FLUENCY TEST - how fluent are you, really?

(upbeat music)

- Hello everyone, and welcome back to English With Lucy.

สวัสดีทุกคน และขอต้อนรับกลับเข้าสู่ เรียนภาษาอังกฤษกับลูซี่

Today, I have got a fluency test for you.

วันนี้ ฉันมีแบบทดสอบ ทดสอบความคล่องแคล่วในการใช้ภาษาอังกฤษมาให้พวกคุณลองทำกัน

You all seemed to really enjoy

ดูเหมือนว่าหลาย ๆ คนจะชอบ

the grammar test that I posted for you last week,

แบบทดสอบไวยากรณ์ ที่ฉันลงให้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนะ

so today I've got a fluency test,

วันนี้ฉันก็เลยมีแบบทดสอบอันนี้มาให้

but it's a little bit different.

แต่มันจะแตกต่างจากครั้งที่แล้วหน่อยนะ

Basically, if these things that I'm going to talk about

มันก็คือ ถ้าสิ่งที่ฉันกำลังจะพูดถึง

happen to you, it means that you are fluent.

มันเกิดขึ้นกับคุณ แสดงว่า คุณมีความคล่องแคล่วในการใช้ภาษาอังกฤษระดับนึงเลย

So I think will be really interesting for you guys

ฉันคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่หลาย ๆคนสนใจ

to see how many of these situations have happened to you,

ที่จะได้เห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับตัวพวกคุณ

and also to give you something to look forward to.

และยังให้สิ่งที่คุณหวังไว้

I know that a lot of you are learning English right now,

ฉันรู้ว่าหลาย ๆคน กำลังเรียนภาษาอังกฤษกันอยู่

with the intention of one day becoming fluent,

และคาดหวังว่าสักวันจะสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว

so it'd be really nice to keep a record of these things

ก็เลยคิดว่าเป็นการดีที่จะทำคลิปแบบนี้

and work towards achieving the next one.

และมุ่งไปสู้เป้าหมายต่อไป

Before we get started, I would just like to thank

ก่อนที่เราจะเริ่ม ฉันอยากจะขอบคุณ

the sponsor of today's video, it is Skillshare,

ผู้สนับสนุนคลิปนี้ นั่นก็คือ Skillshare

and if you haven't heard of them before

และถ้าพวกคุณไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับ Skillshare มาก่อน

they're an online learning community

มันเป็นกลุ่มการเรียนรู้ออนไลน์

with thousands of classes of all different topics.

มีเนื้อหาหลายพันเรื่องให้ได้ศึกษา

You can learn about marketing, languages,

เช่น คุณสามารถเรียนเกี่ยวกับการตลาด ภาษา

cooking, craft skills, honestly there are lessons

การทำอาหาร การประดิษฐ์ และยังมีอีกหลายหัวข้อ

for absolutely everyone.

ที่เหมาะสมกับทุก ๆคน

There are loads of free classes but you can also sign up

มีบทเรียนที่ให้เรียนฟรี แต่คุณสามารถลงทะเบียน

to premium membership, which gives you unlimited access

เป็นสมาชิกพรีเมี่ยม ซึ่งจะทำให้คุณเข้าถึงทุกอย่างได้อย่างไม่จำกัด

to high-quality classes from experts working in their field.

ไปสู่คลาสที่มีคุณภาพสูงจากผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานในสาขานั้น ๆ

If you follow me on Instagram,

ถ้าพวกคุณติดตามฉันในอินสตาแกรม

you'll know that I love cooking.

คุณจะรู้เลยว่า ฉันชอบทำอาหารมาก

I'm always posting what I cook on my stories,

ฉันลงรูปอาหารที่ฉันทำ ในนั้นทุกครั้ง

and I'm also learning Italian,

และฉันก็กำลังเรียนภาษาอิตาลีอีกด้วย

and I found a course on there for making gelato

และฉันก็ได้ค้นพบคอร์สในการสอนทำเจลาโต้ด้วย

and it's been so interesting.

และมันน่าสนใจมาก ๆ

Gelato is not plain ice cream, guys.

เจลาโต้ ไม่ใช่ไอศกรีมธรรมดานะทุกคน

But to find out more, you'll have to sign up for Skillshare.

ถ้าอยากรู้เพิ่มเติม สมัคร Skillshare เลย

And it's actually really affordable.

และมันราคาไม่แพงเลยจริง ๆ

It's more affordable than most other learning platforms.

