Avi Rubin: All your devices can be hacked

Translator: Joseph Geni Reviewer: Morton Bast

Translator: chattima tiraphongprasert Reviewer: Unnawut Leepaisalsuwanna

I'm a computer science professor,

ผมเป็นอาจารย์ภาควิชาวิทย์คอมครับ

and my area of expertise is

เรื่องที่ผมถนัดคือ

computer and information security.

ความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์และข้อมูล

When I was in graduate school,

ตอนที่ผมเรียนปริญญาโท

I had the opportunity to overhear my grandmother

ผมเคยแอบได้ยินคุณยาย

describing to one of her fellow senior citizens

อธิบายกับเพื่อนสูงวัยของยายนะครับ

what I did for a living.

ว่าผมทำอาชีพอะไร

Apparently, I was in charge of making sure that

ยายบอก ที่ชัดๆเลยคือ ผมมีหน้าที่

no one stole the computers from the university. (Laughter)

ไม่ให้ใครขโมยคอมของมหาลัย (เสียงหัวเราะ)

And, you know, that's a perfectly reasonable thing

จริงๆ ก็สมเหตุสมผลนะครับ

for her to think, because I told her I was working

ที่ยายจะพูดแบบนั้น เพราะผมบอกยายว่าผมทำงาน

in computer security,

รักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์

and it was interesting to get her perspective.

ก็สนุกดีนะครับที่ได้เห็นมุมมองของยาย

But that's not the most ridiculous thing I've ever heard

แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ขำที่สุด

anyone say about my work.

เวลาคนอื่นพูดถึงอาชีพของผมครับ

The most ridiculous thing I ever heard is,

ที่ตลกที่สุดคือ

I was at a dinner party, and a woman heard

ผมไปงานเลี้ยง แล้วมีผู้หญิงคนนึง

that I work in computer security,

ได้ยินว่าผมทำงานด้านความปลอดภัยคอมพิวเตอร์

and she asked me if -- she said her computer had been

ก็เลยถามผมว่า คอมของเธอติดไวรัส

infected by a virus, and she was very concerned that she

และเธอก็เครียด เพราะกังวลว่า

might get sick from it, that she could get this virus. (Laughter)

เธอจะติดหวัดจากคอมได้ไหม (เสียงหัวเราะ)

And I'm not a doctor, but I reassured her

ถึงผมจะไม่ใช่หมอนะครับ ผมบอกเธอไปว่า

that it was very, very unlikely that this would happen,

แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยนะครับ

but if she felt more comfortable, she could be free to use

แต่ถ้าอยากให้สบายใจนะครับ

latex gloves when she was on the computer,

ลองใส่ถุงมือเวลาเล่นคอมก็ได้

and there would be no harm whatsoever in that.

จริงๆ ทำไปก็ไม่เสียหายอะไร

I'm going to get back to this notion of being able to get

ทีนี้ผมขอกลับไปพูดเรื่อง

a virus from your computer, in a serious way.

ไวรัสคอมพิวเตอร์ แบบจริงจังน่ะครับ

What I'm going to talk to you about today

เรื่องที่ผมจะพูดวันนี้

are some hacks, some real world cyberattacks that people

คือเรื่อง การแฮ็ก การโจมตีโลกไซเบอร์จริงๆ

in my community, the academic research community,

ที่สังคมของผม สังคมของนักวิจัยนี่ละครับ

have performed, which I don't think

เป็นคนทำ และผมคิดว่า

most people know about,

คนส่วนใหญ่ไม่รู้

and I think they're very interesting and scary,

ผมคิดว่ามันน่าสนใจ และน่ากลัวมากนะครับ

and this talk is kind of a greatest hits

เรื่องนี้ฮิตกันมากครับ

of the academic security community's hacks.

เรื่องการแฮ็กข้อมูลของสังคมวิชาการ

None of the work is my work. It's all work

ไม่มีอันไหนที่ผมทำหรอกครับ ทั้งหมดนี้

that my colleagues have done, and I actually asked them

เพื่อนๆ ของผมเป็นคนทำ และผมก็ขอ

for their slides and incorporated them into this talk.

สไลด์เขา และให้เขามาช่วยผมในการพูดนี้

So the first one I'm going to talk about

อย่างแรก

are implanted medical devices.

คือเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ฝังในร่างกาย

Now medical devices have come a long way technologically.

ตอนนี้เทคโนโลยีทางการแพทย์พัฒนามาไกลมาก

You can see in 1926 the first pacemaker was invented.

ย้อนไปปี 1926 เครื่องคุมจังหวะหัวใจ ถูกประดิษฐ์ขึ้น

1960, the first internal pacemaker was implanted,

ในปี 1960 เครื่องคุมจังหวะหัวใจถูกฝังเป็นครั้งแรก

hopefully a little smaller than that one that you see there,

หวังว่ามันคงเล็กกว่าอันนี้นะครับ

and the technology has continued to move forward.

และเทคโนโลยีก็พัฒนาไปข้างหน้า

In 2006, we hit an important milestone from the perspective

ในปี 2006 เรามาถึงขั้นตอนสำคัญในเชิงของ

of computer security.

ความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์

And why do I say that?

ทำไมนะหรอครับ

Because that's when implanted devices inside of people

ก็เพราะตอนนี้เองที่เครื่องมือที่ฝังไว้ในตัวคน

started to have networking capabilities.

