The Nazis recruited to win the Cold War - Brian Crim

Translator: Chatruethai Gregg Reviewer: Sakunphat Jirawuthitanant

In May of 1945, the Third Reich was in chaos.

ในเดือนพฤษภาคมปี 1945 ไรช์ที่สาม ตกอยู่ในความวุ่นวาย

Adolf Hitler was dead, German surrender was imminent,

อดอล์ฟ ฮิตเลอร์เสียชีวิต เยอรมันก็ใกล้จะยอมแพ้

and Allied troops had already begun divvying up German territory.

และฝ่ายสัมพันธมิตรก็ได้เริ่ม แบ่งดินแดนเยอรมัน

But high-ranking Nazi engineer Wernher von Braun wasn’t worried.

แต่ก็ไม่ได้ทำให้วิศวกรระดับสูงของนาซีอย่าง แวร์นแฮร์ ฟ็อน เบราน์ รู้สึกกังวล

In fact, he approached the US government directly—

เขากลับเข้าหา รัฐบาลสหรัฐฯ โดยตรง

informing them of his location and waiting calmly for their arrival.

เพื่อแจ้งให้ทราบถึงที่อยู่ของเขา และรอการมาถึงของสหรัฐฯ อย่างใจเย็น

As the brain behind the world’s first long-range ballistic missile,

ในฐานะที่เป็นสมองที่อยู่เบื้องหลัง ขีปนาวุธพิสัยไกลลูกแรกของโลก

von Braun knew his expertise made him a highly valuable military asset.

ฟ็อน เบราน์รู้ว่าความเชี่ยวชาญของเขา ทำให้เขาเป็นสินทรัพย์ทางทหารที่มีมูลค่าสูง

And sure enough, his so-called captors gave him a decidedly warm welcome.

และแน่นอนว่าผู้ที่จับกุมเขา ได้ให้การต้อนรับเขาอย่างอบอุ่นจนเห็นได้ชัด

Von Braun wasn't the only Nazi scientist receiving this treatment.

ฟ็อน เบราน์ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์นาซี เพียงคนเดียวที่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้

While World War II was almost over, a new war was brewing.

ขณะที่สงครามโลกครั้งที่สองกำลังจะสิ้นสุดลง สงครามใหม่ก็กำลังเกิดขึ้น

And the US was eager to recruit the smartest minds in Germany

และสหรัฐฯ ก็ตื่นเต้นอย่างมากที่จะได้รับ บุคคลที่ฉลาดที่สุดในเยอรมันเข้ามา

before the Soviets got the chance.

ก่อนที่โซเวียตจะได้รับโอกาสนั้นไป

This became known as Operation Paperclip—

เรื่องนี้กลายเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ปฏิบัติการคลิปหนีบกระดาษ

a clandestine campaign that brought over 1,500 German scientists to the US

ซึ่งเป็นแคมเปญลับในการนำนักวิทยาศาสตร์ ชาวเยอรมัน กว่า 1,500 คนมายังสหรัฐฯ

between 1945 and 1962.

ระหว่างปี 1945 ถึง 1962

The program was named for the paperclips attached to the files of early recruits—

โปรแกรมนี้ตั้งชื่อตามคลิปหนีบกระดาษ ที่แนบมากับไฟล์ของการสรรหาช่วงแรกๆ

indicating that incriminating information like Nazi affiliations

ที่บ่งชี้ถึงข้อมูลที่เป็นเป็นอาชญากรรม เช่น ความสัมพันธ์ของนาซี

or suspected war crimes could be disregarded.

หรืออาชญากรรมสงครามที่น่าสงสัย ที่สามารถถูกเพิกเฉยได้

Von Braun, for example, had overseen an SS project

เช่น ฟ็อน เบราน์ ได้กำกับดูแลโครงการ SS

that relied on forced labor from thousands of concentration camp prisoners.

ที่อาศัยแรงงานบังคับจากนักโทษค่ายกัก กันหลายพันคน

While von Braun approached the US directly,

ในขณะที่ ฟ็อน เบราน์ เข้าหาสหรัฐฯโดยตรง

other scientists had to be identified and located.

แต่กับนักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ กลับต้องยืนยันตัวตนและค้นหาที่อยู่

One important asset in this effort

สินทรัพย์ที่สำคัญอย่างหนึ่งในความพยายามนี้

was a Nazi-compiled list of Germany’s top scientists,

คือรายชื่อนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำ ของเยอรมนีที่รวบรวมโดยนาซี

which someone had unsuccessfully tried to dispose of by flushing down a toilet.

