10 Common British English Slang Expressions & Phrases

(upbeat electronic music)

♪♬ ดนตรี ♪♬

(whispering to self)

*กระซิบกับตัวเอง*

Okay.

โอเค

(clears throat)

*กระแอ็ม*

(breathes loudly)

*หายใจแรง*

- Hello, everyone!

สวัสดีทุกคน!

And welcome back to English With Lucy.

และยินดีต้อนรับเข้าสู่ 'ภาษาอังกฤษกับลูซี่'

I have a cold in,

ฉันเป็นหวัดตอน...

oh my god, it's September!

โอ้พระเจ้า นี่เดือนกันยายนแล้ว!

(laughs)

*ขำ*

I thought it was August.

ฉันคิดว่าตอนนี้ยังเป็นเดือนสิงหาคมเสียอีก

Okay, I have a cold in September, which actually

โอเค คือฉันเป็นหวัดเดือนกันยายน

isn't that bad, but I am suffering,

ซึ่งอันที่จริงมันก็ไม่แย่หรอกนะ แต่ฉันรู้สึกทรมาน

so if my voice sounds strange

ดังนั้นถ้าเสียงของฉันฟังดูแปลกๆ

or extra sexy,

หรือเซ็กซี่เกินไป

then you know why.

คุณก็คงรู้สาเหตุแล้วล่ะ

I sound like a smoker.

You know why.

ฉันฟังดูเหมือนคนที่สูบบุหรี่เลย

คุณรู้สาเหตุแล้วล่ะ

Yeah, I've got a really bad cold,

ใช่แล้ว ฉันเป็นหวัดหนักมาก

but I'm here and I'm ready to do the lesson with you.

แต่ฉันอยู่ที่นี่ และฉันพร้อมที่จะมาสอนพวกคุณในวันนี้

So I thought my voice sounds wintery,

ฉันคิดว่าเสียงของฉันฟังดูออกแนวฤดูหนาวหน่อยๆ

so I tried to make myself look all summery,

ดังนั้นฉันจึงพยายามทำตัวให้ออกแนวฤดูร้อน

ready for the summer that I didn't have this year.

พร้อมสำหรับฤดูร้อนที่ฉันไม่ได้รับในปีนี้

Today I thought I would do a video about some

วันนี้ฉันคิดว่าฉันจะทำวิดีโอเกี่ยวกับ

British slang phrases, expressions, and idioms.

แสลง คำพูด และสำนวนบริติช

So today I'm going to give you a lovely long list

ดังนั้นวันนี้ฉันจะให้ลิสต์ยาวๆ

of phrases that I've thought of recently.

ของประโยคที่ฉันนึกถึงบ่อยๆ

And I'm gonna give you some examples

ฉันจะให้ตัวอย่าง

and I'm gonna make sure that you really

และฉันก็จะทำให้มั่นใจว่า

understand them so that you can use them

พวกคุณเข้าใจจริงๆและพวกคุณสามารถนำไปใช้ได้

in your daily life as well.

ในชีวิตประจำวันของพวกคุณด้วย

Some of them are going to be quite informal,

บางสำนวนอาจจะเป็นสำนวนที่ไม่เป็นทางการ

so you might not want to use them in English exams,

ดังนั้นพวกคุณก็ไม่ควรใช้ในข้อสอบภาษาอังกฤษนะ

but if you're visiting the UK or America,

แต่ถ้าคุณจะมาเที่ยวสหราชอาณาจักร หรือสหรัฐอเมริกา

I focus on British English here,

ฉันจะเน้นในส่วนของภาษาอังกฤษแบบบริติชนะ

but many of these are relevant for American English as well.

แต่สำนวนเหล่านี้ก็จะเกี่ยวข้อง กับภาษาอังกฤษแบบอเมริกันเหมือนกัน

I'm just gonna call them British English expressions

ฉันก็เลยจะเรียกว่าเป็น คำและสำนวนของภาษาอังกฤษแบบบริติช

to make sure that anyone who wants to learn

เพื่อทำให้ทุกคนมั่นใจว่าวิดีโอนี้

British English knows that this video will help them.