เริ่มที่จะเชื่อมโยงกันได้

One thing that brings us close to home is we look

มันเป็นเรื่องใกล้ตัว เพราะถ้าดู

at Dick Cheney's device, he had a device that

เครื่องของ Dick Cheney

pumped blood from an aorta to another part of the heart,

ซึ่งสูบเลือดจากเส้นเลือดใหญ่ไปส่วนอื่นของหัวใจ

and as you can see at the bottom there,

และที่คุณเห็นข้างล่าง

it was controlled by a computer controller,

คือตัวคอมพิวเตอร์ควบคุม

and if you ever thought that software liability

ถ้าคุณสงสัยว่าซอฟท์แวร์มันสำคัญแค่ไหน

was very important, get one of these inside of you.

ลองคุณมาเป็นคนที่ต้องใช้สิครับ

Now what a research team did was they got their hands

สิ่งที่ทีมวิจัยทำ

on what's called an ICD.

เรียกว่า ICD

This is a defibrillator, and this is a device

อันนี้เป็นเครื่องกระตุ้นหัวใจ

that goes into a person to control their heart rhythm,

ที่ฝังไว้เพื่อควบคุมจังหวะของหัวใจ

and these have saved many lives.

ซึ่งมันช่วยชีวิตคนมากมาย

Well, in order to not have to open up the person

เพื่อที่จะได้ไม่ต้องผ่าตัดทุกครั้ง

every time you want to reprogram their device

ที่คุณต้องการตั้งโปรแกรมอุปกรณ์ใหม่

or do some diagnostics on it, they made the thing be able

หรือเวลาทดสอบเครื่อง

to communicate wirelessly, and what this research team did

พวกเค้าก็ทำให้เครื่องนี้ สื่อสารแบบไร้สายได้

is they reverse engineered the wireless protocol,

ที่พวกเค้าทำก็คือ ออกแบบระบบไร้สายแบบย้อนกลับ

and they built the device you see pictured here,

และพวกเขาสร้างอุปกรณ์คุณเห็น

with a little antenna, that could talk the protocol

มีเสาอากาศเล็ก ๆ ที่กระจายสัญญาณ

to the device, and thus control it.

ไปที่อุปกรณ์ และ ควบคุมมัน

In order to make their experience real -- they were unable

เพื่อทดลองให้เหมือนจริงที่สุด พวกเขาไม่สามารถ

to find any volunteers, and so they went

หาอาสาสมัครได้เลย

and they got some ground beef and some bacon

พวกเขาเลยเอาเนื้อบดกับเบคอน

and they wrapped it all up to about the size

มาพันรอบๆ จนได้ขนาด

of a human being's area where the device would go,

พอๆกับร่างกายของคน ที่จะฝังอุปกรณ์ไว้

and they stuck the device inside it

และจะติดอุปกรณ์ไว้ข้างใน

to perform their experiment somewhat realistically.

เพื่อการทำการทดลองแบบสมจริง

They launched many, many successful attacks.

พวกเค้าทำสำเร็จหลายครั้ง

One that I'll highlight here is changing the patient's name.

อย่างนึงที่ผมขอเน้นคือ มีการเปลี่ยนชื่อคนไข้ตรงนี้

I don't know why you would want to do that,

ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันนะครับ

but I sure wouldn't want that done to me.

แต่ไม่อยากให้คนนั้นเป็นผมละกัน

And they were able to change therapies,

พวกเขาสามารถเปลี่ยนการรักษา

including disabling the device -- and this is with a real,

รวมถึงหยุดการทำงานของเครื่องนี้

commercial, off-the-shelf device --

และนี่ก็เป็นเครื่องที่มีขายทั่วไป

simply by performing reverse engineering and sending

ที่สามารถแฮ็กด้วยการทำวิศวกรรมย้อนกลับ

wireless signals to it.

และส่งสัญญาณไร้สายเข้าไป

There was a piece on NPR that some of these ICDs

เคยมีชิ้นส่วนบน NPR

could actually have their performance disrupted

ที่ทำให้ ICDs หยุดทำงาน

simply by holding a pair of headphones onto them.

เพียงแค่ถือหูฟังไว้ข้างๆ

Now, wireless and the Internet

ทุกวันนี้ อุปกรณ์ไร้สายและอินเทอร์เน็ต

can improve health care greatly.

พัฒนาการพยาบาลไปไกลมาก

There's several examples up on the screen

บนจอมีหลายตัวอย่าง

of situations where doctors are looking to implant devices

ที่หมอจะฝังเครื่องมือไว้ในตัวคน

inside of people, and all of these devices now,

แล้วเครื่องนี้พวกนี้ก็ติดต่อสื่อสาร

it's standard that they communicate wirelessly,

แบบไร้สายได้ อย่างเป็นมาตรฐานไปแล้ว

and I think this is great,

ซึ่งผมคิดว่ามันยอดเยีี่ยมมาก

but without a full understanding of trustworthy computing,

แต่ถ้าไม่ผ่านการทดสอบมาอย่างดี

and without understanding what attackers can do

และขาดความเข้าใจว่าแฮกเกอร์ทำอะไรได้บ้าง

and the security risks from the beginning,

หรือความเสี่ยงด้านความปลอดภัยตั้งแต่ต้น

there's a lot of danger in this.