ราคาถูกกว่าหลาย ๆ แพลตฟอร์มการเรียนรู้อื่น ๆ

An annual subscription is under $10 per month.

สมัครรับข้อมูลต่ำกว่า $10 (฿ 326 ) ต่อเดือน

And since Skillshare are sponsoring this video,

และตั้งแต่ Skillshare สนับสนุนวิดีโอนี้

they have given the first 500 people who click the link

พวกเขาให้ 500 คนแรก ที่คลิ๊กลิ้งค์

to sign up in the description box

เพื่อที่สมัครในช่อง description ด้านล่าง

their first two months free.

เพื่อได้สิทธิใช้เว็บไซด์ 2 เดือนแรกฟรี

So click on the link, sign up,

ดังนั้น กดลิ้งค์ด้านล่าง เพื่อสมัคร

and there are loads of English courses

และมันจะมีคอร์สภาษาอังกฤษหลายคอร์สมาก

and things that you might be interested in.

และอีกหลายคอร์สที่คุณอาจจะสนใจ

Most importantly, let me know how it goes.

และที่สำคัญที่สุด อย่าลืมบอกฉันนะว่ามันเป็นยังไงบ้าง

Right, let's get started with the lesson.

โอเค เริ่มบทเรียนกันเลยดีกว่า

So, how do you know when you are fluent in another language?

เอาล่ะ คุณจะรู้ได้ยังไงว่าคุณนั้น มีความคล่องแคล่วในการใช้ภาษาอื่น ๆแล้ว

Well, I'm going to talk to you about 12 situations,

ฉันจะยกตัวอย่าง 12 สถานการณ์

and if these situations have happened to you,

และถ้าสถานการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นกับพวกคุณ

it means that you are on your way to becoming fluent.

นั่นหมายความว่า คุณกำลังใกล้จะคล่องแคล่วแล้ว

If all of these situations have happened to you,

ถ้าทุกอย่างที่ฉันกำลังจะพูด มันเกิดขึ้นกับคุณ...

congratulations, you're fluent.

ยินดีด้วยจ้า คุณชำนาญแล้ว

So I would love you to comment down below

ฉันจะชอบมากถ้าคุณแสดงความคิดเห็นข้างล่าง

with how many of these situations

ว่ามีกี่สถานการณ์

have happened to you and which ones.

ที่เกิดขึ้นกับคุณ และ อันไหนบ้าง

And also, if you can think of any other

และคุณคิดว่ามีอันไหน

indicators of fluency.

ที่เป็นตัววัดความคล่องแคล่วในการใช้ภาษาอีกบ้าง

Number one, you know how to swear appropriately.

1. คุณรู้วิธีที่จะสบถให้เหมาะสม

So when I learn a language, pretty much the first thing

เวลาฉันเรียนภาษา มันมักจะเป็นสิ่งแรก ๆ

I want to learn are the swear words.

ที่ฉันอยากจะเรียนก็คือ คำสบถ

But when I was just starting to learn Spanish,

แต่เมื่อตอนที่ฉันเริ่มเรียนภาษาสเปน

and I was with my ex (speaks foreign language),

ตอนที่ฉันคบกับแฟนเก่า

I imitated him a lot.

ฉันเลียนแบบเขามาก

And he used to swear a lot, not in a bad way.

และเขาใช้คำสบถบ่อยมาก แต่ไม่ได้ใช้ในทางที่แย่นะ

But then I would try and do it, but in the wrong situations,

แล้วฉันก็พยายามใช้ตาม แต่ใช้ผิดสถานการณ์

and I would get told off.

และฉันก็โดนว่า

So you know that you are fluent not only when you know

ดังนั้น หากคุณอยากใช้มันได้อย่างคล่องแคล่ว มันไม่ใช่แค่คุณรู้คำสบถอย่างเดียวนะ

how to swear, but when you know when to swear.

แต่คุณต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ควรจะสบถ

Number two, you are aware of the mistakes that you make.

2. คุณรู้ว่า คุณผิดตรงไหน

That's something that I love hearing

มันเป็นสิ่งที่ฉันชอบที่จะได้ยินมาก ๆ

when I'm teaching students.

เวลาฉันสอนนักเรียนของฉัน

When they say something, and then they say,

เวลาที่พวกเขาพูดอะไรสักอย่าง แล้วพวกเขาก็พูดต่อว่า..