สามารถช่วยคุณในการเรียนภาษาอังกฤษแบบบริติชได้

Quickly before we get started, I just want

ก่อนที่เราจะเริ่มนะ

to thank the sponsor of today's video, italki.

ฉันอยากจะขอบคุณผู้สนับสนุนของคลิปวิดีโอนี้ "italki"

Italki is on online database full of native,

italki เป็นเว็บไซต์ออนไลน์ที่มี เจ้าของภาษา ครูสอนภาษา และผู้เรียนภาษามากมาย

non-native language teachers, and you can book in

คุณสามารถจองเรียนได้

for private one-on-one lessons, and it's a great way

เป็นการเรียนตัวต่อตัว

of getting corrected conversation practise if you

มันเป็นวิธีที่ดีที่จะได้รับการแก้ไขในบทสนทนา

don't have access to a private teacher where you are.

หากคุณไม่สามารถติดต่อครู สอนภาษาแบบตัวต่อตัวในที่ที่คุณอยู่ได้

You can get lessons 24-seven, every day of the year,

คุณสามารถรับการเรียนการสอนได้ตลอดเวลา ทุกวันของปี

every hour of the day, anywhere in the world,

ทุกชั่วโมงของวัน ทุกที่บนโลกใบนี้

as long as you have an Internet connection.

ตราบใดที่คุณมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

And they have given me a special discount to pass on to you.

และ italki ได้ให้ส่วนลดสุดพิเศษแก่ฉันเพื่อมามอบให้พวกคุณ

You can get a buy one, get one free on lessons.

คุณจะซื้อหนึ่งบทเรียน และได้รับฟรีอีกหนึ่งบทเรียน

So you get $10 for free when you make

ดังนั้นคุณจะได้รับ 10 ดอลลาร์ฟรี

your first purchase of $10.

เมื่อคุณทำการสั่งซื้อเป็นจำนวน 10 ดอลลาร์

All you have to do is click on the link

สิ่งเดียวที่คุณต้องทำคือคลิกที่ลิงก์

in the description box.

ในกล่องใต้คลิปด้านล่าง (Description Box)

You'll see my smiling face.

คุณจะเห็นหน้าที่มีรอยยิ้มของฉัน

Sign up, make your first purchase, and then

สมัคร และทำการสั่งซื้อ

within 48 hours, they will manually add that

และภายใน 48 ชั่วโมง ทาง italki จะเพิ่ม

extra credit to your account.

ส่วนลดพิเศษนี้ให้คุณค่ะ

Right, let's get on with the lesson.

โอเคล่ะ เรามาเริ่มบทเรียนครั้งนี้กันเลยดีกว่า

Now, the first phrase is something that I might have

สำนวนแรกเป็นสำนวนที่ฉันเคย

mentioned in a previous video, but I feel like

กล่าวถึงในวิดีโอก่อนๆ

it's really important, and extra important,

แต่ฉันรู้สึกว่ามันสำคัญ

because yesterday I met with friend

และสำคัญมากๆเพราะเมื่อวานนี้ฉันได้พบเพื่อนของฉัน

and she told me a really funny anecdote.

และเธอเล่าเรื่องตลกๆให้ฉันฟัง

So the phrase is "to be knackered."

ซึ่งสำนวนนั้นก็คือ "To be knackered"

Now, this is informal.

สำนวนนี้เป็นสำนวนที่ไม่เป็นทางการนะ

It could be considered slightly rude,

ออกแนวๆไม่สุภาพด้วยล่ะ

so be careful where you use it,

ดังนั้นระวังตอนใช้ด้วยนะ

not in professional or educational situations,

ไม่ควรใช้ในสถานการณ์ที่จริงจังหรือ สถานการณ์เกี่ยวกับด้านการศึกษา

but maybe around friends and perhaps family.

แต่ใช้ได้เมื่ออยู่กับเพื่อนๆหรือกับครอบครัว

To be knackered means you're exhausted or really tired,

"To be knackered" คือคุณเหนื่อยล้ามากๆ

and this is a phrase that I use all the time.

และนี่เป็นสำนวนที่ฉันใช้อยู่ตลอดเวลา

Oh my god, I am knackered.

