5 Steps to Improve Your English Listening - How to Improve Your English Listening

Hi, I'm Kasia.

สวัสดีฉันชื่อ Kasia

Welcome to Oxford Online English.

ยินดีต้อนรับสู่ Oxford Online English

In this lesson, you’re going to learn how you can improve your English listening.

ในบทนี้คุณจะได้เรียนรู้วิธี คุณสามารถปรับปรุงการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

You’ll see simple, effective tips that anyone can use to improve their English listening

คุณจะเห็นเคล็ดลับง่ายๆที่มีประสิทธิภาพที่ทุกคน สามารถใช้เพื่อปรับปรุงการฟังภาษาอังกฤษของพวกเขา

skills.

ทักษะ

We’ll also give you a practical, easy-to-follow study plan to help you improve your English

นอกจากนี้เรายังจะให้คุณใช้งานได้จริงง่ายต่อการติดตาม แผนการศึกษาเพื่อช่วยคุณพัฒนาภาษาอังกฤษของคุณ

listening fast.

ฟังเร็ว

But first, let’s start with some questions.

แต่ก่อนอื่นเรามาเริ่มด้วยคำถามกันก่อน

I’m going to ask you about four different situations where you would hear spoken English.

ฉันจะถามคุณเกี่ยวกับสี่ที่แตกต่างกัน สถานการณ์ที่คุณจะได้ยินเสียงพูดภาษาอังกฤษ

You should think about whether understanding spoken English would be easy or difficult

คุณควรคิดว่าจะเข้าใจไหม การพูดภาษาอังกฤษจะง่ายหรือยาก

for you.

สำหรับคุณ.

OK?

ตกลง?

First, you’re listening to an English teacher, speaking British English, speaking slowly

ก่อนอื่นคุณต้องฟังครูสอนภาษาอังกฤษ กำลังพูดภาษาอังกฤษแบบอังกฤษพูดช้าๆ

and clearly.

และชัดเจน

Easy or difficult?

ง่ายหรือยาก

Next, you’re listening to a native English speaker from Scotland, who speaks with a Scottish

ถัดไปคุณกำลังฟังภาษาอังกฤษ วิทยากรจากสก็อตแลนด์ที่พูดกับชาวสก็อต

accent, and also uses a lot of slang and idiomatic English.

เน้นเสียงและยังใช้คำแสลงและสำนวนจำนวนมาก อังกฤษ

What do you think: would this be easy or difficult for you?

คุณคิดอย่างไร: สิ่งนี้จะง่ายหรือยาก สำหรับคุณ?

Next, you’re on a train.

ถัดไปคุณอยู่บนรถไฟ

There are four non-native speakers from four different countries talking to each other.

มีผู้พูดที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาสี่คนจากสี่คน ประเทศที่แตกต่างกันพูดคุยกัน

They have different accents.

พวกเขามีสำเนียงที่แตกต่างกัน

Do you think you could understand their conversation?

คุณคิดว่าคุณสามารถเข้าใจบทสนทนาของพวกเขาได้หรือไม่?

Would it depend on where they were from?

มันจะขึ้นอยู่กับว่าพวกเขามาจากไหน?

Finally, you’re listening to a news show on the radio or as a podcast.

ในที่สุดคุณกำลังฟังรายการข่าว ทางวิทยุหรือพอดแคสต์

There are many different speakers, and of course you can’t see them.

มีลำโพงที่แตกต่างกันและจาก แน่นอนคุณไม่สามารถเห็นพวกเขา

They’re talking fast, using a lot of less common vocabulary, and changing topics often.

พวกเขากำลังพูดอย่างรวดเร็วโดยใช้น้อยกว่ามาก คำศัพท์ทั่วไปและหัวข้อที่เปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง

How would you find this?

คุณจะหาสิ่งนี้ได้อย่างไร

Probably, most of you think that the first situation is the easiest, and the last situation

อาจเป็นไปได้ว่าพวกคุณส่วนใหญ่คิดว่าเป็นคนแรก สถานการณ์เป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดและสถานการณ์สุดท้าย

is the hardest.

