Why Having Fun Is the Secret to a Healthier Life | Catherine Price | TED

Translator: Jimmy Tangjaitrong Reviewer: Chatchanok Chalothonpises

You know what's a lot harder than it seems like it should be?

คุณรู้ไหมว่ามีอะไรยากกว่าที่มันควรจะเป็น

Actually feeling alive.

มันคือการรู้สึกมีชีวิตชีวาจริง ๆ

And what I mean by that is that we are all constantly doing,

ที่ฉันหมายถึงก็คือ เราทุกคนกำลังทำบางสิ่งอยู่ตลอดเวลา

or, at least, we're constantly scrolling.

หรืออย่างน้อย เราก็เลื่อนดูอยู่ตลอด

But we're not necessarily living.

แต่เราไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่จริง ๆ

You know, we keep ourselves busy to the point of exhaustion,

เราทำให้ตัวเองเหนื่อย จนถึงจุดที่หมดกำลัง

but we're also languishing.

แล้วเราก็เนือยลงเรื่อย ๆ

We feel a little bid dead inside.

เรารู้สึกเหมือนข้างใน ได้ตายไปแล้วเล็กน้อย

And I think we know that, on some level.

ฉันว่าคุณรู้อยู่แล้ว ไม่มากก็น้อย

I think that's part of the reason

ฉันว่ามันเป็นเหตุผลส่วนหนึ่ง

we keep ourselves so busy and distracted to begin with.

ที่ทำให้เราทำตัวยุ่งและวอกแวกตั้งแต่ต้น

But we don't know what to do about it.

แต่เราก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี

So I'm here to tell you I figured out what to do about it.

ฉันจึงมาเพื่อบอกคุณว่า ฉันคิดออกแล้วว่าจะทำยังไงดี

We need to have more fun.

เราต้องมีความสนุกมากขึ้น

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

(Cheers and applause)

(เสียงเชียร์และปรบมือ)

So you might think that you're already having plenty of fun,

คุณอาจจะคิดว่าคุณนั้น สนุกสุด ๆ อยู่แล้ว

and that's because in our everyday speech,

นั่นเป็นเพราะคำพูดในชีวิตประจำวันของเรา

we often use the word "fun" to describe anything we do with our leisure time,

เรามักจะใช้คำว่า “สนุก” เพื่ออธิบายถึงสิ่งที่เราทำในยามว่าง

even if it's not actually enjoyable, and, in fact, a waste of time.

แม้ว่ามันจะไม่ได้เพลิดเพลินจริง ๆ และเสียเวลาเปล่าก็ตาม

So for example, we scroll through social media "for fun,"

ตัวอย่างเช่น เราเลื่อนดูโซเชียลมีเดีย “เพื่อความสนุก”

even though doing so often makes us feel bad about, like, kind of everything.

ถึงแม้ว่าการกระทำดังกล่าว มักทำให้เรารู้สึกแย่ ในทุก ๆ ด้าน

Or we'll say, "That was so fun. We should do that again soon" --

หรือเราชอบพูดว่า “สนุกมาก ๆ เลย เราควรทำกันอีกเร็ว ๆ นี้นะ”

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

... in response to things that weren't that fun

... เป็นคำตอบต่ออะไรก็ตามที่ไม่สนุก

and that we don't want to do again, ever.

และเราไม่ได้อยากทำกันอีก ตลอดไป

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

But it's not really our fault that we're a little bit sloppy

แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดของเราจริง ๆ ที่เราค่อนข้างเลินเล่อ

about how we use the word "fun,"

กับวิธีการใช้คำว่า “สนุก”

เพราะแม้แต่พจนานุกรมเอง ก็ยังให้ความหมายไม่ถูกเลย

because even the dictionary doesn't get it quite right.

It says that fun is amusement or enjoyment,

มันให้ความหมายของความสนุกว่า เป็นความขบขันหรือความเพลิดเพลิน

or lighthearted pleasure.

หรือความสุขที่เบาสมอง

It's something for kids to have in play areas.