"Ah, no, I made a mistake there,"

"โอ้ ไม่ใช่ ฉันพูดผิด"

and then they correct themselves,

แล้วพวกเขาก็แก้ในจุดที่พวกเขาพูดผิด

'cause that means that they know what they did wrong,

และนั่นหมายความว่า พวกเขารู้ว่าพวกเขาผิดจรงไหน

and they are on that path to fluency.

และนั่นเป็นหนทางของการที่จะใช้ภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว

If you realise that you're making mistakes,

ถ้าคุณรู้ตัวว่าคุณพูดผิด

you're one step away from just not making them at all.

คุณก็ได้ก้าวข้ามการทำผิดซ้ำแล้ว

Number three, you sometimes don't even realise

3. บางทีคุณไม่ได้สังเกตตัวเองเลย

that you are reading or hearing the language,

ว่าคุณกำลังอ่าน หรือ ฟัง ภาษานั้น ๆอยู่

you're just understanding it without focusing.

คุณสามารถเข้าใจภาษานั้นได้ โดยที่ไม่ได้โฟกัสอะไรมากมาย

I would consider myself to be fluent in Spanish,

ฉันเคยลองสังเกตตัวเอง ว่าฉันคล่องในการใช้ภาษาสเปนแล้วหรือยัง

and sometimes I find myself doing this

และบางครั้ง ฉันก็เห็นตัวเองทำสิ่งนี้

on the London Underground when I travel in

ตอนเวลาฉันอยู่บนรถไฟใต้ดิน

to record the podcast on Tuesdays.

เพื่อที่จะอัด Podcast ในวันอังคาร

Sometimes I just sit there, and I overhear conversations

บางที ฉันนั่ง ๆ อยู่แล้วก็ได้ยินเสียงการสนทนากัน

on the tube because I'm a little bit of a creep. (laughs)

ในรถไฟ เพราะฉันเป็นพวกแปลกนิดนึง

Well if we're going to be honest,

คือ ขอพูดตรง ๆ เลยนะ

it's because British people don't talk on the tube,

มันเป็นเพราะคนอังกฤษไม่ค่อยพูดกันมากบนรถไฟ

but when a Spanish family comes along they talk a lot.

แต่เวลาครอบครัวคนสเปนขึ้นมา พวกเขาพูดกันเยอะมาก

Which is no problem, I think it's weird that we don't talk.

ซึ่งจริง ๆ มันก็ไม่เป็นอะไร ฉันคิดว่า มันเป็นเรื่องที่แปลกด้วยซ้ำ ที่พวกเราไม่คุยกันบนรถไฟ

I'll listen to them, and then about a minute later,

ฉันฟังพวกเขา และหลังจากนั้นไม่นาน

I'll realise, "Oh my god, I'm listening in another language

ฉันก็เพิ่งนึกได้ว่า "โอ้พระเจ้า ฉันกำลังฟังอีกภาษาหนึ่งอยู่"

and I didn't even realise it."

และฉันไม่ได้สังเกตเลย

And it feels really really good,

และฉันรู้สึกดีมาก ๆ

so the next time that happens to you,

ดังนั้นครั้งหน้า ถ้ามันเกิดขึ้นกับคุณ

you should feel really really good about yourself.

คุณควรจะรู้สึกดีมาก ๆกับตัวคุณเอง

Also I might see like a meme in Spanish on Instagram

และบางทีฉันเจอมีมในภาษาสเปนใน IG

and I'll be like desperate to show it to Will,

และก็ฉันอยากให้วิลดู

next to me, and I can't, 'cause I realised it's in Spanish

แต่ทำไม่ได้ เพราะ ฉันนึกขึ้นได้ว่ามันเป็นภาษาสเปน

and it doesn't translate into English that well.

และมันไม่สามารถจะสื่ออกมาเป็นภาษาอังกฤษได้

Which leads me onto my next one, number four,

และมันก็จะเข้าสถานการณ์ที่ 4 นั่นก็คือ..

you can understand and participate in humour.

คุณสามารถเข้าใจมันได้ และขำกับมุขตลก

So this was a big pain point for me

และนี่เป็นเรื่องที่เจ็บปวดมากสำหรับฉัน

when I was learning Spanish.

ตอนที่ฉันกำลังเรียนภาษาสเปน

I once went with a big group of friends

ฉันเคยกับกลุ่มเพื่อน

to watch Ernesto Sevilla in Seville. (laughs)

เพื่อที่จะได้ดู Ernesto Sevilla ที่เซบิยา

And he's a Spanish comedian with a very thick accent

และเขาคือนักแสดงตลกของเปน

and he speaks really really quickly

เขาพูดเร็วมาก ๆ

and I sat there thinking I was fluent,

และฉันก็นั่งนึกว่าฉันคล่องในการใช้ภาษาสเปน

ready to have a laugh with everyone and fit in,

ฉันพร้อมแล้ว กับการฟังมุขตลกกับเพื่อนคนอื่น ๆ

and I didn't understand a bloody word.

