The myth of Pegasus and the chimera - Iseult Gillespie

Translator: Chatchanok Chalothonpises Reviewer: Natthapat Mardech

Shielded from the gorgon’s stone-cold gaze,

การป้องกันตัวจากกอร์กอน ไม่ให้จ้องมองแล้วกลายเป็นหิน

Perseus crept through Medusa’s cave.

เพอร์ซีอุสใช้วิธีย่างเยื้องเข้าถ้ำเมดูซ่า

When he reached her, he took a deep breath,

เมื่อเขาเข้าใกล้ตัวเธอ ก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ

and in one sudden movement,

แล้วเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว

drew his sickle and brought it down on her neck.

ใช้เคียวฟันเข้าที่คอของเธอขาดฉึบ

Medusa’s head rolled to the ground and from her neck sprung two children.

หัวของเมดูซ่ากลิ้งขลุกไปตามพื้น จากนั้นก็มีเด็กสองคนพุ่งออกมาจากคอของนาง

One of them was Chrysaor, a giant wielding a golden sword;

คนหนึ่งนามว่า ไครเซออร์ อสุรกายถือดาบทองคำ

The other was the magnificent, white, winged horse, Pegasus.

ส่วนอีกตัวละครที่สำคัญมากคือเพกาซัส ม้าติดปีกสีขาว

He was swifter than any other steed, and with the stomp of his hooves,

มันรวดเร็วยิ่งกว่าม้าใด ๆ ด้วยสี่เท้าที่กระทืบไป

he could alter mountains and draw streams from dry rock.

ก็เคลื่อนภูเขาหรือเอาลำธาร ออกมาจากก้อนหินแห้งแล้งได้

No bridle could contain him— until one fateful day.

ไม่มีบังเหียนใดจะคุมอยู่ จนกระทั่งถึงวันที่โชคชะตาดลบันดาล

Bellerophon, prince of the Greek city-state of Corinth,

เบลเลโรฟอน เจ้าชายกรีกแห่งเมืองโครินทร์

seemed to have it all.

ดูเหมือนจะปราบมันได้

But his ambitions exceeded his earthly circumstances.

แต่ความทะเยอทะยานของเขา เกินกว่าจะต้านทาน

What he truly wanted was to be a hero so great

สิ่งที่เขาต้องการอย่างแท้จริง คือการเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่

that the gods would welcome him on Mount Olympus.

เหล่าทวยเทพจะต้องต้องเชิญเขา ให้มายังเขาโอลิมปัส

Bellerophon believed that Pegasus would be key in helping him reach such heights.

เบลเลโรฟอนเชื่อว่าเพกาซัสคือกุญแจ ช่วยให้เขาไปถึงความปรารถนาสูงสุดได้

One night, he visited the temple of Athena,

และแล้วคืนหนึ่ง เขาก็ไปเยือนวิหารของเทพีอะธีนา

the goddess of war and wisdom,

เทพีแห่งสงครามและปัญญา

and prayed for the power to appease the mighty animal.

แล้วอ้อนวอนขอพลัง ปราบสัตว์อันคึกคะนอง

When Bellerophon woke, he found a magical golden bridle,

เมื่อเบลเลโรฟอนตื่นขึ้น เขาก็พบบังเหียนทองคำวิเศษ

and sped to the fountain that Pegasus drank from.

แล้วรีบรุดไปยังน้ำพุ ที่เพกาซัสดื่มกิน

As soon as the horse bent towards the water,

ไม่นานม้าก็โก้งโค้งลงดื่มน้ำ

Bellerophon jumped on his back and slipped the bridle on.

เบลเลโรฟอนก็กระโดดขึ้นหลังม้า แล้วใส่บังเหียนคุม

Finally, Pegasus was subdued.

ท้ายที่สุด ม้าเพกาซัสก็ยอมจำนน

With this conquest, Bellerophon felt that he was on his way to becoming

จากการพิชิตครั้งนี้ เบลเลโรฟอนก็รู้สึกว่า

a legendary hero.

