How do oysters make pearls? - Rob Ulrich

1,405,870 views ・ 2022-11-15

TED-Ed


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Surapa Chinplikanon Reviewer: Napakchanun P. Dutta
00:06
While most people wouldn’t consider the crusty exterior of an oyster
0
6878
3753
ขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่มองว่า เปลือกหอยนางรมดูไม่สวยงาม
00:10
to be particularly beautiful,
1
10631
1794
00:12
opening up this craggy case might reveal an exquisite jewel nestled within.
2
12675
5672
แต่เมื่อเปิดเปลือกขรุขระพวกนี้ออก จะเผยให้เห็นอัญมณีงดงามด้านใน
00:18
Yet, despite their iridescent colors and smooth shapes,
3
18973
3670
แม้ไข่มุกจะสีสันแวววาวและผิวเรียบ
00:22
pearls are actually made of the exact same material
4
22643
3712
แต่ความจริงแล้ว ไข่มุกก็ถูกสร้างจาก วัสดุแบบเดียวกับเปลือกหอยที่อยู่ด้านนอก
00:26
as the shell that surrounds them.
5
26355
1877
00:28
Pearls, urchin spines, the shells of mussels, snails and clams, even coral—
6
28566
5464
ไข่มุก หนามของเม่นทะเล เปลือกหอยต่าง ๆ แม้กระทั่งปะการัง
00:34
all these structures are made out of the same chemical compound:
7
34030
4337
โครงสร้างทั้งหมดเหล่านี้ ล้วนถูกสร้างจากสารเคมีชนิดเดียวกัน
00:38
calcium carbonate.
8
38367
1919
นั่นคือ แคลเซียมคาร์บอเนต
00:40
So, how does this single ingredient form such a vast array of materials?
9
40745
6006
แล้วสารชนิดเดียวนี้กลายเป็น วัสดุหลายแบบได้อย่างไร
00:47
Calcium carbonate, or CaCO3, is common on land,
10
47919
4045
แคลเซียมคาร์บอเนตหรือ CaCO3 เป็นสารที่พบได้ทั่วไปบนพื้นโลก
00:51
and even more bountiful in the sea.
11
51964
2419
และยิ่งพบได้มากในทะเล
00:54
The Earth’s crust is rich in calcium,
12
54550
2586
เปลือกโลกอุดมไปด้วยแคลเซียมที่ทับถมกัน
00:57
and over millennia these deposits have seeped into rivers and oceans.
13
57136
4713
ซึ่งถูกชะออกมาสู่แม่น้ำและทะเล เป็นเวลานับพันปี
01:02
This is especially true near hydrothermal vents,
14
62266
3045
โดยเฉพาะบริเวณปล่องน้ำพุร้อนใต้สมุทร
01:05
where hot seawater mingles with calcium rich basalts.
15
65311
4213
ที่มีน้ำทะเลร้อน ๆ หลอมรวมกับ หินบะซอลต์มากมายซึ่งประกอบไปด้วยแคลเซียม
01:10
Meanwhile, when carbon dioxide in the air interacts with seawater
16
70024
4088
ขณะเดียวกัน คาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ ที่สัมผัสกับน้ำทะเล
01:14
it eventually produces dissolved carbonate.
17
74112
3003
ในที่สุด ก็กลายเป็นคาร์บอเนตละลาย
01:17
Every year, the ocean absorbs roughly one third of our carbon dioxide emissions,
18
77490
5839
ทุก ๆ ปี ทะเลจะรับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ประมาณ 1 ใน 3 เท่าของที่ถูกปล่อยมา
01:23
adding huge quantities of carbonate into the water.
19
83329
3796
ทำให้เกิดสารคาร์บอเนตจำนวนมากในน้ำ
01:27
It’s no surprise that sea creatures have made use of these abundant compounds,
20
87834
4879
ไม่แปลกเลยที่สัตว์น้ำ จะนำสารที่มีมากนี้มาใช้งาน
01:32
but the way calcium and carbonate are woven together into various shapes
21
92713
4422
แต่การที่แคลเซียมและคาร์บอเนต มาประกอบรวมกันเป็นรูปร่างต่าง ๆ
01:37
is surprisingly artful.
22
97135
2168
กลายเป็นงานศิลปะได้อย่างน่าประหลาดใจ
01:39
Let’s return to the humble oyster.
23
99846
2419
เรากลับมาดูที่หอยนางรมกัน
01:42
Like many aquatic mollusks, oysters start life as exposed larvae,
24
102431
5172
เช่นเดียวกับมอลลัสก์น้ำประเภทอื่น ๆ หอยนางรมเริ่มต้นชีวิตจากตัวอ่อนเปลือย
01:47
and quickly get to work building a protective shell.