ซึ่งมีคนพยายามกำจัดโดย การทิ้งลงชักโครกแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ

But the US was just one player in this scramble.

แต่สหรัฐฯ เป็นผู้เล่นเพียงคน เดียวในการแข่งขันครั้งนี้

The Soviets were also competing to seize German brainpower,

โซเวียตที่กำลังแข่งขันกัน เพื่อยึดอำนาจมันสมองของเยอรมัน

resorting to bribery and forced relocation.

ก็หันไปติดสินบน และบังคับให้ย้ายถิ่นฐาน

The French and British lacked the money to lure the best German brains,

ฝรั่งเศสและอังกฤษขาดทุนทรัพย์ ในการดึงดูดเอาสมองชาวเยอรมันที่ดีที่สุด

but that didn't stop them from kidnapping the occasional scientist.

แต่นั่นไม่ได้หยุดให้พวกเขาเลิกลักพาตัว นักวิทยาศาสตร์เป็นครั้งคราวได้

They also stole patents and dismantled factories to learn what they could.

พวกเขายังขโมยสิทธิบัตรและแยกส่วนโรงงาน เพื่อเรียนรู้สิ่งที่พวกนักวิทยาศาสตร์ทำ

The US approach, however, featured a different and particularly tempting

อย่างไรก็ตาม แนวทางของสหรัฐฯ มีรูปแบบการบังคับขู่เข็ญที่แตกต่าง

brand of coercion:

และน่าดึงดูดเป็นพิเศษ:

the promise to relocate entire German families and grant them citizenship.

คำสัญญาว่าจะย้ายครอบครัวชาวเยอรมันทั้งหมด และให้สัญชาติแก่พวกเขา

This controversial offer was one of the reasons

ข้อเสนอที่เป็นที่ถกเถียงนี้ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้

Paperclip was initially shrouded in secrecy.

ปฏิบัติการคลิปหนีบกระดาษ ถูกปกปิดเป็นความลับในตอนแรก

But the project became difficult to hide when Germans started popping up

แต่โครงการนี้กลับกลายเป็นเรื่องยากที่ จะปกปิดเมื่อเริ่มมีชาวเยอรมันมากขึ้น

all over the US.

ทั่วสหรัฐอเมริกา

The military tried to get ahead of any controversy

ทหารพยายามที่จะก้าวข้ามความขัดแย้งใดๆ

by revealing the operation to the press in late 1946.

โดยการเปิดเผยการดำเนินการต่อสื่อ เมื่อปลายปี 1946

But the news immediately attracted criticism from many prominent voices,

แต่ข่าวดังกล่าวได้ดึงดูดการ วิจารณ์จากคนสำคัญหลายคนในทันที

including Albert Einstein, Eleanor Roosevelt, and the NAACP,

ซึ่งรวมไปถึงอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เอลีนอร์ รูสเวลต์ และ NAACP

as well as many veteran’s organizations.

รวมถึงองค์กรทหารผ่านศึกหลายแห่ง

These parties opposed granting German scientists citizenship

กลุ่มคนเหล่านี้คัดค้านการให้สัญชาติ แก่นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน

while millions of displaced persons, including survivors of Nazi atrocities,

ในขณะที่ผู้พลัดถิ่นหลายล้านคน รวมถึงผู้รอดชีวิตจากความโหดร้ายของนาซี

had no chance of coming to America.

ไม่มีโอกาสที่จะมาอเมริกา

Most Americans were also against employing former Nazis

ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ต่อต้านการจ้างงาน อดีตนาซี

in sensitive national security positions.

ในตำแหน่งความมั่นคงแห่งชาติที่ละเอียดอ่อน

But as the Cold War ramped up,

แต่เมื่อสงครามเย็นรุนแรงขึ้น

the military argument for keeping these scientists out of Soviet hands

ข้อโต้แย้งทางทหารในการกีดกันนักวิทยาศาสตร์ เหล่านี้ให้พ้นจากมือของโซเวียต

overpowered popular objections.

มีชัยเหนือการคัดค้านของประชาชน

With his Nazi past largely hidden from the public,

เนื่องจากอดีตนาซีของเขาถูกปกปิด ไม่ให้เปิดเผยต่อสาธารณะ

von Braun became one of the US’s most important engineers

ฟ็อน เบราน์จึงกลายเป็นหนึ่งในวิศวกร ที่สำคัญที่สุดของสหรัฐฯ

at the height of the Space Race.