เป็นสิ่งที่ยากที่สุด

However, a lot depends on you and your experiences.

อย่างไรก็ตามมีหลายอย่างขึ้นอยู่กับคุณและประสบการณ์ของคุณ

The big question is: what can you do in those difficult situations?

คำถามใหญ่คือ: คุณสามารถทำอะไรในเหล่านั้น สถานการณ์ที่ยากลำบาก?

You’ve been studying English for years, but you still can’t understand everything

คุณเรียนภาษาอังกฤษมาหลายปีแล้ว แต่คุณยังไม่เข้าใจทุกอย่าง

you hear.

คุณได้ยิน

We get it—it’s frustrating!

เราเข้าใจ - มันน่าผิดหวัง!

So, what can you do?

ดังนั้นคุณจะทำอย่างไร

Here’s a question: if you worry a lot about your English listening, will it make your

นี่คือคำถาม: ถ้าคุณกังวลมากเกี่ยวกับ การฟังภาษาอังกฤษของคุณจะทำให้คุณ

English listening better?

ฟังภาษาอังกฤษดีกว่า?

No, of course not!

ไม่แน่นอนไม่!

Many English learners get very stressed and anxious when they can’t understand something.

ผู้เรียนภาษาอังกฤษหลายคนเครียดมากและ กังวลเมื่อพวกเขาไม่เข้าใจบางสิ่ง

This doesn’t help your English listening, and it can even make it more difficult to

นี่ไม่ได้ช่วยให้คุณฟังภาษาอังกฤษได้ และยังสามารถทำให้ยากขึ้น

understand spoken English.

เข้าใจการพูดภาษาอังกฤษ

To understand a foreign language, you need 100% of your brain power.

เพื่อให้เข้าใจภาษาต่างประเทศคุณต้องการ พลังสมองของคุณ 100%

"Why can't I understand this?"

"ทำไมฉันไม่เข้าใจเรื่องนี้"

"What was that word he just used?"

"เขาใช้คำอะไรกัน?"

"They're speaking too quickly!"

"พวกเขากำลังพูดเร็วเกินไป!"

If you're worrying and thinking thoughts like this, you aren't concentrating on listening.

หากคุณกังวลและคิดถึงความคิดเช่นนั้น สิ่งนี้คุณไม่ได้ตั้งใจฟัง

You’re focusing on your own worries and thoughts, and not on what you’re hearing.

คุณกำลังมุ่งเน้นไปที่ความกังวลของคุณเองและ ความคิดไม่ใช่ในสิ่งที่คุณได้ยิน

This makes it harder to understand, not easier!

สิ่งนี้ทำให้ยากต่อการเข้าใจไม่ใช่เรื่องง่าย!

So, relax!

ดังนั้นผ่อนคลาย!

If you understand, you understand.

หากคุณเข้าใจคุณเข้าใจ

If you don’t, you don't—it's not the end of the world!

ถ้าคุณทำไม่ได้คุณก็ทำไม่ได้มันไม่ใช่จุดจบ ของโลก!

By relaxing and focusing 100% on what you're hearing, you have the best chance to understand.

โดยการผ่อนคลายและมุ่งเน้น 100% กับสิ่งที่คุณ ได้ยินคุณมีโอกาสที่ดีที่สุดที่จะเข้าใจ

[Portuguese audio]

[เสียงภาษาโปรตุเกส]

That’s Portuguese, if you didn’t know.

นั่นคือโปรตุเกสถ้า คุณไม่รู้

I don’t know one word of Portuguese, so I can’t understand anything she’s saying.

ฉันไม่รู้ภาษาโปรตุเกสซักคำ ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่เธอพูด

Is that a problem?

นั่นเป็นปัญหาหรือไม่?

No.

เลขที่

Am I worried or stressed?

ฉันเป็นห่วงหรือเครียดไหม?

No.

เลขที่

If I listen carefully, I can hear a few words which sound a little familiar, so I could maybe guess

ถ้าฉันตั้งใจฟังฉันจะได้ยินคำพูดไม่กี่คำ ซึ่งฟังดูคุ้นเคยเล็กน้อยดังนั้นฉันอาจเดาได้

the topic in a very general way.