25
107687
3170
และเริ่มสร้างเปลือกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพื่อใช้ปกป้องตัวเอง
01:51
First, an organ called the mantle secretes an organic matrix
26
111065
3837
ขั้นแรก อวัยวะที่เรียกว่า แมนเทิล จะหลั่งสารเนื้อเยื่ออินทรีย์
01:54
of proteins and other molecules to construct a scaffold.
27
114902
3629
ที่ประกอบด้วยโปรตีนและ สารโมเลกุลอื่น ๆ เพื่อสร้างโครงร่าง
01:58
Then, the oyster filters the seawater,
28
118865
2460
จากนั้นเมื่อหอยกรองน้ำทะเลออก
02:01
drawing out calcium and carbonate to combine them into its building material.
29
121325
4755
จะดึงแคลเซียมกับคาร์บอเนตมารวมกัน เพื่อใช้เป็นวัสดุก่อสร้าง
02:06
It lays this material over the scaffold,
30
126664
2419
มันจะนำสารเหล่านี้ไปไว้ด้านบนของโครงร่าง
02:09
which is covered in charged proteins that attract and guide
31
129083
3670
ซึ่งปกคลุมไปด้วยโปรตีนที่มีประจุ ที่จะคอยยึดและควบคุม
02:12
the calcium carbonate molecules into layers.
32
132753
2837
โมเลกุลแคลเซียมคาร์บอเนต ให้เรียงตัวเป็นชั้น ๆ
02:16
The specific arrangement of these protein scaffolds depends on the mollusk species
33
136257
4504
การเรียงตัวของโปรตีนโครงร่างนี้ ขึ้นกับชนิดของหอยมอลลัสค์
02:20
and their environment,
34
140761
1377
และสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ตัวมัน
02:22
accounting for their vast diversity of shell shapes, sizes, and colors.
35
142138
5589
ซึ่งทำให้เกิดความหลากหลาย ของรูปทรงเปลือกหอย รวมทั้งขนาด และสี
02:28
Mollusks carefully control all components of their calcium carbonate creations—
36
148269
5589
พวกมอลลัสก์จะควบคุมองค์ประกอบการสร้าง แคลเซียมคาร์บอเนตทั้งหมดอย่างระมัดระวัง
02:33
even manipulating CaCO3 at the molecular level.
37
153858
4004
รวมถึงการควบคุม CaCO3 ให้อยู่ในระดับโมเลกุล
02:38
Using special proteins,
38
158362
1585
เมื่อใช้โปรตีนชนิดพิเศษ
02:39
mollusks can produce two crystal structures out of CaCO3:
39
159947
4630
มอลลัสก์สามารถสร้างผลึกของ แคลเซียมคาร์บอเนตได้ 2 รูปแบบ คือ
02:44
calcite and aragonite.
40
164577
2210
แคลไซต์ และอะราโกไนต์
02:47
Both of these compounds have the same chemical composition,
41
167205
3169
ทั้งสองแบบมีองค์ประกอบทางเคมีเหมือนกัน
02:50
but different qualities due to the way their crystal lattices are arranged.
42
170374
4380
แต่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน เนื่องจากการจัดเรียงในผลึกของมัน
02:55
Calcite is the more stable of the two and less prone to dissolving over time,
43
175171
4838
แคลไซต์จะเสถียรมากกว่า และละลายได้ยากกว่าเมื่อเวลาผ่านไป
03:00
so most mollusk shells have a sturdy outer layer of calcite.
44
180009
4421
ดังนั้น เปลือกด้านนอกของมอลลัสก์ส่วนมาก จึงเป็นชั้นแคลไซต์ที่แข็งแรง
03:04
As the slightly more soluble molecule,
45
184805
2461
เนื่องจากอะราโกไนต์ เป็นโมเลกุลที่ละลายน้ำได้ง่าย
03:07
aragonite can better adapt to more or less acidic environments.
46
187266
4338
จึงสามารถปรับตัวเองให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ที่เป็นกรดมากขึ้นหรือน้อยลงได้ดีกว่า
03:11
So most mollusk shells have an interior layer of aragonite
47
191604
3754
ด้านในของเปลือกมอลลัสก์ จึงเป็นชั้นของอะราโกไนต์
03:15
to maintain their internal pH level.
48
195358
2711
เพื่อช่วยรักษารักษาค่า pH ด้านใน
03:18
But one form of aragonite is stronger and more versatile than the rest:
49
198486
5172
แต่มีรูปแบบหนึ่งของอะราโกไนต์ที่แข็งแรง และทนทานมากกว่าปกติ
03:23
nacre.