หนทางการเป็นวีรบุรุษกำลังเริ่มต้นขึ้น

He trained for battle day and night.

เขาซ้อมออกรบทั้งวันทั้งคืน

But one training session went horribly wrong,

แต่กลับมีการฝึกหนึ่งเกิดผิดมหันต์

and Bellerophon mortally injured his brother, Deliades.

ทำให้เบลเลโรฟอนเกิดพลั้งฆ่าอนุชา นามว่าดีลิอาดิส

Disgraced, he was exiled to Argos, where King Proetus purified him.

เพราะความอับอาย เขาถูกเนรเทศไปอาร์โกส ได้กษัตริย์โพรเอตุสช่วยชุบตัวให้

Bellerophon was resolved to repair his reputation,

เบลเลโรฟอนได้รับชื่อเสียงกลับคืนมา

but the Queen of Argos had her eye on him.

แต่ราชินีแห่งนครอาร์โกสกลับหลงใหลในตัวเขา

And when Bellerophon rebuffed her advances,

เมื่อเบลเลโรฟอนปฏิเสธ ที่จะสานสัมพันธ์กับนาง

she accused him of trying to seduce her, further tarnishing his honor.

นางก็กล่าวหาว่าเขาพยายามล่อลวงนาง จนทำให้เขาเสื่อมเสีย

King Proetus soon devised a plan to exact revenge.

ไม่นานกษัตริย์โพรเอตุสก็วางแผนแก้แค้น

He banished Bellerophon and Pegasus and sent them to the kingdom of Lycia,

เขาขับไล่เบลเลโรฟอนและเพกาซัส ไปยังอาณาจักรลิเซีย

carrying a note to Iobates, Lycia’s king.

ถือจดหมายไปถึงไอโอเบเตส กษัตริย์เมืองลิเซีย

But unbeknownst to Bellerophon, he was carrying a decree for his own death.

ด้วยความไม่รู้ของเบลเลโรฟอน สิ่งที่ถือไป คือฎีกาว่าด้วยการตายของเขาเอง

Iobates considered how to dispose of the youth

ไอโอเบเตสได้รับก็คิด ว่าจะกำจัดเด็กหนุ่มด้วยวิธีการใด

and picked just the right monster for the job:

เขาเลือกอสุรกายมาใช้ในงานนี้

the fire-breathing lion-goat-dragon Chimera

นั่นคือไคเมร่า อสูรพ่นไฟ ครึ่งสิงโต ครึ่งแพะ และมังกร

that had long been terrorizing his kingdom.

ที่เคยมาลุกล้ำอาณาจักรของเขา

Bellerophon— eager to achieve greatness— jumped at the challenge.

เบลเลโรฟอนกระหายความยิ่งใหญ่ ก็กระโดดลงไปจัดการ

He mounted Pegasus, and the two shot into the sky.

เขาขึ้นหลังเพกาซัส แล้วพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า

Swooping above the earth, they saw the Chimera surrounded by its charred victims.

เมื่อบินโฉบลงมาใกล้ พวกเขาก็เห็นไคเมร่า โดนรายล้อมไปด้วยเหยื่อที่ไหม้เกรียม

Soon, they too were facing its firepower.

ไม่นาน พวกเขาก็เผชิญหน้ากับอสูรพ่นไฟ

In a sequence of agile aerial acrobatics,

พวกเขาเคลื่อนไหวไวปานวอก

Pegasus dodged every blast from the Chimera

เพกาซัสหลบเปลวเพลิงจากไคเมร่าได้หมด

as Bellerophon launched his arrows.

ขณะที่เบลเลโรฟอนง้างคันศร

Finally, Pegasus closed in on the beast at just the right angle,

ในที่สุด เพกาซัสก็เข้าใกล้อสูรร้าย ในมุมเหมาะเจาะพอดี

and Bellerophon dealt it a deadly blow.