และฉันไม่เข้าใจเลย แม้แต่คำเดียว

(speaks foreign language)

And I realised, I'm not fluent yet.

และฉันก็เข้าใจได้ว่า ฉันยังไม่ชำนาญพอ

Now, this one's a difficult one, because some comedians

อันนี้เป็นสิ่งที่ยากมากอันนึงเลย เพราะนักแสดงตลกบางคน

speak really really quickly, so I'd take this one as,

พูดเร็วมาก ๆ และมันจะเป็นการบอกได้ว่า

you know you're really really fluent when you can sit

คุณสามารถใช้ภาษาได้อย่างคล่องแคล่วมาก ๆ เมื่อคุณสามารถนั่งฟัง

through a comedy show and laugh at all the jokes.

โชว์ตลกและขำทุก ๆมุขที่พวกเขาเหล่านั้นเล่น

But I would say you'd need to live in a country for like

แต่ฉันคิดว่า คุณควรจะต้องอยู่ในประเทศนั้นประมาณ...

10 years and get married and have children there

10 ปี และแต่งงาน มีครอบครัวที่นู่น

to even have a chance at understanding

เพื่อที่จะมีโอกาสมากขึ้นในการเข้าใจ

a comedian in another language.

มุขตลกจากดาราตลกของภาษานั้น ๆ

I sometimes don't understand jokes in my own language.

บางทีฉันก็ยังไม่ค่อยจะเข้ามุขตลกในภาษาของฉันเองเลย

The next one, number five, you know you are fluent

ต่อไป 5. คุณจะรู้ว่าคุณคล่องในการใช้ภาษา

when people don't adapt to your level.

เมื่อคนที่พูดภาษานั้นไม่ต้องปรับเปลี่ยนการใช้ภาษามาระดับคุณ

They just go with the flow and use their normal

พวกเขาแค่พูดไปเรื่อย ๆ และใช้

native vocabulary, including slang, expressions,

คำศัพท์ทั่วไปที่พวกเขาใช้โดยปกติทุกวัน อย่างเช่น พวกคำแสลงต่าง ๆ

figures of speech, the whole hog.

ภาพพจน์ต่าง ๆ

The whole hog, that's a figure of speech, means all of it.

พูดคำที่สามารถตีความได้รวมๆกันในคำๆเดียว

So this is more about sounding like you're fluent.

นี่ก็เป็นการบอกว่าคุณมีความคล่องในการใช้ภาษาแล้ว

If people think that you are completely fluent,

ถ้าคนทั่วไปคิดว่า คุณคล่อง

they'll start speaking in a really relaxed way

พวกเขาจะพูดในรูปแบบผ่อนคลาย

and expect you to understand, but you can start to feel

และคาดหวังว่าคุณจะเข้าใจ แต่คุณสามารถที่จะเริ่มรู้สึก

really really good about yourself if you actually

ดีมากๆกับตัวคุณได้ ถ้าคุณ

do understand everything they're saying.

เข้าใจสิ่งที่คนอื่นพูดจริงๆ

The next one, number six, you know you're fluent

ต่อไป 6. คุณจะรู้ว่าคุณคล่องในการใช้ภาษา

when you have a dream in the language that you're learning.

เมื่อคุณฝันเป็นภาษานั้นๆ

This has happened to me and it's been really really weird.

นี่ก็เคยเกิดขึ้นกับตัวฉัน และมันแปลกมากๆ

I've had dreams about my own family

ฉันเคยฝันว่า ครอบครัวของฉัน

and close friends speaking in Spanish to me,

และเพื่อสนิทของฉัน พูดภาษาสเปนกับฉัน

when in reality, they don't speak Spanish.

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาไม่พูดภาษาสเปน

It's very very weird.

มันแปลกมากๆ

I actually have a lot of very confusing dreams

อันที่จริง ฉันมีความฝันที่น่าสับสนเยอะมากๆ

but we won't get into that.

แต่ฉันจะไม่ขอพูดถึงมัน

But if you dream in that language,

แต่ถ้าคุณฝันในภาษานั้น ๆ

or dream about your close friends and family

หรือฝันว่าเพื่อนสนิทของคุณและครอบครัวของคุณ

speaking to you in that language,

พูดกับคุณด้วยภาษานั้นๆ

you know you're well on your way to fluency.