เป็นสิ่งที่เด็ก ๆ ควรมีไว้ในสนามเด็กเล่น

It makes it sound like it's frivolous and optional.

มันฟังดูเหมือนเป็นเรื่องไม่สำคัญ และเป็นแค่ทางเลือก

But if you think back on your own memories

แต่ถ้าคุณนึกย้อนกลับไปในความทรงจำ

that stand out to you as having truly been fun --

ที่ชัดเจนว่าเป็นความสนุกจริง ๆ --

and I really encourage you to do this --

และฉันอยากให้คุณนึกดูจริง ๆ --

the memories that you would describe as --

ความทรงจำที่คุณจะพรรณนาว่า --

and forgive me for scientific terminology --

และอย่าว่าฉันนะ ที่ใช้คำศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ --

"so fun" --

“สนุกสุด ๆ” --

you're going to notice there's something much deeper going on.

คุณจะสังเกตเห็นว่ามีอะไรบางอย่าง ที่ลึกซึ้งไปกว่านั้น

I've collected thousands of these stories from people all around the world,

ฉันได้รวบรวมเรื่องราวลักษณะนี้มานับพัน จากผู้คนทั่วโลก

and I can tell you it's amazing,

และฉันบอกได้เลยว่ามันเจ๋งมาก ๆ

because when people recount the memories in which they had the most fun,

เพราะเมื่อผู้คนเล่าถึงความทรงจำ ที่พวกเขาเคยสนุกที่สุด

they tell you about some of the most joyful and treasured

เขาจะเล่าเกี่ยวกับความทรงจำที่เพลิดเพลิน

memories of their lives.

และมีค่าที่สุดในชีวิตของเขา

So in reality, fun is not just lighthearted pleasure.

ดังนั้น ในความเป็นจริงแล้ว ความสนุกจึงไม่ใช่แค่ความสุขที่เบาสมอง

It's not just for kids,

มันไม่ได้มีไว้ให้แค่เด็ก ๆ

and it is definitely not frivolous.

และมันไม่ไร้สาระแน่นอน

Instead, fun is the secret to feeling alive.

ในทางกลับกัน ความสนุกคือเคล็ดลับ ของการรู้สึกมีชีวิตชีวา

So today, I want to propose to you

ดังนั้น วันนี้ฉันอยากจะบอกคุณถึง

a new, more precise definition of what fun is.

นิยามใหม่ที่แม่นยำยิ่งขึ้น ว่าความสนุกนั้นคืออะไร

I want to reveal some of the ways in which it is astonishingly good for us,

ฉันอยากจะเปิดเผยบางวิธี ซึ่งเป็นวิธีที่ดีอย่างน่าอัศจรรย์

and I want to give you all some suggestions

และฉันอยากจะให้คำแนะนำ

for things you can do starting right now to experience its power for yourself.

สำหรับสิ่งที่คุณสามารถทำได้ตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อสัมผัสพลังของมันด้วยตัวคุณเอง

So the first thing we need to start with

สิ่งแรกที่เราต้องเริ่มก็คือ

is the fact that fun is a feeling, and it's not an activity.

ความจริงที่ว่าความสนุกคือความรู้สึก และไม่ใช่กิจกรรม

And that's important,

มันสำคัญมากนะ

because a lot of times, when I ask people what's fun,

เพราะบ่อยครั้งที่ฉันถาม ว่าความสนุกนั้นคืออะไร

they'll respond with a list of activities that they enjoy.

ผู้คนมักตอบมาด้วย รายการกิจกรรมที่พวกเขาชอบ

You know, they'll say, "Dancing is fun," or "Skiing is fun," or, I don't know,

เขาจะตอบว่า “เต้นสนุก” “สกีสนุก” หรือไม่ก็

"Pickleball is fun."

“พิกเกิลบอล ก็สนุก”

Everyone seems to think that pickleball is fun.

