Does "The Wonderful Wizard of Oz" have a hidden message? - David B. Parker

"พ่อมดมหัศจรรย์แห่งออซ" มีนัยความหมายอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่านะ - เดวิด บี. พาร์คเกอร์ (David B. Parker

Translator: Vera Chicharito Reviewer: Kelwalin Dhanasarnsombut

In the summer of 1963,

ในฤดูร้อนปี ค.ศ. 1963

a high school teacher changed the way the world looked at "The Wizard of Oz."

คุณครูชั้นมัธยมปลายคนหนึ่งได้เปลี่ยน แง่มุมที่โลกมอง "พ่อมดมหัศจรรย์แห่งออซ"

His name was Henry Littlefield,

ชื่อของเขาก็คือ เฮนรี ลิตเติลฟิลด์

and he was teaching an American history class.

เขาเป็นครูผู้สอนวิชาประวัติศาสตร์อเมริกัน

He'd made it to the late 19th century, a time called The Gilded Age,

เขาสอนจนกระทั่งถึงยุคปลายศตวรรษที่ 19 ห้วงเวลาที่ขนานนามว่า "ยุคทองชุบ"

but he was struggling to keep his class interested

เขาพบอุปสรรคในการทำให้เด็ก ๆ ตั้งใจเรียน

in the complex social and economic issues of the time.

จากปัญหาความยุ่งยากซับซ้อน ของเศรษฐกิจและสังคมในเวลานั้น

Then one night, while he was reading

แต่แล้ว ค่ำคืนหนึ่ง ขณะที่เขากำลังอ่าน

"The Wonderful Wizard of Oz" to his daughters,

"พ่อมดมหัศจรรย์แห่งออซ" ให้บรรดาลูกสาวฟังอยู่นั้น

he had an idea.

เขาก็เกิดความคิดขึ้นมา

In the 1890s, farmers wanted to add silver to the gold standard

ในยุคทศวรรษที่ 1890 นั้น พวกชาวนา ต้องการจะเพิ่มแร่เงินเข้าไปในมาตรฐานทองคำ

to put more money in circulation

เพื่อนำเงินเข้าไปในการหมุนเวียนให้มากขึ้น

and make it easier for farmers to borrow.

และชาวนาก็จะกู้ยืมได้ง่ายดายขึ้น

In the book, Dorothy walked to the Emerald City on the Yellow Brick Road

ตามเนื้อเรื่อง โดโรธีได้เดินเข้าไป ในเมืองมรกตตามถนนอิฐสีเหลือง

in her silver shoes.

ด้วยรองเท้าสีเงิน

The movie's ruby red slippers started out as silver.

ในภาพยนตร์นั้น เริ่มดำเนินเรื่องโดยใช้ รองเท้าสีเงินก่อน แล้วจึงเป็นสีแดงทับทิม

Silver and gold on the road to prosperity.

เงินและทอง สู่เส้นทางแห่งความเจริญ

L. Frank Baum had published the book in 1900

แอล. แฟรงก์ โบม ได้ออกหนังสือเล่มนี้ ในปี ค.ศ. 1900

at the height of The Gilded Age,

ณ ช่วงเฟื่องฟูในยุคทองชุบ

and the analogy didn't seem out of the question.

และการเปรียบเทียบนี้ ก็ใช่ว่าจะปราศจากข้อโต้เถียง

No one else had seen these connections,

ไม่มีใครเคยเห็นความเชื่อมโยงเหล่านี้เลย

but that didn't deter Littlefield.

แต่นั่นไม่ได้ยับยั้งลิตเติลฟิลด์

He taught his class about The Gilded Age using the book,

เขาสอนนักเรียนเรื่องยุคทองชุบ โดยใช้หนังสือเล่มนี้

and soon he and his students were finding more connections.

ในเวลาต่อมา ทั้งเขาและเหล่านักเรียน กลับพบความเชื่อมโยงกันมากกว่าเดิม

For instance, in the late 1890s,

ยกตัวอย่างเช่น ในปลายทศวรรษที่ 1890

the U.S. had recently recovered from the Civil War

สหรัฐฯ เพิ่งจะได้รับการเยียวยา จากสงครามกลางเมือง

and integrated vast new territories,

และได้ผนวกดินแดนใหม่ ๆ อันกว้างใหญ่ไพศาลเข้ามา

bringing an era of prosperity for some.