หัวข้อในลักษณะทั่วไปมาก

Take the same attitude when listening to English.

ใช้ทัศนคติแบบเดียวกันเมื่อฟังภาษาอังกฤษ

If you don’t understand, there’s nothing you can do about it.

หากคุณไม่เข้าใจไม่มีอะไรเลย คุณสามารถทำมันได้

So, relax!

ดังนั้นผ่อนคลาย!

Being relaxed and focused gives you the best chance to understand what you hear.

การผ่อนคลายและมุ่งเน้นจะช่วยให้คุณได้รับสิ่งที่ดีที่สุด โอกาสที่จะเข้าใจสิ่งที่คุณได้ยิน

Remember: you need 100% of your brain power to understand spoken English, or any foreign

จำเอาไว้: คุณต้องการพลังสมอง 100% เพื่อทำความเข้าใจภาษาพูดหรือภาษาต่างประเทศ

language.

ภาษา.

You know what takes a lot of brain power?

คุณรู้ว่าอะไรต้องใช้พลังสมองเป็นอย่างมาก?

Translating English into your language!

แปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาของคุณ!

So, you can’t do both.

ดังนั้นคุณไม่สามารถทำทั้งสองอย่าง

Professional interpreters, who translate spoken language as they hear it, have a very difficult

ล่ามมืออาชีพผู้แปลพูด ภาษาที่พวกเขาได้ยินมีความยากมาก

job.

งาน.

In fact, they can only work a few hours a day because it requires so much concentration.

ในความเป็นจริงพวกเขาสามารถทำงานได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง วันเพราะมันต้องใช้สมาธิมาก

If you listen to English and try to translate into your language at the same time, you're

ถ้าคุณฟังภาษาอังกฤษแล้วลองแปล เป็นภาษาของคุณในเวลาเดียวกันคุณ

trying to be a professional interpreter, except you haven’t had the years of training that

พยายามเป็นล่ามมืออาชีพยกเว้น คุณไม่ได้มีการฝึกฝนมาหลายปี

they’ve had.

พวกเขามี

Also, you’re not getting paid like they are.

นอกจากนี้คุณไม่ได้รับเงินเหมือนพวกเขา เป็น

Doesn’t sound like a good deal, right?

ดูเหมือนจะเป็นข้อตกลงที่ดีใช่ไหม

Again, when you’re listening to spoken English, just listen.

อีกครั้งเมื่อคุณกำลังฟังการพูดภาษาอังกฤษ แค่ฟัง

Don’t do anything else.

อย่าทำอะไรอย่างอื่น

Don’t try to translate things.

อย่าพยายามแปลสิ่งต่าง ๆ

Don’t worry about words you don’t know.

ไม่ต้องกังวลกับคำที่คุณไม่รู้

Don’t think about things you didn’t hear.

อย่าคิดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณไม่ได้ยิน

Just listen.

แค่ฟัง

Want to know a simple secret about understanding spoken English?

ต้องการทราบเคล็ดลับง่ายๆเกี่ยวกับความเข้าใจ พูดภาษาอังกฤษ?

You don’t have to understand what someone said to understand what they mean.

คุณไม่ต้องเข้าใจในสิ่งที่ใครบางคน พูดให้เข้าใจว่าพวกเขาหมายถึงอะไร

Wait, what?

รออะไร?

It’s true.

มันเป็นความจริง.

Very often, I see English learners focusing too much on the things they don’t understand.

บ่อยครั้งที่ฉันเห็นผู้เรียนภาษาอังกฤษให้ความสนใจ มากเกินไปในสิ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจ

I hear things like, “There was a word I didn’t know, so I couldn’t understand.”

ฉันได้ยินสิ่งต่าง ๆ เช่น“ มีคำฉัน ไม่รู้ดังนั้นฉันจึงไม่เข้าใจ”

Here’s the thing: understanding doesn’t just depend on listening.

นี่คือสิ่งที่: ความเข้าใจไม่ได้ เพียงแค่ขึ้นอยู่กับการฟัง

Very often, there are other things you can use.