ดูเหมือนว่าทุก ๆ คน จะคิดว่าพิกเกิลบอลสนุก

(Cheers and laughter)

(เสียงเชียร์และหัวเราะ)

And sure, pickleball can be fun,

และแน่นอนว่า พิกเกิลบอลก็สามารถสนุกได้

but we've all had experiences where something's off,

แต่เราทุกคนก็เคยมีประสบการณ์แปลก ๆ

and an activity that seems like it would be fun

ที่ว่าบางกิจกรรมดูเหมือนจะสนุก

doesn't end up feeling fun.

แต่กลับไม่สนุก

And then on the flip side,

ในทางกลับกัน

we've had experiences where something that doesn't seem like it'll be fun at all

เราเคยมีประสบการณ์กับบางกิจกรรม ที่ไม่ได้ดูสนุกเลย

ends up feeling ridiculously fun.

แต่กลับสนุกแบบหลุดโลก

There's an element of serendipity.

มันมีองค์ประกอบของความบังเอิญดี ๆ

But when people do have fun,

แต่เวลาที่คนกำลังสนุก

when they experience this feeling,

เวลาที่สัมผัสกับความรู้สึกนี้

it's actually very easy to recognize,

มันง่ายมากที่จะรับรู้

because people who are having fun

เพราะคนที่กำลังสนุก

look like they're being illuminated from within.

จะดูเหมือนว่าพวกเขา กำลังส่องสว่างมาจากภายใน

So, for example,

ขอยกตัวอย่างนะคะ

here is me and my husband having fun together.

นี่คือฉันกับสามีกำลังสนุกด้วยกัน

Here are some presidents having fun together.

นี่คือประธานาธิบดีกำลังสนุกด้วยกัน

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Here’s Archbishop Desmond Tutu and the Dalai Lama having fun together.

นี่คืออาร์คบิชอป เดสมอนด์ ตูตู และดาไลลามะ กำลังสนุกด้วยกัน

(Cheers and laughter)

(เสียงเชียร์และหัวเราะ)

Actually, those two seemed like they were very often, even constantly ...

อันที่จริง สองท่านนี้ดูเหมือนจะ สนุกกันบ่อยมาก

ไปจนถึงตลอดเวลา ...

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

... having fun together.

... ที่จะสนุกด้วยกัน

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

And as you can see in these photographs,

อย่างที่คุณเห็นในรูป

true fun produces this visceral sense of lightness and joy.

ความสนุกที่แท้จริงทำให้เกิดความรู้สึก ที่สดใสและมีความสุข

It's radiant.

มันจะเปล่งประกาย

In fact, when I asked my daughter, when she was about five years old,

อันที่จริง เมื่อฉันถามลูกสาว ตอนที่เธอยังอายุ 5 ขวบ

ว่าความสนุกนั้นมีสีอะไร

what color fun would be,

she said "sunshine."

เธอบอกว่าสี “แสงแดด”

So what is this sunshine?

แล้วสีแสงแดดคืออะไร

You know? What is this feeling that we call "fun"?

อะไรคือความรู้สึกที่เราเรียกว่า “สนุก”

เวลาที่คนบอกฉัน ถึงเรื่องราวสนุก ๆ ของพวกเขา

When people tell me their stories about fun,

it's really interesting, because the details are all different,

มันน่าสนใจจริง ๆ เพราะรายละเอียดจะแตกต่างกันไป

and often quite mundane,

และมักจะเป็นเรื่องธรรมดา ๆ

but the energy running through them is the same.

แต่พลังงานที่วิ่งผ่านพวกเขา จะเป็นเหมือนกัน

มันมี 3 ปัจจัย ที่มีอยู่เสมอ

There were three factors that are consistently present,

จนถึงจุดที่ทำให้ฉันเชื่อว่า ปัจจัยเหล่านี้ทำให้เกิดนิยามใหม่

to the point that I believe they constitute a new definition,

นิยามที่ถูกต้องกว่าที่มีอยู่ในพจนานุกรม

one that is a lot more accurate than what's in the dictionary.

ทั้ง 3 ปัจจัยนี้คือ ความขี้เล่น การเชื่อมต่อ และความลื่นไหล

And those three factors are playfulness, connection and flow.