50
203908
1001
นั่นคือ ไข่มุก
03:25
Mollusks make this special material by placing successive layers of aragonite
51
205368
4921
พวกหอยมอลลัสก์สร้างวัสดุพิเศษนี้ โดยเรียงอะราโกไนต์เป็นชั้น ๆ
03:30
interspersed with proteins.
52
210289
2127
โดยมีส่วนผสมของโปรตีน
03:32
These layers are stacked like hexagonal bricks,
53
212583
3212
ชั้นพวกนี้เหมือนอิฐหกเหลี่ยมเรียงซ้อนกัน
03:35
each surrounded by other organic material that directs their orientation.
54
215795
4880
แต่ละอันเคลือบด้วยสารอินทรีย์ต่าง ๆ เพื่อกำหนดการเรียงของอิฐ
03:41
The uniform layering and brick-like structure of nacre
55
221342
3378
โครงสร้างและการเรียงตัว ที่คล้ายกับอิฐของไข่มุกนี้
03:44
is key to its signature iridescence.
56
224720
2962
เป็นกุญแจสำคัญในการสร้าง ความแวววาวและสีสันอันเป็นเอกลักษณ์
03:47
The layers are similar in thickness to the wavelength of visible light,
57
227848
3879
ชั้นพวกนี้มีความหนาใกล้เคียงกับ ความยาวคลื่นของแสงที่ตามองเห็น
03:51
so the light reflecting from its interior surface
58
231727
3254
ทำให้แสงที่สะท้อนออกมาจากพื้นผิวด้านใน
03:54
interferes with the light reflecting from the outer surface.
59
234981
3753
ผสานกับแสงที่สะท้อนจากพื้นผิวด้านนอก
03:59
When particles of light strike the nacre,
60
239026
2836
เมื่อแสงตกกระทบไข่มุก
04:01
they bounce around its multilayered crystalline structure
61
241862
3546
มันจะถูกสะท้อนไปมา ในแต่ละชั้นของโครงสร้างผลึก
04:05
in a cascade of shifting rainbows.
62
245408
3128
ออกมาเป็นเส้นแสงสีรุ้งระยิบระยับ
04:08
But nacre isn’t just pretty—
63
248911
1835
แต่ไข่มุกไม่ได้มีเพียงความสวยงาม
04:10
it’s one of the strongest and lightest biomaterials we know of.
64
250913
4088
มันยังเป็นหนึ่งในวัสดุชีวภาพ ที่แข็งแรงและเบาที่สุดที่เรารู้จัก
04:15
And it's not just oysters that produce it.
65
255251
2294
และไม่ได้มีแค่หอยนางรมที่ผลิตมันได้
04:17
In fact, numerous mollusk species deploy nacre
66
257670
3462
ความจริงแล้ว มีหอยมอลลัสก์ อีกหลายสายพันธ์ุผลิตไข่มุกขึ้นมา
04:21
as one of their primary defense mechanisms.
67
261132
2752
เพื่อใช้เป็นหนึ่งในกลไกหลัก สำหรับการป้องกันตนเอง
04:24
If an intruding parasite or even a stray particle of sand irritates the mantle,
68
264135
5547
หากมีปรสิตรุกรานหรือเศษทรายเม็ดเล็ก ๆ เข้าไปทำให้แมนเทิลระคายเคือง
04:29
the mollusk will coat the offender in nacre-producing cells
69
269682
4087
มอลลัสก์จะเคลือบผู้บุกรุก ด้วยเซลล์ที่ใช้ผลิตไข่มุก
04:33
to form what’s known as a pearl sac.
70
273769
3087
เพื่อสร้างสิ่งที่เรียกว่า ถุงไข่มุก
04:37
These cells wrap the threat in layers of proteins and aragonite
71
277106
4379
เซลล์พวกนี้จะเคลือบสิ่งแปลกปลอม ด้วยชั้นโปรตีนและอะราโกไนต์
04:41
until eventually the cocoon completely absorbs the invader—
72
281485
4421
จนกระทั่งถุงนี้คลุมผู้บุกรุกจนมิด
04:46
dissolving the threat into an opalescent sphere of nacre.
73
286240
4630
ซึ่งจะค่อย ๆ เปลี่ยนสิ่งแปลกปลอมนั้น ให้กลายเป็นไข่มุกเม็ดกลมแวววาว
04:51
This defense mechanism is our leading theory for mollusks making pearls;
74
291370
4797
กลไกป้องกันตัวเองนี้ เป็นทฤษฎีที่ใช้อธิบายการสร้างไข่มุก
04:56
transforming everyday intruders into timeless treasures.
75
296167
4838
เปลี่ยนผู้บุกรุกที่สามารถพบได้ในทุก ๆ วัน ให้กลายเป็นสมบัติล้ำค่านิจนิรันดร์
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7