เบลเลโรฟอนก็ยิงธนูมอบความตายให้มัน

Iobates was incredulous.

ไอโอเบเตสเหลือจะเชื่อ

He was glad to be rid of the monster, but still needed to deal with Bellerophon.

ใจหนึ่งก็ดีใจที่กำจัดอสูรร้ายได้ แต่อีกใจก็อยากกำจัดเบลเลโรฟอนเช่นกัน

So, he set forth more challenges,

เขาเลยมอบภารกิจที่ท้าทายกว่าเดิมให้

putting Bellerophon up against fearsome warriors, highly skilled archers,

โดยให้เบลเลโรฟอนไปสู้กับนักรบอันน่าเกรงขาม ที่มีฝีมือการยิงธนูฉกาจนัก

and, ultimately, Lycia’s best soldiers.

สุดท้าย เขาก็กลายเป็น ยอดทหารฝีมือดีในเมืองลิเซีย

Every time, Pegasus’ power turned the tide in Bellerophon’s favor.

พลังของเพกาซัสก็เหมือนยาชูกำลัง ของเบลเลโรฟอนทุกครั้งไป

Finally, Iobates had no choice but to concede

ที่สุดแล้วกษัตริย์ไอโอเบเตสก็ไม่มีทางเลือก นอกจากต้องยอมรับ

that Bellerophon was a true hero.

ว่าเบลเลโรฟอนคือวีรบุรุษที่แท้จริง

He even offered him his daughter’s hand in marriage.

เขาถึงขั้นเสนอลูกสาวให้แต่งงานกับเขา

But Bellerophon’s sights were set far beyond the land of mortals.

แต่สายตาของเบลเลโรฟอนมองไปไกล กว่าการใช้ชีวิตแบบมนุษย์ธรรมดา

He was certain he must now be entitled to a place on Mount Olympus.

เขามั่นใจมากว่าเขาต้องได้รับแต่งตั้ง ให้อยู่บนเทือกเขาโอลิมปัส

So, he jumped onto Pegasus and urged him higher and higher.

ดังนั้น เขาจึงกระโดดขึ้นเพกาซัส และบังคับให้มันบินสูงขึ้น สูงขึ้น

Zeus watched as Bellerophon, buoyed by hubris,

ซุสที่มองดูเบลเลโรฟอน กำลังลอยขึ้นมาด้วยความโอหัง

neared his palace.

ใกล้กับวังของเขา

To punish the youth, he released a single gadfly,

เขาจึงลงโทษเด็กหนุ่ม ด้วยการปล่อยเหลือบหนึ่งตัว

which beelined towards Pegasus and bit into his flesh.

มุ่งตรงไปที่เพกาซัส และให้กัดเข้าที่เนื้อ

This was as high as Bellerophon would ever get.

เบลเลโรฟอนบินสูงขึ้น เกินกว่าที่เขาเคยบินมาถึง

As Pegasus flinched, he flung his rider into the air,

เมื่อเพกาซัสสะดุ้งตกใจ มันก็เหวี่ยงคนคุมบังเหียนลอยไปในอากาศ

and Bellerophon fell careening back to Earth.

จากนั้นเบลเลโรฟอนก็ร่วงลงสู่พื้น

Pegasus, on the other hand, ascended with Zeus’s blessing.

ขณะเดียวกัน เพกาซัสก็บินขึ้นมารับพรจากซุส

The gods welcomed him into the halls of Mount Olympus

ทวยเทพต้อนรับให้เข้ามา ยังโถงบนเขาโอลิมปัส

and immortalized him in a constellation.

และเสกให้เป็นอมตะด้วยการเป็นกลุ่มดาว

There in the night sky, Pegasus can be seen soaring,

ณ ท้องฟ้ายามค่ำคืน เราจะเห็นม้าบินทะยานอยู่

unfettered and free.

อย่างไม่ได้ถูกคุมขังและเป็นอิสระ