So by playfulness,

สำหรับความขี้เล่น

I do not mean you have to play games,

ฉันไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเล่นเกม

or, God forbid, make believe.

หรือเสแสร้งแกล้งทำ

I just mean having a lighthearted attitude

ฉันหมายถึงการมีทัศนคติแบบเบาสมอง

of doing things for the sake of doing them

ในการทำสิ่งต่าง ๆ เพียงเพื่อทำมัน

and not caring too much about the outcome.

และไม่ต้องสนใจผลที่ตามมามากนัก

Letting go of perfectionism.

ละทิ้งความสมบูรณ์แบบ

When we have fun, our guard is down,

เมื่อเราสนุก เราจะตั้งแง่น้อยลง

and we're not taking ourselves too seriously.

และเราจะไม่จริงจังกับตัวเองมากจนเกินไป

Connection refers to the feeling of having a special, shared experience.

การเชื่อมต่อ หมายถึง ความรู้สึกของการมีประสบการณ์พิเศษร่วมกัน

And I do think it's possible, in some circumstances,

และฉันคิดว่าในบางกรณี มันก็เป็นไปได้

to have fun alone,

ที่จะสนุกกับตัวเอง

and for this feeling of connection to be with yourself or the surroundings,

และรู้สึกเชื่อมต่อกับตัวเอง หรือสิ่งรอบตัว

or the activity.

หรือกิจกรรม

But in the majority of stories that people tell me

แต่ในเรื่องราวส่วนใหญ่ ที่ผู้คนเล่าให้ฉันฟัง

about their peak fun memories,

เกี่ยวกับความทรงจำสุดสนุกของพวกเขา

another person is involved.

มักจะมีคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

And that's true even for introverts.

และนั่นก็เป็นจริง แม้กระทั่งกับคนเก็บตัว

And then flow is the state where we are so engaged and focused

และความลื่นไหล คือสถานะ ที่เรามีส่วนร่วมและมุ่งมั่น

on whatever we're doing

ไปกับสิ่งที่เราทำอยู่

that we can even lose track of time.

จนเราสามารถลืมเวลาไปได้

You can think about an athlete in the middle of a game,

คุณอาจนึกถึงนักกีฬา ที่กำลังแข่งอยู่

or a musician playing a piece of music.

หรือนักดนตรี ที่กำลังเล่นดนตรีอยู่ก็ได้

It's when we're in the zone.

มันคือเมื่อเราอยู่ในโซน

มันเป็นไปได้ที่จะอยู่ในความลื่นไหล และไม่สนุก

It's possible to be in flow and not have fun,

like if you're arguing,

เช่น ถ้าเรากำลังถกเถียง

but you cannot have fun if you're not in flow.

แต่คุณไม่สามารถสนุก หากปราศจากความลื่นไหล

So playfulness, connection and flow all feel great on their own.

ความขี้เล่น การเชื่อมต่อ และความลื่นไหล ล้วนทำให้รู้สึกดีได้ด้วยตัวมันเอง

But when we experience all three at once,

แต่เมื่อเราได้สัมผัส ทั้งสามสิ่งพร้อมกัน

something magical happens.

สิ่งมหัศจรรย์ก็จะเกิดขึ้น

We have fun.

เราจะสนุก

And that doesn't just feel good,

และนั่นไม่เพียงแต่รู้สึกดี

it is good for us.

แต่ยังดีสำหรับเราอีกด้วย

In fact, fun does so many amazingly good things for us

จริง ๆ แล้ว ความสนุกมอบสิ่งดี ๆ มากมาย ให้กับเราอย่างน่าอัศจรรย์

that I personally believe that fun is not just the result of human thriving,

จนทำให้ฉันเชื่อว่า ความสนุกไม่ใช่เพียง ผลจากความรุ่งเรืองของมนุษย์

it's a cause.

แต่มันคือต้นเหตุ

So, for example, fun is energizing.