คุณคล่องแคล่วในการใช้ภาษานั้นแล้วล่ะ

Number seven is a pretty general one,

7. มันเป็นเรื่องทั่วไปมากๆเลย

but you know that you're fluent in the language

คุณจะรู้ว่าคุณคล่องในการใช้ภาษา

when you can do all of the things in that language

เมื่อคุณสามารถทำทุกอย่าง โดยใช้ภาษานั้นๆ

that a native person would be able to do

แบบที่คนพื้นเมืองใช้กัน

without even thinking about it.

โดยไม่ต้องคิด

Like going to the doctors, going to the bank,

เช่น ไปหาหมอ ไปธนาคาร

ordering stuff in a bar or cafe,

สั่งอาหารในบาร์ หรือคาเฟ่ต่าง ๆ

giving directions, and that one is something

บอกทาง และนี่ก็เป็นสิ่งที่

that I still struggle with because

ฉันมีปัญหา เพราะ

I just really find it difficult

มันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ

to tell the difference between left and right.

กับการแยกระหว่าง ซ้าย และ ขวา

It's something in my brain, I don't know why.

เป็นสิ่งที่สมองของฉันเอง ไม่รู้ว่าทำไม

Sometimes, if I'm driving, and I'm at a roundabout,

บางที ตอนที่ฉันขับรถ ฉันอยู่ตรงวงเวียน

it takes me like a couple of seconds too long

ฉันต้องใช้เวลาคิดนิดนึง

to work out which car should be allowed to go first.

ว่ารถคันไหนควรไปก่อน

Left and right, it's an issue.

ซ้าย หรือ ขวา นั่นล่ะปัญหา

Does anyone else have that problem?

ไม่รู้ว่า คนอื่นมีปัญหาแบบนี้เหมือนกันมั้ย?

Number eight, now take this one with a pinch of salt,

8. อันนี้ฟังแบบหูไว้หูนะ

but you know you're fluent when you stop

แต่คุณจะดูคล่องแคล่วขึ้น เมื่อคุณหยุด

having to reach for words.

นึกคำที่จะพูด

So you stop having to say, "Mm, how do you say it,

คุณจะหยุดพูด "อืม อันนั้นพูดว่ายังไงนะ"

what's the word for, mm"

"มันคือคำว่าอะไรนะ"

and like waiting and reaching for words.

แบบใช้เวลาในการนึกคำ

Now obviously we are all human, every now and again

แต่จริงๆแล้ว พวกเราคือมนุษย์

we are going to have to reach for a word,

บางทีเราก็ต้องนึกคำกันบ้าง

even in our native language.

แม้กระทั่งภาษาแม่ของเราเองก็ตาม

But you'll notice that once you reach fluency,

แต่คุณจะสามารถสังเกตได้ เมื่อคุณใช้ภาษาได้คล่องแล้ว

the rate at which you do it will decelerate.

อัตราในการทำสิ่งที่คุณทำจะช้าลง

And sometimes you will even surprise yourself

และบางครั้ง คุณจะตกใจกับตัวเอง

by knowing words that you didn't know you know.

ว่าคุณรู้คำบางคำที่คุณไม่รู้ว่าคุณรู้

I sometimes do this in Spanish.

บางทีฉันเป็นตอนพูดภาษาสเปน

I'll come up with a word, and then I'll be like,

ฉันพูดคำบางคำ แล้วฉันรู้สึกว่า

"Go Luce, I didn't know I knew that word."

"โอ้ ฉันไม่รู้เลยว่าฉันรู้คำนี้"

It's a really weird sensation.

มันแปลกมากๆ

Number nine, something we all aspire to do

9. บางอย่างที่เราปราถนาจะทำ

when we start learning another language,

เมื่อเราเริ่มเรียนภาษาอื่น

it is to watch a film without subtitles.

คือการดูหนังโดยไม่มีคำบรรยาย

It feels so good and it means that you are fluent

มันดีมากๆ และ มันก็บ่งบอกว่าคุณคล่องแคล่วแล้ว

and you also have a whole new world of art opened up

และคุณจะได้เปิดโลกทัศน์ใหม่

in front of you and it's fantastic.

ต่อหน้าคุณ ซึ่งมันสุดยอดมากๆ

And then you can learn so much more about the culture.

