How misused modifiers can hurt your writing - Emma Bryce

This just in:

ข่าวด่วน

"Thief robs town with world's largest chocolate bunny."

"โจรปล้นเมืองด้วยชอคโกแลกกระต่าย ที่ใหญ่ที่สุดในโลก"

Wait, so are we talking about this,

เดี๋ยวนะ นี่เรากำลังพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้

or this?

หรือว่าเรื่องนี้

That's a classic case of a misplaced modifier,

นี่เป็นกรณีคลาสสิกของการใช้วลีผิดที่ผิดทาง

a common grammatical mistake

ปัญหาที่พบเสมอในการใช้ไวยากรณ์

that can dramatically change the meaning of a sentence.

ซึ่งสามารถทำให้ความหมายของประโยค เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

And lest you think this is a bit far-fetched,

และอย่างน้อยสิ่งที่คุณคิด นี่ก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย

confusing headlines like this appear all the time.

พาดหัวข่าวกำกวมแบบนี้มักพบเห็นได้บ่อยครั้ง

Modifiers are words, phrases, and clauses

คำขยาย คือคำ วลี และประโยค

that add information about other parts of a sentence,

ที่ช่วยเสริมข้อมูลให้กับส่วนอื่น ๆ ของประโยค

which is usually helpful.

ซึ่งเกื้อกูลกันตามปกติ

But when modifiers aren't linked clearly enough

แต่ถ้าคำขยายไม่ได้ถูกเชื่อมอย่างชัดเจน

to the words they're actually referring to,

กับคำที่มันสมควรจะถูกขยาย

they can create unintentional ambiguity.

ก็จะทำให้สื่อความหมายออกมาได้ไม่ชัดเจน

That happens because the modifying words,

สาเหตุเพราะคำที่มาขยาย

in this case, "with world's largest chocolate bunny,"

ในกรณีนี้ "ด้วยกระต่ายชอคโกแลตที่ใหญ่ที่สุดในโลก"

modify the wrong thing, the robber's actions instead of the town.

ถูกนำไปขยายการปล้นของโจรแทนที่เมือง

To correct this particular sentence, we simply rephrase

จะแก้ปัญหานี้ได้โดยการเรียงประโยคใหม่

to make it clearer what the modifying phrase is talking about.

เพื่อที่จะสื่อให้ชัดขึ้นว่า จริง ๆ แล้ววลีนี้ขยายอะไร

"Town with world's largest chocolate bunny robbed by thief."

"เมืองที่มีกระต่ายช็อคโกแลต ที่ใหญ่ที่สุดในโลกถูกโจรปล้น"

Now, at least it's clear

ทีนี้ประโยคนี้ก็ชัดเจนขึ้นเลย

that the thief wasn't armed with a giant chocolate animal.

ว่าโจรไม่ได้พกอาวุธที่เป็นรูปสัตว์ขนาดใหญ่ ทำด้วยชอคโกแลต

Sometimes, modifying words, phrases, or clauses

แต่ในบางกรณี คำขยาย วลีขยาย หรือประโยคขยาย

don't appear to be modifying anything at all.

กลับไม่ได้ทำหน้าที่ขยายอะไรเลย

That's called a dangling modifier.

นี่เรียกว่าขยายความไม่ถูกต้อง

"Having robbed the bank in record time,

"ปล้นธนาคารเป็นประวัติการณ์

it was possible to make off with the town's chocolate rabbit as well."

ก็เป็นไปได้ที่จะหนีไปพร้อมกับ เมืองช็อคโกแลตกระต่ายเช่นกัน"

The modifying phrase in this sentence seems unrelated to anything else,

วลีขยายในประโยคนี้ ดูเหมือนจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับอะไรเลย

and so we're clueless about

ที่สำคัญเราก็ยังไม่รู้เลยว่า

who the chocolate-loving criminal could possibly be.

ใครคืออาชญากรที่ชอบชอคโกแลต ที่สามารถปล้นได้

Giving the modifier something to modify will solve the problem.

การหาอะไรที่ชัดเจนมาขยายคำขยายเหล่านี้ จะแก้ปัญหานี้ได้

Then there's another group called the squinting modifiers

นอกจากนี้ก็ยังมีอีกปัญหา ที่เรียกว่าคำขยายที่เคลือบแคลง

because they're stuck between two things and could feasibly refer to either.

เพราะคำขยายนี้ถูกวางอยู่ระหว่างสองสิ่ง และยากที่จะบอกได้ว่ามันขยายอะไร

Often, these modifiers are adverbs, like the one in this sentence:

ส่วนใหญ่คำขยายประเภทนี้จะเป็นคำวิเศษณ์ เช่นในประโยคนี้

"Robbers who steal chocolate bunnies rapidly attract the outrage of onlookers."

"พวกโจรที่ขโมยกระต่ายช็อคโกแลตอย่างรวดเร็ว สร้างความโกรธแค้นให้กับผู้เห็นเหตุการณ์"

"Rapidly" is the modifier, here, but what's not clear

"อย่างรวดเร็ว"เป็นคำขยาย ที่นี่ แต่มันไม่ชัดเจน

is whether it's referring to the speed of the chocolate thievery,

คือว่าคำนี้ขยายความเร็วของการโจรกรรม ชอคโกแลต

or how quickly it alerts the furious onlookers.

หรือรวดเร็วอย่างไรที่กระตุ้นผู้เห็นเหตุการณ์ ที่อารมณ์ร้อน

To clarify, we can either put the modifier closer to its intended phrase,

เพื่อสร้างความชัดเจน เราสามารถวางคำขยาย ไว้ใกล้ ๆ กับวลีที่มันขยาย

which works in some cases,

ซึ่งใช้ได้ในบางกรณี

or we can entirely reword the sentence so that the modifier no longer squints,

หรือเราสามารถเรียบเรียงคำพูดในประโยค ใหม่ทั้งหมดเพื่อจะได้ไม่สับสน

but clearly applies to only one part.

แต่ขยายชัดเจนแค่ส่วนหนึ่งของประโยค

"Chocolate bunny-thieving robbers rapidly attract the outrage of onlookers."

"พวกโจรขโมยกระต่ายช็อคโกแลต สร้างความโกรธแค้นให้กับผู้เห็นเหตุการณ์อย่างรวดเร็ว"

Justice will eventually come to the chocolate thief,

หัวขโมยชอคโกแลตก็จะได้รับความยุติธรรม

but in the meantime,

แต่ในเวลาเดียวกัน

our task is to avoid verbal ambiguity

หน้าที่ของเราคือหลีกเลี่ยงคำพูดที่กำกวม

by making it clear which parts of the sentences modifiers belong to.

โดยสร้างความชัดเจนว่าส่วนไหนของประโยค ที่มีคำขยายเป็นส่วนหนึ่งอยู่ด้วย

That way, we can at least maintain grammatical law and order.

ด้วยวิธีนี้เราก็สามารถคงความถูกต้อง ของกฎและระเบียบไวยากรณ์ได้