ตัวอย่างเช่น ความสนุกคือพลัง

When people tell me their stories about fun, they glow.

เมื่อใครสักคนเล่าเรื่องเกี่ยวกับความสนุก ให้ฉันฟัง เขาจะดูเปล่งประกาย

It is like a fire has been lit inside of them,

เหมือนมีไฟจุดอยู่ในตัวของเขา

and the energy and the warmth that they give off is contagious.

พลังงานและความอบอุ่น ที่พวกมันปล่อยออกมานั้นสามารถติดต่อกันได้

You know, so much of life drains us,

คุณก็รู้ ชีวิตสามารถบั่นทอนเรา

but fun fills us up.

แต่ความสนุก ก็เติมเต็มเราได้

Fun also makes us present.

ความสนุกยังทำให้เราอยู่กับปัจจุบันได้ด้วย

A lot of us put a lot of work into trying to be more present --

พวกเราหลายคนใช้ความพยายามอย่างมาก ที่จะอยู่กับปัจจุบัน --

we do yoga classes, we meditate, and that is all great,

เราเล่นโยคะ เราทำสมาธิ และทั้งหมดนี้ก็ยอดเยี่ยม

but the fact that fun is a flow state means that when we are having fun,

แต่ความจริงที่ว่า ความสนุกคือสภาวะลื่นไหล หมายความว่าเมื่อเราสนุก

we simply are present.

เราก็จะอยู่กับปัจจุบัน

There's no other way for it to happen.

ไม่มีทางอื่นที่มันจะเกิดขึ้นได้

Fun also unites us.

ความสนุกยังทำให้เรากลมเกลียวกัน

We live in a really polarized world,

เราอยู่ในโลกที่มีการแบ่งขั้วกันจริง ๆ

and as we all know, there's a lot of very serious problems.

และอย่างที่เราทราบกันดี มันมีปัญหาร้ายแรงมากมาย

But when we have fun with people,

แต่เมื่อเราสนุกกับผู้คน

we don't see them as different political parties,

เราจะไม่เห็นพวกเขาเป็น พรรคการเมืองที่แตกต่าง

or nationalities or religions.

หรือเชื้อชาติ หรือศาสนา

We connect with them as human beings,

เราเชื่อมต่อกับพวกเขาในฐานะมนุษย์

and it's worth noting that that is the first step

และมันก็น่าสังเกตว่า นั่นเป็นก้าวแรก

in being able to work together to solve those problems.

ในการทำงานร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านั้น

Fun also makes us healthier.

ความสนุกสนาน ยังทำให้เรามีสุขภาพดีขึ้นอีกด้วย

Being lonely and stressed out,

ความรู้สึกโดดเดี่ยวและเครียด

as many of us have been for the past two years,

อย่างที่พวกเราหลายคนเป็น ในช่วงสองปีที่ผ่านมา

causes hormonal changes in our bodies that increase our risks for disease.

ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ

But when we have fun,

แต่เมื่อเราสนุก

we're relaxed and we're more socially connected,

เราก็จะผ่อนคลาย และเชื่อมต่อกับสังคมมากขึ้น

both of which have the opposite effect.

ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ให้ผลตรงข้ามกัน

So, kind of blows my mind every time I think about it this way,

ฉันรู้สึกทึ่งทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้

but having fun is a health intervention.

แต่ความสนุก คือการแทรกแซงด้านสุขภาพ

And then, lastly, fun is joyful.

และสุดท้าย ความสนุกคือความเพลิดเพลิน

You know, we all so desperately want to be happy.

คุณรู้ไหมว่าเราทุกคนอยากมีความสุขอย่างยิ่ง

We read books about happiness,

เราอ่านหนังสือเกี่ยวกับความสุข

we download apps about happiness,

เราดาวน์โหลดแอปเกี่ยวกับความสุข

but when we are in a moment of having fun, we are happy.

แต่เมื่ออยู่ในช่วงเวลาแห่งความสนุก เราก็มีความสุข

So it makes me think that, perhaps,

มันเลยทำให้ฉันคิดได้ว่าบางที

the secret to long-term happiness

เคล็ดลับของความสุขระยะยาว

is just to have more everyday moments of fun.