บ่อยครั้งมีสิ่งอื่น ๆ ที่คุณสามารถทำได้ ใช้.

For example, if you’re face to face with someone, you can use their body language,

ตัวอย่างเช่นหากคุณกำลังเผชิญหน้ากับ บางคนคุณสามารถใช้ภาษากายของพวกเขา

tone of voice and facial expressions to help you understand what they mean.

น้ำเสียงและการแสดงออกทางสีหน้าเพื่อช่วย คุณเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาหมายถึง

Also, think about the situation you’re in.

นอกจากนี้ให้คิดถึงสถานการณ์ที่คุณอยู่ด้วย

What is the other person likely to say?

อีกคนหนึ่งมีแนวโน้มที่จะพูดว่าอะไร?

What words are they likely to use?

พวกเขาน่าจะใช้คำอะไร

For example, imagine you’re at the airport.

ตัวอย่างเช่นลองจินตนาการว่าคุณอยู่ที่สนามบิน

You’re checking in for your flight.

คุณกำลังเช็คอินสำหรับเที่ยวบินของคุณ

What questions might you expect to hear?

คุณคาดหวังว่าจะได้ยินคำถามอะไร

You’d probably hear questions like:

คุณคงเคยได้ยินคำถามเช่น:

Did you pack these bags yourself?

คุณเก็บกระเป๋าเหล่านี้ด้วยตัวเองเหรอ?

Have you already checked in online?

คุณได้เช็คอินออนไลน์แล้วหรือยัง?

Would you like an aisle seat or a window seat?

คุณต้องการที่นั่งติดทางเดินหรือที่นั่งริมหน้าต่างหรือไม่?

Imagine you hear the last question, but you don’t know what aisle means.

ลองนึกภาพคุณได้ยินคำถามสุดท้าย แต่คุณ ไม่รู้ว่าช่องไหนหมายถึงอะไร

Even if you’ve never heard the word before, it shouldn’t stop you from understanding

แม้ว่าคุณจะไม่เคยได้ยินคำพูดมาก่อน มันไม่ควรหยุดคุณจากความเข้าใจ

the question.

คำถาม.

You know that there are two choices, aisle seat or window seat.

คุณรู้ว่ามีสองทางเลือกคือทางเดิน ที่นั่งหรือที่นั่งริมหน้าต่าง

You know what window seat means.

คุณรู้ว่าที่นั่งริมหน้าต่างหมายถึงอะไร

You know that aisle seat must mean something different from window seat.

คุณรู้ไหมว่าที่นั่งริมทางเดินต้องมีความหมายอะไรบางอย่าง แตกต่างจากที่นั่งริมหน้าต่าง

So, you can work it out.

ดังนั้นคุณสามารถออกกำลังกายได้

Similarly, imagine you hear this:

ลองจินตนาการว่าคุณได้ยินสิ่งนี้:

Have you mbrmmnbsmgrm chicken online?

คุณมีไก่ mbrmmnbsmgrm ออนไลน์หรือไม่

Chicken?

ไก่?

Did he say ‘chicken’?

เขาพูดว่า 'ไก่' หรือเปล่า?

That doesn’t make sense…

ไม่สมเหตุสมผล ...

Right, it doesn’t make sense.

ใช่มันไม่สมเหตุสมผล

So, probably the person behind the check-in desk didn’t say ‘chicken’, he probably

ดังนั้นอาจเป็นคนที่อยู่ด้านหลังเช็คอิน โต๊ะไม่ได้พูดว่า 'ไก่' เขาอาจจะ

said ‘check-in’, because that’s what you’re doing: you’re checking in for your

พูดว่า 'เช็คอิน' เพราะนั่นคือสิ่งที่ คุณกำลังทำ: คุณกำลังตรวจสอบสำหรับคุณ

flight.

เที่ยวบิน

So, when you’re listening to spoken English, use everything you can to help you understand.

ดังนั้นเมื่อคุณกำลังฟังการพูดภาษาอังกฤษ ใช้ทุกสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจ

Don’t think: “I didn’t understand one word, so I can’t understand anything.”

