The path to ending systemic racism in the US

Translator: Chatchanok Chalothonpises Reviewer: Sakunphat Jirawuthitanant

Chris Anderson: Hello, TED community,

สวัสดีครับชาวเท็ดทุกท่าน

welcome back for another live conversation.

ขอต้อนรับ กลับเข้าสู่การสนทนาออนไลน์อีกครั้ง

It's a big one today, as big as they get.

ประเด็นที่เราจะพูดเป็นประเด็นใหญ่ อย่างที่ควรจะเป็น

You know, when we created this "Build Back Better" series

อย่างที่ทราบกันว่าตอนที่เราสร้าง "สร้างใหม่ให้ดีกว่าเดิม"

our thought was how could we address issues arising out of the pandemic,

ความคิดของเราคือเราจะพูดถึงประเด็น ที่เกิดขึ้นจากการระบาดใหญ่ได้อย่างไร

how could we imagine building back from that.

เราคิดถึงภาพว่าเราจะฟื้นฟู ให้กลับมาดีอย่างเดิมได้อย่างไร

But the events of this past week,

แต่ว่าเหตุการณ์ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา

the horrific death of George Floyd and the daily protests that have followed,

เหตุการเสียชีวิตอันน่าเศร้าของจอร์จ ฟลอยด์ และการชุมนุมประท้วงรายวันที่ตามมา

I mean, they provided a new urgency

ผมคิดว่านี่ก็เป็นอีกเรื่องเร่งด่วน

which we, of course, simply have to address.

แน่นอนว่าพวกเราจะต้องพูดถึง

I mean, can we build back better from this?

ที่ผมคิดคือ เราจะสามารถฟื้นฟูอะไรกลับมาได้บ้าง

I think before we can even start to answer that question,

ก่อนที่เราจะเริ่มตอบคำถามนั้น

we just have to seek to understand the immensity of this moment.

เราต้องเข้าใจว่า ปัญหาในขณะนี้มันใหญ่แค่ไหนก่อน

Whitney Pennington Rodgers: That's right, Chris.

ถูกต้องแล้วคริส

Right now, so many people in the United States and beyond

ขณะนี้หลายคนในสหรัฐและที่อื่นๆ

are grappling with feelings of anger and frustration, deep, deep sadness

กำลังต่อสู้กับความโกรธ ความไม่พอใจ ความเศร้าที่อยู่ลึกลงไป

and really helplessness.

และรู้สึกหมดหนทางจริงๆ

No matter who you are,

ไม่ว่าคุณเป็นใคร

you have questions about what to do now,

คุณย่อมมีคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น

how to make things better.

และมันจะดีขึ้นได้อย่างไร

And as we've seen,

อย่างที่ทราบกัน

violence like this unfolds for many, many years.

ความรุนแรงเช่นนี้ ค่อยๆ ปรากฎออกมาหลายต่อหลายปีแล้ว

What is the path forward?

แล้วหนทางข้างหน้าต่อไปจะเป็นอย่างไร

CA: So --

ดังนั้น

We're joined today by a group of activists,

วันนี้พวกเราเข้าร่วมกับกลุ่มนักเคลื่อนไหว

organizers and leaders

ทั้งผู้ก่อตั้งและผู้นำ

known for their crucial work in social justice and civil rights.

ที่เป็นที่รู้จักในด้านความยุติธรรมในสังคม และสิทธิมนุษยชน

We're so grateful to have them here to engage in a discussion

พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก ที่พวกเขามาร่วมการสนทนากับเรา

about racial injustice in America,

เกี่ยวกับความไม่ยุติธรรมทางเชื้อชาติ ในประเทศอเมริกา

the unbearable acts of violence that we've --

การกระทำความรุนแรงที่ไม่อาจรับได้ ที่พวกเรา--

Acts of violence against the black community

การกระทำความรุนแรงต่อกลุ่มชาวผิวสี

that we've witnessed,

ที่พวกเราเป็นประจักษ์พยาน

the dangers to a nation riven by anger and fear.

ถึงความไม่ปลอดภัยต่อประเทศ ซึ่งมาจากความโกรธและความกลัว

And how on earth we can move forward from this

และเราจะสามารถก้าวไปข้างหน้าอย่างไรได้

to something better.

เพื่อก้าวไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเดิม

So first, each of our four guests will share their thoughts

ดังนั้นเริ่มแรก แขกรับเชิญทั้งสี่คน จะมาแบ่งปันความคิดของพวกเขา

on how we move forward from this moment.

ว่าเราจะก้าวต่อไปอย่างไรจากเหตุการณ์นี้

And then we'll engage as a group,

แล้วจากนั้นเราจะกลับมารวมกัน

including you, the TED community.

รวมทั้งคุณด้วยนะ เท็ดคอมมูนิตี้

WPR: And we'd like to thank our partner, the Project Management Institute.

แล้วเราก็อยากขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง นั่นคือสถาบันการบริหารโครงการ

Their generous support has helped make today's interviews possible,

เพราะการสนับสนุนจากพวกเขา ทำให้การสัมภาษณ์เกิดขึ้นได้ในวันนี้

and of course, as Chris mentioned,

และอย่างที่คริสได้กล่าวไปว่า

we want you to take part in the conversation,

พวกเราอยากให้คุณเป็นส่วนหนึ่งในการสนทนา

so please share your questions using our Ask a question feature

ดังนั้นคุณสามารถแชร์คำถามมาได้นะคะ

and continue to share your thoughts in the discussion thread.

หรือจะแชร์ความคิดกันต่อในเธรดการสนทนาก็ได้

CA: Thanks, Whitney.

ขอบคุณมากวิทนีย์

OK, let's get this moving.

เราไปต่อกันเถอะ

Our first guest.

แขกรับเชิญคนแรก

Dr. Phillip Atiba Goff is the founder and CEO

คือ ดร.ฟิลิป อะติบา กอฟ ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร

of the Center for Policing Equity.

ของศูนย์ความเสมอภาคทางด้านการรักษาความสงบ

They work with police departments across America, including in Minneapolis,

พวกเขาทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจทั่วอเมริกา รวมทั้งในเมืองมินนีแอโพลิส

to seek measurable responses to racial bias.

เพื่อวัดทัศนคติที่มีต่อเชื้อชาติ

Phil, I can scarcely imagine

ฟิลลิป ผมแทบจะจินตนาการไม่ออกเลย

how the stress in the last week must have been for you.

ว่าความตึงเครียดในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา สำหรับคุณมันมากขนาดไหน

Welcome, and over to you for your opening comments.

ขอต้อนรับและส่งต่อให้กับคุณเลยแล้วกัน ในการเปิดหัวข้อสนทนาของเรา

Phillip Atiba Goff: Thanks, Chris.

ขอบคุณมากคริส

Yeah, this week has been a gut punch

ครับ ช่วงอาทิตย์นี้มันหนักหน่วงมาก

to anybody who felt like we could be making progress

สำหรับเราที่อยากจะทำให้เกิดความคืบหน้า

in the way that we put forward public safety that empowers

ในแง่การผลักดันเรื่องความปลอดภัยสาธารณะ

particularly vulnerable communities.

ซึ่งมีผลต่อกลุ่มเสี่ยงโดยเฉพาะ

We started working in Minneapolis about five years ago.

พวกเราเริ่มงานกันในมินนีแอโพลิส ได้ราวๆ ห้าปีกว่าแล้ว

At the time, it was, like most major cities in the United States,

ตอนนั้นเราทำงานในเมืองใหญ่ๆ ในสหรัฐอเมริกาเป็นส่วนใหญ่

a department that had a long history

สำนักงานที่มีประวัติยาวนาน

of unaccounted for violence from law enforcement,

เกี่ยวกับความรุนแรงที่ไม่สามารถอธิบายได้ จากการบังคับใช้กฎหมาย

targeting the most vulnerable black communities.

เป้าหมายก็คือกลุ่มชาวผิวสี ที่มีความเสี่ยงเป็นส่วนมาก

And we tried to put into place a number of things that we know work.

แล้วเราก็พยายามจะผลักดันเรื่องเหล่านี้ ไปยังหลายๆ ที่ที่เรารู้ว่ามันจะได้ผล

Change the culture,

ปรับเปลี่ยนวัฒนธรรม

so that the culture can be accountable to the values of the community.

เพราะมันสามารถอธิบายค่านิยมต่อกลุ่มคนได้

And what we saw was small but measurable progress.

สิ่งที่เราเห็นมันอาจจะเล็ก แต่ว่ามันเป็นความก้าวหน้าที่เราวัดได้

We always knew,

เรารู้มาเสมอ

with small and measurable progress,

ว่าก้าวเล็กที่วัดได้

that you're one tragic incident from going back to ground zero.

อย่างเหตุการณ์อันเศร้าสลด ทำให้ต้องกลับเริ่มต้นกันใหม่จากศูนย์

But the events of the last week and a half

แต่เหตุการณ์ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา

haven't brought us back to ground zero,

ทำให้เรากลับไปเริ่มต้นกันจากศูนย์ไม่ได้

they've torched ground zero, and we've dug a hole

พวกเราจุดประกายการเริ่มต้นจากศูนย์ และเราก็พยายามขุด

that we have to dig ourselves out of.

เพื่อที่พวกเราต้องพาตัวเองออกไปให้ได้

What I hear from police chiefs who call me,

สิ่งที่ผมได้ยินมาจากหัวหน้าตำรวจที่โทรมา

from activists I talk to,

นักเคลื่อนไหวที่ผมคุยด้วย

from folks in the communities that are literally on fire right now,

จากประชาชนในกลุ่มที่กำลังต่อสู้อยู่

I hear folks saying, I had one activist say to me

สิ่งที่พวกเขาพูดกัน มีนักเคลื่อนไหวคนนึงพูดกับผมว่า

that the pain that he was feeling

ความเจ็บปวดคือสิ่งที่เขากำลังรู้สึก

was too large to fit into his body.

ซึ่งเกินกว่าที่ร่างกายเขาจะรับได้ไหว

And without thinking about it, I said right back,

และผมก็พูดตอบกลับไปโดยไม่ทันคิด

"That's because it's too large to fit into a lifetime."

"ก็เพราะมันใหญ่เกินไป ต่อให้ใช้ทั้งชีวิตก็รับมันไม่ไหวอยู่ดี"

What we're seeing isn't just the response to one gruesome,

สิ่งที่พวกเราเห็นไม่ใช่แค่การโต้ตอบ ต่อความน่ารังเกียจ

cruel, public execution.

ความโหดร้าย หรือการสำเร็จโทษในที่สาธารณะ เพียงครั้งหนึ่งเท่านั้น

A lynching.

การลงประชาทัณฑ์

It's not just the reaction to three of them:

ไม่ใช่การโต้ตอบต่อคนทั้งสาม

Ahmaud Arbery, Breonna Taylor

ทั้งกับอะหมัด อาเบอรี บรีออนา เทเลอร์

and then George Floyd.

แล้วจากนั้นก็จอร์จ ฟลอยด์

What we're seeing is the bill come due

สิ่งที่เรากำลังเผชิญคือสิ่งที่เราต้องจ่าย

for the unpaid debts that this country owes

สำหรับหนี้ที่ประเทศนี้ยังไม่ได้จ่าย

to its black residents.

ให้กับผู้อาศัยชาวผิวสี

And it comes due usually every 20 to 30 years.

แล้วกำหนดจ่ายของมันก็จะมา ทุกยี่สิบถึงสามสิบปี

It was Ferguson just six years ago,

เฟอร์กูสันจ่ายมันไปแล้วเมื่อหกปีก่อน

but about 30 years before that,

แต่ราวสามสิบปีก่อนหน้านั้น

it was in the streets of Los Angeles,

เหตุการณ์เกิดขึ้นบนถนนในลอสแอนเจลิส

after the verdict that exonerated the police

หลังจากคำตัดสินให้ตำรวจพ้นผิด

that beat Rodney King on video.

ที่ทุบตีร็อดนีย์ คิง จากวีดิโอที่บันทึกไว้

It was Newark, it was Watts,

มันเกิดขึ้นที่นิวอาร์ก ที่วัตตส์

it was Chicago, it was Tulsa,

ที่ชิคาโก้ ที่ทัลซา

it was Chicago again.

แล้วก็กลับมาที่ชิคาโก้อีกครั้ง

If we don't take a full accounting of these debts that are owed,

ถ้าเราไม่จ่ายราคาเต็มให้กับหนี้ที่เรามี

then we're going to keep paying it.

เราก็ต้องจ่ายให้กับมันไปเรื่อยๆ

Part of what I've been experiencing in the last week and a half,

สิ่งที่ผมประสบในช่วงอาทิตย์ครึ่งที่ผ่านมา

and what I've been sharing with the people who do this work,

และสิ่งที่ผมกำลังแชร์กับคนที่ทำงานนี้

who are serious about it,

คนที่จริงจังกับเรื่องนี้

is the acknowledgment,

คือการยอมรับ

the soul-crushing reality

ความเป็นจริงที่ปวดใจ

that at some point, when things stop being on fire,

ในจุดนึง เมื่อทุกอย่างเริ่มสงบลง

the cameras are going to turn to something else.

กล้องก็จะไปจับภาพที่อื่นแทน

And the history that we have in this country

แล้วประวัติศาสตร์ที่เรามีในประเทศนี้

is not just a history of vicious neglect

ที่เราพยายามไม่ให้มันเป็นเพียงปัญหา ที่ถูกเมินเฉย

and a targeted abuse of black communities,

กลุ่มชาวผิวสีที่เป็นเป้าหมายการถูกทารุณ

it's also one where we lose our attention for it.

ก็จะกลายเป็นแค่สิ่งหนึ่ง ที่เราหมดความสนใจจากมันไป

And what that means for communities like in Baton Rouge,

และความหมายต่อกลุ่มคน อย่างในแบตันรูช

for those who still grieve Alton Sterling,

ต่อคนที่กำลังโศกเศร้าในอัลตัน สเตอร์ลิง

and in Baltimore, for those who are still grieving Freddie Gray,

และในบัลติมอร์ ต่อผู้คนที่กำลังโศกเศร้า ให้กับเฟรดดี เกรย์

is that there is not just a chance, there's a likelihood

ไม่ใช่ไม่มีโอกาส แต่มันมีความเป็นไปได้

that we are a month or two months out from this

ที่เราจะสูญเสียความสนใจ ไปในหนึ่งหรือสองเดือน

with no more to show for it than what we had to show

กับการไม่มีอะไรจะแสดงออก มากกว่าสิ่งที่เราต้องแสดงออก

after Michael Brown Jr.

หลังจากไมเคิล บราวน์ จูเนียร์

And holding the weight of that,

พยายามแบกทุกอย่าง

individually and collectively,

ด้วยตัวคนเดียวและกับคนอื่นๆ

is just too much.

ซึ่งมันมากเกินไป

It's just too heavy a load

มันหนักเกินไป

for a person or a people, or a generation to hold up.

สำหรับคนๆ เดียว หรือสำหรับหลายๆ คน หรือแม้กระทั่งทั้งชั่วอายุคนที่จะแบกรับไว้

What we're seeing is the unrepentant sins,

สิ่งที่เราเห็นคือการกระทำ ที่ไม่รู้สึกผิดบาป

the unpaid debts.

หนี้ที่ยังไม่ได้จ่าย

And so the solution can't just be that we fix policing.

เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหา จึงไม่อาจเป็นการแก้ไขระบบตำรวจ

It can't be only incremental reform.

จะใช้แต่การเพิ่มการปฎิรูปไม่ได้

It can't be only systems of accountability

จะใช้แต่ระบบที่ตรวจสอบได้ แต่เพียงอย่างเดียวไม่ได้

to catch cops after they've killed somebody.

ในการจับกุมตำรวจหลังจากที่เขาฆ่าผู้อื่น

Because there's no such thing as justice for George Floyd.

เพราะไม่มีสิ่งที่เรียกว่าความยุติธรรม สำหรับจอร์จ ฟลอยด์

There's maybe accountability.

บางทีมันอาจมีสิ่งที่ตรวจสอบได้

There's maybe some relief from the people who are still around, who loved him,

บางทีมันอาจบรรเทาความทุกข์ ของผู้คนที่อยู่รอบๆ จากคนที่รักเขา

for his daughter who spoke out yesterday

ไปยังลูกสาวของเขาที่ออกมาพูดเมื่อวานนี้

and said, "My Daddy changed the world."

ว่า "พ่อของหนูได้เปลี่ยนโลกใบนี้"

There won't be justice for a man who's dead

มันไม่มีความยุติธรรมสำหรับคนตาย

when he didn't have to be.

เพราะเขาไม่จำเป็นต้องใช้มันแล้ว

But we're not going to get to where we need to go

แต่เราไม่มีวันได้ความยุติธรรม

just by reforming police.

จากการแค่ปฏิรูปตำรวจ

So in addition to the work that CPE is known for with the data,

ดังนั้นงานที่ศูนย์ความเสมอภาคทำคือข้อมูล

we have been encouraging departments and cities

พวกเราพยายามผลักดันให้หน่วยงานและเมือง

to take the money that should be going to invest in communities,

นำเงินที่พวกเขาจะลงทุนกับชุมชน

and take it from police budgets,

และเอามาจากงบของตำรวจ

bring it to the communities.

นำมันมาให้กับกลุ่มคน

People ask, "Well, what could it possibly look like?

ผู้คนมักจะถามว่า "แล้วมันจะออกมาเป็นอย่างไร"

How could we imagine it?"

"ภาพที่เราจะเห็นจะเป็นอย่างไร"

And I tell people,

ผมบอกกับพวกเขาว่า

there is a place where we do this in the United States right now.

ที่สหรัฐมันมีที่ที่เรากำลังทำสิ่งนี้อยู่

We've all heard about it, whispered,

ทุกคนได้ยินเกี่ยวกับมัน

some of us have even been there, some of us live there.