เรื่องนี้ก็มีอันตรายเยอะมากนะครับ

Okay, let me shift gears and show you another target.

เอาล่ะ ผมจะพูดถึงอย่างอื่นบ้าง

I'm going to show you a few different targets like this,

ผมจะเปลี่ยนตัวอย่างไปเรื่อยๆนะครับ

and that's my talk. So we'll look at automobiles.

ตอนนี้ มาดูที่รถยนต์กัน

This is a car, and it has a lot of components,

นี่เป็นรถยนต์ ซึ่งมีหลายส่วนประกอบ

a lot of electronics in it today.

มีชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อยู่มาก

In fact, it's got many, many different computers inside of it,

ในความเป็นจริง มันมีคอมพิวเตอร์จำนวนมากข้างใน

more Pentiums than my lab did when I was in college,

มีเพนเทียม (Pentiums) มากกว่าแล็บสมัยเรียน ป.ตรีเสียอีก

and they're connected by a wired network.

ซึ่งทั้งหมดถูกเชื่อมต่อโดยเครือข่ายแบบสาย

There's also a wireless network in the car,

และยังมีเครือข่ายไร้สายในรถยนต์

which can be reached from many different ways.

ซึ่งสามารถเข้าถึงได้จากหลายวิธี

So there's Bluetooth, there's the FM and XM radio,

มีบลูทูธ มีวิทยุ FM และ XM

there's actually wi-fi, there's sensors in the wheels

มี wi-fi มีเซ็นเซอร์ในล้อ

that wirelessly communicate the tire pressure

ที่สื่อสารความดันยางรถยนต์

to a controller on board.

ไปยังแผงควบคุมในรถ

The modern car is a sophisticated multi-computer device.

รถยนต์สมัยใหม่มีอุปกรณ์ที่ซับซ้อน

And what happens if somebody wanted to attack this?

และจะเกิดอะไรขึ้นถ้าใครต้องการโจมตีรถคันนี้

Well, that's what the researchers

จริงๆ นี่เป็นสิ่งที่นักวิจัยทำ

that I'm going to talk about today did.

ที่ผมจะพูดในวันนี้ครับ

They basically stuck an attacker on the wired network

ง่ายๆเลยคือ เขาติดโจมตีบนเครือข่ายแบบมีสาย

and on the wireless network.

และบนเครือข่ายไร้สาย

Now, they have two areas they can attack.

ตอนนี้ มีสองจุดที่สามารถโจมตีได้

One is short-range wireless, where you can actually

หนึ่งคือระบบไร้สายระยะสั้น ซึ่งคุณสามารถ

communicate with the device from nearby,

สื่อสารกับอุปกรณ์จากใกล้เคียง

either through Bluetooth or wi-fi,

ทั้งผ่านทาง Bluetooth หรือ wi-fi

and the other is long-range, where you can communicate

และอีกอัน เป็นระยะยาว คุณสามารถสื่อสาร

with the car through the cellular network,

กับรถยนต์ผ่านเครือข่ายมือถือ

or through one of the radio stations.

หรือผ่านทางคลื่นวิทยุ

Think about it. When a car receives a radio signal,

ลองคิดดูซิครับ เวลารถรับสัญญาณวิทยุ

it's processed by software.

ก็จะทำการประมวลผล โดยซอฟต์แวร์

That software has to receive and decode the radio signal,

ซอฟต์แวร์ที่จะรับ และถอดรหัสสัญญาณวิทยุ

and then figure out what to do with it,

แล้วประมวลผลว่าต้องทำอะไร

even if it's just music that it needs to play on the radio,

แม้กระทั่งเพลงที่ต้องเล่นผ่านวิทยุ

and that software that does that decoding,

ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์อันเดียวกันที่ถอดรหัส

if it has any bugs in it, could create a vulnerability

ถ้ามีข้อผิดพลาดใดๆ ในนั้น ก็สามารถสร้างช่องโหว่

for somebody to hack the car.

สำหรับใครที่จะแฮกรถ

The way that the researchers did this work is,

วิธีที่นักวิจัยทำก็คือ

they read the software in the computer chips

เขาอ่านซอฟต์แวร์ในคอมพิวเตอร์ชิป

that were in the car, and then they used sophisticated

ที่อยู่ในรถยนต์ และจากนั้น พวกเขาใช้

reverse engineering tools

เครื่องมือวิศวกรรมย้อนกลับที่ซับซ้อน

to figure out what that software did,

เพื่อทำความเข้าใจถึงสิ่งที่ซอฟต์แวร์ทำได้

and then they found vulnerabilities in that software,

และพวกเขาพบช่องโหว่ในซอฟต์แวร์

and then they built exploits to exploit those.

และทดลองเล่นกับมัน

They actually carried out their attack in real life.

พวกเขาทำการทดลองในชีวิตจริง

They bought two cars, and I guess

เขาซื้อรถสองคัน และผมเดาว่า

they have better budgets than I do.

เค้ามีงบมากกว่าผมนะครับ

The first threat model was to see what someone could do

การทดลองแรกเพื่อค้นหาว่า ผู้บุกรุกจะทำอะไรได้บ้าง

if an attacker actually got access

ถ้าโจมตีเครือข่ายภายในบนรถ

to the internal network on the car.