อย่าคิดว่า:“ ฉันไม่เข้าใจ คำดังนั้นฉันไม่สามารถเข้าใจอะไรเลย”

It’s just not true!

มันไม่เป็นความจริงเลย!

At the beginning of this lesson, we looked at different situations where it might be

ในตอนต้นของบทเรียนนี้เรามองไปที่ ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน

easier or more difficult for you to understand spoken English.

ง่ายขึ้นหรือยากขึ้นสำหรับคุณที่จะเข้าใจ พูดภาษาอังกฤษ.

Generally, if you’re familiar with something, it’ll be easier to understand.

โดยทั่วไปถ้าคุณคุ้นเคยกับบางสิ่ง มันจะง่ายต่อการเข้าใจ

For example, if you learn English from a teacher, and your teacher is male and British, you’ll

ตัวอย่างเช่นถ้าคุณเรียนภาษาอังกฤษจากครู และคุณครูของคุณเป็นผู้ชายและชาวอังกฤษคุณจะ

probably find male British voices easier to understand.

อาจพบว่าเสียงของผู้ชายอังกฤษง่ายกว่า เข้าใจ.

On the other hand, you might find female voices slightly more difficult.

ในทางกลับกันคุณอาจพบเสียงผู้หญิง ยากขึ้นเล็กน้อย

You might find other accents, like American voices or Australian voices, harder to understand.

คุณอาจพบสำเนียงอื่น ๆ เช่นอเมริกัน เสียงหรือเสียงของออสเตรเลียยากที่จะเข้าใจ

So, what’s the solution?

ดังนั้นทางออกคืออะไร?

Very simple: listen to as many different voices as possible!

ง่ายมาก: ฟังเสียงต่าง ๆ มากมาย เป็นไปได้!

Don’t limit yourself.

อย่า จำกัด ตัวเอง

If you only listen to one kind of English, you’ll be good at understanding one kind

ถ้าคุณฟังแค่ภาษาอังกฤษชนิดเดียว คุณจะมีความเข้าใจที่ดี

of English.

ของภาษาอังกฤษ

So, listen to different kinds of English.

ดังนั้นฟังภาษาอังกฤษต่าง ๆ

Listen to English people from the north, south, east and west of the country.

ฟังคนอังกฤษจากเหนือจรดใต้ ตะวันออกและตะวันตกของประเทศ

Listen to Scottish speakers, Welsh speakers, and Irish speakers; listen to men, women and

ฟังลำโพงชาวสก็อต, ลำโพงชาวเวลส์, และผู้พูดภาษาไอริช; ฟังผู้ชายผู้หญิงและ

children; listen to Americans, Australians, Canadians and South Africans.

เด็ก ฟังชาวอเมริกันออสเตรเลีย ชาวแคนาดาและแอฟริกาใต้

Listen to Indian, Chinese, Russian or Brazilian English speakers.

ฟังอินเดียจีนรัสเซียหรือบราซิล พูดภาษาอังกฤษ

What's that?

นั่นอะไร?

You only want to listen to native English?

คุณเพียงต้องการฟังภาษาอังกฤษ

Fine, but remember that more English is spoken between non-native speakers in the world today,

ใช้ได้ แต่จำไว้ว่ามีคนพูดภาษาอังกฤษมากกว่านี้ ระหว่างผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาในโลกปัจจุบัน

so it could be a very good use of your time to listen to non-native English as well.

ดังนั้นมันจึงเป็นการใช้เวลาของคุณได้เป็นอย่างดี เพื่อฟังภาษาอังกฤษที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาเช่นกัน

It’s not just about listening to different voices.

มันไม่ได้เกี่ยวกับการฟังที่แตกต่าง เสียง

You should listen to as many different formats and sources as possible.

คุณควรฟังรูปแบบที่แตกต่างกันมาก และแหล่งที่เป็นไปได้

So, listen to songs, TV shows, films, audiobooks, textbook exercises, and anything else you

ดังนั้นฟังเพลงรายการทีวีภาพยนตร์หนังสือเสียง แบบฝึกหัดหนังสือเรียนและสิ่งอื่น ๆ ที่คุณทำ

can find.