บางคนไปที่นั่น บางคนก็อยู่ที่นั่น

The place is called the suburbs,

ที่นั่นก็คือชนบท

where we already have enough resources

ที่ที่เรามีแหล่งทรัพยากรที่พออยู่แล้ว

to give to people,

ที่จะส่งต่อให้คนอื่นได้

so they don't need the police for public safety in the first place.

ดังนั้นเขาเลยไม่ต้องการตำรวจ มาคอยรักษาความปลอดภัยตั้งแต่แรก

If someone has a substance abuse issue, they can go to a clinic.

ถ้าคนมีปัญหาเรื่องอาการเสพติด พวกเขาสามารถไปคลินิกได้

If somebody has a medical issue,

ถ้าคนมีปัญหาทางการแพทย์

they've got insurance, they can go to a hospital.

พวกเขาก็มีประกัน แล้วก็ไปโรงพยาบาลได้

If there's a domestic dispute, they have friends, they have support.

ถ้าเกิดความรุนแรงภายในบ้าน พวกเขามีเพื่อนที่คอยสนับสนุนอยู่

You don't need to enter a badge and a gun into it.

คุณไม่จำเป็นต้องเข้าไปหาลูกปืนในนั้น

If we hadn't disinvested from all the public resources

ถ้าพวกเราไม่ขจัดปัญหา จากแหล่งทรัพยากรสาธารณะทั้งหมด

that were available in communities that most needed those,

ที่ยังเหลืออยู่ในชุมชน ซึ่งเราต้องการมันมากที่สุด

we wouldn't need police in the first place,

เราก็ไม่ต้องการตำรวจเลย

and many have been arguing, even more loudly recently,

และหลายคนก็เห็นด้วย ไม่นานมานี้ก็ออกมาตะโกนบอกกันเลย

that we don't.

ว่าเราไม่ต้องการ

If we would just take the money that we use to punish,

ถ้าพวกเราเอาเงินมาจากการลงโทษ

and instead invest it

แล้วลงทุนมันแทนซะ

in the promise and the genius of the community that could be there.

ความมั่นใจและคนเก่งของชุมชนก็จะอยู่ที่นั่น

So I don't know all the ways we're going to get there.

ผมไม่รู้ว่ามันจะมีทาง ที่เราจำไปถึงตรงนั้นไหม

I know it's going to take everything and.

แต่ผมรู้ว่ามันจะนำพาทุกอย่าง

It's going to need the kind of systemic change

เราต้องการการเปลี่ยนแปลงของระบบนี้

and the management tools that we traditionally offer.

และเครื่องมือที่ใช้ในการจัดการ ที่มักเสนอกันมาตลอด

It's also going to need a quantum change

เราต้องการการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

in the way that we think about public safety.

ที่จะเปลี่ยนความคิด เรื่องความปลอดภัยสาธารณะ

But mostly, this isn't just a policing problem.

แต่มันไม่ใช่แค่เรื่องปัญหา การรักษาความปลอดภัย

This is the unpaid debts

แต่นี่คือเรื่องปัญหาหนี้สิน

that are owed to black America.

ที่เป็นของชาวอเมริกันผิวสี

The bill is coming due.

แล้วกำหนดชำระก็ใกล้มาถึงแล้ว

And we need to start getting an accounting together,

และพวกเราต้องช่วยกันทำบัญชี

so we're not just paying off the interest of the damn thing.

ดังนั้นเราจะไม่ประสบความสำเร็จ โดยเปล่าประโยชน์

WPR: Thank you, Phil.

ขอบคุณมากฟิล

Rashad Robinson is the president of Color Of Change,

ราฉาด โรบินสัน ประธานของคัลเลอร์ออฟเช้นจ์

a civil rights organization

องค์กรเพื่อสิทธิพลเมือง

that advocates for racial justice for the black community.

สนับสนุนความยุติธรรมทางเชื้อชาติ สำหรับกลุ่มคนผิวสีโดยเฉพาะ

To date, more than four million people have signed their petition

ทุกวันนี้มากกว่าสี่ล้านคนลงชื่อในคำร้อง

to arrest the officers involved in the murder of George Floyd.

ให้จับกุมจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องกับการสังหารจอร์จ ฟลอยด์

And of course, one was arrested last week.

และหนึ่งในนั้นถูกจับแล้ว เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา

Thank you so much for being with us, Rashad, welcome.

ขอบคุณมากที่มาร่วมกับเราค่ะ ราฉาด ขอต้อนรับค่ะ

Rashad Robinson: Thank you. And thank you for having me.

ขอบคุณที่เชิญผมมานะครับ

It's an opportunity that I'm taking today

โอกาสทีผมได้รับในวันนี้

to just tell you about how you can get involved.

เพื่อจะบอกว่าคุณจะมีส่วนร่วมอย่างไรได้บ้าง

How you can take action,

จะสามารถลงมือทำอะไรได้บ้าง

because right now, strategic action is critical

เพราะว่าตอนนี้กลยุทธ์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก

for all of us to do the work to change the rules

สำหรับพวกเราทุกคน ที่ทำงานเรื่องการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย

that far too often keep the systems in place

ซึ่งมักจะห่างไกล จากการทำให้ระบบอยู่ในที่ในทาง

that hold us back.

ที่ดึงเราให้กลับมา

Make no mistake,

ไม่มีการกระทำผิด

the criminal justice system is not broken.

กระบวนการยุติธรรมเกี่ยวกับการกระทำผิด จะไม่ถูกทำลาย

It is operating exactly the way it was designed.

กระบวนการของมันถูกต้อง ตามที่ถูกคิดขึ้นมาแล้ว

At every single level,

ในทุกๆ ระดับ

the criminal justice system is not about providing justice,

กระบวนการยุติธรรมทางอาญา ไม่ได้จัดการแค่ความยุติธรรม

but about ensuring that certain people, certain communities are protected,

แต่ยังเป็นการรับรองว่าทุกคน ทุกกลุ่ม ได้รับการปกป้อง

while other communities are violated.

ในขณะที่กลุ่มอื่นๆ ละเมิดกฎหมาย

And so I wan to talk a little bit today about Color Of Change,

ดังนั้นในวันนี้ผมเลยขอพูดเกี่ยวกับ องค์กรคัลเลอร์ออฟเช้นจ์

about activism, about the work that's happening on the ground

เกี่ยวกับการเคลื่อนไหว เกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น

from other organizations all around the country,

จากองค์กรอื่นๆ ทั่วประเทศ

and the way that you can channel this energy.

รวมทั้งช่องทางสิ่อสารถึงพลังเหล่านี้

What we talk about at Color Of Change

สิ่งที่เราจะพูดถึงคัลเลอร์ออฟเช้นจ์

is how do you channel presence into power.

คือเราจะแสดงพลังทางช่องทางไหนได้บ้าง

Far too often we mistake presence and visibility for power,

บ่อยครั้งที่เราผิดพลาด ในการแสดงให้พลังเป็นที่ประจักษ์

presence retweets the stories of the movement,

แสดงผ่านการรีทวีตเรื่องราวความเคลื่อนไหว

people feeling passion about change

ผู้คนรับรู้ถึงความปรารถนาแรงกล้า ในการเปลี่ยนแปลง

could sometimes make us feel like change is inevitable,

ซึ่งบางครั้งก็ทำให้เรารู้สึกว่า การเปลี่ยนแปลงคือสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้

but power is actually the ability to change the rules.

แต่จริงๆ แล้ว พลังคือสิ่งที่จะเปลี่ยนกฎเหล่านั้นได้

And right now, every day, people are taking action,

และตอนนี้ ผู้คนกำลังลงมือทำมันอยู่ทุกวัน

and what we're trying to channel that energy into

และเราก็พยายามสื่อสารพลังงานเหล่านั้น

is a couple of things.

ไปยังที่ต่างๆ

First is a whole set of demands at the federal level

อย่างแรกคือส่งต่อสิ่งที่เราเรียกร้อง ไปยังระดับส่วนกลาง

and at the local level.

และไปยังระดับท้องถิ่น

As Phil described,

อย่างที่ฟิลพูดไป

policing operates on many different channels.

ระบบตำรวจปฏิบัติการในหลายๆ ช่องทาง

And what we need to recognize

และสิ่งที่เราต้องรู้

is that while there are a lot of things that can happen at the federal level,

คือในขณะที่หลายๆ อย่างเป็นไปได้ ในระดับส่วนกลาง

locally all around the country

ทั่วประเทศ

there are decisions that are being made in communities

ยังมีอีกหลายทางเลือกที่เราทำในชุมชน

around how policing is executed,

เกี่ยวกับระบบตำรวจถูกปฏิบัติอย่างไร

where community needs to hold a deeper level of accountability,

ซึ่งผู้คนเชื่อถือได้ในระดับที่ลึกซึ้งกว่า

at the state level we need new laws.

ในระดับภาครัฐ เราต้องการกฎหมายใหม่

So at Color Of Change,

ดังนั้นที่องค์กรของเรา

we've built a whole platform around a set of demands

เราได้สร้างแนวทางทั้งหมด ในสิ่งที่เราเรียกร้อง

and are working to build more energy

และทำเพื่อสร้างพลังเพิ่มขึ้นอีก

for everyday people to take action.

สำหรับทุกคนที่อยากมีส่วนร่วม

We're fighting for justice

เรากำลังต่อสู้เพื่อความยุติธรรม

for Ahmaud Arbery, Breonna Taylor and George Floyd,

เพื่ออะหมัด อัลเบอรี บรีออนา เทเลอร์ และจอร์จ ฟลอยด์

we're also fighting for justice

และเรากำลังต่อสู้เพื่อความยุติธรรม

for other folks whose names you haven't heard,

เพื่อประชาชนที่ไม่เคยถูกขนานนามถึง

Nina Pop and others,

นิน่า ป๊อป และคนอื่นๆ

whose stories of injustice

ที่เรื่องราวความไม่ยุติธรรมของพวกเขา

and the relationship to the criminal justice system

และสิ่งที่โยงถึงระบบความยุติธรรมทางอาญา

represent all the ways in which fighting right now is important.

แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เราต่อสู้อยู่ตอนนี้ เป็นสิ่งที่สำคัญ

Over the last couple of years,

ช่วงสองสามปีที่ผ่านมา

we have worked to build a movement,

เราได้สร้างความเคลื่อนไหว

to hold district attorneys accountable

ให้เราสามารถเชื่อถืออัยการเขตได้

and to change the role of district attorneys in our country.

และสร้างบทบาทให้แก่อัยการเขตในประเทศของเรา

And through the Winning Justice platform at Color Of Change,

ผ่านชัยชนะของความยุติธรรมที่เกิดขึ้น ผ่านคัลเลอร์ออฟเช้นจ์

www.winningjustice.org,

เว็บไซต์ www.winningjustice.org

what we have worked to do is channel the energy

สิ่งที่เราทำคือแสดงช่องทางการสิ่อสาร

of everyday people to take action.

จากทุกคนที่กำลังมีส่วนร่วมในทุกวันนี้

So, for folks who are watching what's happening on TV,

ดังนั้น สำหรับคนที่กำลังดูอยู่ สิ่งที่เกิดขึ้นในทีวี

seeing it on their social media feeds

เห็นผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์

and are outraged about what's happening in Georgia,

และสิ่งที่กำลังปะทุ เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในจอร์เจีย

what's happening in Tennessee,

สิ่งที่เกิดขึ้นในเทนเนสซี

what's happening in Minnesota,

สิ่งที่เกิดขึ้นในมินนิโซตา

you yourself, probably, most likely,

ตัวคุณเอง อาจจะ หรือส่วนใหญ่

live in a place, in a community

อาศัยอยู่ที่นั่น ในชุมชน

where you have a district attorney

ที่ซึ่งอัยการเขต

that will not hold police accountable,

ไม่ได้ทำคุณเชื่อในระบบตำรวจ

that will not prosecute police when they harm, hurt black folks,

ไม่สามารถดำเนินคดีกับตำรวจที่ทำร้ายคนผิวสี

when they violate the laws,

เมื่อพวกเขาละเมิดกฎหมาย

you live in a community

คุณอยู่ในชุมชน

where police are part of the structure

ที่ตำรวจเป็นส่วนหนึ่งในโครงสร้าง

that is racking up mass incarceration,

ในการกวาดต้อนจับขังผู้คนหมู่มากได้สำเร็จ

but many other aspects of our system

แต่ในแง่อื่นๆ ของระบบของเรา

are racking up mass incarceration,

ก็กวาดต้อนจับขังผู้คนหมู่มากได้สำเร็จ

and district attorneys are at the center of it.

และอัยการเขตก็เป็นตัวการของการกระทำนั้น

You live in those communities and you need to do something about it.

คุณอาศัยอยู่ในชุมชน และคุณต้องทำอะไรสักอย่าง

And so at winningjustice.org,

เริ่มที่ winningjustice.org

we've created the only searchable, national database

เราสร้างแต่ข้อมูลที่ค้นหาได้ จากฐานข้อมูลของชาติ

on the 2,400 prosecutors around the country.

เกี่ยวกับพนักงานอัยการ กว่าสองพันสี่ร้อยคนทั่วประเทศ

We're building local squads and communities

พวกเรากำลังสร้างกลุ่มและชุมชนท้องถิ่น

for folks to be able to engage around efforts that hold DAs accountable.

สำหรับประชาชนให้สามารถมีส่วนร่วม ในการสนับสนุนให้อัยการเขตเชื่อถือได้

We've worked with our partners across the movement,

เราทำงานร่วมกับพันธมิตรของเรา ในการเคลื่อนไหว

from our friends in Black Lives Matter,

ของเพื่อนของเราในกลุ่มแบล็คไลฟ์แมทเทอร์

to folks who do policy work,

ไปยังผู้คนที่ทำงานเกี่ยวกับนโยบาย

to our friends at local ACLU chapters around the country,

ไปยังเพื่อนของเรา ที่มูลนิธิเอซีแอลยูท้องถิ่นทั่วประเทศ

to build six demands.

ในการเรียกร้องทั้งหก

Six demands that folks can get behind in terms of pushing for reform,

หกอย่างที่เราต้องการที่ประชาชนสามารถหลบ จากการผลักดันให้เกิดการปฏิวัติ

and then we've built public education material.

และจากนั้นเราจะสร้าง เครื่องมือทางการศึกษาแบบสาธารณะ

But the only way that we work to change the way

แต่ทางเดียวที่เราทำเพื่อเปลี่ยนแนวทาง

that prosecution happens in this country

การดำเนินคดีที่เกิดขึ้นในประเทศนี้

is that if people get involved.

ให้ประชาชนมีส่วนร่วม

If people raise their voice,

ให้ประชาชนส่งเสียง

if people join us in pushing for real change.

ให้ประชาชนร่วมมือกับเรา ในการผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงจริงๆ

At the end of the day, I want people to recognize though,

สิ้นสุดวันนี้ ผมอยากให้ทุกคนได้รับรู้

and Phillip talked a little bit about this,

และอย่างที่ฟิลิปเกริ่นเกี่ยวกับเรื่องนี้

is that people don't experience issues, they experience life.

ว่าประชาชนไม่ได้ประสบปัญหา แต่พวกเขากำลังใช้ชีวิต

That the forces that hold us back are deeply interrelated,

และผลบังคับทางกฎหมาย ที่รั้งเราไว้ก็เกี่ยวข้องกัน

a racist criminal justice system

ระบบความยุติธรรมทางอาญา

requires a racist media culture to survive,

ทำให้วัฒนธรรมสื่อ เรื่องการเหยียดสีผิวยังมีอยู่

a political inequality follows economic inequality,

ความอยุติธรรมทางตำรวจเป็นผล จากความอยุติธรรมทางเศรษฐกิจ

they all go hand in hand.

มันเกี่ยวข้องกัน

And so I also want us to not take ourselves out of the equation.

และผมก็อยากให้เรา อย่าพึ่งออกจากความพยายามเพื่อความเท่าเทียม

We likely work inside of corporations that may post symbols

พวกเราอาจจะทำงานในองค์กรที่โพสต์สัญลักษณ์

for Black Lives Matter one day,

สำหรับแบล็คไลฟ์แมทเทอร์สักหนึ่งวัน

and then support politicians that work to destroy Black Lives Matter

และสนับสนุนนักการเมืองที่ทำงาน เพื่อทำลายพวกเขา

the next day.

ในวันต่อมา

We oftentimes are engaged in practices inside of our companies

บ่อยครั้งที่เราเป็นส่วนหนึ่ง ของวิถีปฏิบัติภายในบริษัท

or in our daily lives supporting media properties and others

หรือในชีวิตประจำวัน ที่สนับสนุนสื่อหรืออื่นๆ

that are harming our communities,

ที่ทำลายกลุ่มของพวกเราเอง

are telling stories.

ในการบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ

Recently, we produced a report at Color Of Change

ไม่นานมานี้ พวกเราทำรายงาน ที่คัลเลอร์ออฟเช้นจ์

with the Norman Lear school at USC.

กับโรงเรียนนอร์แมนเลียร์ ที่มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย

It's called "Normalizing Injustice,"

ในนาม "เปลี่ยนความอยุติธรรมกลับคืนสู่สภาพ"

and it can be found at changehollywood.org.

ซึ่งสามารถพบได้ใน changehollywood.org

And "Normalizing Injustice" looks at the 22 crime procedurals,

และโครงการนี้จะเน้น ที่กระบวนการทางอาญายี่สิบสองรายการ

those crime shows on TV.

ฉายทางรายการทีวี

And looks at all of the ways

และเน้นที่กระบวนการทุกอย่าง

in which they, sort of, create a warped perception

ที่พวกเขาบิดเบือนการรับรู้

about our view of justice.

เกี่ยวกับความยุติธรรม

They create sort of an incentive

พวกเขาสร้างสิ่งยั่วยุ

for the type of policing we see on the country,

สำหรับระบบตำรวจที่เรามองเห็นในประเทศนี้

and actually serve as a PR arm for law enforcement.