ได้จริงๆ

Okay, so think of that as, someone gets to go to your car,

เอาล่ะ ก็ลองว่า ถ้ามีคนไปที่รถของคุณ

they get to mess around with it, and then they leave,

ไปยุ่งกะมันนิดหน่อย แล้วจากไป

and now, what kind of trouble are you in?

คุณจะมีปัญหาอะไรบ้าง

The other threat model is that they contact you

อีกการทดลองคือ พวกเขาจะติดต่อคุณ

in real time over one of the wireless networks

ผ่านเครือข่ายไร้สายอย่างใดอย่างหนึ่ง

like the cellular, or something like that,

เช่น ผ่านมือถือ หรืออะไรประมาณนั้น

never having actually gotten physical access to your car.

โดยที่ไม่เคยเข้าถึงรถยนต์ของคุณจริงๆ

This is what their setup looks like for the first model,

นี้เป็นการตั้งค่าสำหรับการทดลองแรก

where you get to have access to the car.

ที่เขาเข้าถึงรถยนต์ได้

They put a laptop, and they connected to the diagnostic unit

พวกเขาวางแล็ปท็อป และเชื่อมต่อกับหน่วยวินิจฉัย

on the in-car network, and they did all kinds of silly things,

บนเครือข่ายในรถยนต์ และเขาก็เล่นบ้าๆบอๆ

like here's a picture of the speedometer

นี่คือภาพของเครื่องวัดความเร็ว

showing 140 miles an hour when the car's in park.

แสดง 140 ไมล์ต่อชั่วโมง ตอนที่รถจอดอยู่

Once you have control of the car's computers,

เมื่อคุณมีตัวควบคุมของคอมพิวเตอร์ในรถยนต์

you can do anything.

คุณสามารถทำอะไรก็ได้

Now you might say, "Okay, that's silly."

ตอนนี้ คุณอาจพูดว่า "เรื่องเด็กๆ"

Well, what if you make the car always say

แต่ถ้าคุณทำให้รถโชว์ความเร็ว

it's going 20 miles an hour slower than it's actually going?

ที่ช้ากว่าความจริง 20 ไมล์ต่อชั่วโมงล่ะ

You might produce a lot of speeding tickets.

คงมีคนโดนปรับเพราะขับรถเร็วเยอะเลยล่ะ

Then they went out to an abandoned airstrip with two cars,

จากนั้นพวกเขาเอารถสองคัน ไปทดสอบบนลานบิน

the target victim car and the chase car,

มีรถเหยื่อเป้าหมาย และรถที่ไล่

and they launched a bunch of other attacks.

พวกเขาลองโจมตีในรูปแบบต่างๆ

One of the things they were able to do from the chase car

สิ่งหนึ่งที่ทำได้จากรถที่ไล่

is apply the brakes on the other car,

คือการเบรครถอีกคัน

simply by hacking the computer.

เพียงแค่ แฮ็คคอมพิวเตอร์

They were able to disable the brakes.

พวกเขาสามารถปิดการใช้เบรค

They also were able to install malware that wouldn't kick in

นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้งมัลแวร์

and wouldn't trigger until the car was doing something like

ที่จะไม่ทำงาน จนกระทั่งรถ

going over 20 miles an hour, or something like that.

ไปเกินกว่า 20 ไมล์ต่อชั่วโมง ประมาณนั้น

The results are astonishing, and when they gave this talk,

ผลลัพธ์มันเหลือเชื่อมาก ซึ่งตอนที่เค้าออกมาพูด

even though they gave this talk at a conference

ถึงแม้ว่าพวกเขาได้พูดเรื่องนี้ในที่ประชุมมาแล้ว

to a bunch of computer security researchers,

กับกลุ่มของนักวิจัยความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์

everybody was gasping.

ทุกคนประหลาดใจมาก

They were able to take over a bunch of critical computers

พวกเค้ายังเคยคุมคอมพิวเตอร์สำคัญหลายตัวในรถ

inside the car: the brakes computer, the lighting computer,

คอมพิวเตอร์เบรค คอมพิวเตอร์ไฟ

the engine, the dash, the radio, etc.,

เครื่องยนต์ แผงหน้าปัด วิทยุ ฯลฯ .,

and they were able to perform these on real commercial

และสามารถทำเรื่องเหล่านี้ได้ในรถทั่วไป

cars that they purchased using the radio network.

โดยใช้เครือข่ายวิทยุ

They were able to compromise every single one of the

พวกเขาสามารถเข้าถึง

pieces of software that controlled every single one

ทุกชิ้นส่วนของซอฟต์แวร์ที่ควบคุม

of the wireless capabilities of the car.

ทุกความสามารถแบบไร้สายของรถ

All of these were implemented successfully.

ทั้งหมดนี้ถูกนำมาใช้สำเร็จ

How would you steal a car in this model?

คุณจะขโมยรถอย่างนี้ยังไง

Well, you compromise the car by a buffer overflow

ก็เริ่มจากปล่อยให้เกิดจุดอ่อน

of vulnerability in the software, something like that.

ในซอฟท์แวร์

You use the GPS in the car to locate it.

คุณใช้ GPS ในรถยนต์เพื่อระบุตำแหน่ง

You remotely unlock the doors through the computer

คุณปลดล็อกประตูผ่านคอมพิวเตอร์จากระยะไกล

that controls that, start the engine, bypass anti-theft,

ที่เป็นตัวควบคุม แล้วสตาร์ทเครื่อง จัดการระบบกันขโมย

and you've got yourself a car.