ซึ่งนำไปสู่ยุคแห่งความมั่งคั่งสำหรับบางคน

But while industry and finance in the North and East prospered,

แต่ในขณะที่อุตสาหกรรมและการเงิน ทางตอนเหนือและตะวันออกเจริญรุ่งเรือง

farmers across the South and Midwest struggled.

พวกชาวนาทางตอนใต้และฝั่งมิดเวสต์ ของประเทศกลับทุกข์ยากแสนเข็ญ

This led to the Populist movement,

นี่เป็นชนวนให้เกิดกระแสประชานิยม

uniting farmers and workers against urban elites.

ที่หลอมรวมชาวนาและผู้ใช้แรงงาน ให้ลุกขึ้นต่อต้านชนชั้นนำในเขตเมือง

By 1896, the movement had grown into the People's Party,

ปี ค.ศ. 1896 กระแสความเคลื่อนไหวดังกล่าว เติบโตจนกลายเป็นพรรคประชาชน

and its support of Democrat Williams Jennings Bryan

และสมาชิกพรรคเดโมแครตเองก็สนับสนุน "วิลเลียมส์ เจนนิงส์ ไบรอัน"

put him in reach of the presidency.

จนเขาก้าวขึ้นครองตำแหน่งประธานาธิบดี

Meanwhile in Oz, claimed Littlefield,

ในขณะเดียวกันที่ออซ จากคำกล่าวอ้างของลิตเติลฟิลด์

Dorothy is a typical American girl

โดโรธีคือเด็กสาวแบบชาวอเมริกันทั่วไป

whose hard life in Kansas is literally turned upside down

ผู้ที่ชีวิตอันยากแค้นในแคนซัสของเธอ ถูกพลิกผันจริง ๆ

by powerful forces outside her control.

จากแรงทรงอำนาจที่ อยู่นอกเหนือการควบคุมของเธอ

The munchkins are the common people oppressed by the Witch of the East,

"พวกมันช์กินส์" คือมนุษย์ปุถุชน ที่ถูกแม่มดแห่งตะวันออกข่มเหงรังแก

banks and monopolies.

ซึ่งก็คือพวกธนาคารและกลุ่มธุรกิจผูกขาด

The Scarecrow is the farmer,

หุ่นไล่กาก็คือ ชาวนา

considered naive but actually quite resourceful,

ที่ดูเหมือนจะซื่อ ๆ แต่แท้จริงแล้ว ฉลาดหลักแหลมอยู่ไม่น้อย

the Tin Woodman is the industrial worker dehumanized by factory labor,

หุ่นกระป๋องนักตัดฟืน ก็คือผู้ใช้แรงงาน ในภาคอุตสาหกรรมที่ถูกกดค่าแรง

and the Cowardly Lion is William Jennings Bryan

และสิงโตจอมขลาด ก็คือ "วิลเลียมส์ เจนนิงส์ ไบรอัน"

who could be an influential figure if only he were brave enough

คนที่อาจเป็นผู้ทรงอิทธิพลได้ หากเพียงแค่เขามีความกล้ามากพอ

to adopt the Populist's radical program.

ที่จะใช้แนวทางแบบประชานิยมสุดโต่ง

Together, they travel along a golden yellow road

พวกเขาร่วมเดินไปด้วยกัน บนเส้นทางสีเหลืองทอง

towards a grand city whose ruler's power turns out to be built on illusions.

มุ่งหน้าไปยังมหานคร ดินแดนที่ อำนาจของผู้ปกครองกลับกลายเป็นเพียงมายา

Littlefield published some of these observations in an essay.

ลิตเติลฟิลด์ได้ตีพิมพ์ข้อสังเกตบางส่วนนี้ ในรูปของเรียงความ

His claim that this fantasy was actually a subversive critique

คำกล่าวอ้างของเขาที่ว่าการจินตนาการนี้ แท้จริงแล้วคือ บทวิพากษ์เชิงทำลาย

of American capitalism appealed to many people in 1960s.

ของการเรียกร้องระบบทุนนิยมอเมริกัน ให้แก่ผู้คนมากมายในทศวรรษที่ 1960

Other scholars took up the theme,

นักวิชาการคนอื่น ๆ ได้อภิปรายกันถึงใจความสำคัญ

and the proposed analogies and connections multiplied.