และทำหน้าที่เป็นการประชาสัมพันธ์กองทัพ ในการบังคับใช้กฎหมาย

We've been working in writers rooms around the country

พวกเราทำงานกันในห้องนักเขียนทั่วประเทศ

to work to push folks to tell better stories,

ทำงานเพื่อผลักดันประชาชน ให้เล่าเรื่องให้ดีกว่าเดิม

but we need folks to be both active listeners,

แต่เราต้องการทั้งประชาชนที่เป็นนักฟังที่ดี

and we need folks in the industry to push back

และต้องการประชาชนที่อยู่ในวงการ ที่จะยืนหยัด

and challenge those,

และท้าทายด้วยเช่นกัน

not only the structures that lead to that content coming on the air,

ไม่เพียงแต่เรื่องโครงสร้างเท่านั้น ที่จะกลายเป็นสาระที่จะออกอากาศ

but the proliferation across our airwaves.

แต่ยังนำไปสู่การแผ่ขยายเรื่องราว ไปยังสื่ออื่นๆ ด้วย

At the end of the day,

สิ้นสุดวันนี้

we have an opportunity in this moment to make change.

เราจะมีโอกาสในวินาทีแห่งการเปลี่ยนแปลง

Inflection points are those moments

จุดสะท้อนคือวินาทีเหล่านั้น

where we have an opportunity to make huge leaps forward,

ที่เรามีโอกาสจะก้าวกระโดดไปข้างหน้า

or the real, real threat of falling backwards.

หรือทำให้ภัยคุกคามที่แท้จริงถอยหลังไปเอง

In our hands is the ability to do some incredible things

ในมือของเรามีความสามารถ ที่จะทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อยู่

about undoing so many of the injustices

ยังมีสิ่งที่ไม่ได้ทำอีกมากมาย ในเรื่องความอยุติธรรม

that have stood in the way of progress for far too long.

ที่ยังคงอยู่ในกระบวนการนานเกินไปแล้ว

But everyday people must get involved.

แต่วันนี้ พวกเราต้องเข้าไปมีส่วนร่วม

We must channel that presence into power,

เราต้องแสดงพลัง

and we must build the type of power that changes the rules.

และเราต้องสร้างพลัง ในแบบที่จะเปลี่ยนกฎหมายได้

Racism in so many ways is like water

การเหยียดสีผิวในรูปแบบต่างๆ ก็เหมือนการเทน้ำ

pouring over a floor with holes in it.

ลงบนพื้นที่มีหลุมอยู่ในนั้น

Every single --

ทุกๆ ครั้ง

In every single way, it will find the holes.

เขาจะพยายามหาหลุมต่างๆ ในทุกๆ ทาง

And so for us,

และสำหรับเรา

we cannot simply accept

เราไม่สามารถยอมรับ

charitable solutions to structural problems,

ผลลัพธ์ที่ไม่รุนแรง กับปัญหาทางโครงสร้างได้ง่ายๆ

but we actually have to work for structural change.

เพราะฉะนั้นเราจึงต้องทำให้ระบบมันเปลี่ยนไป

And so I want to end by saying one thing about how we talk about black people

และผมอยากให้ทุกคนหยุดพูด เกี่ยวกับสิ่งที่เราพูดถึงคนผิวสี

and how we talk about black communities in this moment.

และสิ่งที่เราพูดเกี่ยวกับผู้ชุมนุมในขณะนี้

Because we have to say what we mean,

เพราะเราต้องพูดสิ่งที่เราหมายความอย่างนั้น

and we have to build the narrative that gets us to where we want to go.

และเราต้องสร้างเรื่องราว ที่ทำให้เราได้ไปในที่ที่เราต้องการจะไป

So far too often,

บ่อยครั้ง

we talk about black communities as vulnerable,

เราพูดเกี่ยวกับกลุ่มคนผิวสีอย่างภัยคุกคาม

we talk about black people as vulnerable,

เราพูดเกี่ยวกับคนผิวสีอย่างภัยคุกคาม

but vulnerability is a personal trait,

แต่ภัยคุกคามเป็นอุปนิสัยส่วนบุคคล

black communities have been under attack.

กลุ่มคนผิวสีถูกโจมตี

Black communities have been exploited, black communities have been targeted,

กลุ่มคนผิวสีถูกเอาเปรียบ กลุ่มคนผิวสีถูกเพ่งเล็ง

and we need to say that,

เราต้องพูดอย่างนั้น

so we don't put the onus on fixing black families and communities,

ดังนั้นพวกเราไม่ควรต้องแบกรับภาระ ในการแก้ไขที่ชาวผิวสี

but we put the onus on fixing the structures that have harmed us.

แต่พวกเราควรแบกภาระในการแก้ไขโครงสร้าง ที่จะทำร้ายเราต่างหาก

We will say things like,

พวกเรามักจะพูดอย่างนี้

"Black people are less likely to get loans from banks,"

"คนผิวสีมักจะไม่ค่อยได้รับ การกู้ยืมจากธนาคาร"

instead of saying that banks are less likely

แทนที่จะพูดว่าธนาคารไม่ค่อย

to give loans to black people.

ให้คนผิวสีกู้ยืมเงิน

This is our opportunity to build the type of progress

นี่คือโอกาสที่จะสร้างกระบวนการ

that makes real change,

ให้ความเปลี่ยนแปลงเป็นจริงได้

and at the center of this story,

และที่ศูนย์กลางของเรื่องนี้

we need to show and elevate the images

เราต้องการจะสร้างและยกระดับรูปภาพต่างๆ

not just of the pain that we are facing,

ไม่ใช่ให้เป็นเพียงความเจ็บปวดที่เราเผชิญ

but of the joy, the brilliance and the creativity

แต่เป็นความปิติ ความสว่าง และความสร้างสรรค์

that black people have brought to this country.

ที่คนผิวสีนำพามายังประเทศนี้

Black people are the protagonist of this story,

คนผิวสีคือตัวเอกของเรื่องนี้

and we need to make sure

และพวกเราต้องทำให้มั่นใจ

that as we work to build a new tomorrow,

ว่างานที่เราทำ จะสร้างวันใหม่ที่สดใสกว่าเดิม

we ensure that the heroes are at the center

เรารับรองได้ว่าฮีโร่อยู่ที่ศูนย์กลาง

of the liberation that we all need.

ของการได้รับความเท่าเทียมที่เราต้องการ

Thank you.

ขอบคุณครับ

CA: Thank you, Rashad.

ขอบคุณมากราฉาด

Dr. Bernice King is the CEO of the King Center in Atlanta, Georgia.

ด็อกเตอร์เบอนีส คิง ซีอีโอของคิงเซ็นเตอร์ ในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย

The center is a living memorial

ศูนย์กลางของอนุสรณ์ที่ยังมีชีวิต

to her father, Dr. Martin Luther King Jr.

ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อพ่อเธอ ด็อกเตอร์มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

It's dedicated to inspiring new generations

ถูกอุทิศให้เป็นแรงบันดาลใจแก่คนรุ่นหลัง

to carry his work forward.

ในการรับช่วงต่องานต่อไป

In this moment, when so many are hurting,

ในขณะนี้ เมื่อผู้คนจำนวนมากกำลังเจ็บปวด

how can we better approach unity and collective healing?

เราสามารถสร้างความเป็นหนึ่งเดียว และเยียวยากันได้ดีกว่าเดิมได้อย่างไร

Dr. King, over to you.

ด็อกเตอร์คิง ผมขอส่งต่อให้คุณ

Bernice King: My heart is a little heavy right now,

ตอนนี้ฉันเศร้าใจมาก

because I was that six-year-old.

เพราะตอนนั้นฉันพึ่งหกขวบ

I was five years old when my father was assassinated.

พ่อถูกฆ่าตอนฉันห้าขวบ

And he did change the world.

และเขาเปลี่ยนโลกใบนี้

But the tragedy is that we didn't hear

แต่โศกนาฏกรรมคือสิ่งที่เราไม่เคยได้ยิน

what he was saying to us as a prophet to this nation.

สิ่งที่เขาพูดกับเรา เปรียบเสมือนศาสดาของประเทศ

And his words are now reverberating back to us.

และคำพูดของเขาตอนนี้ก็ยังดังก้องอยู่

Change, we all know, is necessary right now.

เรื่องความเปลี่ยนแปลง พวกเราทุกคนรู้ว่ามันสำคัญมากในขณะนี้

And yet, it's not easy.

แต่มันไม่ง่ายเลย

We know that there has to be changes in policing in this nation of ours.

เราต้องเปลี่ยนระบบตำรวจในประเทศของเรา

But I want to talk about America's choice

แต่ฉันอยากจะพูดถึงทางเลือกของประเทศ

at a greater level.

ในระดับที่มันใหญ่กว่านั้น

The prophet said to us,

ท่านพูดกับเราว่า

"We still have a choice today:

"เรายังมีทางเลือกในวันนี้

nonviolent coexistence,

ว่าเราอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

or violent coannihilation."

หรือร่วมกันทำลายล้างโดยใช้ความรุนแรง"

What we have witnessed over the last eight days

สิ่งที่เราเป็นพยานเมื่อแปดวันที่ผ่านมา

has placed that choice before us.

ได้มอบทางเลือกให้เรา

We have seen literally in the streets of our nation

เราได้เห็นความตึงเครียดอย่างมากภายในประเทศ

people who have been following the path of nonviolent protest,

ทั้งคนที่เดินตามวิถีการประท้วงแบบสันติ

and people who have been hell-bent on destruction.

และทั้งคนที่ทำลายอย่างไม่ยอมลดละ

Those choices are now looking at us, and we have to make a choice.

ทางเลือกเหล่านั้นกำลังจับจ้องมาที่เรา และเราต้องเลือก

The history of this nation was founded in violence.

ประวัติศาสตร์ของประเทศนี้ ถูกสร้างขึ้นมาจากความรุนแรง

In fact, my father said

ในความเป็นจริง พ่อฉันบอกว่า

America is the greatest purveyor of violence.

อเมริกา คือผู้ป้อนเหยื่อความรุนแรงรายใหญ่ที่สุด

And the only way forward is if we repent

และหนทางเดียวที่จะก้าวไปข้างหน้าได้ คือเราควรรู้สึกผิด

for being a nation built on violence.

ต่อการสร้างชาติบนพื้นฐานความรุนแรง

And I'm not just talking about physical violence.

และสิ่งที่ฉันกำลังพูด ไม่ใช่แค่ความรุนแรงทางกายเท่านั้น

I'm talking about systemic violence,

ฉันกำลังพูดถึงความรุนแรงของระบบ

I'm talking about policy violence,

กำลังพูดถึงความรุนแรงของนโยบาย

I'm talking about what he spoke of

สิ่งที่พ่อเคยพูดไว้

are the triple evils of poverty, racism and militarism.

ถึงสิ่งชั่วร้ายทั้งสามอย่าง ความยากจน การเหยียดสีผิว และแนวคิดนิยมทหาร

All violent.

ทั้งหมดนี้คือความรุนแรง

Albert Einstein said something to us.

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์เคยบอกกับเรา

He said we cannot solve problems

เขาพูดว่าเราไม่สามารถแก้ไขปัญหา

on the same level of thinking in which they were created.

ได้ด้วยการคิดวิธีเดียวกัน กับวิธีที่เขาสร้างปัญหาขึ้นมา

And so if we are going to move forward,

ดังนั้นถ้าเราอยากจะก้าวไปข้างหน้า

we are going to have to deconstruct these systems of violence

เราต้องทำลายระบบความรุนแรงเหล่านั้น

that we have set in America.

ที่ก่อตัวอยู่ในอเมริกาลง

And we're going to have to reconstruct on another foundation.

และเราต้องสร้างรากฐานอื่นขึ้นมาใหม่

That foundation happens to be love and nonviolence.

รากฐานที่เกิดจากความรัก และปราศจากความรุนแรง

And so, as we move forward,

ในขณะที่เราก้าวไปข้างหน้า

we can correct course if we make that choice

เราจะไปถูกทางถ้าเลือกถูกจุด

that Daddy said, nonviolent coexistence.

จุดนั้นที่พ่อฉันเคยพูดไว้ ว่าเราจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

And not continue on the pathway of violent coannihilation.

และไม่สานต่อการร่วมกันทำลายล้าง โดยใช้ความรุนแรง

So what does that look like?

แล้วมันเป็นอย่างไรล่ะ

That looks like some deconstruction work

มันก็เหมือนการทำลายบางสิ่ง

in order to get to the construction.

เพื่อที่สร้างอย่างอื่นได้

We have to deconstruct our thinking.

เราต้องทำลายความคิดของเรา

We've got to deconstruct the way in which we see people

เราต้องทำลายวิธีที่เรามองคนอื่น

and deconstruct the way in which we operate,

และทำลายวิธีที่เราดำเนินการ

practice and engage and set policy.

และวิถีปฏิบัติ แล้วมาร่วมมือและร่วมกันตั้งนโยบาย

And so I believe that there's a lot of heart,

ฉันเชื่อว่าทุกคนมีใจที่เต็มเปี่ยม

h-e-a-r-t work to do,

งานที่จะทำด้วยหัว-ใจ

in the midst of all the h-a-r-d, hard work to do.

ท่ามกลางความทอ-ระ-หดของงานที่เราต้องทำ

Because heart work is hard work.

เพราะงานที่ต้องทำด้วยใจล้วนเป็นงานหนัก

One of the things we have to do

สิ่งหนึ่งที่เราต้องทำ

is we have to ensure that everyone,

คือเราต้องรับประกันว่าทุกคน

especially my white brothers and sisters,

โดยเฉพาะพี่น้องคนขาวของฉัน

have to engage in the heart work, the antiracism work,

ต้องเข้ามามีส่วนร่วมในงานนี้ ต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ

in our hearts.

ทำงานด้วยหัวใจของเรา

No one is exempt from this,

ไม่มีใครที่จะถูกละเว้นจากสิ่งนี้

especially in my white community.

โดยเฉพาะกลุ่มคนขาว

We must do that work in our hearts,

เราต้องทำงานนั้นด้วยหัวใจของเรา

the antiracism work.

ต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ

The second thing is

อย่างที่สองคือ

that I encourage people

ฉันสนับสนุนให้คน

to look at the nonviolence training that we [have] at the King Center,

เห็นถึงการฝึกแบบสันติ แบบที่เราทำที่คิงเซ็นเตอร์

thekingcenter.org,

ผ่านเว็บไซต์ thekingcenter.org

so that we learn the foundation of understanding

ซึ่งเราจะได้เรียนรู้ เกี่ยวกับรากฐานความเข้าใจ

our interrelatedness and interconnectedness.

ถึงสิ่งที่เกี่ยวข้อง และสิ่งที่ผูกเราเข้าไว้ด้วยกัน

That we understand our loyalties and our commitments

จะได้เข้าใจถึงความซื่อสัตย์และความมุ่งมั่น

and our policy-making

รวมทั้งการสร้างนโยบายของเรา

can no longer be devoted to one group of people,

ที่ไม่สามารถอุทิศให้แก่คนแค่กลุ่มเดียวได้

but has to be devoted to the greater good of all people.

แต่ต้องอุทิศเพื่อประโยชน์สุขแก่ทุกคน

And so I'm inviting people to even join us

และฉันกำลังเชิญผู้คนมาเข้าร่วมกับเรา

on our own line of protest

ในการประท้วงบนวิถืทางของเรา

that's happening every night at seven o'clock pm

ที่จะเกิดขึ้นทุกคืนๆ เวลาหนึ่งทุ่มตรง

on the King Center Facebook page,

ที่แฟนเพจคิงเซ็นเตอร์

because so many people have things that they want to express

เพราะหลายๆ คนมีหลายอย่างที่อยากจะแสดงออก

and contribute to this.

และมีส่วนกับเรื่องนี้

We all have to change and have to make a choice.

เราทุกคนต้องเปลี่ยน และต้องเลือก

It is a choice to change the direction that we have been going.

สิ่งนั้นคือตัวเลือก ที่จะเปลี่ยนเส้นทางที่เรากำลังจะก้าวไป

We need a revolution of values in this country.

เราต้องการปฏิวัติคุณค่าของประเทศนี้

That's what my Daddy said.

นั่นคือสิ่งที่พ่อฉันพูดเอาไว้

He changed the world, he changed hearts,

เขาเปลี่ยนโลก เขาเปลี่ยนใจคน

and now, what has happened over the last seven, eight years

และตอนนี้สิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อเจ็ดถึงแปดปีที่ผ่านมา

and through history,

และตลอดเวลาที่ผ่านมา

we have to change course.

เราต้องเปลี่ยนแนวคิด

And we all have to participate in changing America

และเราต้องมีส่วนร่วม ในการเปลี่ยนแปลงอเมริกา

with the true revolution of values,

ด้วยการปฏิวัติคุณค่าที่แท้จริง

where people are at the center,

ที่ยึดคนเป็นศูนย์กลาง

and not profit.

ไม่ใช่เพียงเพื่อผลประโยชน์

Where morality is at the center,

เราต้องให้คุณธรรมเป็นแกนกลาง

and not our military might.

ไม่ใช่กองกำลัง

America does have a choice.

อเมริกา คุณมีทางเลือก

We can either choose to go down continually that path of destruction,

เราสามารถเลือกที่จะดำดิ่งต่อเพื่อทำลายล้าง

or we can choose nonviolent coexistence.

หรือเราจะเลือกการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

And as my mother said,

แม่ฉันเคยพูดเอาไว้ว่า

struggle is a never-ending process,

การต่อสู้เป็นกระบวนการที่ไม่มีที่สิ้นสุด

freedom is never really won.

อิสรภาพไม่มีวันเป็นชัยชนะที่แท้จริง

You earn it and win it in every generation.

คุณได้รับมัน คุณชนะในทุกยุคทุกสมัย

Every generation is called to this freedom struggle.