ก็คือการมีช่วงเวลาแห่งความสนุก บ่อยขึ้นในทุก ๆ วัน

So how do we do that?

แล้วเราจะทำยังไงล่ะ

How do we have more fun?

เราจะสนุกมากขึ้นได้อย่างไร

Well, to start with,

เริ่มต้นด้วย

do not take the suggestions you'll find in magazine articles

อย่าเชื่อคำแนะนำ ที่คุณจะพบตามบทความนิตยสาร

about how to have more fun.

เกี่ยวกับวิธีที่จะสนุกมากขึ้น

I looked at some of these myself,

ฉันลองอ่านมาบ้างแล้ว

and I found suggestions that include -- and I'm not making these up --

และพบคำแนะนำแบบ -- และฉันไม่ได้สร้างเรื่องพวกนี้ขึ้นมานะ --

"roast a turkey."

“ย่างไก่งวง”

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

"Put together an altar to loved ones who have passed."

“จัดแท่นบูชาให้คนรักที่จากไป”

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

“Watch a documentary about climate change.”

“ดูสารคดีเกี่ยวกับภาวะโลกรวน”

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

And my personal favorite,

และที่ฉันชอบที่สุด

"Adorn your table with gourds."

“ตกแต่งโต๊ะของคุณด้วยน้ำเต้า”

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Those are not good suggestions.

เหล่านั้นไม่ใช่คำแนะนำที่ดีเลย

Instead, the most effective thing you can do to have more fun

แต่สิ่งที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ที่สามารถทำได้เพื่อเพิ่มความสนุก

is to focus on its ingredients, by which I mean,

คือการมุ่งเน้นไปที่ส่วนผสมของมัน ซึ่งฉันหมายถึง

do everything you can to fill your life with more moments of playfulness,

ทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อเติมเต็มชีวิตของคุณ ด้วยช่วงเวลาแห่งความขี้เล่น

connection and flow.

การเชื่อมต่อ และความลื่นไหล

So here are some ideas for how to do so.

ต่อไปนี้เป็นบางไอเดียสำหรับวิธีการดังกล่าว

To start with, reduce distractions in order to increase flow.

ขั้นแรก ให้ลดการรบกวน เพื่อเพิ่มความลื่นไหล

Anything that distracts you is going to kick you out of flow

อะไรก็ตามที่กวนใจคุณ จะทำให้คุณหยุดไหลลื่น

and prevent you from having fun.

และขัดขวางให้คุณหมดสนุก

And what's the number one source of distraction

อะไรคืออันดับหนึ่ง ของสิ่งที่ทำให้เสียสมาธิ

for most of us, these days?

สำหรับพวกเราส่วนใหญ่ ในทุกวันนี้

Oh, thank you.

โอ้ ขอบคุณค่ะ

(Laughs)

(เสียงหัวเราะ)

ใช่แล้วค่ะ โทรศัพท์ของคุณ

It was rhetorical, but yes, your phones.

(Laughs)

(เสียงหัวเราะ)

I wrote a book called "How to Break Up With Your Phone,"

ฉันเขียนหนังสือ “ไม่มีสัญญาณตอบรับ จากเจ้าของโทรศัพท์ที่ท่านเรียก”

so I have strong feelings about this,

ฉันจึงรู้สึกหนักแน่นกับเรื่องนี้

but I can guarantee you that you are not going to have fun

ฉันรับประกันได้เลยว่า คุณจะไม่สนุก

if you're constantly on your phone.

หากคุณใช้โทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา

So today, I want to challenge you to keep your phone out of your hand

วันนี้ฉันจึงอยากจะท้าคุณ ให้เก็บโทรศัพท์พ้นมือตัวเอง

as much as possible,

ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

so you can take me up on my second suggestion,

เพื่อที่คุณจะได้หยิบ คำแนะนำที่สองของฉันขึ้นมาใช้

ซึ่งก็คือการเพิ่มการเชื่อมต่อ

which is to increase connection

by interacting more with other human beings in real life.

