The myth of Jason, Medea, and the Golden Fleece - Iseult Gillespie

Translator: Yada Pudpong Reviewer: Sakunphat Jirawuthitanant

In the center of Colchis in an enchanted garden,

ใจกลางเมืองโคลคิส ณ สวนต้องมนต์แห่งหนึ่ง

the hide of a mystical flying ram hung from the tallest oak,

มีขนแกะบินได้อันลึกลับ แขวนอยู่กับต้นโอ๊กต้นที่สูงที่สุด

guarded by a dragon who never slept.

ถูกปกป้องโดยมังกรซึ่งไม่มีวันหลับ

Jason would have to tread carefully to pry it from King Aeetes’ clutches

เจสัน ต้องก้าวเข้าไปอย่างระวัง เพื่อนำมันออกมาจากกำมือของกษัตริย์เอทีส

and win back his promised throne.

และเพื่อทวงสัญญาในการครองบัลลังก์ของเขา

But diplomacy was hardly one of the Argonauts’ strengths.

แต่การเจรจา ไม่ใช่สิ่งที่เหล่าลูกเรืออาร์โกถนัดเลย

Jason would have to navigate this difficult task alone.

เจสันจะต้องทำภารกิจนี้เพียงลำพัง

Or so he thought.

หรือเท่าที่เขาคิด

Leaving most of his bedraggled crew to rest,

ทิ้งให้ลูกเรือมอมแมมของเขาให้พัก

Jason made for the palace with some of his more even-tempered men.

เจสันเข้าไปในพระราชวัง พร้อมกับลูกเรือคนอื่น ๆ ที่สุขุมใจเย็น

His first instinct was to simply ask the king for his prized possession.

ในตอนแรกเขาคิดเพียง จะขอสมบัติจากการครอบครองของกษัตริย์

But Aeetes was enraged at the hero’s presumption.

แต่กษัตริย์เอทีส กลับเกรี้ยวกราดในความทะนงตัวของวีรบุรุษ

If this outsider wanted his treasure,

หากผู้ใดต้องการสมบัติของเขา

he would have to prove his worth by facing three perilous tasks.

ผู้นั้นจะต้องพิสูจน์ว่าเขาคู่ควร ด้วยการเผชิญหน้ากับภารกิจอันตรายสามอย่าง

The trials would begin the following day, and Jason was dismissed to prepare.

การทดสอบจะเริ่มขึ้นในวันถัดไป เจสันจึงถูกปล่อยให้ไปเตรียมตัว

But another member of the royal family was also plotting something.

ในขณะที่สมาชิกราชวงศ์คนอื่น กำลังวางแผนการบางอย่าง

Thanks to the encouragement of Jason’s guardians on Mount Olympus,

ต้องขอบคุณการสนับสนุน จากผู้พิทักษ์ของเจสันบนยอดเขาโอลิมปัส

Medea, princess of Colchis and priestess of the witch goddess Hecate,

ที่ทำให้เมเดีย เจ้าหญิงแห่งโคลคิส นักพรตแห่งเทพีแห่งเวทมนต์คาถาเฮคาที

had fallen in love with the challenger.

ตกหลุมรักกับเจสันผู้ท้าประลอง

She intended to protect her beloved from her father’s tricks — at any cost.

เธอตั้งใจแน่วแน่ที่จะปกป้องคนรัก จากกลลวงของพระบิดา-ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไร

After a sleepless night, Jason somberly marched to the castle—

หลังจากนอนไม่หลับทั้งคืน เจสันเดินเข้าไปในพระราชวังอย่างเศร้าหมอง

but was intercepted.

แต่เขาถูกขวางไว้

The princess armed him with strange vials and trinkets,

เจ้าหญิงเตรียมขวดน้ำยาแปลก ๆ และเครื่องประดับเล็กน้อยให้เขา

in exchange for a promise of eternal devotion.

เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน คำสัญญาในการอุทิศตัวจนชั่วนิรันดร์

As they whispered and planned their victory,

ในขณะที่ทั้งสองกระซิบ และวางแผนไปสู่ชัยชนะ

both hero and princess fell deeply under each other’s spell.

ทั้งเจสันและเจ้าหญิง ก็ตกในห้วงมนต์ของอีกฝ่าย

Unaware of his daughter’s scheming,

โดยที่ไม่รู้แผนการของพระธิดา

the king confidently led Jason to face his first task.

กษัตริย์ได้นำเจสัน ไปสู่ภารกิจแรกอย่างมั่นใจ

The hero was brought to a huge field of oxen

เขาถูกพาไปยังทุ่งกว้างที่เต็มไปด้วยวัว

that lay between him and the fleece,

ซึ่งกั้นระหว่างเขาและขนแกะทองคำ

and told that he had to plough the land around the crowds of oxen.

เขาถูกสั่งให้ไถดินบริเวณรอบ ๆ ฝูงวัว

A simple task— or so Jason thought.

งานง่าย ๆ - หรือเท่าที่เจสันคิด

But Medea had concocted a fire-proof ointment,

แต่เมเดียได้ผสมยาขี้ผึ้งกันไฟให้เขาแล้ว

and so he plowed the flickering fields unscathed.

ดังนั้นเขาจึงไถดินที่มีไฟลุก ได้โดยไม่ได้รับอันตรายสักนิด

For the second task,

สำหรับภารกิจที่สอง

he was given a box of serpent’s teeth to plant into the scorched earth.