สามารถค้นหา

All of the advice in this lesson will help you improve your English listening, but you

คำแนะนำทั้งหมดในบทเรียนนี้จะช่วย คุณปรับปรุงการฟังภาษาอังกฤษของคุณ แต่คุณ

also need a practical plan to work on your English listening.

ยังต้องมีแผนปฏิบัติเพื่อทำงานกับคุณ การฟังภาษาอังกฤษ

Let’s make a plan together.

มาวางแผนกันดีกว่า

Ready?

พร้อมหรือยัง?

It’s very simple: you just need to follow two rules:

มันง่ายมาก: คุณเพียงแค่ต้องติดตาม กฎสองข้อ:

Rule number 1.

กฎข้อที่ 1

Do something every day.

ทำอะไรบางอย่างทุกวัน

Rule number 2.

กฎข้อที่ 2

Do something different every day.

ทำสิ่งที่แตกต่างกันทุกวัน

Easy, right?

ง่ายใช่มั้ย

“But, but, I don’t have time!”

“ แต่ แต่ฉันไม่มีเวลา!”

You don’t need much time.

คุณไม่ต้องการเวลามาก

If you have ten minutes a day, spend ten minutes a day.

หากคุณมีสิบนาทีต่อวันใช้เวลาสิบนาที วันหนึ่ง.

Of course, more is better, but be realistic.

แน่นอนมากขึ้นดีกว่า แต่เป็นจริง

Don’t say you’re going to spend an hour a day on English listening practice unless

อย่าบอกว่าคุณจะใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง หนึ่งวันในการฝึกฟังภาษาอังกฤษเว้นแต่

you’re sure you will do it!

คุณแน่ใจว่าคุณจะทำมัน!

A good target is 15-20 minutes a day.

เป้าหมายที่ดีคือ 15-20 นาทีต่อวัน

This is not too much, so it should be easy to stick to.

ไม่มากเกินไปดังนั้นควรง่าย ติดกับ

It’s also enough to get better and improve.

มันก็เพียงพอแล้วที่จะพัฒนาให้ดีขึ้น

What about the second rule?

แล้วกฎข้อที่สองล่ะ?

You need to do something different every day so that you listen to different sources and

คุณต้องทำสิ่งที่แตกต่างกันทุกวัน เพื่อให้คุณฟังแหล่งข้อมูลต่างๆและ

different voices.

เสียงที่แตกต่าง

If you do the same thing every day, you won’t get enough variety.

หากคุณทำสิ่งเดียวกันทุกวันคุณจะไม่ทำ รับความหลากหลายเพียงพอ

Here’s what your listening plan for one week could look like:

นี่คือแผนการฟังของคุณสำหรับสิ่งหนึ่ง สัปดาห์อาจมีลักษณะ:

Monday: listen to 1-2 songs, 2-3 times each.

วันจันทร์: ฟังเพลง 1-2 เพลงละ 2-3 ครั้ง

Tuesday: listen to a podcast with American voices.

วันอังคาร: ฟังพอดคาสต์กับชาวอเมริกัน เสียง

Wednesday: watch 15 minutes of a TV show from the UK.

วันพุธ: ดูรายการทีวี 15 นาทีจาก อังกฤษ.

Thursday: do a listening exercise from a textbook.

วันพฤหัสบดี: ทำแบบฝึกหัดการฟังจากตำราเรียน

Friday: watch 15 minutes of a news show Saturday: watch 15 minutes of an old movie

วันศุกร์: ดูรายการข่าว 15 นาที วันเสาร์: ดูหนังเก่า 15 นาที

Sunday: call a friend and spend 15 minutes speaking in English!

วันอาทิตย์: โทรหาเพื่อนและใช้เวลา 15 นาที พูดภาษาอังกฤษ!

This is just an example.

นี่เป็นเพียงตัวอย่าง

Your plan might be different.

แผนของคุณอาจแตกต่างกัน

That’s fine!

ไม่เป็นไร!

Here are some questions you probably have:

นี่คือคำถามที่คุณอาจมี:

“Where do I get materials?”