ทุกสมัยทุกสมัยเรียกมันว่า อิสรภาพทางการต่อสู้

You as a person may want to exempt yourself,

คุณในฐานะคนๆ หนึ่ง อาจจะต้องการละเว้นตัวคุณเอง

but every generation is called.

แต่คนทุกยุคทุกสมัยถูกเรียกกันหมด

And so I encourage corporations in America

ดังนั้นฉันจึงอยากสนับสนุน ความร่วมมือของทุกคนในอเมริกา

to start doing antiracism work within corporate America.

ในการทำงานต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ ภายใต้ความร่วมมือของชาติ

I encourage every industry to start doing antiracism work,

ฉันขอสนับสนุนทุกๆ ภาคส่วนในการทำงานนี้

and pick up the banner of understanding nonviolent change, personally,

แสดงให้เห็นว่าเราจะเปลี่ยนแปลงโดยสันติ

and from a social change perspective.

และเราจะเปลี่ยนความคิดของสังคม

We can do this.

เราทำได้

We can make the right choice

เราสามารถเลือกให้ถูกได้

to ultimately build the beloved community.

เพื่อสร้างสังคมที่เรารักได้ในที่สุด

Thank you.

ขอบคุณค่ะ

WPR: Thank you, Dr. King.

ขอบคุณมากค่ะ ด็อกเตอร์คิง

Anthony Romero is the executive director

แอนโทนี โรมิโอ ผู้อำนวยการบริหาร

of American Civil Liberties Union.

ของสหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน

As one of the nation's oldest social justice organizations,

หนึ่งในองค์กรความยุติธรรมทางสังคม ที่เก่าแก่ที่สุด หรือเอซีแอลยู

the ACLU has advocated for racial equality

ผู้เรียกร้องความเท่าเทียมทางเชื้อชาติ

and shown deep support to the black community

และแสดงความสนับสนุนอย่างมากต่อกลุ่มคนผิวสี

in moments of crisis.

ในช่วงเวลาวิกฤตขณะนี้

And in moments like these,

และในช่วงเวลาแบบนี้

black voices are almost always the loudest

เสียงของคนผิวสีก็ดูเหมือนว่าจะดังที่สุด

and at times the silence from our nonblack brothers and sisters

และถึงคราวที่ความเงียบ จากพี่น้องที่ไม่ใช่คนผิวสี

can feel deafening.

สัมผัสได้ถึงความอื้ออึงนี้

How we can bring our allies into the mix,

เราจะสามารถนำพันธมิตรมารวมกันได้อย่างไร

to better support ending systemic violence and racism against the black communities,

เพื่อที่จะทำให้ระบบความรุนแรง และการเหยียดเชื้อชาติต่อคนผิวสีหมดไป

is a question top of mind for a lot of us.

นี่คือคำถามต้นๆ ที่อยู่ในใจเราทุกคน

Anthony, welcome to the show,

ขอต้อนรับแอนโทนีค่ะ

and thank you so much for being with us.

และขอบคุณมากที่มาร่วมกับเรา

Anthony Romero: Great.

ครับ

Thank you, thank you Whitney,

ขอบคุณมาก ขอบคุณครับวิทนีย์

thank you, Chris,

ขอบคุณครับคริส

for inviting me to join this TED community.

ที่เชิญผมมาร่วมในเท็ดคอมมูนิตี้ครั้งนี้

I think community is really important right now.

ผมคิดว่ากลุ่มคนเป็นสิ่งที่สำคัญมากในตอนนี้

With so many of us feeling trepidation,

พวกเราส่วนมากคงสัมผัสได้ถึงความสั่นเทา

the weariness, the anger,

ความเหนื่อยล้า ความโกรธ

the fear, the frustration,

ความกลัว ความผิดหวัง

the terrorism that we've experienced in our communities.

การก่อการร้ายที่เราประสบในสังคมของเรา

This is a time to huddle around a virtual campfire,

นี่คือเวลาที่เราจะเกาะกลุ่มกัน เหมือนการแสดงรอบกองไฟ

with your posse, with your family,

กับกองกำลัง กับครอบครัว

with your loved ones, with your network.

กับคนที่คุณรัก หรือกับเครือข่ายของคุณ

It's not a time to be isolated or alone.

นี่ไม่ใช่เวลาที่จะถูกทอดทิ้งหรือโดดเดี่ยว

And I think for allies in this struggle,

และสำหรับพันธมิตรในการต่อสู้ครั้งนี้

those of us who don't live this experience every day,

พวกเราอาจไม่ได้มีประสบการณ์แบบนี้ทุกวัน

it is time for us to lean in.

นี่คือเวลาที่เราจะเข้าไป

You can't change the channel,

เราเปลี่ยนเป็นทางอื่นไม่ได้

you can't tune out,

เราหนีไม่ได้

you can't say, "This is too hard."

เราพูดไม่ได้ว่า "มันยากเกินไป"

It is not that hard for us to listen and learn and heed.

มันไม่ยากสำหรับเรา ที่จะฟัง เรียนรู้ และสนใจ

It is the only way we're going to build out of this,

ทางเดียวที่จะพาเราออกไปได้

by hearing the voices of Rashad, and Phil and Dr. King.

คือฟังเสียงของราฉาด ฟิล และด็อกเตอร์คิง

By hearing the voices of our neighbors and loved ones,

ฟังเสียงของเพื่อนบ้านและคนที่เรารัก

by hearing the voices on Twitter of people who we don't know.

ฟังเสียงจากทวิตเตอร์ของคนที่เราไม่รู้จัก

And so white communities and allied organizations

กลุ่มคนขาวและองค์กรพันธมิตร

need to pay even closer attention.

ต้องเพ่งสนใจให้มากขึ้น

This is the test of your character.

นี่นับเป็นการทดสอบความเป็นคุณ

How willing are you to lean in and to engage.

ว่าคุณเต็มใจแค่ไหนที่จะเข้ามามีส่วนร่วม

For me, I have --

สำหรับผม ผม--

These have been really hard couple of weeks.

มันเป็นสองสามสัปดาห์ที่ยากจริงๆ

I feel like this is really a test

ผมรู้สึกเหมือนเป็นบททดสอบจริงๆ

of whether or not we really believe in the American experiment.

ว่าเราจะเชื่อในชาวอเมริกันได้หรือไม่

Do we really believe it?

เราเชื่อมั่นจริงๆ ไหม

Do we really believe that out of many, one,

เราเชื่อจริงๆ ไหมว่า จากหลากหลายที่

a country with no unifying language,

ยังมีประเทศที่ไม่มีระบบภาษาเป็นหนึ่งเดียว

no unifying culture,

ไม่มีวัฒนธรรมที่เหมือนกัน

no unifying religion,

ไม่ได้มีศาสนาเหมือนกัน

can we really become one people?

จะกลายเป็นคนกลุ่มเดียวกันได้จริงๆ ไหม

All equal before the law?

ทุกคนเท่าเทียมทางกฎหมายไหม

All bound together with a belief in the rule of law?

เราถูกร่วมเข้าด้วยกัน ด้วยความเชื่อในระเบียบของกฎหมายจริงหรือ

Do we really believe that

เราเชื่อแบบนั้นจริงๆ

or do we just think it's a nice saying

หรือเราเพียงแค่คิดว่ามันดี ที่จะพูดไปแบบนั้น

to see on the back of a paper dollar?

เพราะเห็นแก่เงินอย่างนั้นหรือ

And for me, this is a referendum on the American experiment.

สำหรับผม นี่คือการลงประชามติร่วมกัน ของชาวอเมริกัน

On whether we really believe,

ว่าเราเชื่ออย่างนั้นจริงหรือไม่

and ...

และ

the future is in our hands.

อนาคตก็อยู่ในมือเรา

And this is not like other crises,

เหตุการณ์นี้ไม่เหมือนสถานการณ์อื่นๆ

I've been the head of the ACLU for almost 20 years,

ผมเป็นหัวหน้าของเอซีแอลยูมากว่า 20 ปี

I feel like I've seen it all.

ผมรู้สึกเหมือนเห็นมันมาหมดแล้ว

This is different.

แต่นี่กลับต่างออกไป

And this is different because it is cumulative,

มันต่างออกไปเพราะมันยิ่งนับเท่าทวีคูณ

like Phil and Rashad and Dr. King told us,

เหมือนที่ฟิล ราฉาด และด็อกเตอร์คิงบอกเรา

this is centuries of systemic discrimination,

นี่คือศตวรรษของระบบการแบ่งแยกทางเชื้อชาติ

and the bill has come due.

และถึงเวลาครบกำหนดจ่ายแล้ว

And it will continue to be due,

และกำหนดจ่ายจะมาเรื่อยๆ

and we will pay.

ฉะนั้นเราก็ต้องจ่าย

Unless we really do something quite different.

ถ้าเราไม่ทำอะไรที่ต่างออกไป อย่างจริงจังสักที

I have been scratching my head at the ACLU for the last week.

ผมนั่งเกาหัวอยู่ที่เอซีแอลยู เมื่ออาทิตย์ก่อน

We've been at this for 100 years.

เราผ่านเรื่องราวแบบนี้มาร้อยปีแล้ว

My organization has been working on this from its inception.

องค์กรของผมทำงานเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกเริ่ม

In 1931, we were involved with this report about lawlessness in law enforcement.

เรามีส่วนร่วมเกี่ยวกับรายงานทางกฎหมาย และการบังคับใช้กฎหมายตั้งแต่ปี 1931

That was our first report that we got behind in 1931.

เราอยู่เบื้องหลังรายงานแรกในปีนั้น

We opened up our first door fronts after the riots in Watts,

เราเปิดประตูบานแรก หลังเกิดเหตุจราจลที่วัตต์

so that we can bring legal services and lawyers to the communities

ทำให้เราสามารถให้บริการทางกฎหมาย และทนายความกับชุมชนได้

so they could demand justice from the police departments.

ดังนั้นพวกเราสามารถเรียกร้องความยุติธรรม จากสำนักงานตำรวจได้

You know, we brought Miranda, you know,

คุณรู้ไหม เราให้สิทธิในการอยู่ในความสงบ

the right to remain silent,

กับมิแรนด้าได้

and we brought Gideon, the right to a court-appointed attorney

เราให้สิทธิใช้ทนายความ ที่ศาลตั้งให้กับกิเดี้ยน

if you can't afford one.

เมื่อคุณจ้างทนายไม่ได้

We fought Bloomberg on "stop-and-frisk,"

เราสู้กับบลูมเบิร์ค เรื่องนโยบายขอตรวจค้นของตำรวจ

it took him years and he lost in front of our litigation

เราใช้เวลาหลายปีจนสุดท้ายเขาก็แพ้คดี

to finally apologize.

แล้วออกมาขอโทษในที่สุด

We've been at this for 100 years.

เราอยู่กับเรื่องแบบนี้มาร้อยปีแล้ว

And for the communities that have lived this for 400 years, God.

และเราก็อาศัยอยู่ในชุมชน สี่ร้อยกว่าปีมาแล้ว

I've been scratching my head, thinking.

ผมก็ยังเกาหัวแล้วก็คิด

It ain't working.

ว่ามันคงไม่ได้ผล

We don't need another pattern and practice lawsuit.

เราไม่ได้ต้องการรูปแบบ หรือวิธีการฟ้องร้องคดีแบบใหม่

We don't need another training program

เราไม่ได้ต้องการการฝึกอบรมอะไร

on racial bias or implicit bias in police departments,

เกี่ยวกับอคติต่อการเหยียดเชื้อชาติ ที่อยู่เหนือการควบคุมในสำนักงานตำรวจ

we don't need to file another lawsuit on qualified immunity,

เราไม่ต้องการยื่นฟ้องคดีความ ที่ให้พ้นผิดอย่างมีเงื่อนไขหรอก

we don't need to, kind of, bring another race discrimination

เราไม่ต้องการคดีความ เรื่องการเหยียดเชื้อชาติ

or gender discrimination lawsuit

หรือเหยียดเพศ

to integrate the police department.

เพื่อที่จะเกี่ยวข้องกับสำนักงานตำรวจอีก

Yeah, we've done that and we will continue to do that.

และใช่ พวกเราทำมันลงไปแล้ว เราสานต่อสิ่งนั้น

For me, where I've come,

สำหรับผม ที่ที่ผมมา

is that we need to defund the budgets of these police departments.

เป็นที่ที่เราตัดเงินสนับสนุน จากงบสำนักงานตำรวจ

It's the only way we're going to take the power back.

ทางเดียวคือ เราต้องนำอำนาจนั้นกลับคืนมาให้ได้

And the more I read over the last couple of weeks

ยิ่งผมอ่านมากขึ้น ในช่วงสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมา

about where this country is,

เกี่ยวกับประเทศนี้

the more I'm clear that that is my North star at the moment.

ผมก็ยิ่งเข้าใจว่า นั่นคือดาวนำทางในวินาทีนี้เลย

We will continue to bring the litigation on qualified immunity,

เรากำลังนำคดีความ ที่จะทำให้พ้นผิดอย่างไม่มีเงื่อนไขกลับมา

we will do the efforts

เรากำลังพยายาม

to hold unaccountable law enforcement officials accountable,

ทำให้การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่น่าเชื่อถือ กลับมาน่าเชื่อถืออย่างเป็นทางการ

we will bring pattern and practice lawsuits,

เราจะนำรูปแบบและวิถีของคดีความนั้นกลับมา

because the justice department is not doing that,

เพราะหน่วยงานความยุติธรรมจะไม่ทำ

so we will continue to do all that good work.

ดังนั้นเราก็จะสานต่องานนั้นต่อไป

But the real thing is, we're going to go after those budgets.

แต่ในความเป็นจริงคือ เรากำลังไล่ตามงบประมาณพวกนั้น

When you look at the fact

เมื่อเรามองตามความเป็นจริง

that we spend 100 million dollars on policing,

ว่าเราเสียเงินเป็นร้อยล้านให้กับระบบตำรวจ

more than incarceration,

มากกว่าการกักขังหน่วงเหนี่ยว

that the city of Minneapolis spent 30 percent of their budget

เมืองแมนิแอโพลิส เสียงบประมาณไปสามสิบเปอร์เซ็นต์

on policing.

ไปกับระบบรักษาความปลอดภัย

The city of Oakland, 41 percent on policing.

เมืองโอ๊คแลนด์ให้งบสี่สิบเปอร์เซ็นต์ ไปกับระบบรักษาความปลอดภัย

That when you have New York City police department

คุณมีสำนักงานตำรวจที่เมืองนิวยอร์กซิตี้

spend more money on policing

ที่ใช้จ่ายไปกับระบบเหล่านี้

than it does on housing and preservation development,

มากกว่าที่เขาใช้กับการพัฒนาบ้านเรือน หรือเชิงอนุรักษ์

community youth services, homelessness.

การบริการสาธารณะสำหรับเด็กและคนไร้บ้าน

We're going after the money.

เรากำลังทวงคืนเงินเหล่านั้น

And that's hard-core advocacy.

กับการสนับสนุนทางทนายอย่างจริงจัง

Bills drop in local legislatures

วางบิลที่สภาท้องถิ่น

to cut the funding for police,

ให้เขาตัดงบของระบบตำรวจ

to stop these programs

เพื่อหยุดสิ่งเหล่านี้

that give the federal military surplus

ที่ให้นำกองกำลังของรัฐบาลมาเสริมทัพ

to police departments,

กับสำนักงานตำรวจ

so they become, like, little mini armies,

ซึ่งก็เหมือนกับกองทัพขนาดย่อม

these don't look like police officers,

ไม่ได้ดูเหมือนเจ้าหน้าที่ตำรวจ

these look like standing armies.

แต่เหมือนกองทัพที่ยืนวางท่ารออยู่

And the enemy are communities of color.

และศัตรูก็คือชุมชนของชาวผิวสีนั่นเอง

So we need to take away their toys.

เราเลยต้องนำหุ่นเชิดของพวกเขาออกให้หมด

We need to cut their budgets.

เราตัดงบประมาณของพวกเขา

We need to shrink the police infrastructure,

เราต้องลดโครงสร้างพื้นฐานของตำรวจ

so that we can get police out of the quotidian lives of people of color

เราต้องนำตำรวจ ออกจากชีวิตประจำวันของชาวผิวสี

and communities of color.

และชุมชนของคนผิวสีให้ได้

The ubiquitousness of police enforcement

การบังคับใช้กฎหมายของตำรวจ มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง

on things that the police do not have a role,

กับสิ่งที่ตำรวจไม่ได้มีหน้าที่เลย

should not have a role to play.

พวกเขาไม่ควรแสดงหน้าที่นั้นด้วยซ้ำ

People should not lose their lives

ผู้คนเองก็ไม่ควรสละชีวิต

over whether or not a cigarette pack has a proper tax stamp,

ไปกับการที่ซองบุหรี่ มีตราภาษีอย่างถูกต้องหรือไม่

or whether a 20-dollar bill was forged or not.

หรือแบงก์ยี่สิบเป็นของปลอมหรือเปล่า

That's not worthy of spending our dollars on police.

ไม่คุ้มค่าที่จะเสียเงินพวกนั้นกับตำรวจ

Get them out of that business,

เอาพวกเขาออกจากธุรกิจ

let's focus on the most important and the most serious of crimes,

แล้วมาเน้นที่คดีอาชญากรรมอย่างจริงจังแทน

and that's it.

เท่านั้นพอ

That's it.

แค่นั้นเลย

We're going to depolice our communities.

เรากำลังจะเอาระบบตำรวจออกจากชุมชนของเรา

Shrink those budgets.

ลดงบประมาณ

We're going to reinvest those moneys in local communities,

เรากำลังจะหันไปลงทุนกับชุมชนท้องถิ่น

it will be like water on stone campaigns,

มันอาจจะเหมือนกับการรดน้ำลงบนหิน

local legislatures,

สภาท้องถิ่น

local city counsels, lab report cards,

ที่ปรึกษากฎหมายท้องถิ่น การรายงานผลทางการวิจัย

for people who talk out of both sides of their mouths and say,

สำหรับคนที่มีความเห็นต่างกันแล้วบอกว่า

"We believe in police reform,"

"เราเชื่อในการปฏิรูปตำรวจ"

and yet, they're still going to vote for 30 or 40 percent for the police?

