How to speak monkey: The language of cotton-top tamarins - Anne Savage

Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Rawee Ma

Living with her family high above the ground

คุณจะพบกับชากิรา

in the northern tropical forests of Colombia,

ทางตอนเหนือของป่าเขตร้อนในโคลัมเบีย

you will find Shakira,

อาศัยอยู่กับครอบครัวของเธอเหนือพื้นดิน

a cotton-top tamarin with a penchant for conversation.

คอตตอนท๊อปทามารินที่มีนิยมชมชอบ การทักทายพูดคุย

Say, "Hola!"

พูดว่า "สวัสดี"

Though you may not realize it,

แม้ว่าคุณอาจจะรู้

this one pound monkey communicates

นี่เป็นการสื่อสารของลิง

in a highly sophisticated language

ที่ใช้ภาษาที่ซับซ้อนมาก

of 38 distinct calls

การร้องถึง 38 อย่างต่าง ๆ กัน

based on variations of chirps and whistles.

ตามเสียงจ๊อกแจ๊กและเสียงผิว

The response she just gave is

การตอบสนองของเธอ

known as a "B chirp",

เป็นที่รู้จักกันว่า "เสียงจ๊อกแจ๊ก B"

a call often directed at humans.

เสียงเรียกที่มักเกี่ยวข้องกับมนุษย์

To appreciate the complexities of Shakira's language,

เพื่อที่จะเข้าใจถึงความซับซ้อน ของภาษาของชากิรา

let's learn a few chirps and whistles,

มาเรียนเสียงจ๊อกแจ๊กและเสียงผิวกันสักหน่อย

then examine how their combinations

จากนั้นมาพิจารณากันว่าพวกมันถูกนำมารวมกัน

form grammatically structured sequences.

เพื่อเกิดเป็นลำดับโครงสร้าง ทางไวยากรณ์ได้อย่างไร

The chirp Shakira used to greet us

เสียงจ๊อกแจ๊กถูกใช้เพื่อทักทายเรา

comes from a class of calls known as

มาจากอันดับของการร้องที่เรียกว่า

single frequency modulated syllables.

พยางค์ที่ถูกควบคุมด้วยความถี่เดี่ยว

This class is made up of short duration calls, or chirps,

อันดับนี้ประกอบด้วยเสียงเรียกสั้น ๆ หรือว่าเสียงจ๊อกแจ๊ก

and long duration calls, like screams and squeals.

และเสียงเรียกที่ยาว เรียกว่า เสียงกรีดร้องหรือเสียงแหลม

Researchers have determined that there are eight

นักวิจัยได้กำหนดไว้ว่ามันมีเสียงจ๊อกแจ๊ก

different types of chirps categorized by

อยู่แปดแบบซึ่งถูกแบ่งตาม

stem upsweep, duration, peak frequency, and frequency change.

การยกขึ้นของเสียง ช่วงความยาว ความถี่สูงสุด และการเปลี่ยนความถี่

In addition, each chirp has its own unique meaning.

นอกจากนี้ เสียงจ๊อกแจ๊กยังมีความหมาย ที่เป็นเอกลักษณ์ในตัวของมันเอง

For example, Shakira's "C chirp" is used

ยกตัวอย่างเช่น "เสียงจ๊อกแจ๊ก C" ของชากิราถูกใช้

when she is approaching food,

เมื่อเธอเข้าใกล้อาหาร

where as her "D chirp" is only used

ในขณะที่ "เสียงจ๊อกแจ๊ก D" จะใช้ก็ต่อเมื่อ

when she has the food in hand.

เธอมีอาหารอยู่ในมือ

Single whistles also exhibit a unique intention with each call

การผิวเดี่ยวยังแสดงถึงจุดประสงค์ ที่เป็นเอกลักษณ์ในแต่ละเสียงเรียก

and just as there are eight different chirps,

และเช่นเดียวกับเสียงจ๊อกแจ๊ก แบบต่าง ๆ กันแปดแบบ

there are five different whistles.