เขาได้รับกล่องที่ใส่เขี้ยวงูพิษ และต้องเพาะมันลงไปในดินที่ร้อนไหม้

As soon as Jason scattered them, each seed sprouted into a bloodthirsty warrior.

ทันทีที่เขาหว่านมันลงไป เมล็ดพันธุ์ เหล่านั้นก็กลายเป็นนักรบกระหายเลือด

They burst up around him, barricading his way forward,

พวกเขากระโจนขึ้นมาขวางทางของเจสันไว้

but Medea had prepared him for this task as well.

แต่เมเดียก็ได้เตรียมการไว้ สำหรับภารกิจนี้เช่นกัน

Hurling a heavy stone she had given him into their midst,

เมื่อเจสันขว้างหินก้อนใหญ่ ที่เมเดียเตรียมให้ไว้ออกไป

the fighters turned on themselves as they scrabbled for it,

เหล่านักรบก็หันหลังกลับเพื่อไปคว้ามัน

letting him slip by the fray.

และปล่อยให้เขาหลุดจากการต่อสู้

For the third task,

สำหรับภารกิจที่สาม

Jason was finally face to face with the guardian of the Fleece.

ในที่สุดเจสันก็ได้เผชิญหน้า กับผู้ปกป้องขนแกะทองคำ

Dodging sharp claws and singeing breath,

เพื่อที่จะหลบเลี่บงกรงเล็บแหลมคม และลมหายใจที่ร้อนเป็นไฟ

Jason scrambled up the tree and sprinkled a sweet-smelling concoction

เจสันปีนขึ้นต้นไม้และหยดน้ำยากลิ่นหอมลงมา

over the dragon.

บนตัวของมังกร

As the strains of Medea’s incantations reached its ears

เมื่อมังกรได้ยินคาถาของเมเดีย

and the potion settled in its eyes, the dragon sank into a deep sleep.

และน้ำยาเวทมนต์หล่นไปในตาของมัน มังกรก็จมลงสู่ห้วงนิทรา

Elated, Jason climbed to the top of the tallest oak,

เจสันปีนขึ้นไปบนยอดต้นโอ๊กอย่างเริงร่า

where he slipped the gleaming fleece off its branch.

แล้วนำขนแกะทองคำออกมาจากกิ่งไม้

When the king saw the hero sprinting away—

เมื่อกษัตริย์เห็นเจสันวิ่งออกไป

not only with the fleece, but his daughter in tow—

กับขนแกะทองคำ พร้อมกับจูงมือธิดาของเขาออกไป

he realized he had been betrayed.

ตอนนั้นพระองค์จึงรู้ว่าตนถูกหักหลัง

Furious, he sent an army led by his son Absyrtus

ด้วยความโกรธแค้น พระองค์จึงได้ส่งกองทัพนำโดยโอรสของเขา

แอพเซทัส

to bring the ill-gotten prize and his conniving daughter home.

เพื่อนำรางวัลที่ถูกแย่งไป และธิดาผู้สมรู้ร่วมคิดกลับคืนมา

But all the players in this tale had underestimated the viciousness

แต่พวกเขาทุกคนในเรื่องนี้ ล้วนประมาณความร้ายกาจ

of these disgraced lovers.

ของคู่รักที่น่าอัปยศเช่นนี้ต่ำเกินไป

To the horror of the Gods, Jason ran his sword through Absyrtus in cold blood.

ด้วยความเกลียดชังในเทพเจ้า เจสันแทงแอพเซทัสด้วยดาบอย่างเลือดเย็น

Medea then helped him scatter pieces of the body along the shore,

เมเดียช่วยเขานำชิ้นส่วนร่างกาย ของพี่ชายไปทิ้งตามชายฝั่ง

distracting her grieving father while the Argonauts escaped.

เพื่อล่อความสนใจของพระบิดา ในระหว่างที่ลูกเรืออาร์โกหลบหนีไป

As Colchis and their pursuers grew smaller on the horizon,

เมื่อเมืองโคลคิสและผู้ไล่ตามเริ่มไกลห่างไป

a solemn silence fell aboard the Argo.

ความเงียบก็เข้าปกคลุมเรืออาร์โก

Jason could now return to Thessaly victorious—

เจสันสามารถกลับไปยังเมืองเทสซาลีกับชัยชนะ

but his terrible act had tarnished his crew’s honor,

แต่การกระทำที่เลวร้ายของเขา ได้ลบล้างความยกย่องของเหล่าลูกเรือ

and turned the Gods against them.

และทำให้ทวยเทพ เป็นปฎิปักษ์ต่อพวกเขา

Buffeted by hostile winds,

หลังจากฝ่าพายุลมกระโชกมา

the wretched crew washed up on the island of Circe the sorceress.

เหล่าลูกเรือที่โชคร้ายถูกพัด ไปยังเกาะของแม่มดเซอร์ซี

Medea begged her aunt to absolve them of wrongdoing—

เมเดียร้องขอป้าของนาง ให้อภัยพวกเขาจากกระทำผิด

but bloody deeds are not so easily forgotten,

แต่กรรมชั่วร้ายไม่สามารถถูกลืมได้ง่าย ๆ

and fallen heroes not so rapidly redeemed.

และวีรบุรุษที่ตกต่ำ ก็ยังไม่ถูกคืนตัวมาในเร็ววัน