แต่พวกเขาก็ยังโหวตให้ตำรวจ สามสิบหรือสี่สิบเปอร์เซ็นต์อยู่ดี

We're going to put that right to the public.

เรากำลังนำสิทธินั้นไปสู่สาธารณะแทน

And I think we just have to stay at it,

และผมคิดว่าเราต้องอยู่กับมัน

because I think that's the only way we can get at this in a different way.

เพราะผมคิดว่ามันเป็นทางเดียว ที่เราจะได้มันมาในทางที่ต่างออกไป

Because much of what we tried to do is just simply not working.

เพราะสิ่งที่เรากำลังทำมันง่ายแต่ไม่ได้ผล

You know, with that,

คุณรู้ไหม

I struggle with, how do you find the optimism in this moment,

มันยากมาก ที่จะมองโลกในแง่ดีได้อย่างไรในนาทีนี้

because you have to find the optimism.

เพราะคุณจำเป็นต้องมองไง

You have to find the way

คุณจำเป็นต้องหาทาง

to still think that even though on the face of so many setbacks,

ที่ยังคิดว่าถึงแม้ว่าจะพ่ายแพ้หลายครั้ง

there's been change.

แต่นั่นจะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลง

It's been too little, too slow, not enough.

มันอาจจะน้อยนิด ช้าเกินไป หรือไม่เพียงพอ

We need to kind of, rock it, boost it.

เราต้องการให้มันเกิดขึ้น ดีขึ้น

But you can't lose sight of the optimism.

แต่คุณจะเลิกมองมองโลกในแง่ดีไม่ได้

And you know, I've been thinking about who are the folks inspiring me,

และคุณก็รู้ว่า ผมคิดกำลังคิดว่า ใครสร้างแรงบันดาลใจให้ผม

and Dr. King's father, of course,

แน่นอนว่าพ่อของด็อกเตอร์คิง

and the words of Rashad and Patrisse Cullors

โลกของราฉาดและพาทริซ คูลเลอร์

and others have inspired me.

และทุกคนสร้างแรงบันดาลใจให้ผม

But I find inspiration in the words of a scholar

แต่ผมพบแรงบันดาลใจในโลกของนักวิชาการ

I really don't like bringing up, Sam Huntington,

ผมไม่ค่อยอยากพูดถึงแซม ฮันติงตัน

kind of often criticized as being a conservative, a racist.

เขามักถูกวิจารณ์ว่าเป็นคนหัวโบราณ เหยียดเชื้อชาติ

But sometimes you can find inspiration even in your enemy's words.

แต่บางครั้งคุณสามารถหาแรงบันดาลใจ ได้จากคำพูดของศัตรูนะ

And in one of his books,

และในหนังสือเล่มหนึ่งของเขา

which I pulled off the shelf I have,

ที่ผมเอาออกจากชั้นวางที่ผมมี

he writes about how America is a disappointment,

เขาเขียนเกี่ยวกับความน่าผิดหวังของอเมริกา

because it failed to live up to its aspirations.

เพราะมันล้มเหลวเรื่องการเป็นประเทศในฝัน

And he actually started talking about, America is a failure

และเขาเริ่มพูดเรื่องนี้อย่างจริงจัง ว่าอเมริกาคือความล้มเหลว

because it doesn't live up to its ideals.

เพราะไม่สามารถยึดตามภาพในอุดมคติได้

But it's not a failure, it's not a bunch of lies.

แต่มันไม่ใช่ความล้มเหลว มันไม่ใช่สิ่งจอมปลอม

It's a disappointment.

มันคือความผิดหวัง

And in the disappointment also is the fact that there's hope.

และในความผิดหวังนั้นเรายังมีหวัง

I'm paraphrasing it,

ผมแปลได้แบบนั้น

but I think we have to kind of, wrap all of that together,

แต่ผมคิดว่าเราต้องรวมมันเข้าด้วยกัน

and think about the disappointment

มาคิดเรื่องความผิดหวัง

and the hope and the resolve to do better.

และความหวัง รวมทั้งวิธีที่จะทำให้มันดีขึ้น

And we need to listen and lean in,

เราต้องรับฟังและเข้าร่วม

and I thank the TED community,

และขอขอบคุณเท็ดคอมมูนิตี้

I thank Dr. King, I thank Rashad, I thank Phil.

ขอบคุณด็อกเตอร์คิง ขอบคุณราฉาด ขอบคุณฟิล

Thank you.

ขอบคุณมากครับ

CA: Wow.

โอ้

Thank you to all four of you, that was astonishing.

ขอบคุณทั้งสี่ท่านมาก มันน่าทึ่งมาก

I guess we're bringing everyone back now

เราจะพาทุกท่านกลับมารวมกัน

to have a conversation among us,

เพื่อมาสนทนากับพวกเรา

to answer questions from our community,

และตอบคำถามจากชุมชนของเรา

I hope you're entering those questions.

ผมคิดว่าคุณกำลังส่งคำถามกันมา

So I don't know whether we can bring back our guests onto the screen at this point.

ผมไม่แน่ใจว่าเราจะสามารถนำแขกรับเชิญของเรา มาขึ้นบนจอได้หรือเปล่า

Welcome back.

ขอต้อนรับทุกคนอีกครั้งครับ

Let me start with a question to you, Dr. King,

ขอเริ่มคำถามที่ด็อกเตอร์คิงนะครับ

I was so inspired by what you said.

ผมได้รับแรงบันดาลใจ จากสิ่งที่คุณพูดมากๆ เลย

Your father, of course, also deeply understood

แน่นอนว่าพ่อของคุณเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

the anger that leads to protest.

เรื่องความโกรธที่นำไปสู่การประท้วง

I think he said that protests are the language of the unheard.

ที่เขาพูดว่าการประท้วงนั้น เป็นภาษาของคนที่ไม่เคยได้ยิน

And I'm wondering what you would say to someone right now

และผมสงสัยว่าคุณจะพูดอะไรกับพวกเขาตอนนี้

who is angered beyond measure by what's happened,

คนที่กำลังโกรธเกรี้ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น

and also sees this could be the moment, you know,

และคนที่มองดูเหตุการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้

like, someone who believes the system is so fundamentally broken,

บางคนที่เชื่อว่าระบบถูกทำลายจากเดิม

that our best choice is to tear it down,

ซึ่งตัวเลือกที่ดีที่สุดของเรา คือการฉีกมันทิ้ง

that that is actually --

แต่ในความเป็นจริง

This may be a once-in-a-generation moment to do that.

นี่อาจจะเป็นครั้งเดียวในยุค ที่จะทำแบบนั้นได้

And so to actually believe that protest, including violent protest,

และคนที่เชื่อว่าการประท้วง รวมทั้งการประท้วงโดยใช้ความรุนแรง

actually is the way right now.

เป็นหนทางเดียวในตอนนี้จริงๆ

What would you say to someone who felt that?

คุณจะพูดอะไรกับพวกเขา

BK: First, I just wanted to make just a slight correction,

อย่างแรก ฉันขอแก้ไขเล็กน้อยนะคะ

he said riots are the language of the unheard.

เขาพูดว่า การก่อจราจลคือภาษาของคนที่ไม่เคยได้ยิน

CA: I apologize, I apologize.

ผมขอโทษทีครับ ขอโทษด้วย

But that is the point even more powerfully, yeah.

แต่มันเป็นสิ่งทรงพลังมาก

BK: Yes.

ใช่ค่ะ

Protest we must,

เราต้องประท้วง

and we must continue to always protest,

และเราต้องประท้วงต่อไปอย่างที่ทำมา

to keep the issues in the awareness before people,

เพื่อให้เรื่องนี้เป็นที่ตระหนักต่อผู้คน

but you know,

แต่รู้ไหมคะ

when a person is angry, sometimes it's hard to reach them.

ว่าเมื่อคนโกรธ มันก็ยากที่จะเข้าถึงพวกเขา

I've been on that journey,

ฉันเคยอยู่ในเส้นทางนั้น

I was at a stage of my life where I was so angry, I wanted to destroy,

ฉันเคยอยู่ในจุดในชีวิตที่โกรธมากๆ ฉันต้องการทำลายทุกอย่าง

and I'm the daughter of Martin Luther King Jr.,

เพราะฉันคือลูกสาว ของมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

and grew up in a household of love and nonviolence and forgiveness,

แต่เมื่อฉันโตขึ้นในครอบครัว ที่เต็มไปด้วยความรัก สันติ และการให้อภัย

and I had to go through that journey

ฉันต้องขอผ่านเส้นทางนั้น

I was surrounded by the right kind of influences, fortunately.

โชคดีที่ฉันถูกรายล้อมด้วยอิทธิพลที่ถูกต้อง

Because that would have been a sad story.

เพราะว่าถ้าไม่ ก็อาจจะกลายเป็นเรื่องเศร้าในชีวิต

But I think it's really

ฉันคิดว่าจริงๆ แล้ว

allowing ourselves to hear the anger

นั่นก็ทำให้ตัวเราเองได้ยินความโกรธ

and allowing the space for the anger,

และยินยอมให้มีพื้นที่ของความโกรธ

but also trying to help young people

แต่ขณะเดียวกันเราก็ต้องช่วยคนรุ่นใหม่

rechannel that energy.

เปลี่ยนช่องทางของพลังงานนั้น

And we've got to start ensuring that we connect them

เราต้องสร้างความเชื่อมั่น ว่าเราเชื่อมโยงถึงพวกเขา

to some of the work that has been and now is elevated to another place.

ถึงงานที่ตอนนี้ถูกยกไปอยู่ที่อื่น

Color Of Change, the work that you're doing,

อย่างคัลเลอร์ออฟเช้นจ์ที่คุณทำงานอยู่

the ACLU, the work that they're doing,

หรือเอซีแอลยูที่คุณกำลังทำอยู่

because sometimes,

เพราะบางครั้ง

there's this disconnection that intensifies the emotion

ความไม่เชื่อมโยงกัน ยิ่งโหมอารมณ์ให้รุนแรงขึ้น

and makes you feel helpless.

ทำให้รู้สึกว่าไม่ได้รับความช่วยเหลือ

But if you can channel that anger,

แต่ถ้าคุณใช้ความโกรธเป็นสื่อ

connect it with action that is toward creating

เพื่อเชื่อมโยงกับการกระทำเพื่อสร้าง

the social and economic change,

ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจ

then it begins to build you up,

มันจะทำให้คุณ

and then you can begin to become more constructive with the anger.

เริ่มทำลายล้างทุกสิ่งด้วยความโกรธ

WPR: We have some questions that are coming in from our community,

เรามีคำถามที่ส่งมาจากชุมชนของเรา

but before we do that,

แต่ก่อนที่เราจะตอบคำถาม

you all shared such powerful, meaningful statements right now,

ทุกท่านได้แสดงคำพูด ที่ทรงพลังและมีความหมายมาก

and many of you touched on the fact that this is not the first time

และพวกคุณหลายๆ คนก็สัมผัสได้ ถึงความจริงที่ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก

that we're experiencing this.

ที่เรากำลังประสบสิ่งนี้

The murder of George Floyd, Ahmaud Arbery, Breonna Taylor,

การฆาตกรรมจอร์จ ฟลอยด์ อะหมัด อาเบอรี หรือบรีออน่า เทเลอร์

this is one of --

นี่คือหนึ่งใน

these are three of many, many instances just like this,

สามจากกรณีตัวอย่างที่เจอแบบนี้

and I'd love to hear you all address

และฉันดีใจมากที่พวกคุณพูดถึงพวกเขา

was has, sort of, brought us to this boiling point,

มันทำให้เรามาถึงจุดเดือด

what has contributed to this moment

ถึงสิ่งที่เรากำลังอุทิศในขณะนี้

where we're now experiencing things, Anthony, as you said,

ที่เรากำลังประสบ อย่างที่แอนโทนีบอก

that feels so much worse than other moments?

ว่าเรารู้สึกแย่กว่านี้ ในเหตุการณ์อีกนับร้อย

And that's it,

เท่านั้นเอง

anyone who feels comfortable to take that question.

ถ้าท่านใดอยากตอบคำถาม เชิญได้เลยนะคะ

AR: Rashad, I want to hear you.

ราฉาด ผมอยากได้ยินความคิดของคุณ

BK: I wanted to say something.

ฉันขอพูดอะไรหน่อยนะคะ

I think we've always been at that moment.

ฉันคิดว่าพวกอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้กันมาตลอด

But this moment is different, because of the void in leadership.

แต่สิ่งที่ต่างออกไปในวินาทีนี้ คือเราไม่มีผู้นำ

There's no real moral voice in our country,

ไม่มีเสียงที่มีคุณธรรมจริงๆ ในประเทศของเรา

and the person who sits in the office of the presidency

และคนที่นั่งอยู่ในทำเนียบรัฐบาล

is not, you know, leading in the right way.

ก็ไม่นำเราไปสู่หนทางที่ถูก

And has kind of --

และมี --

no, not kind of, has given license to certain things.

และไม่ให้เสรีภาพในสิ่งที่ควร

And so now it's,

ดังนั้นตอนนี้

you know, he's lit the fires.

เขาได้จุดไฟแล้ว

WPR: Yeah.

ใช่

RR: The thing I'll add ...

สิ่งที่ผมจะเสริมก็คือ

The thing I'll add here is, you know, a couple of things.

สิ่งที่ผมอยากเสริมคืออีกสองสามเรื่อง

For the last couple of months,

สำหรับสองสามเดือนที่ผ่านมา

we have been both seeing and experiencing

เราทั้งเห็นและประสบ

all of the ways that this country's decisions of underinvestment,

กับวิถีทางที่ประเทศนี้ตัดสินใจ ที่จะลงทุนน้อยเกินไป

of targeting black communities,

สำหรับชาวผิวสี

has been killing black people through COVID.

พวกเขาถูกสังหารไปในช่วงสถานการณ์โควิด

And while we've been in our homes,

และขณะที่เรากำลังอยู่ในบ้านของเรา

we have also been watching how the media has blamed us

เรากำลังดูว่าสื่อโทษเราอย่างไรบ้าง

as we have been the essential workers in so many places

ในฐานะที่เราเป็นแรงงานสำคัญในหลายๆ ที่

and trying to ensure that this country keeps going.

และพยายามที่จะแน่ใจว่า ประเทศเรากำลังเดินไปข้างหน้า

We've watched white men with guns show up to capitols

เราเฝ้ามองคนขาวถือปืนให้เห็นที่ศาลากลาง

demanding, basically, black and brown people go back to work.

สั่งให้คนผิวสีกลับไปทำงาน

And then we see this eight-minute video

และดูวิดีโอแปดนาทีนี้

with a police officer,

กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

with his knee on someone's neck,

โดยที่เขายืนคุมเราอยู่

after seeing that video of Ahmaud Arbery

หลังจากดูวิดีโอของอะหมัด อาเบอรี

and hearing the story of Breonna Taylor,

ได้ยินเรื่องราวของบรีออนา เทเลอร์

and we see him looking in the camera,

และมองเขาดูในกล้อง

basically knowing that America was not going to punish him.

โดยที่รู้ว่าอเมริกาจะไม่ลงโทษเขา

And what I think it is is that it's just enough is enough,

และสิ่งที่ผมคิดคือพอแล้ว

that people didn't feel that they had a channel for that outrage,

คนไม่รู้สึกว่าจะแสดงความโกรธทางไหนได้

and because people had been inside,

เพราะผู้คนหลบอยู่ข้างใน

and because people had been experiencing

และเพราะผู้คนกำลังประสบ

all the ways in which the structures had also been colluding to kill us,

กับทุกทางที่ระบบร่วมกันฆ่าเรา

that what we're seeing is alignment of all of those things,

นั่นคือสิ่งที่เรากำลังมองดู คือทุกอย่างร่วมมือกัน

where people are making demands

ที่ซึ่งผู้คนกำลังเรียกร้อง

that are much bigger and much bolder than before.

มากขึ้นและชัดเจนขึ้นกว่าก่อนหน้านี้

And we recognize that while we don't have leadership at the federal level,

เรารู้ว่าขณะนั้นเราไม่มีหัวหน้าในระดับรัฐ

we also have to recognize that no political party

เราต้องตระหนักว่าไม่มีพรรคการเมือง

can say that they have been 100 percent,

ที่สามารถพูดว่าเขามั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์

neither political party can say

ไม่มีพรรคการเมืองไหนพูดได้ว่า

they've been 100 percent on the right side of all these issues.

เขามั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าอยู่ข้างที่ถูก สำหรับปัญหาทั้งหมดนี้

And so people are mobilizing,

แล้วผู้คนก็กำลังเคลื่อนไหว

they are fighting back like never before,

พวกเขาสู้กลับอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

and in some ways,

และบางครั้ง

people are unwilling to accept answers like, "Just go vote,"

ผู้คนก็ไม่เต็มใจจะรับคำตอบ อย่าง "แค่ไปเลือกตั้งเอง"

or, "Just participate in the process,"

"แค่ไปร่วมในกระบวนการนี้เอง"

because we recognize that black people have been voting,

เพราะเราตระหนักได้ว่าคนผิวสีกำลังเลือก

black people have been part of voting,

คนผิวสีเป็นส่วนหนึ่งของการเลือกตั้ง

and part of ensuring that.