คุณก็จะได้รถมาฟรีๆ

Surveillance was really interesting.

ระบบตรวจจับน่าสนใจมากครับ

The authors of the study have a video where they show

เจ้าของงานวิจัยนี้มีคลิปวีดีโอ

themselves taking over a car and then turning on

ที่ถ่ายตัวเอง ตอนเข้าไปยึดรถทางไกล

the microphone in the car, and listening in on the car

แล้วเปิดไมโครโฟนในรถยนต์ และแอบฟังรถคันนั้น

while tracking it via GPS on a map,

ในขณะที่ติดตามผ่าน GPS บนแผนที่

and so that's something that the drivers of the car

และนั่นก็เป็นสิ่งนึงที่คนขับ

would never know was happening.

จะไม่รู้สึกตัวเลย

Am I scaring you yet?

ผมทำให้คุณกลัวได้รึยังครับ

I've got a few more of these interesting ones.

ผมยังมีเรื่องน่าสนใจแบบนี้อีก

These are ones where I went to a conference,

อันนี้เป็นตอนที่ผมไปประชุม

and my mind was just blown, and I said,

แล้วผมก็ประทับใจมาก จนคิดว่า

"I have to share this with other people."

ผมต้องเอามาแชร์กับคนอื่นให้ได้

This was Fabian Monrose's lab

นี่คือแล็บ Fabian Monrose

at the University of North Carolina, and what they did was

ที่มหาวิทยาลัย North Carolina และสิ่งที่พวกเขาทำ

something intuitive once you see it,

เป็นบางสิ่งบางอย่างที่ดูธรรมดาๆ

but kind of surprising.

แต่น่าประหลาดใจ

They videotaped people on a bus,

พวกเขาถ่ายคลิป คนบนรถบัส

and then they post-processed the video.

แล้วนำวีดีโอมาตัดต่อ

What you see here in number one is a

สิ่งที่คุณเห็นในหมายเลข 1

reflection in somebody's glasses of the smartphone

คือเงาสะท้อนของสมาร์ทโฟนในแว่นตาคนคนนึง

that they're typing in.

ที่กำลังพิมพ์ข้อความอยู่

They wrote software to stabilize --

เค้าเขียนซอฟท์แวร์ลดการสั่นของภาพ

even though they were on a bus

ถึงแม้ว่าพวกเขาอยู่บนรถเมล์

and maybe someone's holding their phone at an angle --

และบางคนก็ถือโทรศัพท์เอียงๆ

to stabilize the phone, process it, and

จับภาพนิ่งของโทรศัพท์ ประมวลผล

you may know on your smartphone, when you type

เมื่อคุณพิมพ์รหัสผ่านบนสมาร์ทโฟน

a password, the keys pop out a little bit, and they were able

ตัวอักษรที่คุณพิมพ์จะเด้งขึ้นมา ทำให้สามารถ

to use that to reconstruct what the person was typing,

ใช้ตรงนั้นดูว่า คนคนนั้นกำลังพิมพ์อะไร

and had a language model for detecting typing.

โดยใช้รูปแบบภาษาสำหรับตรวจจับการพิมพ์

What was interesting is, by videotaping on a bus,

สิ่งที่น่าสนใจคือ แค่ถ่ายคลิปบนรถบัส

they were able to produce exactly what people

เขาสามารถบอกได้เลยว่า

on their smartphones were typing,

คนกำลังพิมพ์อะไรบนสมาร์ทโฟน

and then they had a surprising result, which is that

และเขารู้สึกประหลาดใจผลลัพธ์ ตรงที่

their software had not only done it for their target,

ซอฟท์แวร์ของเค้าไม่เพียงทำได้สำหรับเป้าหมายของพวกเขาเท่านั้น

but other people who accidentally happened

แต่อีกคนที่บังเอิญอยู่ในภาพ

to be in the picture, they were able to produce

ก็โดนเก็บข้อมูลได้เหมือนกัน

what those people had been typing, and that was kind of

ว่าคนเหล่านั้นกำลังพิมพ์อะไรอยู่

an accidental artifact of what their software was doing.

มันเป็นผลพลอยได้โดยบังเอิญ จากสิ่งที่พวกเค้าทำกันอยู่

I'll show you two more. One is P25 radios.

ผมจะพูดถึงอีกสองอย่าง หนึ่งคือคลื่น cb P25

P25 radios are used by law enforcement

คลื่น cb P25 ใช้โดยผู้รักษากฎหมาย

and all kinds of government agencies

และหน่วยงานของรัฐบาลทุกชนิด

and people in combat to communicate,

รวมถึงในสนามรบ

and there's an encryption option on these phones.

อุปกรณ์เหล่านี้ เราสามารถเลือกให้เข้ารหัสได้

This is what the phone looks like. It's not really a phone.

นี่คือหน้าตาของมือถือที่ว่า

It's more of a two-way radio.

ที่น่าจะเป็นวิทยุ 2 ทิศทาง มากกว่า

Motorola makes the most widely used one, and you can see

ที่ใช้กันกว้างขวางที่สุดเป็นของโมโตโรล่า

that they're used by Secret Service, they're used in combat,

คุณเห็นได้ว่า เค้าใช้ในหน่วยงานลับ ในสงคราม

it's a very, very common standard in the U.S. and elsewhere.