“ ฉันจะรับวัสดุได้ที่ไหน”

Easy, get on Google or the search engine of your choice.

ง่ายขึ้นบน Google หรือเครื่องมือค้นหาของ ตัวเลือกของคุณ.

There’s lots of stuff out there which is free if you have an Internet connection.

มีหลายสิ่งที่นั่นคือ ฟรีถ้าคุณมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

Yes, you have to work a little to find materials that will suit you.

ใช่คุณต้องทำงานเล็กน้อยเพื่อหาวัสดุ ที่จะเหมาะกับคุณ

That’s necessary, because you should choose your own listening materials.

นั่นเป็นสิ่งที่จำเป็นเพราะคุณควรเลือก สื่อการฟังของคุณเอง

“How do I choose something which is the right level?”

“ ฉันจะเลือกสิ่งที่เป็น ระดับที่เหมาะสม?”

There’s a good rule here: the first time you listen to something, you should be able

มีกฎที่ดีอยู่ที่นี่: ครั้งแรก คุณฟังอะไรคุณควรจะสามารถ

to understand more than 50% and less than 90%.

เข้าใจมากกว่า 50% และน้อยกว่า 90%

If you can’t understand half of what you hear the first time you listen, then it’s

ถ้าคุณไม่เข้าใจครึ่งหนึ่งของสิ่งที่คุณ ได้ยินครั้งแรกที่คุณฟังมันเป็น

too difficult.

ยากมาก.

If you can understand more than 90% the first time you listen, then it’s too easy.

หากคุณสามารถเข้าใจมากกว่า 90% เป็นครั้งแรก เวลาที่คุณฟังแล้วมันง่ายเกินไป

So, try to choose materials which are in this range.

ดังนั้นลองเลือกวัสดุที่อยู่ในนี้ พิสัย.

“How do I stick to my plan and make sure I don’t give up?”

“ ฉันจะทำตามแผนได้อย่างไรและทำให้แน่ใจ ฉันไม่ยอมแพ้เหรอ?”

Make your plan at the start of the week.

ทำแผนของคุณในช่วงต้นสัปดาห์

Write it down.

เขียนมันลง.

Stick it somewhere in your home, for example on the wall, or on your fridge.

ยกตัวอย่างเช่นติดที่ใดที่หนึ่งในบ้านของคุณ บนผนังหรือบนตู้เย็นของคุณ

Think about what time of day you should do your English practice.

คิดเกี่ยวกับสิ่งที่เวลาของวันที่คุณควรทำ การฝึกฝนภาษาอังกฤษของคุณ

Are you better in the mornings or in the evenings?

คุณเก่งขึ้นในตอนเช้าหรือตอนเย็น?

Try to do your listening practice when your brain is at its best!

ลองทำแบบฝึกการฟังเมื่อคุณ สมองเป็นสิ่งที่ดีที่สุด!

Then, when you do your listening practice each day, cross it off your plan.

จากนั้นเมื่อคุณฝึกฟัง ในแต่ละวันให้ปิดแผนของคุณ

That way, you’ll see what you’re doing every day.

ด้วยวิธีนี้คุณจะเห็นสิ่งที่คุณทำ ทุกวัน.

You won’t want to miss a day!

คุณจะไม่อยากพลาดวันเดียว!

If you have good ideas for things to listen to in English, please share your suggestions

หากคุณมีความคิดที่ดีสำหรับสิ่งที่ฟัง เป็นภาษาอังกฤษโปรดแบ่งปันคำแนะนำของคุณ

with other English learners in the video comments.

กับผู้เรียนภาษาอังกฤษคนอื่น ๆ ในความคิดเห็นวิดีโอ

Did you enjoy this lesson? Don't forget to check out our website

คุณสนุกกับบทเรียนนี้หรือไม่? อย่าลืมตรวจสอบเว็บไซต์ของเรา

for many more free English lessons:

สำหรับบทเรียนภาษาอังกฤษฟรีอีกมากมาย:

Oxford Online English.com.

Oxford Online English.com

Thanks for watching!

ขอบคุณที่รับชม!

See you next time!

เจอกันคราวหน้า!