และการเปรียบเทียบเชิงอุปมาที่ถูกนำเสนอ และการเชื่อมโยงต่าง ๆ มากมายก็เกิดขึ้น

They suggested that Dorothy's dog Toto

พวกเขาให้ความเห็นว่า "เจ้าโตโต" สุนัขคู่ใจของโดโรธี

represented the teetotalers of the prohibition party.

เป็นตัวแทนของพวกต่อต้านแอลกอฮอล์ แห่งพรรคต้องห้าม (Prohibition Party)

Oz was clearly the abbreviation for ounces,

ออซ (Oz) คือตัวย่อที่มาจาก ออนซ์ (ounce) อย่างเห็นได้ชัด

an important unit in the silver debate.

ซึ่งเป็นหน่วยที่สำคัญ ในการอภิปรายเรื่องแร่เงิน

The list goes on.

และยังมีประเด็นอื่น ๆ อีกมากมาย

By the 1980s, this understanding of the book was accepted so widely

เมื่อทศวรรษที่ 1980 ความเข้าใจต่อ หนังสือเล่มนี้ก็ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง

that several American history textbooks

จนตำราประวัติศาสตร์อเมริกาหลาย ๆ เล่ม

mentioned it in discussions of late 19th century politics.

ได้อ้างอิงถึงมันในการอภิปราย ประเด็นการเมืองในช่วงปลายศตวรรษที่ 19

But is the theory right?

ว่าแต่ทฤษฎีนี้ถูกต้องหรือไม่

L. Frank Baum's introduction claims the book is just an innocent children's story.

บทนำของแอล. แฟรงก์ โบมอ้างว่า หนังสือเล่มนี้เป็นแค่วรรณกรรมเยาวชนเท่านั้น

Could he have been deliberately throwing people off the trail?

เป็นไปได้ไหมว่าเขาจงใจ เบี่ยงเบนความสนใจของผู้คน

And is it fair to second guess him so many decades later?

และมันยุติธรรมกับเขาหรือไม่ ที่เราจะมาสุ่มเดาซ้ำ ๆ ในหลายทศวรรษถัดมา

There's no definitive answer,

มันไม่มีคำตอบที่ตายตัว

which is part of why authorial intent

ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุที่ว่า ทำไมความตั้งใจของผู้แต่ง

is a complex, tangled, fun question to unravel.

ถึงได้สลับซับซ้อน ยุ่งเหยิง และเป็นปริศนาหรรษารอการคลายปม

And some recent scholars have interpreted "The Wonderful Wizard of Oz"

และนักวิชาการรุ่นต่อมาได้ตีความ "พ่อมดมหัศจรรย์แห่งออซ"เอาไว้

in the opposite way as Littlefield.

ในทางกลับกันกับลิตเติลฟิลด์

They claim it's a celebration of the new urban consumer culture.

พวกเขาอ้างว่า มันเป็นการเฉลิมฉลอง ค่านิยมใหม่ของผู้บริโภคในเขตเมือง

Historian William Leach argued that the dazzling Emerald City of Oz

"วิลเลียม ลีช" นักประวัติศาสตร์ ได้แย้งว่า เมืองมรกตอันงดงามแห่งออซ

was meant to acclimate people to the shiny, new America.

สื่อถึงผู้คนที่ปรับตัวให้คุ้นเคย กับอเมริกาใหม่ที่สุกสกาวเรืองรอง

In the end, all we know for sure is that Baum,

ท้ายที่สุด สิ่งที่เรารู้แน่ก็คือว่าโบม

inspired by European folk legends,

ได้แรงบันดาลใจจากตำนานพื้นบ้านยุโรป

had set out to create one for American children.

เขาได้ริเริ่มจรดเรื่องราวนี้ แก่เด็ก ๆ ชาวอเมริกัน

And whether or not he intended any hidden meanings,

และไม่ว่าเขาจะจงใจ แฝงความนัยอะไรเอาไว้หรือไม่นั้น

its continuing relevance suggests he succeeded

ประเด็นความสัมพันธ์ที่ดำเนินต่อเนื่องมานี้ ก็แสดงให้เห็นว่าเขาทำสำเร็จแล้ว

in creating a fairytale America can call its own.

ในการสรรค์สร้างเทพนิยายที่ชาวอเมริกา พูดได้อย่างเต็มปากว่าเป็นของตน