และจะทำให้มันเกิดขึ้น

And so that I think is why this moment feels so much different,

ดังนั้นทำไมตอนนี้ถึงต่างจากที่ผ่านมา

combined with, for the last seven years,

บวกกับเจ็ดปีที่ผ่านมา

since Trayvon, we have seen the growth of a new movement

ตั้งแต่เรื่องของเทรวอน เราเห็นการเคลื่อนไหวใหม่ๆ ขึ้นมา

of activists and leaders all around the country,

เป็นการเคลื่อนไหว ของนักเคลื่อนไหวและผู้นำทั่วโลก

who are also in a very different place

ซึ่งเป็นคนที่มาจากต่างที่

to be able to move the needle on so much of what's possible.

ที่จะมาพลิกสถานการณ์ที่เป็นไปได้ จากหน้ามือเป็นหลังมือ

CA: We have a question here from Genesis Be.

เรามีคำถามครับ จากเจเนซิส บี

If we can get that up here.

ขอเสนอประเด็นขึ้นตรงนี้

"Here in Mississippi, the police is synonymous with the Klan, historically.

"ที่มิสซิสซิปปี้ ถ้าคำว่าตำรวจกับคนเหยียดสีผิวใช้แทนกันได้

How do we purge law enforcement of white supremacists?"

แล้วเราจะล้างกฎหมาย ที่ให้คนขาวมีสิทธิเหนือกว่าได้อย่างไร"

PAG: So I guess that's partially to me,

ผมคิดว่ามีบางส่วนที่เกี่ยวกับผม

being the psychologist of bias.

การเป็นนักจิตวิทยาด้านอคติ

I'll say that just yesterday

ผมอยากจะบอกว่าเมื่อวาน

we had an officer in Denver who posted on social media

เรามีพนักงานที่เดนเวอร์ โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย

himself and two other officers

ด้วยตัวเขาเองและพนักงานคนอื่นอีกสองคน

saying, "Let's go start a riot."

ว่า "ไปก่อจราจลกันเถอะ"

He was fired that day.

เขาถูกไล่ออกวันนั้นเลย

I worry about all the officers

ผมกังวลเรื่องพนักงานทั้งหมด

that the FBI has now, for almost half a decade,

ที่เอฟบีไอมีอยู่ตอนนี้ มาเกือบครึ่งทศวรรษแล้ว

been warning us,

พวกเขากำลังเตือนเรา

law enforcement and unions being infiltrated by white supremacists.

เรื่องการบังคับใช้กฎหมายและสมาคม โดยคนที่ให้สิทธิคนขาวเหนือกว่า

And all the officers that have social media accounts,

และพนักงานทั้งหมดที่มีบัญชีโซเชียลมีเดีย

but they're private.

แต่เขาเปิดเป็นส่วนตัว

You know, the Invisible Institute has put some things forward.

สถาบันที่คุณมองไม่เห็น ได้ทำให้เรื่องนี้ไปไกลกว่าเดิม

We're not talking seriously about the domestic terrorism threat

เราไม่ได้จริงจังเรื่องการถูกคุกคาม จากการก่อการร้ายภายในประเทศ

that white supremacy represents.

ที่แสดงถึงการให้สิทธิคนขาวอยู่เหนือกว่า

So the first thing that we've got to do

ดังนั้นสิ่งแรกที่เราต้องทำ

is we've got to take it seriously.

คือทำให้เรื่องนี้จริงจังขึ้นมา

We have to actually say out loud,

ต้องป่าวประกาศออกไป

and I can't believe that on a day like today,

และผมไม่อยากเชื่อว่าวันอย่างวันนี้

or a week like this week, I have to say out loud,

หรืออย่างอาทิตย์นี้ ผมได้พูดมันออกมาดังๆ

white supremacy is alive and well

การให้สิทธิคนขาวอยู่เหนือกว่ายังมีอยู่

and a driving force of American politics.

และยังบังคับใช้ในการเมืองของชาวอเมริกัน

This shouldn't be controversial.

นั่นไม่ควรเป็นประเด็นที่ถูกโต้เถียง

I shouldn't be looking forward to getting hate mail in my inbox for it,

ผมไม่ควรรับเมลที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ในกล่องข้อความของผมด้วยซ้ำ

but that's the reality.

แต่นั่นคือความเป็นจริง

So the first part of solving a problem

ดังนั้นส่วนแรกของการแก้ไขปัญหา

is acknowledging that it exists.

คือการยอมรับว่ามันยังคงมีอยู่

But the second thing is we need to arm municipalities,

แต่สิ่งต่อมาคือเราต้องคุมเชิงเขตเทศบาล

that's law enforcement, but even more so communities,

การบังคับใช้กฎหมาย ยิ่งกับชุมชนของเราด้วย

with the ability to take action when someone violates their values.

ในความสามารถในการต่อสู้ เมื่อบางคนละเมิดสิทธิ

Right now, I think about the case in Philadelphia

ตอนนี้ ผมคิดถึงคดีในฟิลาเดลเฟีย

where Charles Ramsey, when he was a commissioner there,

กับชาร์ลส์ แรมซีย์ ในขณะที่เขาเป็นหัวหน้าที่นั่น

fired six officers, right.

เขาไล่พนักงานหกคนออก

Concerns about racial bias and concerns about police brutality,

เพราะกังวลเรื่องอคติต่อเชื้อชาติ และความรุนแรงของตำรวจ

and those six officers were back on the same job

แต่พนักงานหกคนนั้น ถูกเรียกกลับมาทำในตำแหน่งเดิม

inside of three months.

ภายในสามเดือน

We now have a law enforcement system

พวกเราตอนนี้มีระบบการบังคับใช้กฎหมาย

that says you can lose your job in one jurisdiction,

ที่คุณบอกว่าคุณเสียงานเพราะอำนาจศาล

and get the same job as law enforcement

และได้งานเดิมในฐานะผู้บังคับใช้กฎหมาย

in another jurisdiction.

โดยอำนาจศาล

And without the national registry

โดยไม่ได้ลงทะเบียนในระดับประเทศ

and the capacity for law enforcement to make different decisions,

และความสามารถในการบังคับใช้กฎหมาย ในการเลือกตัวเลือกอื่น

we're going to have this exact problem,

เรากำลังพบปัญหาเดิมกับที่ผ่านมา

not just in Mississippi,

แค่ไม่ใช่ที่มิซซิสซิปปี

but in Minneapolis, and Louisville and New York and LA.

แต่ที่มินนีแอโพลิส หลุยเซียน่า นิวยอร์ก และที่แอลเอแทน

CA: Phil, how much of the problem

ฟิล มีปัญหามากแค่ไหน

stems from the fact that police unions have a huge amount of power

ที่มาจากสมาคมตำรวจผู้มีอำนาจ

to protect and sometimes reinstate so called bad apple officers?

ในการปกป้องและคืนสิทธิได้ หรือที่มักถูกเรียกว่าตำรวจเลว

PAG: Yeah, I'm getting this question a lot,

ผมได้คำถามมาเยอะมาก

and police unions are one of the most labor forces

และองค์กรตำรวจคือหนึ่งในผู้มีอำนาจ ในการบังคับใช้แรงงาน

of the United States,

ของสหรัฐ

and are unique within the labor movement, right?

และมีความเคลื่อนไหวทางแรงงาน ที่ไม่เหมือนใครใช่ไหม

So it's police unions and teachers' unions are the two largest

ดังนั้นสมาคมตำรวจและครูเป็นสององค์กรใหญ่

and could not be two different groups of folks.

และไม่สามารถเป็นสองกลุ่มคนที่ผิดแผกไปได้

When I talk to union leadership,

ตอนที่ผมคุยกับหัวหน้าสมาคม

that's the leadership what wants to talk to Dr. Blackenstein, right,

ที่อยากพูดคุยกับด็อกเตอร์แบล็คเค่นสแตนด์

when I talk to union leadership, what they say is

ตอนที่ผมคุยกับหัวหน้าสมาคม สิ่งที่เขาพูดคือ

no one hates a bad officer more than a good officer.

ไม่มีใครเกลียดเจ้าหน้าที่ที่ไม่ดี มากกว่าเจ้าหน้าที่ที่ดีหรอก

But the union contracts, the new negotiations,

แต่สมาคมกลับคิดต่างกับข้อเสนอใหม่

don't look like that's true.

ซึ่งดูเหมือนมันจะไม่มีทางเป็นจริงได้

What they look like is anybody gets in trouble,

สิ่งที่พวกเขาเป็นเหมือนทุกๆ คนก็มีปัญหา

and the union's only job is to make sure whatever officer is in trouble,

และงานเดียวของสมาคมคือรับรองว่า ไม่ว่าปัญหาอะไรที่พนักงานประสบอยู่

gets to maintain their job.

พวกเขาต้องทำหน้าที่ของเขาต่อไป

The perverse incentive here

การรักษาสิ่งกระตุ้นเตือนนี้

is that when people run for union leadership,

คือเมื่อผู้คนวิ่งไปหาหัวหน้าสมาคม

no one can run saying,

ไม่มีใครวิ่งไปพูดไปได้ว่า

"These people shouldn't be in the union."

"คนพวกนี้ไม่ควรอยู่ในสมาคม"

It's very hard to do that.

มันยากมากที่จะทำแบบนั้น

What you can run on is say,

สิ่งที่คุณวิ่งไปพูดไปได้คือ

"If this person didn't protect you enough,

"ถ้าคนนี้ไม่ได้ปกป้องคุณ"

I'll protect you even more.

"ฉันจะปกป้องคุณเอง"

The bigots? I'll protect even them."

"แม้แต่กับคนที่อคติกับคุณ ฉันก็จะปกป้องคุณเอง"

So we have this perverse incentive

เราต้องรักษาสิ่งกระตุ้นเตือนนี้ไว้

where union leadership ends up not really representing

โดยหัวหน้าสมาคมเองก็ต้องยุติการแสดง

the values even of the rest of the union members.

ค่านิยมแบบนั้นกับสมาชิกสมาคมที่เหลือ

But they have massive, outsized negotiating power.

แต่พวกเขามีกันเยอะมาก ทำให้มีอำนาจในการต่อรองมาก

So yes, engaging with

ดังนั้นใช่ การเข้าร่วม

and appropriate rightsizing of labor protections,

และเปลี่ยนการคุ้มครองแรงงาน ให้กลับไปอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม

for folks whose jobs are difficult,

สำหรับคนที่ทำงานได้ยาก

but who should not be protected from the basic values of human rights,

และไม่ควรถูกปกป้อง จากค่านิยมพื้นฐานในสิทธิมนุษยชน

human dignity and public safety.

ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และความปลอดภัยสาธารณะ

It's got to be part of the process.

มันควรจะเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการ

I mean, when unions are negotiating a two-year ban on keeping of records,

ผมหมายความว่า เมื่อสมาคมต่อรอง ให้ยกเลิกการเก็บบันทึกสองปี

so that there's no ability even to trace

เขาก็ไม่มีสิทธิที่จะติดตาม

what's happening in the state of California,

ว่าเกิดอะไรขึ้นในแคลิฟอร์เนียร์

historically in terms of police misconduct,

ในแง่การประพฤติผิดของตำรวจ

that's not in the interest of public safety,

มันไม่ใช่สิ่งควรสนใจ ในแง่ความปลอดภัยสาธารณะ

public legitimacy, or our democracy.

สิ่งที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือความเป็นประชาธิปไตย

AR: Yeah, the thing I would add, Chris,

ใช่ สิ่งที่ผมจะเพิ่มนะคริส

is that I think the labor union piece

คือผมคิดว่างานของสมาคมแรงงาน

is a critically important one to think through.

สำคัญมากที่จะคิดต่อ

Because I think, like Phil said,

เพราะผมคิดเหมือนที่ฟิลพูด

they are a key part of the puzzle that we have to solve for.

พวกเขาคือกุญแจสำคัญของปริศนาที่เราต้องไข

And you know, it's frustrating when you look at a place in Minneapolis,

และอย่างที่คุณรู้ มันน่าผิดหวัง เวลาที่คุณมองไปยังสถานที่ในมินเนโพลิส

and Phil knows better than I,

และฟิลคงรู้ดีกว่าผม

but when mayor Jacob Frey, the one who's on TV all the time,

แต่เมื่อนายกเทศมนตรี เจคอบ เฟรย์ ที่ปรากฏบนทีวีตลอดเวลา

saying many of the right things that you want an elected official to say

พูดว่าสิ่งที่คุณต้องการ ต้องให้เจ้าหน้าที่เลือกตั้งออกมาพูด

at times like this,

ในเวลาแบบนี้

when he banned his police department from attending the "warrior training"

เขาสั่งห้ามสำนักงานตำรวจ จากการเข้าร่วมอบรมการรบ

that was being offered,

ที่ถูกเสนอ

it was the Minneapolis Police Federation,

ที่สหพันธรัฐตำรวจแห่งมินิโพลิส

local union that defied him

สมาคมท้องถิ่นที่เป็นปฏิปักษ์กับเขา

and sent their police to the training.

ส่งตำรวจของเขาไปอบรบ

And so we need to really be clear that we need to have the police forces

ดังนั้นเราต้องชัดเจนจริงๆ ว่าเรามีอำนาจตำรวจ

under civilian control.

ภายใต้การควบคุมของปวงชน

I know this sounds so elementary,

ผมรู้ว่ามันฟังดูเหมือนเด็กประถม

I feel like I'm talking about a Latin American,

ผมรู้สึกเหมือนเรากำลังพูดถึงละตินอเมริกา

kind of, totalitarian context,

ในบริบทที่ค่อนข้างดูเหมือนเผด็จการ

but we need to exert civilian control of our police

แต่เราต้องใช้อำนาจการควบคุม ของปวงชนกับตำรวจ

in a way that we have yet not been able to think through,

ในทางที่เรายังไม่ได้คิดถึง

and a key part of that is the labor unions of the police.

และกุญแจสำคัญคือสมาคมแรงงานของตำรวจ

And there are moments when you can find common ground.

มันมีนาทีที่คุณสามารถหาฐานร่วม

When we brought one of our COVID-related lawsuits

เมื่อเรานำหนึ่งในคดีที่เกี่ยวกับโควิด

to deal with the outbreak of the pandemic in a Maryland jail,

มาต่อรองกับการระบาดของโรค ในคุกที่แมรี่แลนด์

we worked really hard,

เราทำงานกันหนักมาก

I worked the phones with the head of police unions.

ผมรับมือกับสายของหัวหน้าสมาคมตำรวจ

We got one of the local unions

เราได้สมาคมท้องถิ่นแห่งหนึ่ง

to serve as plaintiff in our lawsuit.

ในฐานะโจทก์ในคดีของเรา

Because we understood that the incarcerated folks

เพราะเราเข้าใจว่าการขังประชาชน

who were being denied access to masks, social distancing and the conditions

ที่ปฏิเสธการใส่หน้ากาก รักษาระยะห่างทางสังคมและอื่นๆ

and lack of testing, and lack of PP,

ขาดการตรวจสอบ ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันตัวเอง

that the people who were also going to be in harm's way

คนที่กำลังจะถูกทำร้าย

were going to be the guards as well.

เหล่านี้กำลังจะกลายเป็นเครื่องป้องกัน

And they were going to be the vectors,

และพวกเขากำลังกลายเป็นแนวทาง

communicating the disease out into the community.

ในการสื่อสารเรื่องโรคระบาดไปสู่ชุมชน

So if you can find ways of bringing that relationship.

ดังนั้นถ้าคุณสามารถหาทาง ที่จะทำให้ความเชื่อมโยงกันนั้นกลับมา

But make no mistake, when you go after their budgets,

ไม่ทำความผิด เมื่อคุณไล่ตามงบประมาณของคุณ

and you start taking away kind of, their munitions,

และคุณเริ่มเอาอาวุธออกมา

and their seat at the budgeting table,

วางบนโต๊ะบประมาณ

oh, are you going to have a battle on your hands, right?

นั่นเท่ากับคุณกำลังสร้างสงคราม ด้วยมือคุณเองถูกต้องไหม

And we have to think about also as we shrink the budgets for police,

และเราต้องคิดว่า เมื่อเราลดงบประมาณของตำรวจแล้ว

how do we --

เราจะทำอย่างไร

we deploy people in the police departments

เราจ้างคนในสำนักงานตำรวจ

to other meaningful jobs, right?

ให้ไปทำงานอื่นที่มีความหมายมากกว่าไหม

Because you can't just throw them out into the street, and say,

เพราะคุณไม่สามารถทิ้งขว้างพวกเขา ออกไปที่ถนน แล้วพูดว่า

"You're on your own, you're homeless, good luck to you."

"พึ่งตัวเองนะ คุณกลายเป็นคนไร้บ้านแล้ว โชคดี"

That's not a way to deal with redemption.

นั่นไม่ใช่วิธีที่เราจะจัดการ กับการทวงคืนแบบนั้น

So we have to really think about all these pieces

ดังนั้นเราต้องคิดเรื่องพวกนี้ทั้งหมด

in a much more cohesive way.

ในแง่ที่เชื่อมโยงกัน

WPR: We have another question here from the audience.

เรามีอีกคำถามหนึ่งจากผู้ชม

From Paul Rucker:

จากพอล รัคเกอร์

"The end of summer of 1919

"ช่วงสิ้นสุดฤดูร้อนปี 1919

was followed by the Tulsa Race Massacre,

เราถูกไล่ตามโดยกลุ่มสังหารหมู่ทัลซา

the Johnson-Reed Anti-Immigration Act of 1924,

และมีพระราชบัญญัติจอห์นสันรีด ป้องกันการอพยพปี 1924

and also the rise of the KKK.

และกลุ่มคลู คลักซ์ แคลนถือกำเนิดขึ้น

Is there a possibility

มีความเป็นไปได้แค่ไหน

that white supremacy will get stronger if we don't seize this opportunity?"

ที่การให้สิทธิคนขาวเหนือกว่าจะมีมากขึ้น ถ้าเราไม่เพิ่มโอกาสให้มันเกิดขึ้น"

Rashad, I think this might be something

ราฉาด ฉันคิดว่าคุณอาจให้คำตอบได้

that would be great to hear your perspective on,

ฉันขอฟังความคิดเห็นของคุณสักหน่อย

working so deeply in activism.