เป็นมาตรฐานในสหรัฐอเมริกา และที่อื่นๆ

So one question the researchers asked themselves is,

ดังนั้น คำถามของนักวิจัยคือ

could you block this thing, right?

เราบล็อกสัญญาได้ไหม

Could you run a denial-of-service,

คุณสามารถทำการ "ปฏิเสธการให้บริการ"

because these are first responders?

เพราะมันยึดหลักคนที่ตอบก่อน ได้หรือเปล่า

So, would a terrorist organization want to black out the

แล้วอย่างนี้ องค์กรก่อการร้าย

ability of police and fire to communicate at an emergency?

จะปิดการติดต่อสื่อสารของตำรวจ ในเวลาฉุกเฉินได้มั้ย

They found that there's this GirlTech device used for texting

เค้าพบว่า มีอุปกรณ์ GirlTech (เกริลเทค) ที่ใช้ส่งข้อความ

that happens to operate at the same exact frequency

แล้วสัญญานดันไปตรงกับคลื่น P25

as the P25, and they built what they called

พวกเขาจึงสร้างสิ่งที่เรียกว่า

My First Jammer. (Laughter)

ตัวแสบหมายเลขหนึ่ง (เสียงหัวเราะ)

If you look closely at this device,

ถ้าคุณดูที่อุปกรณ์นี้

it's got a switch for encryption or cleartext.

จะเห็นว่ามีสวิตช์สำหรับการเข้ารหัส

Let me advance the slide, and now I'll go back.

ผมขอเปลี่ยนสไลด์ให้ดูนะครับ

You see the difference?

เห็นความแตกต่างมั้ยครับ

This is plain text. This is encrypted.

นี้เป็นข้อความเปล่าๆ ส่วนอันนี้มีการเข้ารหัส

There's one little dot that shows up on the screen,

มีจุดเล็กๆ บนหน้าจอ

and one little tiny turn of the switch.

และสวิตช์ก็เปลี่ยนเล็กน้อย

And so the researchers asked themselves, "I wonder how

นักวิจัยเลยสงสัยว่า มันเกิดขึ้นได้ไง

many times very secure, important, sensitive conversations

ที่บ่อยครั้ง ข้อมูลที่ปลอดภัยมาก สำคัญมาก

are happening on these two-way radios where they forget

ไปปรากฎบนเครื่องวิทยุ โดยที่พวกเขาลืม

to encrypt and they don't notice that they didn't encrypt?"

เข้ารหัส แล้วไม่ทันสังเกต"

So they bought a scanner. These are perfectly legal

ดังนั้น พวกเค้าก็เอา สแกนเนอร์มาตัวนึง อันนี้ถูกกฎหมายครับ

and they run at the frequency of the P25,

ให้มันทำงานที่ความถี่ของ P25

and what they did is they hopped around frequencies

แล้วเค้าก็เปลี่ยนความถี่ไปเรื่อยๆ

and they wrote software to listen in.

และเขียนซอฟท์แวร์เพื่อแอบฟังเนื้อหา

If they found encrypted communication, they stayed

ถ้าไปเจอข้อความที่เข้ารหัสไว้ ความถี่ก็จะหยุดที่คลื่นนั้น

on that channel and they wrote down, that's a channel

แล้วก็จดว่า มีช่องนึงตรงนี้

that these people communicate in,

ที่ใช้พวกหน่วยงานของรัฐ

these law enforcement agencies,

ใช้ติดต่อสื่อสารกัน

and they went to 20 metropolitan areas and listened in

พวกเค้าไป 20 เมืองใหญ่ แล้วแอบฟัง

on conversations that were happening at those frequencies.

บทสนทนาในความถี่พวกนั้น

They found that in every metropolitan area,

เค้าพบว่าทุกๆเมือง

they would capture over 20 minutes a day

พวกเขาจะจับข้อความได้ 20 นาทีต่อวัน

of cleartext communication.

พวกข้อความที่ไม่ยอมเข้ารหัสนี่ละครับ

And what kind of things were people talking about?

พวกเค้าคุยอะไรกันทราบมั้ยครับ

Well, they found the names and information

คือ พวกเค้าได้ยินทั้งชื่อ และข้อมูลอื่นๆ

about confidential informants. They found information

จริงๆข้อมูลคนพวกนี้ต้องปิดเป็นความลับนะครับ

that was being recorded in wiretaps,

ทั้งข้อมูลที่ได้จากการดักฟัง

a bunch of crimes that were being discussed,

มีเรื่องอาชญากรรมเยอะเลยครับ

sensitive information.

ซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญ

It was mostly law enforcement and criminal.

ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของตำรวจ กับ อาชญากรรม

They went and reported this to the law enforcement

หลังจากเก็บกวาดข้อมูลสำคัญออกไป

agencies, after anonymizing it,

พวกเขาก็นำไปบอกตำรวจ

and the vulnerability here is simply the user interface

ช่องโหว่อยู่ที่วิธีการใช้งานนี่แหละครับ

wasn't good enough. If you're talking

ถ้าคุณพูดถึง

about something really secure and sensitive, it should

อะไรที่สำคัญและปลอดภัยมากๆ

be really clear to you that this conversation is encrypted.