มีเสียงผิวแบบต่าง ๆ อยู่ห้าแบบ

Based on frequency modulation,

ตามการควบคุมความถี่

single whistles are subdivided into four categories:

เสียงผิวเดี่ยวถูกแบ่งต่อไปได้อีกเป็นสี่หมวด

squeaks, initially modulated whistles,

ได้แก่ เสียงแหลม เสียงผิวที่ถุกควบคุมในตอนแรก

terminally modulated whistles, and flat whistles.

เสียงผิวที่ถูกควบคุมทีหลัง และเสียงผิวราบ

The language's quality of unique intention

คุณภาพของภาษาเป็นจุดประสงค์ที่มีเอกลักษณ์

is wonderfully exemplified by the category

ถูกยกตัวอย่างเอาไว้อย่างน่าสนใจ โดยหมวดหมู่

of initially modulated whistles.

ของการผิวที่ถูกควบคุมในตอนแรก

These whistles change based on the proximity

การผิวเหล่านี้เปลี่ยนไปตามความใกล้ชิด

of Shakira to other members of her family.

ของชากิรากับสมาชิกอื่น ๆ ในครอบครัวของเธอ

If Shakira is greater than .6 meters from her family,

ถ้าชากิราอยู่ห่างมากกว่า .6 เมตร จากครอบครัวของเธอ

she'll sound a large initally modulated whistle.

เธอจะส่งเสียงผิว ที่ถูกควบคุมในตอนแรกอย่างดัง

But if she's less than .6 meters from her family,

แต่ถ้าเธอห่างออกไปน้อยกว่า .6 เมตร จากครอบครัวของเธอ

she'll sound a small initially modulated whistle.

เธอจะส่งเสียงผิว ที่ถูกควบคุมในตอนแรกแบบเบา ๆ

Now that we've learned a few chirps and whistles,

ตอนนี้เราได้เรียนรู้ เสียงจ๊อกแจ๊กและเสียงผิวไปบ้างแล้ว

Shakira wants to show off by taking you

ชากิราอยากที่จะแสดงให้คุณดู

through a quick day in her life with these calls.

โดยพาคุณไปดูชีวิตประจำวันของเธอ ที่ใช้เสียงเหล่านี้

While heading towards a feeding tree for her first meal of the day,

ในขณะที่เราเดินหน้าเข้าสู่ต้นไม้ ที่เธอไปหาอาหารมื้อแรกของวัน

she says, (monkey noise),

เธอบอกว่า (เสียงลิง)

a call most often used in relaxed investigations.

การร้องที่มักใช้ในการตรวจหาที่ผ่อนคลาย

However, suddenly she spots the shadow of a hawk.

อย่างไรก็ดี ทันใดนั้นเอง เธอก็พบกับจุดเงาของเหยี่ยว

"E chirp" for alarm.

"เสียงจ๊อกแจ๊ก E" เป็นการเตือนภัย

This call alerts her family to the presence of this predator,

การร้องนี้เตือนภัยครอบครัวของเธอ ว่ามีนักล่าปรากฏอยู่

and Shakira jumps to the safety of an inner branch.

และชากิรากระโดดไปยังที่ปลอดภัยในกิ่งด้านใน

The coast seems clear,

ชายหาดดูโล่งดี

so Shakira makes her way towards her dad.

ชากิราจึงไปสมทบกับพ่อของเธอ

Wait, wait. Who is that?

แต่เดี๋ยวก่อน เดี๋ยว นั่นใครน่ะ

Ah, it's her younger brother, Carlos.

อ้า น้องชายของเธอ คาลอส นี่เอง

Cotton-top tamarins often squeal during play wrestling.

คอตตอนท๊อปทามารินมักจะส่งเสียงแหลม ระหว่างการเล่นมวยปล้ำ

Uh-oh. He's playing a little too roughly, and Shakira screams,

โห มันเล่นแรงไปหน่อย และชากิราก็ส่งเสียงกรีดร้อง

alerting her parents to help her.