ในฐานะที่คุณเป็นนักเคลื่อนไหว

RR: I'm having a little trouble hearing.

ผมไม่ค่อยได้ยินเลย

WPR: Oh, I'm so sorry.

โอ้ ฉันขอโทษจริงๆ

RR: No, it's OK.

ไม่เป็นไรครับ

CA: Can you read the question on the screen, Rashad?

คงต้องขอให้คุณอ่านคำถามบนจอแล้ว

RR: Oh, I heard that, I heard you.

โอ้ ผมได้ยินแล้วๆ

WPR: Yes, I think it might just be my mic is having some issues here.

ฉันคิดว่าไมค์อาจมีปัญหานิดหน่อย

"Is there a possibility that white supremacy will get stronger

"มีความเป็นไปได้แค่ไหน ที่การให้สิทธิคนขาวเหนือกว่าจะมีมากขึ้น

if we don't seize this opportunity."

ถ้าเราไม่เพิ่มโอกาสให้มันเกิดขึ้น"

Yes, absolutely yes.

ใช่ แน่นอนว่าใช่

You know, to be clear, right,

ให้ชัดเจนขึ้นนะ

if we don't have the right diagnosis of white supremacy,

ถ้าเราไม่วินิจฉัย การให้สิทธิคนขาวเหนือกว่าให้ถูกต้อง

if we think of white supremacy as just hoods,

ถ้าเราคิดว่าการให้สิทธิคนขาวเหนือกว่า เป็นแค่ฮู้ดคลุมหัว

if we think of white supremacy as just folks

ถ้าเราคิดว่าการให้สิทธิคนขาวเหนือกว่า เป็นแค่เรื่องของคนอื่น

who are operating, you know,

ที่ทำให้มันเกิดขึ้น

with, you know --

คุณรู้ไหมว่า

in some of these underground networks that have grown,

เครือข่ายใต้ดินเรื่องนี้มันโตขึ้นได้

if we're just thinking about white supremacy and white nationalism

จากการที่เราแค่คิดว่า การให้สิทธิคนขาวเหนือกว่าและลัทธินิยมคนขาว

as people who marched with tiki torches in Charlottesville,

เหมือนการที่ประชาชนลงไปเดินขบวน ถือคบเพลิงในชาร์ล็อตวิลล์

then we will really mistake all the ways

จากนั้นเราก็ทำพลาดมาตลอด

in which our systems and structures have white supremacy embedded,

ระบบของเราและโครงสร้าง ปลูกฝังความคิดให้คนขาวอยู่เหนือกว่า

and allow for something like a Tulsa Race Massacre to happen,

และยอมให้การสังหารหมู่ทัลซ่าเกิดขึ้น

something like anti-immigration to happen,

หรือการต่อต้านการอพยพเข้าเมืองเกิดขึ้น

but on a day-to-day basis

แต่ทุกวี่ทุกวันนี้

allow for the targeting of black communities

ทุกอย่างยอมให้ชุมชนคนผิวสีกลายเป็นเป้า

through predatory practices by banks.

ผ่านการกระทำที่ขูดเลือดขูดเนื้อของธนาคาร

The targeting of black communities through predatory practices like bail.

พวกเขาเป็นเป้าของการกระทำที่โหดร้าย เหมือนเหยื่อบนเบ็ด

A whole set of systems that can be produced day in and day out.

จากโครงสร้างระบบทั้งหมด ที่ทำให้เกิดวันนี้แล้วยกเลิกพรุ่งนี้ได้

We live in a country where the rules

เราอยู่ในประเทศที่กฎหมาย

are far too often designed in ways that create a caste system,

ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างระบบชนชั้น

that create a different standard for some over others,

สร้างมาตรฐานที่ต่างกันสำหรับคนบางกลุ่ม

and so when I talked about the inflection point, right,

ดังนั้นเมื่อเราพูดถึงจุดเปลี่ยน

of this moment where something could really go forward

ในนาทีนี้ที่สามารถไปได้ไกลมากๆ

and something could turn backwards,

หรือถอยกลับไปมากๆ ได้เช่นกัน

we are seeing this right now with this current president.

เรากำลังมองดูมันผ่านประธานาธิบดีคนปัจจุบัน

And as we look at what could be happening with the next election,

และในฐานะที่เราเห็นได้ ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับการเลือกตั้งครั้งหน้า

we have to be very, very clear

เราต้องเข้าใจอย่างชัดเจนนะ

that Donald Trump doesn't just operate on his own.

ว่าโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้ดำเนินการด้วยตัวคนเดียว

He's enabled by big corporations who benefit from him being in office,

เขามีความร่วมมือมหาศาล จากคนที่ได้ประโยชน์จากเขา

and so continue to turn a blind eye to all the things that he does.

และอำพรางสิ่งที่เขาทำทั้งหมดต่อไป

They may post "Black Lives Matter,"

พวกเขามักโพสต์ว่า "แบล็คไลฟ์แมทเทอร์"

but they show up to the White House and engage with Donald Trump.

แต่พวกเขาไปปรากฏตัวที่ทำเนียบขาว แล้วร่วมมือกับโดนัลด์ ทรัมป์

And then we have a whole set of politicians

จากนั้นเราก็จะมีนักการเมืองกลุ่มหนึ่ง

that may sometimes say that he said something that was wrong,

ที่บางครั้งก็พูดว่าเขาพูดบางอย่างผิดไป

but then allow for --

แล้วก็อนุญาตให้ --

but support his platform in other ways.

แล้วก็สนับสนุนเขาในรูปแบบอื่นๆ

You know, true co-conspiracy

คุณรู้ไหมว่าทฤษฎีร่วมกันสมคบคิด

in the effort to dismantle white supremacy and white nationalism

ที่พยายามรื้อความคิดการให้สิทธิคนขาว หรือลิทธินิยมคนขาวออกไป

is not a thing that people can do on vacation.

ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ภายในไม่กี่วัน

It is a 365-day project

มันเป็นโครงการที่ต้องใช้เวลาเป็นปี

of us constantly working to dismantle

เราต้องรื้อถอนมันอย่างต่อเนื่อง

all of the structures that have been put in harm's way.

รื้อถอนโครงสร้างทั้งหมดที่จะคุกคามเรา

The final thing I will just add,

และสิ่งสุดท้ายที่ผมจะเพิ่มคือ

because someone mentioned about police unions,

เพราะมีคนพูดถึงสมาคมตำรวจ

and I want to just add that one of the problems with police unions,

ผมอยากจะเสริมว่าหนึ่งในปัญหาคือสมาคมตำรวจ

and many of us have been in this position, I think,

และพวกเราหลายคนอยู่ในตำแหน่งนั้น ผมคิดว่า

is that I have shown up to the table with police unions on many occasions.

ผมเองก็ไปพบสมาคมตำรวจ ในหลายๆ เหตุการณ์เหมือนกัน

I remember going to the White House during the last administration

ผมจำได้ว่าตอนนั้นกำลังไปทำเนียบขาว ระหว่างการบริหารงานช่วงสุดท้าย

and being around a table as we were talking

บนโต๊ะนั้นเรากำลังพูดกัน

about policing and police reform.

ถึงตำรวจและการปฏิรูปตำรวจ

And having members of the Fraternal Order of Police leadership

ส่วนแกนนำสมาชิกองค์กรสนับสนุนตำรวจ

say things like,

พูดว่า

"All of this talk of racial profiling is new to us."

"เรื่องการเหมารวมการเหยียดเชื้อชาติ ใหม่สำหรับเรามาก"

It is one thing for folks to not agree with you

มันเป็นสิ่งที่ประชาชนไม่เห็นด้วยกันคุณ

on the policy reforms necessary.

ว่าการปฏิรูปตำรวจมันจำเป็น

It is another thing for people to say that our demands are too aspirational.

คนมักบอกว่าการเรียกร้องของเรา มันทะเยอทะยานมากเกินไป

It's another thing to be gaslit

หรือมันก็แค่การจัดฉาก

and told the problem doesn't actually exist at all.

แล้วบอกว่าปัญหาไม่ได้มีอยู่จริงเลย

And that is what we are dealing with,

นั่นคือสิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่

and so we have to actually change

ดังนั้นเราต้องเปลี่ยนกันอย่างจริงจัง

the way that people see these institutions.

ในการให้คนมองสถาบันเหล่านี้

Politicians who say that they are on the side of justice and reform,

นักการเมืองที่พูดว่า เขาอยู่ข้างความยุติธรรมและการปฏิรูป

can no longer take money from police-only unions

ไม่สามารถที่นำเงินจากสมาคมตำรวจอย่างเดียว

and Fraternal Order of Police.

และจากองค์กรสนับสนุนตำรวจได้อีก

We actually have to create a new standard,

เราต้องสร้างมาตรฐานใหม่อย่างจริงจัง

a new litmus test of what does it mean to actually be with us.

การทดลองทำแบบนี้ จะออกมาบวกหรือลบ ขึ้นอยู่กับเรา

You can't just sing our songs,

คุณแค่ร้องเพลงไม่ได้

use our hashtags and march in our marches,

แค่ใช้แฮชแท็กหรือเดินขบวนไม่ได้

if you are on the other end

ถ้าคุณอยากได้ตอนจบแบบที่

of supporting the structures that put us in harm's way,

ยังคงสนับสนุนโครงสร้างที่คุกคามเราอยู่

that literally kill us.

แบบนั้นก็เหมือนฆ่าเราชัดๆ

And this is the opportunity for white allies

และนี่คือโอกาสที่เหล่าพันธมิตรคนขาว

to actually stand up in new ways.

จะต้องมีจุดยืนใหม่

To be the type of ally,

เป็นแนวร่วม

to do the type of allyship and the type of work

ที่ลงมืออย่างพันธมิตรและทำงานอย่างเป็นมิตร

that truly dismantles structures,

ที่จะช่วยกันรื้อโครงสร้างระบบ

not just provides charity.

ไม่ใช่แค่ช่วยเราเรี่ยรายเงิน

PAG: And I've got to add to that --

ผมอยากเสริมครับว่า

so, Paul, thank you for the question,

พอล ขอบคุณมากสำหรับคำถาม

but we're in a moment where people

แต่วินาทีนี้ที่ซึ่งผู้คน

are looking at what's happening on the street,

กำลังมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นบนท้องถนน

as if a week and a half ago

ที่ผ่านราวกับเพียงอาทิตย์ หรือครึ่งชั่วโมงเดียว

we weren't in a midst of a global pandemic

โรคที่ระบาดไปทั่วโลก

as the greatest news story, the biggest new story going on.

ไม่ใช่ข่าวดังที่สุด แต่เป็นข่าวที่ใหญ่ที่สุดกำลังเกิดขึ้น

One of the things I'm most worried about,

สิ่งหนึ่งที่เรากังวล

and have been worried about since the beginning,

และกังวลมาตั้งแต่แรกเริ่ม

what I've been talking to our chiefs about, is say,

สิ่งที่ผมพูดกับหัวหน้าว่า

you must be out of the social distancing policing game.

คุณต้องออกจากเล่นเกมของตำรวจ เรื่องการมีระยะห่างทางสังคม

You can't be the ones doing that, and the reason is this:

คุณไม่สามารถทำสิ่งนั้นได้ด้วยเหตุผลที่ว่า

We're in a moment where creating scapegoats

เรากำลังอยู่ในช่วงที่เขากำลังหาแพะรับบาป

and enemies and others

ศัตรูเรา และคนอื่นๆ

is incredibly politically advantageous for at least one side.

จะได้ประโยชน์ทางการเมืองอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างน้อยก็ฝั่งหนึ่ง

And there is deliberate efforts to do exactly that.

และมีความพยายามที่จะทำแบบนั้นอย่างจงใจ

And we've seen that black communities

เราเห็นว่าชุมชนชาวผิวสี

are two and three and four times more likely to contract this virus,

มีแนวโน้มสอง สาม หรือสี่เท่า ที่จะติดเชื้อโควิดได้

which feels like the manifestation of racial discrimination,

ปรากฏเหมือนเป็นการเหยียดทางเชื้อชาติ

because it is.

เพราะความจริงมันเป็นแบบนั้น

But very soon,

แต่ไม่ช้า

that's going to look like black people made bad choices

ดูเหมือนว่าคนผิวสีจะเลือกผิดทาง

and they need to stay away from us.

และเขาต้องอยู่ให้ห่างจากเรา

And when that happens,

เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น

that's when law enforcements get used to regulate where black movement can be.

การบังคับใช้กฎหมายจะถูกบังคับใช้ กับการเคลื่อนไหวของคนผิวสี

We used to call it sundown towns,

เราเรียกมันว่าเคอร์ฟิล

I don't know what we're going to call it when it's around COVID.

ผมไม่รู้ว่าเราจะเรียกมันว่าอะไร ในช่วงโควิดนี้

But it's coming.

แต่มันกำลังมา

I'm already seeing that on communities like Nextdoor,

ผมเห็นมันกับชุมชนอย่างเน็กซ์ดอร์

and on Facebook groups.

และในกลุ่มเฟสบุ๊ก

People who don't think of themselves as white supremacists

คนไม่คิดว่าพวกเขาเองเป็นคนที่นิยมคนขาว

but just want the disease away,

เพียงแต่อยากให้โรคมันหายไป

and the disease has a black and brown face.

และโรคนั้นก็มีหน้าตาเหมือนคนผิวดำหรือผิวสี

So we're not only dealing with a moment of generational tension,

ดังนั้นเราไม่ได้จัดการ กับความตึงเครียดของยุค

between black communities and law enforcement,

ระหว่างชุมชนคนผิวสี กับการบังคับใช้กฎหมายในตอนนี้

we're dealing with a moment when people are looking for scapegoats,

แต่เรากำลังอยู่ในช่วงที่คนกำลังหาแพะ

and black people's vulnerability

และความอ่อนแอของคนผิวสี

has always been our greatest casting note

มาใช้ในการแบ่งชนชั้นมาตลอด

for being cast as scapegoats.

ชนชั้นของการเป็นแพะ

So for folks who are worried about this, this is not inevitably a moment

สำหรับประชาชนที่กำลังกังวลอยู่ มันเป็นอะไรที่เลี่ยงไม่ได้

for change and reform and enlightenment and America's best values,

สำหรับความเปลี่ยนแปลง ปฏิรูป และตื่นรู้ถึงคุณค่า ที่ดีที่สุดของอเมริกา

because historically,

เพราะตามหลักแล้ว

these have been precisely the moments

นี่เป็นวินาที

when regression back to white supremacy has reigned supreme.

ที่ศาลเริ่มกลับไปถูกครอบงำ ด้วยการให้สิทธิคนขาวเหนือกว่า

So let's not just look at everybody signaling.

ดังนั้นมาดูกันว่าคนเริ่มให้สัญญาณอย่างไร

I don't want to just see black and white cops on their knees,

ผมไม่อยากเห็นคนผิวสี กับตำรวจคนขาวต้องยอมคุกเข่า

I want to see the policies.

ผมอยากเห็นนโยบายใหม่มากกว่า

I want to see the things that will prevent

ผมอยากเห็นสิ่งที่จะป้องกัน

this kind of thing from moving to the next stage.

สิ่งเหล่านี้ก่อนจะก้าวไปขั้นต่อไป

CA: Rashad, I want to respect the fact that you've got a hard stop at one.

ราฉาด ผมขอยอมรับว่าเรื่องนี้มันจบยากจริงๆ

And so I just want to thank you for your participation in this.

ดังนั้นผมอยากขอขอบคุณมาก ที่มาเข้าร่วมกับเรา

If you've got a couple of final words you want to share, that would be great,

ถ้าคุณมีอะไรสักเล็กน้อย ที่อยากกล่าวทิ้งท้าย ก็ได้เลย

and then if it's OK for the other three,

หรือถ้าทุกท่านที่เหลืออยากพูดอะไรก็ได้นะ

I think there's just a couple other questions I'd love to put

ผมคิดว่ามีอีกสองสามคำถามที่อยากจะนำมา

and continue this conversation for just a moment longer, if possible.

เพื่อพูดคุยกันต่ออีกสักนิดถ้าเป็นไปได้

Rashad, any closing words?

ราฉาดอยากกล่าวอะไรทิ้งท้ายไหม

RR: The thing I want to say is that now is the time for action.

สิ่งที่ผมอยากพูดคือเวลาแห่งการลงมือทำ

And I want to invite people in

ผมอยากเชิญทุกคน

to join us at Color Of Change

มาเข้าร่วมที่คัลเลอร์ออฟเช้นจ์

to make justice real.

เพื่อให้ความยุติธรรมเกิดขึ้นจริง

And in so many ways, you can visit us at Color Of Change,

มีหลายทางเลยที่คัลเลอร์ออฟเช้นจ์

you can take action.

ที่คุณสามารถมีส่วนร่วมได้

Five, 10, 15 years from now,

ห้า สิบ หรือสิบห้าปีต่อจากนี้

we will be dealing with the impacts

เราจะต้องอยู่กับผลลัพธ์

of what we did or didn't do in this moment.

จากสิ่งที่เราและไม่ได้ทำในขณะนี้

How we stood up and how hard we were willing to fight.

เรายืนหยัดและเราต่อสู้อย่างยากลำบากอย่างไร

And as the other speakers have said,

อย่างที่มีคนเคยพูดว่า

now is not the time for reform around the edges,

ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาปฏิรูป ที่ไม่รู้ว่าจะประสบความสำเร็จไหม

now is time for dismantling the policies and practices that have held us back,

แต่คือเวลารื้อนโยบาย และวิถีปฏิบัติที่ล้าหลัง

and championing solutions and new rules that will move us forward.

แล้วพิชิตผลและกฎหมายใหม่ ที่จะพาเราก้าวไปข้างหน้า

And so we hope that you will do something,

เราหวังว่าคุณจะทำอะไรสักอย่างหนึ่ง

whether it's with us,

ไม่ว่าจะกับเรา

or whether it's with local organizations in your community,

หรือกับองค์กรท้องถิ่นในชุมชนของคุณ

or other groups around the country.