ก็ต้องเข้ารหัสใช่มั้ยละครับ

That one's pretty easy to fix.

ซึ่งอันนี้ก็แก้ง่ายมากๆ

The last one I thought was really, really cool,

อันสุดท้ายผมคิดว่ามันเจ๋งมาก

and I just had to show it to you, it's probably not something

และสิ่งที่ผมอยากให้คุณได้ดู

that you're going to lose sleep over

คงไม่ใช่สิ่งที่ทำให้คุณต้องกังวล

like the cars or the defibrillators,

เหมือนรถ หรือเครื่องกระตุ้นหัวใจ หรอกครับ

but it's stealing keystrokes.

แต่มันเป็นการขโมยข้อมูลเวลาพิมพ์นะครับ

Now, we've all looked at smartphones upside down.

ตอนนี้เราทุกคนก็เห็นภัยต่อสมารทโฟนกันแล้ว

Every security expert wants to hack a smartphone,

ใครๆ ก็อยากแฮกสมารทโฟนใช่มั้ยครับ

and we tend to look at the USB port, the GPS for tracking,

ส่วนใหญ่ก็เล็งไปที่ ช่อง ยูเอสบี หรือไม่ก็ จีพีเอส

the camera, the microphone, but no one up till this point

หรือกล้อง หรือไมโครโฟน แต่จนถึงตอนนี้

had looked at the accelerometer.

ยังไม่มีใครดูตัววัดความเร่ง

The accelerometer is the thing that determines

ตัววัดความเร่งใช้สำหรับ

the vertical orientation of the smartphone.

วัดว่าเครื่องสมาร์ทโฟนอยู่ในแนวไหน

And so they had a simple setup.

การเจาะก็ง่ายดาย

They put a smartphone next to a keyboard,

พวกเขาวางสมาร์ทโฟนติดกับแป้นพิมพ์

and they had people type, and then their goal was

แล้วให้คนพิมพ์บนสมาร์ทโฟน เป้าหมายคือ

to use the vibrations that were created by typing

การใช้แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นจากการพิมพ์

to measure the change in the accelerometer reading

วัดการเปลี่ยนแปลงในตัวจับความเร่ง

to determine what the person had been typing.

เพื่อตรวจสอบว่าพิมพ์อะไรไปบ้าง

Now, when they tried this on an iPhone 3GS,

ตอนที่ลองกับ iPhone 3GS

this is a graph of the perturbations that were created

นี่เป็นกราฟของการรบกวนที่เกิดขึ้น

by the typing, and you can see that it's very difficult

ด้วยการพิมพ์ จะเห็นว่ายากมาก

to tell when somebody was typing or what they were typing,

ที่จะบอกได้ว่าเค้าพิมพ์อะไร

but the iPhone 4 greatly improved the accelerometer,

แต่ iPhone 4 ปรับปรุงตัววัดความเร่งอย่างมาก

and so the same measurement

และการวัดเดียวกัน

produced this graph.

ผลิตกราฟนี้

Now that gave you a lot of information while someone

ซึ่งเป็นการเปิดเผยข้อมูลที่เยอะมาก

was typing, and what they did then is used advanced

จากตรงนี้ พวกเค้าก็

artificial intelligence techniques called machine learning

ประดิษฐ์สิ่งที่เรียกว่า เครื่องเรียนรู้

to have a training phase,

ให้มีขั้นตอนการฝึกอบรม

and so they got most likely grad students

แล้วเค้าก็เอานักเรียนปริญญาโทมาซะส่วนใหญ่

to type in a whole lot of things, and to learn,

ให้มาพิมพ์ข้อความมากมาย

to have the system use the machine learning tools that

เพื่อให้ระบบของเครื่องได้เรียนรู้

were available to learn what it is that the people were typing

แล้วดูว่าคนอื่นพิมพ์อะไรอยู่

and to match that up

แล้วจับคู่ข้อมูลที่มี

with the measurements in the accelerometer.

กับข้อมูลจากเครื่องวัดความเร่ง

And then there's the attack phase, where you get

จากนั้นก็เข้าสู่ระยะโจมตี

somebody to type something in, you don't know what it was,

โดยมีคนพิมพ์สิ่งที่คุณไม่รู้

but you use your model that you created

แต่เค้าใช้โมเดลที่คุณสร้าง

in the training phase to figure out what they were typing.

ในขั้นตอนการฝึกอบรม เพื่อหาว่าพิมพ์อะไรไปบ้าง

They had pretty good success. This is an article from the USA Today.

พวกเขาประสบความสำเร็จ นี่คือบทความจากหนังสือพิมพ์ USA Today

They typed in, "The Illinois Supreme Court has ruled

เค้าพิมพ์ไปว่า "ศาลฎีกาอิลลินอย เห็นชอบ

that Rahm Emanuel is eligible to run for Mayor of Chicago"

ให้ ราม เอมานูเอล ชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีของชิคาโก

— see, I tied it in to the last talk —

เห็นไหมครับ ผมเชื่อมมันกับนักพูดที่ผ่านมา

"and ordered him to stay on the ballot."

"และสั่งให้เขาอยู่ในการลงคะแนนต่อไป"

Now, the system is interesting, because it produced

ตอนนี้ ระบบมันน่าสนใจ เนื่องจากมันผลิตว่า

"Illinois Supreme" and then it wasn't sure.