ด้วยการมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์คนอื่น ๆ ในชีวิตจริงให้มากขึ้น

Now, I know that one of the main reasons we're constantly on our phones

ตอนนี้ ฉันรู้แล้วว่าสาเหตุหลักประการหนึ่ง ที่เราใช้โทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา

is specifically to avoid having to spend time

ก็เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้เวลา

and interact with other human beings in real life.

และมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์คนอื่น ๆ ในชีวิตจริง

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

So I want to assure you that it is worth it,

ฉันเลยอยากรับรองว่า มันคุ้มค่า

and it is not as hard as it might seem.

และไม่ยากอย่างที่คิด

So here's how you do it.

นี่คือวิธีที่คุณสามารถทำได้

You start by making eye contact with someone.

คุณเริ่มต้นด้วยการสบตากับใครสักคน

Like, look them in the eye,

มองตาพวกเขาจริง ๆ

don't look in the middle of their forehead,

อย่ามองตรงกลางหน้าผาก

where the camera would be on a Zoom call.

ตรงตำแหน่งที่กล้องจะอยู่ในการโทรซูม

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

And you say “Hello.”

แล้วคุณก็พูดว่า “สวัสดี”

และถ้ามันเป็นไปด้วยดี คุณก็แนะนำตัวเอง

And if that goes well, you can introduce yourself.

And if that goes well,

แล้วถ้ามันเป็นไปด้วยดีอีก

maybe you can ask them a question, something that's thought-provoking,

คุณอาจถามบางคำถาม ที่กระตุ้นความคิด

แต่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว หรือคุกคามจนเกินไป

but not overly personal or threatening,

like "What's something that fascinates you?"

เช่น “อะไรทำให้คุณหลงใหล”

หรือ “วันนี้มีอะไรบ้างที่ทำให้คุณสำราญใจ”

Or "What's one thing that delighted you today?"

And you might be amazed by how good just one little moment of connection

และคุณอาจประหลาดใจ ที่ความเชื่อมต่อเพียงชั่วขณะ

can make you feel.

สามารถทำให้คุณรู้สึกดีได้

And if you do find someone to connect with,

และถ้าคุณพบใครสักคนที่จะเชื่อมต่อด้วย

maybe ask them to join you in trying my third suggestion,

อาจลองขอให้เขา ทำตามคำแนะนำที่สามของฉัน

which is to increase playfulness by finding opportunities to rebel.

ซึ่งก็คือเพิ่มความขี้เล่น ด้วยการหาโอกาสที่จะกบฏ

Now I am not talking about James Dean-level of rebellion.

เอาล่ะ ฉันไม่ได้หมายถึง การกบฏระดับ เจมส์ ดีน

I'm talking about playful deviance.

แต่ฉันหมายถึงการเบี่ยงเบนแบบขี้เล่น

I'm talking about finding ways to break the rules

ฉันหมายถึงการหาวิธีแหกกฎ

of responsible adulthood,

ของการเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบ

and giving yourself permission to get a kick out of your own life.

และอนุญาตให้ตัวเอง ได้ออกไปจากชีวิตของตัวคุณเอง

One person told me

มีคนหนึ่งบอกฉันว่า

that some of the most fun she'd had in recent memory,

ความสนุกที่สุดที่เธอมี ในความทรงจำล่าสุด

happened on a Friday morning,

เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันศุกร์

when she and some of her friends ditched their work

เมื่อเธอและเพื่อน ๆ ทิ้งงาน

and their childcare responsibilities,

ทิ้งหน้าที่ดูแลลูก

tucked flasks into their purses

ยัดขวดใส่กระเป๋า

and snuck out to a 10:30am showing of the movie "Bad Moms."

แล้วแอบออกไปดูหนังตอน 10.30 น. เรื่อง “มันล่ะค่ะ คุณแม่”

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

สุดท้ายนี้ ยังมีอีกหนึ่งเรื่อง ที่คุณสามารถทำได้ในวันนี้

So lastly, here's one more thing that you can do today

to start having more fun.

