาย จะถูกตรึงอยู่ในรูปของน้ำแข็ง

It's unlikely that any one creature holds the secret to human cryopreservation.

ไม่น่าเป็นไปได้ที่สิ่งมีชีวิตใดจะ กุมความลับของการแช่แข็งมนุษย์ไว้

But by researching these adaptations,

แต่จากการค้นคว้าเรื่องการปรับตัวเหล่านี้

scientists have developed remarkable preservation technologies,

นักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนา เทคโนโลยีการเก็บรักษาที่น่าทึ่ง

some of which are already employed in medicine.

ซึ่งบางอย่างถูกนำมาใช้ ในทางการแพทย์อยู่แล้ว

However, researchers are still trying to improve cryopreservation technology

อย่างไรก็ตาม นักวิจัยยังคงพยายามพัฒนา เทคโนโลยีการแช่แข็งร่างมนุษย์

to better manage the ice problem.

เพื่อจัดการปัญหาได้ดียิ่งขึ้น

Many cryobiologists are trying to solve this issue

เหล่านักวิจัยยังคงพยายามแก้ปัญหานี้

with an approach called vitrification.

ด้วยวิธีการที่เรียกกันว่า การทำให้เป็นแก้ว

This technique uses chemicals known as cryoprotectant agents (CPA)

เทคนิคนี้ใช้สารเคมีที่เรียกว่า สารป้องกันการแข็งตัว (CPA)

to prevent ice from forming.

เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำแข็งก่อตัว

Some of these have been adapted from compounds in nature,

บางส่วนได้ถูกพัฒนาจากสารประกอบในธรรมชาติ

while others have been designed to take advantage of cryobiology’s

ในขณะที่ส่วนอื่น ๆ ถูกออกแบบมา เพื่อใช้ประโยชน์จากหลักการชี้นำ

guiding principles.

ของศาสตร์การแช่แข็ง

But in practice,

แต่ในทางปฏิบัติ

these chemicals allow researchers to store living systems

สารเคมีเหล่านี้ช่วยให้นักวิจัย เก็บรักษาระบบสิ่งมีชีวิตไว้

in a glassy state with reduced molecular activity and no damaging ice.

ในสถานะแก้วโดยมีการทำงานของโมเลกุลลดลง และไม่มีผลึกน้ำแข็งที่จะสร้างความเสียหาย

Vitrification is ideal for cryonics,

การทำให้เป็นแก้วเหมาะสำหรับ การแช่แข็งร่างมนุษย์

and would help preserve organs and other tissues for medical procedures.

มันจะช่วยรักษาอวัยวะและเนื้อเยื่ออื่น ๆ เพื่อขั้นตอนทางการแพทย์

But it’s incredibly difficult to achieve.

แต่มันค่อนข้างยากที่จะประสบผลสำเร็จ

CPAs can be toxic in the high quantities required for large scale vitrification.

CPAs ในปริมาณสูงอาจเป็นพิษได้ ซึ่งจำเป็นสำหรับการทำให้เป็นแก้วขนาดใหญ่

And even with these chemicals,

และถึงแม้จะมีสารเคมีเหล่านี้

preventing ice formation requires rapid cooling

การห้ามการก่อตัวเป็นน้ำแข็ง จำเป็นต้องทำให้เย็นตัวลงอย่างรวดเร็ว

that lowers temperatures uniformly throughout the material.

ซึ่งลดอุณหภูมิลงอย่างสม่ำเสมอทั่วทั้งวัสดุ

That’s relatively easy when vitrifying single cells or small pieces of tissue.

นั่นเป็นเรื่องง่ายเมื่อทำให้เป็นแก้วเพียง เซลล์เดียว หรือชิ้นส่วนเนื้อเยื่อเล็ก ๆ

But as the material becomes more complex and contains larger quantities of water,

แต่ในเมื่อวัสดุมีความซับซ้อนมากขึ้น และมีน้ำในปริมาณมากขึ้น

staying ahead of ice formation gets challenging.

การจะเอาชนะการก่อตัวของน้ำแข็งนั้น เป็นเรื่องที่ท้าทาย

And even if we could successfully vitrify complex living material,

และถึงแม้เราจะสามารถแช่แข็ง วัสดุมีชีวิตที่มีความซับซ้อนได้สำเร็จ

we'd only be halfway to using it.

เราคงจะใช้มันได้แค่ครึ่งทางเท่านั้น

Vitrified tissue also needs to be uniformly warmed

เนื้อเยื่อที่เป็นแก้วต้องได้รับความร้อน อย่างสม่ำเสมอด้วย

to prevent the formation of ice, or worse, cracks.

เพื่อป้องกันการก่อตัวของน้ำแข็ง หรือแย่ไปกว่านั้นคือรอยแตก

To date, researchers have been able to vitrify and partially recover

ปัจจุบันนักวิจัยสามารถ ทำให้เป็นแก้วและฟื้นฟู

small structures like blood vessels, heart valves, and corneas.

โครงสร้างขนาดเล็กบางส่วนได้ เช่น หลอดเลือด ลิ้นหัวใจ และกระจกตา

But none of these are anywhere near the size and complexity

แต่ก็ไม่มีอันไหนเลยที่จะใกล้เคียง กับขนาดและความซับซ้อน

of a whole human being.

ของร่างมนุษย์ทั้งหมด

So if it’s not currently possible to cryopreserve a person,

ดังนั้น หากปัจจุบันการเก็บรักษามนุษย์ โดยการแช่แข็งยังไม่สามารถเป็นไปได้

what does this mean for Bedford and his frozen peers?

นี่หมายความว่าอย่างไรกับ เบดฟอร์ดและเพื่อน ๆ ของเขาล่ะ

The sad truth is that current cryonic preservation techniques

ความจริงที่น่าเศร้าก็คือ ในปัจจุบันเทคนิคการเก็บรักษาโดยการแช่แข็ง

only offer their patients false hope.

เป็นเพียงการให้ความหวัง ลม ๆ แล้ง ๆ กับผู้ป่วย

As practiced, they’re both unscientific and deeply destructive,

ตามที่ได้ทำกันอยู่ ทั้งสองทางยังขาดหลักฐาน ทางวิทยาศาสตร์และอันตรายอย่างมาก

irreparably damaging the body’s cells, tissues, and organs.

อาจทำลายเซลล์ร่างกาย เนื้อเยื่อ และอวัยวะต่าง ๆ อย่างไม่อาจแก้ไขได้

Some devotees might argue that, like death and disease,

ผู้คนที่เชื่ออาจโต้แย้งว่า เช่นเดียวกับความตายและโรคภัยต่างๆ

this damage may be reversible one day.

ความเสียหายนี้อาจแก้ไขได้ในวันหนึ่ง

Even if scientists could revive people through cryonic preservation,

ถึงแม้นักวิทยาศาสตร์จะทำให้ มนุษย์ฟื้นชีพได้โดยการแช่แข็ง

there’s a whole suite of ethical, legal, and social implications

แต่ยังมีผลกระทบทางจริยธรรม กฎหมาย และสังคมมากมาย

which cast doubts on the technology’s overall benefits.

ซึ่งทำให้ประโยชน์โดยรวม ของเทคโนโลยีนี้เป็นที่สงสัย

But for now, the dream of cryonics is still on ice.

แต่สำหรับตอนนี้ ความฝันในการแช่แข็ง มนุษย์นั้นยังคงเป็นเรื่องที่ต้องรอต่อไป