โอพระเจ้า ฉันเหนื่อยจังเลย! (Oh my god, I am knackered)

I am exhausted.

ฉันหมดแรงแล้ว

The reason that I wanted to mention it

สาเหตุว่าทำไมฉันถึงกล่าวถึงสำนวนนี้

is because a friend was talking to me.

เพราะเพื่อนคนนั้นบอกกับฉัน

I think she went on a date or something

ว่าเธอไปเดทหรืออะไรทำนองนั้น

with an Italian guy, and he said to her after work,

กับหนุ่มชาวอิตาลี แล้วเขาบอกเธอหลังเลิกงานว่า

"Oh my god, I am absolutely naked."

"Oh my god, I am absolutely naked." (โอพระเจ้า ฉันไม่ใส่อะไรเลยจริงๆ) : ผู้ชายคนนี้พูดผิด จาก knackered เป็น naked

(laughs)

*ขำ*

And naked obviously means you have no clothes on,

และ naked ก็แปลว่าไม่ใส่เสื้อผ้าเลย

so I just want to reiterate the fact that

ดังนั้นฉันเลยอยากจะย้ำเตือน

the pronunciation of knackered

ในเรื่องของการอ่านคำนี้

is really important.

ซึ่งสำคัญมากๆเลยล่ะ

You don't want to go telling people you're absolutely naked.

คุณคงไม่อยากเดินไปมาแล้วบอกผู้คนว่าคุณโป๊หรอกใช่ไหม

You want to be knackered.

คุณคงอยากเหนื่อยล้ามากกว่า

(laughs)

I thought that was so funny and she said

*ขำ*

ฉันคิดว่ามันตลกมากเลย

she did correct him very nicely, so good on her.

เพื่อนของฉันบอกว่าเธอได้แก้ไขให้เขา อย่างสุภาพแล้ว ยอดเยี่ยมเลย

Okay, the next phrase is "to be skint."

ต่อไป สำนวนที่สองคือ "To be skint"

If you are skint, you are in a poor financial situation.

ถ้าคุณกำลัง skint คือคุณกำลังอยู่ใน สถานการณ์ที่วิกฤตด้านเศรษฐกิจ

You have no money or nearly no money.

คุณไม่มีเงินเลย หรือแทบจะไม่มี

So if someone says,

ดังนั้นถ้ามีคนพูดว่า

"Do you want to go to the cinema tonight?"

"คุณอยากไปโรงหนังคืนนี้ไหม"

Then I'd say, "I can't, sorry.

ฉันก็จะพูดว่า "คงไม่ได้ล่ะ ขอโทษนะ"

"I'm absolutely skint."

"ฉันไม่มีเงินแล้ว"

It means I can't afford it.

มีความหมายว่าฉันไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายมันได้

I'm in a really difficult financial situation

ฉันอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากมากๆทางเศรษฐกิจ

and oh my god, I had to use that phrase so frequently

และพระเจ้า ฉันเคยใช้ประโยคนี้บ่อยมากๆเลย

when I was at university.

ตอนฉันยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย

I had no money.

ฉันไม่มีเงินเลย

Being a student in London is really expensive

การเป็นนักเรียนนักศึกษาในลอนดอนเสียเงินเยอะมากๆ

and quite a challenge actually.

และท้าทายมากๆด้วยเช่นกัน

But it did inspire me to work very hard

แต่มันก็ทำให้ฉันตั้งใจทำงานหนัก

so that I could be financially stable

ดังนั้นฉันจึงจะได้มีฐานะทางเศรษฐกิจที่มั่นคง

one day in the future.

สักวันหนึ่งในอนาคต

Very colloquial.

ไม่เป็นทางการมากๆเลยนะสำนวนนี้

Not rude, but it's a slang word, and it would be

ไม่ใช่ไม่สุภาพนะ แต่มันเป็นคำแสลง

really impressive if you can use that around British people.

ดังนั้นมันจะน่าภูมิใจมากเลยถ้าคุณ สามารถใช้คำนี้กับชาวอังกฤษได้

On the other hand, number three, "to be quids in."