เพื่อให้พ่อแม่ของเธอมาช่วย

Her dad makes his way towards the ball of rolling fur

พ่อของเธอตรงเข้ามายังเจ้าตัวขน

and her brother stops.

และน้องชายของเธอก็หยุด

Shakira shakes herself

ชากิราสบัดตัว

and scratches herself to get the hair on her head

และเกาตัวเองเพื่อให้ขนบนศีรษะ

back in place.

กลับไปเข้าที่เข้าทาง

Then Shakira spots another group of unfamiliar tamarins

จากนั้นชากิราก็พบกับทามารินอีกกลุ่ม ที่ไม่คุ้นเคย

and hears their normal long call.

และได้ยินเสียงร้องยาว ๆ ตามปกติ

She turns to her family. (Monkey noise)

เธอหันไปหาครอบครัวของเธอ (เสียงลิง)

Did you catch that? First there was a chirp, then a whistle.

คุณได้ยินไหม ตอนแรกมันเป็นเสียงจ๊อกแจ๊ก จากนั้นเป็นเสียงผิว

This is what's known as a combination vocalization,

นี่คือสิ่งที่เรียกว่า การรวมกันของการให้เสียง

a phrase that contains both a chirp and a whistle.

กลุ่มคำที่มีทั้งเสียงจ๊อกแจ๊กและเสียงผิว

These are two calls strung together to convey a message.

มีการร้องสองแบบที่ถูกเชื่อมกัน เพื่อส่งข้อความ

The combination of these two elements

การรวมกันของสองส่วนนี้

alerts her family to the presence of another group,

บอกให้ครอบครัวของเธอรู้ว่า มีอีกกลุ่มหนึ่งปรากฏอยู่

the "F chirp", and the distance they are away,

"เสียงจ๊อกแจ๊ก F" และระยะห่าง ที่พวกมันอยู่ห่างออกไป

the normal long call whistle.

เสียงผิวยาว ๆ ตามปกติ

In other words, Shakira just said a sentence.

หรือพูดอีกอย่าง ชากิราพูดออกมาเป็นประโยค

Her simple demonstration is just the tip of the iceberg.

สิ่งเธอแสดงให้เห็น เป็นเพียงสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น

She's got trills, chatters, multiple whistle calls,

เธอยังทำเสียงสั่น เสียงสวด และเสียงผิวได้หลากหลาย

more combination vocalizations, even twitters.

การรวมกันของการให้เสียงนั่น มีความหลากหลายมากกว่าทวิตเตอร์เสียอีก

Yet sadly enough, we may not get to hear

แต่น่าเศร้าที่เราอาจไม่ได้ยิน

everything she has to say.

ทุก ๆ อย่างที่เธออยากจะพูด

Mixed in with chirping sonatas from high above

ที่ผสมปนเปประสาน กับเสียงจ๊อกแจ๊กจากเบื้องบน

is the constant thud of a machete chopping trees.

คือเสียงตุ๊บตับของมีดยักษ์ที่กำลังตัดต้นไม้

Shakira's habitat in Colombia is being cut down,

แหล่งที่อยู่ของชากิราในโคลัมเบียกำลังถูกทำลาย

piece by piece,

ทีละเล็กทีละน้อย

and if we don't work to protect

และถ้าเราไม่พยายามปกป้องมัน

the critically endangered cotton-top tamarin,

คอตตอนทอปทามารินกำลังถูกคุกคามอย่างหนัก

it will become extinct in our lifetime.

มันจะสูญพันธุ์ไปในชั่วชีวิตของเรา

If the chirp from one tamarin to the next

ถ้าเสียงจ๊อกแจ๊กจากทามารินตัวหนึ่งไปอีกตัวหนึ่ง

has proven to be more than just idle chit chat,

ได้แสดงให้เห็นว่ามันเป็นมากกว่าการคุยฝอยธรรมดา

imagine what else we have left to discover.

ลองนึกดูว่าจะมีอะไรอีกที่รอให้เราค้นพบ

Imagine what else Shakira can tell us.

ลองนึกดูว่าจะมีอะไรอีกที่ชากิราอยากบอกเรา