"ฎีกา อิลลินอย" แล้วก็ไม่แน่ใจ

The model produced a bunch of options,

มันเลยสร้างตัวเลือกขึ้นมาจำนวนหนึ่ง

and this is the beauty of some of the A.I. techniques,

นี่คือความสุดยอดของ เทคนิค เอ.ไอ. (A.I.)

is that computers are good at some things,

ตรงที่คอมพิวเตอร์จะเก่งมากในเรื่องนึง

humans are good at other things,

คนก็เก่งในอีกเรื่อง

take the best of both and let the humans solve this one.

เราใช้ข้อดีทั้งสองอย่าง ให้คนมาวิเคราะห์

Don't waste computer cycles.

ในสิ่งที่คอมพิวเตอร์ทำไม่เก่งนัก

A human's not going to think it's the Supreme might.

มนุษย์คงไม่คิดว่าเป็น "พลังฎีกา"

It's the Supreme Court, right?

มันต้องเป็น "ศาลฎีกา" อยู่แล้วใช่มั้ยครับ

And so, together we're able to reproduce typing

ด้วยพลังของคนและคอมพิวเตอร์ เราสามารถดักข้อความ

simply by measuring the accelerometer.

เพียงแค่วัด ตัวจับความเร่ง

Why does this matter? Well, in the Android platform,

ทำไมเรื่องนี้สำคัญนะหรอครับ คือในระบบแอนดรอยด์

for example, the developers have a manifest

นักพัฒนาจะมีรายการ

where every device on there, the microphone, etc.,

ที่ทุกอุปกรณ์, ไมโครโฟน ฯลฯ .,

has to register if you're going to use it

ต้องลงทะเบียนก่อนที่จะใช้

so that hackers can't take over it,

จะได้ไม่โดนแฮก

but nobody controls the accelerometer.

แต่ไม่มีใครควบคุม ตัววัดความเร่ง

So what's the point? You can leave your iPhone next to

แปลว่าอะไร คุณแค่เอาไอโฟนทิ้งไว้

someone's keyboard, and just leave the room,

ใกล้แป้นพิมพ์คนอื่น แล้วก็ออกไปจากห้อง

and then later recover what they did,

สุดท้ายก็ถูกดักฟัง

even without using the microphone.

แม้ไม่ใช้ไมโครโฟน

If someone is able to put malware on your iPhone,

ถ้าใครสามารถวางมัลแวร์บน iPhone

they could then maybe get the typing that you do

พวกเค้าก็จะรู้ว่าคุณพิมพ์อะไร

whenever you put your iPhone next to your keyboard.

ทุกครั้งที่คุณวาง iPhone ของคุณอยู่ติดกับแป้นพิมพ์ของคุณ

There's several other notable attacks that unfortunately

มีการโจมตีอื่นๆอีก

I don't have time to go into, but the one that I wanted

ที่ผมไม่มีเวลาพอที่จะพูดถึง แต่อันนึง

to point out was a group from the University of Michigan

ที่ผมสนใจ มาจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

which was able to take voting machines,

ซึ่งได้นำเครื่องลงคะแนน

the Sequoia AVC Edge DREs that

เครื่อง เซโควเอีย เอวีซี เอดจ์ ดีราอีส์ (Sequoia AVC Edge DREs)

were going to be used in New Jersey in the election

ที่จะไปใช้ในการเลือกตั้งในนิวเจอร์ซี่

that were left in a hallway, and put Pac-Man on it.

ที่ถูกวางทิ้งไว้ตรงทางเดิน แล้วเอาเกมแพคแมนไปใส่

So they ran the Pac-Man game.

เครื่องเลือกตั้งที่รันเกมแพคแมน...

What does this all mean?

หมายความว่าไงนะหรอครับ

Well, I think that society tends to adopt technology

ผมว่าสังคมตอบรับเทคโนโลยีใหม่ๆ เร็วมาก

really quickly. I love the next coolest gadget.

ชอบอันที่ใหม่ๆ เจ๋งๆ

But it's very important, and these researchers are showing,

แต่สิ่งที่สำคัญ ที่นักวิจัยอยากจะแสดงให้เห็นคือ

that the developers of these things

ผู้พัฒนาสิ่งเหล่านี้

need to take security into account from the very beginning,

จำเป็นต้องคำนึงถึงรักษาความปลอดภัยตั้งแต่ต้น

and need to realize that they may have a threat model,

และจำเป็นต้องทราบว่า อาจมีรูปแบบภัยคุกคาม

but the attackers may not be nice enough

คนที่โจมตีคงไม่ใจดี

to limit themselves to that threat model,

ที่จะวางขอบเขตในการโจมตี

and so you need to think outside of the box.

คุณเลยต้องคิดนอกกรอบ

What we can do is be aware

สิ่งที่เราสามารถทำได้คือต้องระวัง

that devices can be compromised,

ว่าอุปกรณ์อาจถูกละเมิด

and anything that has software in it

และอะไรก็ตามที่มีซอฟต์แวร์ข้างใน

is going to be vulnerable. It's going to have bugs.

ก็มีความเสี่ยง มันต้องมีข้อผิดพลาดแน่นอน

Thank you very much. (Applause)

ขอบคุณมากครับ (ปรบมือ)