อีกทางหนึ่ง สำนวนที่สาม "To be quids in"

Now, quid is a slang term for a pound.

Quid เป็นแสลงสำหรับเงินปอนด์อังกฤษ

One quid, one pound.

1 Quid, 1 ปอนด์

Two quid, two pounds.

2 Quid, 2 ปอนด์

Ten quid, a tenner, ten pounds.

10 Quid, Tenner, 10 ปอนด์

A tenner, or a fiver, is more money slang for you.

Tenner หรือ Fiver ก็เป็นคำแสลงสำหรับเงินเหมือนกัน

But if you are quids in, it means you are

แต่ถ้าคุณ Quids in

suddenly in a good financial situation.

คือคุณมีฐานะทางเศรษฐกิจที่ดี

So maybe you placed a bet at the weekend

เช่น หากคุณพนัน

and you won and now you are quids in.

และคุณชนะ คุณก็จะ Quids in

You've suddenly got lots of money.

เพราะคุณจะได้เงินเยอะเลยล่ะ

So it's normally used to congratulate people.

ดังนั้นมันจึงเป็นสำนวนที่ใช้โดยทั่วไปเพื่อแสดงความยินดี

So if somebody wins a competition and they win 100 pounds,

หากมีคนชนะการแข่งขัน และได้รับเงินหนึ่งร้อยปอนด์

I say, "Wow, you're quids in, well done."

ฉันก็จะพูดว่า ว้าว คุณ Quids in สุดยอดไปเลย

The next one is "to be pants."

สำนวนต่อไปคือ "To be pants"

So I would say maybe,

เช่น ฉันอาจจะพูดว่า

"Oh, that's pants. (groans)

"Oh, that's pants."

"The show was pants."

"The show was pants."

Now, in American English, pants means trousers.

ในภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน Pants แปลว่ากางเกง

But in British English, pants means underwear.

แต่ในภาษาอังกฤษแบบบริติช Pants แปลว่าชั้นใน

I have a video about the differences

ฉันมีวิดีโอเกี่ยวกับความแตกต่าง

between American and British English.

ระหว่างภาษาอังกฤษแบบอเมริกันกับบริติช

You can look at it up here.

คุณสามารถไปดูได้ที่นี่

Oh!

*เสียงนาฬิกา* โอ้

That's the watch I lost.

นั่นมันนาฬิกาที่ฉันทำหายไปนี่

Hopefully next hour it will do that again so I can find it.

ชั่วโมงต่อไปมันคงปลุกอีก ฉันจะได้หามันเจอ

Yeah, so if we say something is underwear,

โอเค ถ้าเราบอกว่าบางอย่างมันเหมือนชั้นใน

when I say underwear,

เวลาที่ฉันพูดว่าชั้นใน

I mean like male underwear.

ฉันหมายถึงชั้นในผู้ชายนะ

I mean like boxers or briefs, normally male,

แบบบ็อกเซอร์ ซึ่งส่วนมากเป็นของผู้ชาย

but sometimes female, bottom half underwear.

และบางทีก็เป็นของผู้หญิง

So if I'm saying something is pants,

ดังนั้นถ้าฉันบอกว่าบางสิ่งมันคือชั้นใน

it means it's rubbish.

มันหมายความว่าแย่

Really bad.

ไม่ดีมากๆ

So it's quite a good way of saying that

มันจึงเป็นหนทางที่ดีที่จะพูดว่า

you didn't like something,

คุณไม่ชอบบางอย่าง

in a kind of jovial sort of way.

ในทางอ้อม

It's not very harsh, but then again,

มันไม่ร้ายแรงนะ

if somebody called my videos pants,

แต่ถ้ามีคนบอกว่าวิดีโอของฉันมัน pants

I would be a bit upset.

ฉันก็คงรู้สึกแย่มากๆเลยล่ะ

Because a lot of work goes into them.

เพราะฉันทุ่มเทกับมันมากๆ

I don't expect everyone to like my videos,

ฉันไม่ได้หวังให้ทุกคนชอบวิดีโอของฉัน

but at least appreciate the effort.