หรือกลุ่มอื่นๆ ทั่วประเทศ

But this is an opportunity to make change,

เพราะที่นี่โอกาสที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง

and I believe that we can make justice real,

และผมเชื่อว่า เราทำให้ความยุติธรรมเป็นจริงได้

if we find the passion and the energy

ถ้าเราเจอแพชชั่นและพลัง

to work together to achieve it.

ที่จะทำให้สำเร็จได้

So thank you all for having me,

ขอบคุณมากที่เชิญผมมา

and I hope that we have an opportunity

และผมหวังว่าเราจะมีโอกาส

to build, not just online, but offline, in the months to come.

ร่วมกันสร้างไม่ใช่แค่ในโลกออนไลน์ แต่ในชีวิตจริง ในอีกไม่กี่เดือนที่จะมาถึง

CA: Thanks so much, Rashad.

ขอบคุณมากราฉาด

We're just going to ask this last question of you.

เราจะขอถามคำถามสุดท้ายกับคุณนะครับ

This one is from David Fenton.

คำถามนี้มาจากเดวิด เฟนตัน

"How can the movement unite

"การรวมพลังการเคลื่อนไหว

around a clear, simple platform of policies to enshrine in legislation?

ด้วยนโยบายที่ชัดเจน รูปแบบทั่วไป จะสามารถถูกคุ้มครองด้วยกฎหมายได้อย่างไร

Like making all complaints against cops public,

เพราะเหมือนทุกคำร้องเรียนต่อต้านตำรวจ

banning all choke holds,

อย่างการยกเลิกการล็อกคอ

ensuring independent review boards, etc.?"

การรับประกันความเป็นกลาง ของกระดานสนทนา และอื่นๆ"

WPR: That seems like a great place for you to chime in, Dr. King,

ดูเหมือนจะมีที่ ให้ด็อกเตอร์คิงเข้ามาตอบแล้ว

if you have some thoughts on that.

ถ้าคุณอยากแสดงความคิดกับคำถามนี้

PAG: I think that was to go to you, Dr. King.

ผมคิดว่านี่เป็นคำถามของคุณนะ ด็อกเตอร์คิง

BK: Oh, OK.

โอ้ ค่ะ

You know, this may sound simplistic,

มันฟังดูง่ายนะคะ

but it's a Nike thing,

แต่มันไม่เหมือนสโลแกนของไนกี้

I think we have to just do it,

ที่เราคิดว่าเราแค่ลงมือทำมันสิ

we have to see our work as interconnected.

เราต้องมองอย่างเชื่อมโยง

I think there's been efforts towards people working in that vein,

ฉันคิดว่าคนที่ทำงานนี้ต้องพยายามอย่างมาก

but we have to intensify that.

แต่เราต้องเน้นที่จุดนั้น

And in doing it,

การที่จะทำอย่างนั้นได้

one of the things that my father said,

สิ่งหนึ่งที่พ่อฉันพูด

and I know people sometimes get tired of hearing me say,

และฉันรู้ว่าคนน่าจะเบื่อที่จะฟัง

"My father said,"

"สิ่งที่พ่อฉันพูด"

but I just think,

แต่ฉันแค่คิดว่า

I wish, should I say, we had really listened to him,

ฉันแค่หวัง ว่าเราจะฟังเขาอยู่จริงๆ

because we wouldn't be on this platform right now

เพราะเราจะไม่มีวิธีการแสดงออก

having this type of conversation.

หรือการสนทนาแบบนี้ได้เลย

But he left something with us, sort of a blueprint

เพราะเขาหลงเหลือแนวทางไว้ให้เรา

in "Where Do We Go From Here: Chaos or Community?",

"เราจะออกจากที่นี่ไปที่ไหนดี: ความวุ่นวายหรือความเป็นหนึ่งเดียว"

his book, and he said,

นั่นคือหนังสือของเขา แล้วเขาก็เคยพูดว่า

going forward, the meddlesome task is to organize our strength

การก้าวไปข้างหน้า เราต้องจัดระเบียบพละกำลังที่ยุ่งวุ่นวาย

into compelling power.

ให้กลายเป็นพลัง

And that is so key,

นั่นคือกุญแจสำคัญ

because oftentimes we organize merely around passion.

เพราะบ่อยครั้งที่เราได้อยู่แค่รอบๆ

But people have certain areas of strength

แต่คนเรามีจุดแข็งที่ชัดเจนของตัวเอง

and talent and giftedness,

ความสามารถและพรสวรรค์เฉพาะตัว

and we've got to figure out how to build our coalitions

และเราต้องหาวิธีสร้างความร่วมมือระหว่างกัน

based on these strengths.

โดยใช้จุดแข็งที่เรามีเป็นพื้น

You know, people do different things well.

คุณรู้ไหม คนเราทำอะไรสิ่งต่างๆ ได้ดี

And so, in order to unite in an effective way

ดังนั้นเพื่อนที่รวมกันเป็นหนึ่งอย่างได้ผล

that they might not elude the demand that we're making,

เราต้องไม่ลดความต้องการสิ่งที่เรากำลังทำ

I think that's what's going to happen.

ฉันคิดว่านั่นคือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

People have to do their own personal assessment

ผู้คนจะต้องประเมินตัวเอง

within their organization, I call it a SWAT analysis.

ภายในองค์กร เราเรียกมันว่าสว็อท

And then that SWAT analysis has to happen across organizations,

การวิเคราะห์แบบสว็อทต้องประเมินข้ามองค์กร

so that we can make sure that we are moving in a united manner,

เราถึงจะสามารถมั่นใจได้ว่า เรารวมกันเป็นหนึ่ง

off of the strengths that each organization brings,

นำจุดแข็งของแต่ละองค์กรออกมา

so that we can maximize the impact and the effectiveness

เราก็จะเพิ่มผลลัพธ์และประสิทธิภาพ

to do things like this,

ในการทำงานขึ้นได้

in terms of getting the legislation in place that is needed in this hour.

ในแง่ของการออกกฎหมาย ในที่ที่กำลังต้องการในขณะนี้

CA: Thanks so much.

ขอบคุณมากครับ

Just quick closing words from you, Anthony,

ทิ้งท้ายสักหน่อยครับ แอนโธนี

and then from you, Phil.

คุณด้วยฟิล

Anthony.

แอนโธนี

AR: You know, I would just say

ผมอยากพูดหน่อย

that what gives me hope are the young folk.

สิ่งที่ทำให้ผมยังมีหวังคือคนรุ่นใหม่

You have to believe that among this group,

คุณต้องเชื่อว่าในกลุ่ม

this groups of young'uns,

กลุ่มของคนรุ่นใหม่

seeing what they're seeing,

ที่กำลังมองสิ่งที่เราเห็น

living with this president, with these instincts,

อยู่ภายใต้ประธานาธิบดีคนนี้

seeing the continued indifference

ที่มองดูอย่างเพิกเฉยต่อไป

that mainstream communities have given to issues of racial justice,

คนที่อยู่ในกระแสกำลังนำปัญหา เรื่องความยุติธรรมทางเชื้อชาติ

or economic justice,

หรือความยุติธรรมทางเศรษฐกิจขึ้นมา

you've got to believe that what comes out of this very hot fire,

คุณต้องเชื่อว่าสิ่งที่ถูกนำมาจุดชนวน

is something even more powerful and strong than we've ever seen before.

จะมีพลังและแข็งแกร่ง มากกว่าที่เราเคยเห็นมาก่อน

That's what gets me through the hard days that we're now experiencing,

สิ่งนี้ทำให้ผมผ่านวันที่ยากลำบาก ที่เรากำลังเผชิญอยู่ได้

this thinking, there is another Dr. King among the young'uns, Dr. King.

รวมทั้งสิ่งที่คิดด้วย นอกจากนั้น เรายังมีด็อกเตอร์คิงอีกคนที่อยู่ในกลุ่ม

And I have to believe that what they're seeing

และผมเชื่อว่าสิ่งที่พวกเขากำลังมองเห็น

and what they're witnessing

สิ่งที่เรากำลังเป็นพยาน

and their righteous indignation and their frustration and their anger

ความโกรธอย่างชอบธรรม ความผิดหวังและความโกรธ

is going to be miraculously

กำลังกลายเป็นปาฏิหาริย์

a beautiful blossoming of a new opportunity, of a new change.

เหมือนโอกาสใหม่ที่กำลังเบ่งบานอย่างสวยงาม

This generation will take us there, I have to believe that.

ยุคนี้จะพาเราไปที่นั่น ผมเชื่ออย่างนั้น

My generation has failed them miserably.

เพราะยุคของผมล้มเหลวอย่างน่าสลด

So I'm just looking forward to the new ones.

ดังนั้นผมกำลังมองหาคนยุคใหม่ที่จะพาเราไป

CA: Thank you, Anthony.

ขอบคุณมากครับ แอนโธนี

WPR: Phil. Thank you, Anthony.

ฟิล ขอบคุณมากค่ะแอนโธนี

PAG: So it really has been a privilege to be on with you all.

นี่เป็นโอกาสพิเศษมากๆ ที่ได้มาอยู่ตรงนี้กับทุกท่าน

To David's question,

สำหรับคำถามของเดวิด

let me say that a number of civil rights organizations,

ผมขอพูดในเชิงตัวเลข ขององค์กรด้านสิทธิพลเมืองนะครับ

I believe the ACLU among them,

ผมเชื่อว่าเอซีแอลยู

CPE, Center for Policing Equity,

ซีพีอี ศูนย์ความเท่าเทียมทางการตำรวจ

and hundreds more have signed on to principles for legislation

และอีกร้อยๆ แห่งได้ลงชื่อในกฎหมาย

that would include eight pillars.

ที่รวมทั้งแปดเสาหลักเอาไว้

It's been led by the Leadership Conference for Civil and Human Rights.

ซึ่งถูกนำโดยการประชุม เพื่อสิทธิมนุษยชนและสิทธิพลเมือง

And it includes a federal ban on choke holds,

ซึ่งรวมการสั่งห้ามตำรวจล็อกคอ

it includes a national registry for officers

รวมทั้งการขึ้นทะเบียนเจ้าพนักงานแห่งชาติ

who have engaged in misconduct.

ที่ร่วมกระทำความผิด

I also think that it's important at this moment to get,

ผมคิดว่ามันสำคัญมากในขณะนี้

we've got law enforcement's chiefs of major cities willing to say,

ที่เราจะได้มีหัวหน้าการบังคับใช้กฎหมาย ที่เต็มใจจะพูดว่า

if we emerge from this moment and our profession hasn't changed,

ถ้าเราปรากฏตัวขึ้น และการแสดงตัวของเราก็ไม่ได้เปลี่ยนไป

then we have failed again.

เราก็จะล้มเหลวอีกครั้ง

So it's a critical time to get behind,

นี่คือเวลาวิกฤตที่เราต้องคอยหนุนหลัง

I would direct you to LCCHR's website for the eight pillars,

ผมอยากให้คุณเข้าไปที่เว็บไซต์ ของแอลซีซีเอชอาร์ สำหรับเรื่องแปดเสาหลัก

because I won't remember them all right now,

เพราะผมจำรายละเอียดทั้งหมดไม่ได้

and to start calling your local law enforcement,

มีการเริ่มเรียกร้อง การบังคับใช้กฎหมายท้องถิ่น

and say, "Yes, own that."

และบอกว่า "คุณได้สิทธินั้น"

You should be signing on,

คุณควรลงชื่อ

they should be going public with letters that do all of that.

คนอื่นๆ ควรออกจดหมายที่จะมีผลทั้งหมดนั่น

But I'll also say this.

แต่ผมเองก็จะพูดอย่างนี้

For a path forward in the principles, I'll end where I started,

บนทางเดินข้างหน้าในเรื่องของกฎหมาย ผมจะจบสิ่งที่เริ่มมา

which is that this is bigger than policing.

ที่มันใหญ่กว่าเรื่องของตำรวจ

These are the unpaid debts owed to black communities

เรื่องหนี้ที่ติดคนผิวสี

for stolen labor,

สำหรับงานที่ถูกขโมยไป

owed to native communities for stolen land, for stolen culture,

หนี้ที่ติดชาวพื้นเมือง ถึงดินแดนที่ถูกขโมย และวัฒนธรรมที่ถูกขโมยไป

for years taken away

หลายปีที่ถูกพรากไป

and for lives lost in it.

สำหรับชีวิตที่ต้องสูญเสียไป

This is bigger than policing.

มันยิ่งใหญ่กว่าเรื่องตำรวจ

If we don't understand the size of it,

ถ้าเราไม่เข้าใจความใหญ่ของเรื่องนี้

then there's no solution that's really, truly proportional to the moment.

ก็ไม่มีการแก้ปัญหา อย่างจริงจังและอย่างสมควร

But in this moment,

แต่ในวินาทีนี้

when we're seeing trillion of dollars in bailouts, mostly for corporations,

เมื่อเราเห็นเงินพันล้านจากกองทุนรัฐบาล ส่วนใหญ่เพื่อความร่วมมือ

it is absolutely a time when we can do things

นั่นคือเวลาที่เราสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้

that normally, people could pretend that's too much, it's too big, we can't.

ปกติแล้วคนสามารถแสร้งทำเป็นว่า มันหนักหนา หรือใหญ่เกินกว่าที่เราจะทำอะไรได้

We have literally all the money in the world

เรามีเงินจากคนทั้งโลก

that can be spent and directed

ที่เราจะสามารถใช้ได้โดยตรง

towards making us the society we pretend to be,

ในการทำให้เราเป็นสังคมที่จะเราอยากจะเป็น

before moments like this happen.

ก่อนที่โอกาสแบบนั้นจะเกิดขึ้น

And so the thing that gives me hope

และสิ่งที่ทำให้ผมมีความหวัง

is that the lies have to be obvious now.

คือคำโกหกที่ต้องถูกเห็นสักทีในตอนนี้

The lies have to be,

คำโกหกทั้งหลาย

that was a reasonable use of force.

ที่ใช้เป็นเหตุผล ในการบังคับใช้กฎหมาย

The lie has to be, we don't have the money.

คำโกหกที่ว่าเราไม่มีเงิน

The lie has to be, that's too hard, it's too big of a challenge.

คำโกหกที่ว่าการเรียกร้อง มันยากและใหญ่เกินไป

This stuff feels impossible every day except today,

มันเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ในทุกๆ วัน ยกเว้นวันนี้

because the alternative is we lose everything.

เพราะไม่อย่างนั้นเราก็จะสูญเสียทุกอย่าง

Everything is at stake,

แต่ทุกอย่างถูกวางเดิมพัน

our democracy is at stake,

ประชาธิปไตยของเราก็อยู่บนเดิมพัน

the people we choose to be, we claim to be,

ทางที่เราเลือก สิ่งที่เป็นของเรา

that's at stake.

ก็ต้องวางเดิมพัน

And in the face of that,

และในความเป็นจริง

I think we can do impossible things.

ผมคิดว่า เราทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นจริงได้

I think we can be mighty.

ผมคิดว่าเรามีพลังมากพอ

So my hope for all of us is

ดังนั้นความหวังสำหรับเราทุกคน

first, that we wake up tomorrow with more peace in the evening than war,

อย่างแรกคือพรุ่งนี้เราจะตื่นมาเจอสันติสุข มากกว่าเจอกับสงคราม

and that we hold on to what's possible from this moment

และเราจะได้สิ่งที่เป็นไปได้จากนาทีนี้

at the same time that we hold on

ในขณะเดียวกัน

to the size of the task in front of us.

เราก็จะทำให้ตรงหน้าเป็นจริงได้

I don't want to come with half measures out of this.

ผมไม่อยากได้งานครึ่งๆ กลางๆ

I don't want to come out with radicalized youth

ผมไม่อยากออกมาเห็นเยาวชนหัวรุนแรง

and indifferent aged ...

และผู้ใหญ่ที่เพิกเฉย

I don't know what the contrast...

ผมไม่รู้ว่าทำไมมันดูย้อนแย้ง...

The radicalized youth

ความหัวรุนแรงของคนรุ่นใหม่

and indifferent people who are old like me.

และคนแก่เท่าผมที่เพิกเฉย

I want to come out with a unified country

ผมอยากออกมาเห็นประเทศที่รวมเป็นหนึ่ง

that understands that the costs that we owe are big,

และเข้าใจว่าหนี้ที่เราติดมันเยอะ

and our pockets are deep enough to match it.

แต่เรามีกระเป๋าที่หนาพอที่จะชำระมันได้

CA: Wow.

ว้าว

Thank you to each of you for extraordinary eloquence.

ขอบคุณทุกท่านมาก สำหรับแรงบันดาลใจอันแสนพิเศษ

Really, so powerful.

มันช่างทรงพลังจริงๆ

This conversation, obviously, continues,

การสนทนาในครั้งนี้ แน่นอนว่ามันจะมีต่อไป

I know that there's many people listening,

ผมรู้ว่ามีอีกหลายที่กำลังฟังอยู่

you have other questions,

และคุณมีคำถามอื่นๆ อีก

this, I think, from TED's point of view is just the start of the conversation.

ผมคิดว่าจากมุมมองของเท็ด นี่เป็นแค่การเริ่มบทสนทนาเท่านั้น

To the extent that our job is to amplify the voices that matter,

งานของเราคือทำให้เสียงนั้นดังขึ้น

we couldn't be prouder to be amplifying further

เราดีใจที่เราทำให้มันดังขึ้นได้

your extraordinary voices.

ให้เสียงของคุณพิเศษขึ้นอีก

So thank you for being part of this today.

ขอบคุณมากที่มาเป็นส่วนหนึ่ง ในการสนทนาวันนี้

PAG: Thank you.

ขอบคุณครับ

WPR: Thank you all.

ขอบคุณมากค่ะทุกท่าน