A different way to visualize rhythm - John Varney

Translator: Thitirat Kongkeo Reviewer: Sakunphat Jirawuthitanant

We usually think of rhythm as an element of music,

เรามักจะคิดถึงจังหวะในแง่ของ ส่วนประกอบของดนตรี

but it's actually found everywhere in the world around us,

แต่ความจริงแล้ว มันสามารถ พบเจอได้ทั่วไปในโลกรอบตัวเรา

from the ocean tides to our own heartbeats,

ตั้งแต่คลื่นในมหาสมุทร สู่การเต้นของหัวใจ

rhythm is essentially an event repeating regularly over time.

จังหวะโดยเนื้อแท้แล้ว คือสิ่งที่เกิดขึ้น ซ้ำไปซ้ำมาในช่วงเวลาหนึ่ง

Even the ticking of a clock itself is a sort of rhythm.

แม้กระทั่งเสียงนาฬิกาเดิน ก็ยังถือว่าเป็นประเภทหนึ่งของจังหวะ

But for musical rhythm,

แต่สำหรับจังหวะของดนตรี

a steady string of repeating single beats is not enough.

เสียงที่เคาะจังหวะเดียว ซ้ำไปมาอย่างสม่ำเสมอนั้นไม่เพียงพอ

For that, we need at least one opposing beat with a different sound,

เราต้องการอย่างน้อย 1 เคาะที่มีเสียงต่างออกไป

which can be the unstressed off beat or the accented back beat.

ซึ่งสามารถเป็นการเคาะที่ลงไม่ตรงจังหวะ หรือการเคาะหนักแน่นที่ลงตรงจังหวะก็ได้

There are several ways to make these beats distinct,

มันยังมีอีกหลายวิธี ที่จะทำให้การเคาะพวกนี้ชัดเจนขึ้น

whether by using high and low drums, or long and short beats.

ไม่ว่าจะด้วยการใช้กลองย่านเสียงสูง-ต่ำ หรือการเคาะแบบยาวและสั้น

Which ends up being heard as the main beat is not a precise rule,

ที่สุดท้ายแล้วเราได้ยินเป็น เสียงเคาะหลักนั้น ไม่มีกฎที่ตายตัว

but like the famous Rubin's vase, can be reversed depending on cultural perception.

แต่เหมือนกับแจกันรูบิน มันสามารถ กลับไปมาได้ขึ้นอยู่กับมุมมองของวัฒนธรรม

In standard notation, rhythm is indicated on a musical bar line,

ในการจดบันทึกทั่วไป จังหวะจะถูกระบุไว้บนเส้นบรรทัดดนตรี

but there are other ways.

แต่มันยังมีวิธีอื่นอีก

Remember that ticking clock?

จำนาฬิกาเดินได้ไหม?

Just as its round face can trace the linear passage of time,

เหมือนกับที่ใบหน้ากลมของมันสามารถ ติดตามเส้นการเคลื่อนของเวลาได้

the flow of rhythm can be traced in a circle.

การไหลของจังหวะก็สามารถ ติดตามได้ในวงกลมเช่นกัน

The continuity of a wheel can be a more intuitive way to visualize rhythm

ความต่อเนื่องของวงล้อเป็น วิธีที่ง่ายกว่าในการรับรู้จังหวะ

than a linear score that requires moving back and forth along the page.

เทียบกับแถบโน้ตเพลงที่จะต้องมี การเลื่อนซ้ายขวาตลอดทั้งหน้ากระดาษ

We can mark the beats at different positions around the circle

เราสามารถทำเครื่องหมายการเคาะ ที่จุดต่างๆ กันบนวงกลมได้

using blue dots for main beats, orange ones for off beats,

โดยใช้จุดสีฟ้าแทนการเคาะหลัก สีส้มสำหรับการเคาะที่ไม่ลงจังหวะ

and white dots for secondary beats.

และจุดสีขาวสำหรับการเคาะครั้งที่สอง

Here is a basic two beat rhythm with a main beat and an opposing off beat.

นี่คือพื้นฐานการเคาะ 2 จังหวะ ด้วยการเคาะหลักและการเคาะที่ไม่ลงจังหวะ

Or a three beat rhythm with a main beat, an off beat, and a secondary beat.

หรือการเคาะ 3 จังหวะด้วยการเคาะหลัก การเคาะที่ไม่ลงจังหวะ และการเคาะครั้งที่สอง

And the spaces between each beat can be divided into further sub-beats

และระยะห่างของแต่ละการเคาะ สามารถแบ่งเป็นจังหวะย่อยๆ ได้อีก

using multiples of either two or three.

โดยใช้การทวีคูณของ 2 หรือ 3

Layering multiple patterns using concentric wheels

ด้วยการจัดวางรูปแบบของการคูณ โดยมีวงล้อเป็นศูนย์กลาง

lets us create more complex rhythms.

เราลองมาสร้างจังหวะที่ซับซ้อนมากขึ้นกันดู

For example, we can combine a basic two beat rhythm with off beats

ตัวอย่างเช่น เราสามารถรวมพื้นฐานการเคาะ 2 จังหวะกับการเคาะที่ไม่ลงจังหวะ

to get a four beat system.