แต่อย่างน้อย ช่วยชื่นชมในความทุ่มเท

Yeah, so it's not so modern.

ก็นั่นแหละ สำนวนนี้ไม่ได้ใหม่มาก

It has been used for many years.

มันถูกใช้มาเป็นเวลาหลายปี

So don't expect to be all down with the kids,

ดังนั้นอย่าหวังว่ามันจะเป็นสำนวนใหม่ๆ (All down with the kids)

to be down with the kids is to be young and modern,

"To be down with the kids" คือเด็ก ใหม่ และทันสมัย

by using to be pants, but it's a good phrase

ในการใช้สำนวน "To be pants"

that you will hear fairly frequently in the UK.

แต่มันเป็นสำนวนที่ดีที่คุณจะได้ยินบ่อยๆในสหราชอาณาจักร

Now, the next one is actually a phrasal verb,

สำนวนต่อไปจริงๆแล้วเป็นกริยาวลี (Phrasal Verb)

but it's a slang phrasal verb, so if you didn't think

แต่มันเป็นกริยาวลีที่เป็นแสลง

that phrasal verbs could get any worse, they can.

ดังนั้นถ้าคุณเคยคิดว่ากริยาวลี คงแย่กว่านี้ไม่ได้แล้ว คิดผิดแล้วล่ะ เพราะมันสามารถ

We have slang phrasal verbs.

พวกเรามีกริยาวลีที่เป็นแสลง

And this phrasal verb is "to swear down."

และกริยาวลีนี้ก็คือ "To swear down"

If I say,

ถ้าฉันพูดว่า

"I swear down, I did not eat your last pizza slice,"

"ฉัน swear down ฉันไม่ได้กินพิซซ่าชิ้นสุดท้ายของคุณ"

I'm saying, "I swear on my heart, I promise you

คือฉันจะสื่อว่า

"on my dog's life, that I did not do that."

"ฉันสาบานด้วยใจ ฉันสัญญาด้วย ชีวิตสุนัขของฉันว่าฉันไม่ได้ทำ"

Okay, so it's basically a longer way

พูดง่ายๆคือมันเป็นวิธีการ

of saying I swear.

พูดว่าสาบานแบบยาวๆนี่เอง

I swear to you. I swear down.

ฉันสาบานกับคุณเลย

The next phrase is "to get one's knickers in a twist."

สำนวนต่อไปคือ "To get one's knickers in a twist"

(laughs)

*ขำ*

So if I say to somebody,

ถ้าฉันพูดกับใครสักคนว่า

"Don't get your knickers in a twist."

"Don't get your knickers in a twist."

It's normally aimed at females.

ส่วนมากจะเป็นการบอกผู้หญิงนะ

It means don't get flustered.

มันหมายความว่าอย่าอารมณ์เสีย

Don't get agitated.

อย่ารู้สึกไม่ดีเลย

Something that happens to all of us, I can't find my phone.

สิ่งที่เจอบ่อยๆเลยนะ "ฉันหาโทรศัพท์ไม่เจอ"

Oh, I just pulled one of my own hairs.

โอ้ ฉันดึงผมของตัวเองล่ะ

I can't find my phone and I need to leave

"ฉันหาโทรศัพท์ของฉันไม่เจอ ฉันต้องรีบไปแล้ว"

and I'm getting in a flap.

ฉันจะเริ่มกังวล

I'm getting flustered, agitated, I'm fussing.

ฉันจะอารมณ์เสีย

My boyfriend might say to me,

และแฟนหนุ่มของฉันก็จะพูดว่า

"Don't get your knickers in a twist, Lucy.

"อย่าอารมณ์เสียไปเลยลูซี่"

"Just calm down, and look for it."

"ใจเย็นๆแล้วค่อยๆหามันนะ"

I think the Americans might say,

ฉันว่าชาวอเมริกันคงพูดว่า

"Don't get your panties in a bunch,"

"Don't get your panties in a bunch"

but I'm not sure.

แต่ฉันไม่ค่อยแน่ใจเท่าไร

Is there any Americans watching this?

มีชาวอเมริกันดูคลิปนี้ไหมนะ

Can you confirm that for me?