เพื่อเพิ่มความสนุกยิ่งขึ้น

[Roast a Turkey] I am just kidding.

[ย่างไก่งวง] ล้อเล่นนะคะ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Prioritize it.

จัดลำดับความสำคัญให้กับมัน

That might sound totally obvious,

มันอาจฟังดูชัดเจนอยู่แล้ว

but one of the main reasons we're not having enough fun

แต่สาเหตุหลักประการหนึ่ง ที่ทำให้เราไม่สนุกมากพอ

is that we're not making it a priority.

ก็คือเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้

Our fun is always at the bottom of the list,

ความสนุกของเรา มักอยู่ล่างสุดของรายการเสมอ

and it can't speak up for itself.

และมันไม่สามารถส่งเสียงประท้วงได้

So I'm not suggesting that you take out your calendar and make an entry

แล้วฉันก็ไม่ได้แนะนำให้คุณหยิบปฏิทินออกมา

that says: “From 4 to 6pm on Saturday, I shall have fun.”

แล้วเขียนว่า “ตั้งแต่ 4-6 โมงเย็น ของวันเสาร์ ฉันจะสนุก”

That is a guaranteed way to not have fun.

นั่นเป็นวิธีที่รับประกันได้ว่า จะไม่สนุกแน่นอน

But if you know you consistently have fun

แต่ถ้าคุณรู้ว่าคุณสนุกอยู่เสมอ

when you spend time with a particular person,

เมื่อใช้เวลากับใครคนใดคนหนึ่ง

make a point to spend time with that person.

ก็ให้พยายามใช้เวลาร่วมกับคน ๆ นั้น

If you know there's an activity

หากคุณรู้ว่ามีกิจกรรม

that really does often generate playful connected flow for you,

ที่มักจะสร้างความไหลลื่น ที่เชื่อมต่ออย่างขี้เล่นให้กับคุณ

carve out time for it in your schedule.

จัดเวลาไว้ในตารางของคุณ

Treat fun as if it is important.

ปฏิบัติต่อความสนุก ราวกับว่ามันเป็นสิ่งสำคัญ

Because it is.

เพราะว่ามันเป็น

I've been doing this myself for a couple of years now,

ฉันทำเองมาสองสามปีแล้ว

and it's amazing to see how many areas of my life fun has touched.

และมันน่าทึ่งที่ได้เห็นว่าชีวิตของฉัน ได้สัมผัสกับความสนุกในด้านใดบ้าง

I'm more creative and more productive, I'm more resilient.

ฉันมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น มีประสิทธิผลมากขึ้น มีความยืดหยุ่นมากขึ้น

I laugh more.

ฉันหัวเราะมากขึ้น

Making sure that I'm having enough fun has made me a better partner,

การทำให้แน่ใจว่าฉันสนุกมากพอนั้น ได้ทำให้ฉันเป็นคู่ที่ดีขึ้น

a better parent and a better friend.

เป็นแม่ที่ดีขึ้น และเป็นเพื่อนที่ดีขึ้น

And it has convinced me of something

มันทำให้ฉันเชื่อในบางสิ่ง

that I very much hope I can convince you of as well,

ที่ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะสามารถโน้มน้าวคุณได้เช่นกัน

which is that my daughter was right.

ซึ่งก็คือ ลูกสาวของฉันพูดถูก

Fun is sunshine.

ความสนุกคือแสงแดด

It's a distillation of life's energy.

มันเป็นการกลั่นพลังแห่งชีวิต

And the more often we experience it,

และยิ่งเราสัมผัสมันบ่อยเท่าไร

the more we will feel like we're actually alive.

เราก็จะยิ่งรู้สึก ถึงการมีชีวิตอยู่มากขึ้นเท่านั้น

Thank you.

ขอบคุณค่ะ

(Cheers and applause)

(เสียงเชียร์และปรบมือ)