เพื่อที่จะได้ระบบการเคาะ 4 ครั้ง

This is the recognizable backbone of many genres popular around the world,

นี่เป็นพื้นฐานที่สำคัญของดนตรีที่โด่งดัง หลายประเภททั่วโลก

from rock,

จากร็อค (Rock)

country,

คันทรี่ย์ (Country)

and jazz,

และแจ๊ส (Jazz)

to reggae

สู่เร็กเก้ (Reggae)

and cumbia.

และคุมเบีย (Cumbia)

Or we can combine a two beat rhythm with a three beat one.

หรือเราสามารถรวมการเคาะพื้นฐาน 2 จังหวะ กับการเคาะ 3 จังหวะได้

Eliminating the extra main beat and rotating the inner wheel

เมื่อรวมการเคาะหลักที่เกินมาเข้าด้วยกัน และหมุนวงล้อด้านใน

leaves us with a rhythm whose underlying feel is three-four.

เราจะเหลือจังหวะ ที่ให้ความรู้สึก 3/4 อยู่ลึกๆ

This is the basis of the music of Whirling Dervishes,

นี่คือพื้นฐานดนตรีของนักบวชลัทธิลมวน

as well as a broad range of Latin American rhythms,

เช่นเดียวกับจังหวะลาตินอเมริกาอีกมาก

such as Joropo,

เช่น โฮโระ (Joropo)

and even Bach's famous Chaconne.

หรือแม้แต่ชาโคน (Chaconne) ที่โด่งดังของบาร์ก (Bach)

Now if we remember Rubin's vase and hear the off beats as the main beats,

ถ้าเราใช้แนวคิดแจกันรูบิน แล้วใช้การเคาะที่ไม่ลงจังหวะเป็นการเคาะหลัก

this will give us a six-eight feel,

เราก็จะได้ความรู้สึกของ 6/ 8

as found in genres such as Chacarera,

เหมือนที่ใช้กันใน ชาร์คาเรร่า (Chacarera)

and Quechua,

เคว็กกา (Quechua)

Persian music and more.

ดนตรีเปอร์เซียน และอื่นๆอีกมากมาย

In an eight beat system, we have three layered circles,

ในระบบการเคาะ 8 จังหวะ เราจะมีวงกลม 3 ชั้น

each rhythm played by a different instrument.

แต่ละจังหวะจะถูกเล่นโดย เครื่องดนตรีที่แตกต่างกัน

We can then add an outermost layer

เราสามารถเพิ่มวงกลมชั้นนอกสุด

consisting of an additive rhythmic component,

เพื่อเพิ่มองค์ประกอบของจังหวะ

reinforcing the main beat and increasing accuracy.

เสริมการเคาะหลักและเพิ่มความละเอียด

Now let's remove everything except for this combined rhythm

ทีนี้ ลองลบทุกอย่างออก ยกเว้นจังหวะที่รวมกัน

and the basic two beat on top.

และการเคาะพื้นฐาน 2 จังหวะด้านบน

This rhythmic configuration is found as the Cuban cinquillo,

การเรียบเรียงจังหวะแบบนี้จะเจอได้ใน คิวบัน ซิงคิว (Cuban cinquillo)

in the Puerto Rican bomba,

ในการเต้นบอมบา จากเปอร์โตริโก (Puerto Rican bomba)

and in Northern Romanian music.

และในดนตรีทางเหนือของโรมาเนีย

And rotating the outer circle 90 degrees counterclockwise

การหมุนวงกลมนอกสุด 90 องศา ทวนเข็มนาฬิกา

gives us a pattern often found in Middle Eastern music,

จะได้รูปแบบที่มักจะเจอในดนตรีตะวันออกกลาง

as well as Brazilian choro,

โชโระของบราซิล (Brazilian choro)

and Argentinian tango.

และแทงโก้ของอาร์เจนตินา

In all of these examples, the underlying rhythm reinforces the basic one-two,

จากตัวอย่างทั้งหมดนี้ จังหวะสำคัญ จะมาจากจังหวะพื้นฐาน 1/2

but in different ways depending on arrangement and cultural context.

แต่เป็นในทางที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการเรียบเรียงและวัฒนธรรม

So it turns out that the wheel method is more than just a nifty way

กลายเป็นว่า 'วิธีวงล้อ' เป็นมากกว่าวิธีที่ดีกว่า

of visualizing complex rhythms.

ในการมองจังหวะที่ซับซ้อน

By freeing us from the tyranny of the bar line,

ด้วยการปลดปล่อยเราจาก เผด็จการของเส้นบรรทัดดนตรี

we can visualize rhythm in terms of time,

เราสามารถมองเห็นจังหวะในรูปแบบเวลา

and a simple turn of the wheel can take us on a musical journey around the world.

และการหมุนวงล้อแบบง่ายๆ สามารถพาเราเข้าสู่โลกของดนตรีทั่วโลกได้