ถ้ามีช่วยคอนเฟิร์มฉันหน่อย

I've seen it online, I have researched it.

ฉันเคยเห็นและสืบค้นบนออนไลน์

But I've never heard an American say it.

แต่ฉันไม่เคยได้ยินชาวอเมริกันพูดมันน่ะ

So this is normally said to females

ดังนั้นมันจึงเป็นสำนวนที่ใช้พูดกับผู้หญิงบ่อยๆ

because obviously we wear knickers,

เพราะพวกเราสวมใส่ "Knicker" (ชั้นในผู้หญิง)

but when it's said to males, it can be

แต่ถ้านำไปพูดกับผู้ชาย

slightly more offensive.

มันจะดูเป็นการกล่าวว่าไปมากกว่า

Although it can be offensive to women,

อันที่จริงมันก็อาจเป็นการโจมตีผู้หญิงได้เหมือนกัน

depending on how you say it.

ขึ้นอยู่กับวิธีการพูดของคุณล่ะ

But sometimes it's just affectionate.

แต่บางทีมันก็ดูเป็นการห่วงใยนะ

But if you say it to a man,

แต่ถ้าคุณพูดกับผู้ชาย

it can be used to imply effemininity

มันก็สามารถสื่อถึงความอ้อนแอ้นได้เหมือนกัน

if you know that the implication of femininity

ถ้าคุณรู้ว่ามันสามารถสื่อถึงความเป็นผู้หญิงได้

towards the man is going to annoy him further.

หากใช้กับผู้ชายมันก็จะเป็นการทำให้เขารำคาญนะ

So yeah, try not to use it in a patronising way.

ดังนั้นก็อย่าใช้สำนวนนี้ในทางนั้นล่ะ

The next one "to throw a spanner in the works."

สำนวนต่อไปคือ "To throw a spanner in the works"

So you might be doing a task, and then you might say,

ดังนั้นคุณอาจจะได้รับงานมา

"Oh, that's thrown a spanner in the works."

และคุณพูดว่า "Oh, that's thrown a spanner in the works."

It prevents something from happening smoothly.

หมายถึงการห้ามบางสิ่งให้เกิดขึ้นแบบราบรื่น

So I could be putting up a picture with a hammer

เช่น ฉันจะแขวนรูปโดยใช้ค้อน

and the hammer breaks, and I'll say,

และค้อนแตก ฉันก็จะพูดว่า

"Oh, that's thrown a spanner in the works."

"Oh, that's thrown a spanner in the works."

There I was happily hammering away.

ฉันคงจะมีความสุขกับการตอกค้อน

The picture was going to be up in five minutes,

รูปนี้จะถูกนำขึ้นแขวนภายในห้านาที

but now the hammer is broken, so I have to go out,

แต่ค้อนมันแตกล่ะ ฉันต้องออกไปข้างนอก

get a new one, you get the picture.

เพื่อซื้อค้อนใหม่ ฉันจึงจะได้แขวนรูป

The next one is to do with going out.

สำนวนต่อไปเกี่ยวกับการออกไปข้างนอก

This one is "to be out on the pull."

"To be out on the pull"

If you are out on the pull, it means you are

ถ้าคุณ out on the pull

going to go out with the intention

คือคุณออกไปข้างนอกด้วยเจตนา

of finding a romantic partner.

ที่จะหาคนรัก

It means you are actively looking for somebody.

มันหมายความว่าคุณกำลังหาใครบางคน

So when I was single, I sometimes used to go

เช่น ตอนที่ฉันยังโสด

out on the pull in London with my girlfriends

ฉันก็จะออกไปกับเพื่อนสาวของฉัน เพื่อหาใครสักคนนั้นในลอนดอน

and the place that we always used to

และที่ที่พวกเรามักไป

go to was Tiger Tiger.

คือ Tiger Tiger

There was always a great selection there.

ที่นั่นมีตัวเลือกมากมายเลยล่ะ

So yeah, we always used to go out on the pull

ก็นั่นแหละ พวกเรามักไปหาใครสักคน

(laughs) to Tiger Tiger.