ในช่วงที่การแข่งขันด้านอวกาศถึงจุดสูงสุด

In 1958, his team responded to the Soviet launch of Sputnik

ในปี 1958 ทีมงานของเขาตอบโต้ การปล่อยสปุตนิกของสหภาพโซเวียต

with the US’s own successful satellite launch.

ด้วยการปล่อยดาวเทียม ที่ประสบความสำเร็จของสหรัฐฯ

And in the 60s, he was the chief architect of Saturn V,

และในยุค 60 เขาเป็นหัวหน้าสถาปนิก ของ Saturn V

the rocket that brought Americans to the moon.

จรวดที่นำชาวอเมริกันไปดวงจันทร์

Other Paperclip recruits contributed to the development of chemical weapons

บุคลากรจากปฏิบัติการคลิปหนีบกระดาษคนอื่นๆ มีส่วนสนับสนุนการพัฒนาอาวุธเคมี

such as Agent Orange, pharmaceutical research,

เช่น ฝนเหลือง การวิจัยทางเภสัชกรรม

and the development of modern airplanes.

และการพัฒนาเครื่องบินสมัยใหม่

These contributions helped the US government present Paperclip as a success.

การสนับสนุนเหล่านี้ช่วยให้รัฐบาลสหรัฐฯ นำเสนอปฏิบัติการคลิปหนีบกระดาษได้สำเร็จ

But, in hindsight, it’s hard to gauge how helpful the program really was.

แต่เมื่อมองย้อนกลับไปแล้ว เป็นการยากที่ จะประเมินว่าปฏิบัติการนี้มีประโยชน์เพียงใด

While von Braun saved the US years of rocketry experimentation,

แม้ว่าฟ็อน เบราน์จะช่วยประหยัด การทดลองจรวดในสหรัฐฯ มานานหลายปี

there's no reason to think American scientists couldn't have developed

แต่ก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะคิดว่า นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันจะไม่สามารถพัฒนา

the same technology without him.

เทคโนโลยีแบบเดียวกันได้หากไม่มีเขา

Furthermore, very few Paperclippers were as exceptional as von Braun.

อีกทั้ง น้อยคนในปฏิบัติการคลิบหนีบกระดาษ ที่มีความสามารถเทียบเท่าฟ็อน เบราน์

Many were average scientists who either completed their contracts

หลายคนเป็นนักวิทยาศาสตร์ธรรมดาๆ ที่ทำสัญญาเสร็จเรียบร้อย

and returned to Germany,

และเดินทางกลับเยอรมนี

or took jobs alongside Americans with equivalent expertise.

หรือทำงานเคียงข้างชาวอเมริกัน ที่มีความเชี่ยวชาญเทียบเท่ากัน

But ultimately, the issue of Paperclip’s success

แต่ท้ายที่สุดแล้ว ปัญหาความสำเร็จของปฏิบัติการคลิปหนีบกระดาษ

is just one of many questions raised by its contentious approach

เป็นเพียงหนึ่งในคำถามมากมาย ที่เกิดขึ้นจากแนวทางที่ถกเถียงกัน

to science, ethics, and national security.

ในด้านวิทยาศาสตร์ จริยธรรม และความมั่นคงของชาติ

Can scientists working on military technology be apolitical,

นักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานด้านเทคโนโลยีทางทหาร จะไม่ยุ่งเกี่ยวด้านการเมืองได้หรือไม่

or are they responsible for their creations?

และพวกเขาจะรับผิดชอบ ต่อการสรรค์สร้างของพวกเขาเองหรือไม่

Can pressing political and military concerns justify overlooking war crimes?

ข้อกังวลทางการเมืองและการทหารที่เร่งด่วน เป็นเหตุในการมองข้ามอาชญากรรมสงครามหรือไม่

In many ways, von Braun’s obituary sums up the operation’s murkiness:

ในหลายๆ ด้าน ข่าวมรณกรรมของ ฟ็อน เบราน์ ได้สรุปความคลุมเครือของปฏิบัติการดังนี้:

“A kind of Faustian shadow may be discerned in [...] the fascinating career

“เงาแบบเฟาสต์อาจ มองเห็นได้ใน [...] อาชีพอันน่าทึ่ง

of Wernher von Braun:

ของแวร์นแฮร์ ฟ็อน เบราน์:

a man so possessed of [...] intellectual hunger,

ชายผู้ถูกครอบงำ ด้วย [...] ความหิวโหยทางปัญญา

that any accommodation may be justified.”

เพื่อว่าการตกลงใดๆ จะได้รับความชอบธรรม”