*ขำ* ที่ Tiger Tiger

I would never go back.

ฉันคงไม่ไปที่นั่นอีกแล้วล่ะ

Actually, never say never.

อันที่จริงไม่ควรพูดว่าจะไม่ทำอีก

With the right group of people,

ถ้าอยู่กับกลุ่มคนที่ถูก

it would be good fun (laughs)

มันก็จะมีความสุขมากๆเลย

especially on a Wednesday.

โดยเฉพาะในวันพุธ

The next phrase, and I know for sure

สำนวนต่อไป

that this is used in America as well,

ฉันมั่นใจว่ามันถูกในใช้สหรัฐอเมริกาด้วย

"you have got to be kidding me."

"You have got to be kidding me"

It means you have to be joking.

มันหมายความว่าคุณกำลังล้อเล่น

You must be joking.

คุณต้องล้อเล่นแน่ๆ

And it can be used in two ways.

และมันสามารถใช้ได้สองแบบ

It can be used to express anger or disbelief.

มันสามารถใช้เพื่อแสดงความโกรธ หรือความไม่เชื่อ

(gasps)

"I can't believe that.

ฉันไม่เชื่อหรอกนะ!

"You've got to be kidding me!"

คุณต้องล้อเล่นแน่ๆ!

Or if something's really funny.

หรือเพื่อบอกว่าบางอย่างมันตลกมากๆ

(laughs) "You've got to be kidding me!"

*ขำ* "You've got to be kidding me!"

So I hope you appreciated my acting skills there.

ฉันหวังว่าพวกคุณจะชื่นชอบในทักษะการแสดงของฉันนะ

I was never that good at drama at school.

ฉันไม่เคยทำดีขนาดนี้ตอนฉันเรียนการแสดงที่โรงเรียนเลยล่ะ

The next phrase is one, I think when used correctly,

สำนวนต่อไป

sounds really good, and it is "rightly so."

ฉันว่าถ้าใช้ให้ถูก มันจะฟังดูดีมากๆเลยล่ะ "Rightly so"

And it's a nice little thing to add on the end of sentences.

มันเป็นสิ่งน่ารักๆที่ใช้เพิ่มหลังประโยค

It means quite rightly, correctly.

มันหมายความว่า อย่างถูกต้อง

Everyone's worrying about the pizza getting burnt,

ทุกคนกำลังกังวลเกี่ยวกับพิซซ่าที่อาจจะไหม้ได้

and rightly so.

และอย่างถูกต้องแม่นยำเลย

There is smoke coming from the kitchen.

มันมีควันออกมาจากห้องครัวจริงๆ

You know, it means with reason.

สำนวนนี้ใช้กับเหตุผลนะ

The smoke is coming from the kitchen.

มันมีควันออกมาจากห้องครัว

And rightly so.

แล้วก็จริงๆ

Right, that's it for today's lesson.

โอเค พอแล้วสำหรับบทเรียนในวันนี้

I hope you enjoyed it.

หวังว่าคุณจะชอบมันนะ

I hope you learned something.

หวังว่าคุณจะได้เรียนรู้บางสิ่งบางอย่าง

Don't forget to check out italki.

และอย่าลืมไปเช้ค italki ด้วยล่ะ

All of the relevant information is

ข้อมูลทุกอย่าง

in the description box below,

อยู่ในกล่อง description box ด้านล่าง

as well as the link that you can click on.

รวมถึงลิงก์ด้วยนะ

I get loads of good feedback about italki,

ฉันได้รับการตอบรับที่ดีเกี่ยวกับ italki

so I'm sure you won't be disappointed.

ฉันจึงมันใจว่าคุณจะไม่ผิดหวังกับมันเลย

Also, don't forget to connect with me

แล้วก็อย่าลืมติดต่อฉัน

on all of my social media.

บนช่องทางติดต่อทั้งหมด

I've got my Facebook, my Instagram, and my Twitter.

ฉันมี facebook, instagram, twiter

And I will see you soon for another lesson.

แล้วพบกันใหม่ในบทเรียนหน้า

Muah! (claps hands)

(upbeat electronic music)