และเราก็จะสามารถเรียนเกี่ยวกับวัฒนธรรมได้มากยิ่งขึ้น

Number 10, this is a big one, and I think it happens

10. นี่เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างนึง ฉันคิดว่ามันจะเกิดขึ้น

to a lot of people without them realising it.

กับทุกๆคน แบบไม่ทันตั้งตัว

It definitely happened to me with Spanish.

และมันก็เกิดขึ้นกับฉันตอนเรียนภาษาสเปน

You stop looking for opportunities to practise.

คุณหยุดหาโอกาสในการฝึกฝน

I remember being desperate to practise

ฉันจำได้ว่า ฉันต้องการจะฝึก

my Spanish at any opportunity.

ภาษาสเปนในทุกๆโอกาส

I was desperate to meet Spanish people,

ฉันอยากจะเจอคนสเปน

I just wanted to talk in Spanish.

อยากจะพูดคุย

And now I'm really happy if I meet someone

และตอนนี้ ฉันก็รู้สึกมีความสุข ถ้าฉันได้พบปะกับใครบางคน

in Spanish so I can have a chat

ที่พูดภาษาสเปน ฉันจะได้คุยกับเขาได้

and kind of brush up on my rusty skills.

และจะได้ทบทวนสกิลของฉันด้วย

But I'm not actively looking for opportunities

แต่ฉันไม่กระตือรือร้นมองหาโอกาส

in which I can practise.

ซึ่งฉันสามารถฝึกได้

So it might be something that stops gradually,

ดังนั้น มันอาจจะเป็นสิ่งที่ค่อยๆหยุดไป

and one day you'll realise, "Hey, I'm not as desperate

แล้ววันหนึ่ง คุณจะนึกขึ้นได้ว่า "ฉันไม่ได้หมดหวัง

as I was to practise, I remember when it was be all

เท่าที่ฉันกำลังฝึก" ฉันจำได้ทุกอย่าง

and end all for me, and now, I know it."

และตอนที่มันจบลง และตอนนี้ฉันก็รู้

Which of course really isn't true,

ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง

we can always learn more, but your priorities change.

เราสามารถเรียนได้เรื่อยๆ แต่ความต้องการของเรานั้นเปลี่ยน

Number 11, this one is such a good one

11. อันนี้เป็นอันที่ดีมากๆอันนึงเลย

and it is you know when Google translate is wrong.

เมื่อคุณรู้ว่า Google Translate มันแปลผิด

Maybe I shouldn't say Google translate,

บางที ฉันไม่ควรจะพูดว่า Google Translate นะ

all electronic translation services.

ทุกๆเครื่องมือที่ช่วยแปลภาษาทั้งหมดนั่นแหละ

They don't get everything right.

บางทีพวกมันไม่ได้แปลถูกทั้งหมด

They are not perfect and when you know

มันไม่ได้สมบูรณ์แบบและเหมือนคุณรู้

the language fluently, you can correct them

ภาษา คุณจะสามารถแก้มัน

and you can see the amount of errors that they make,

และคุณจะค้นพบว่า พวกมันแปลมั่วเยอะมากๆ

and you'll probably feel embarrassed about

และคุณจะรู้สึกอับอาย

all your homework that you did in the past

เกี่ยวกับการบ้านในสมัยก่อนที่คุณเอามาจาก

using Google translate and how your teacher

Google Translate และการที่คุณครูของคุณ

really knew that you were using Google translate.

รู้ว่าคุณลอกมาจาก Google Translate

When I was teaching, I used to love it

ตอนที่ฉันสอนนักเรียน ฉันชอบมากเลยนะ

when students would hand me essays that they'd written

ตอนที่นักเรียนมาส่งเรียงความที่พวกเขาเขียน

obviously using Google translate,

โดยใช้คำศัพท์มาจาก Google Translate

but without wanting to tell me,

แต่ไม่ยอมบอกฉัน

but they would misspell a word in their own language

บางทีนักเรียนอาจเขียนคำในภาษาตัวเองผิด

and so that wouldn't translate, and there would just be like

พอมันแปลออกมา มันกลายเป็น

this random gobbledygook in the middle of a sentence

คำที่เขียนมั่วๆ อ่านไม่รู้เรื่องกลางประโยค

and the whole sentence wouldn't make any sense

ทำให้ประโยคนั้นแปลไม่รู้เรื่อง

and I just kind of would put like a little red cross

และฉันก็เลยใส่กากบาทสีแดงน้อยๆไป

and be like, "See me after class."

และเขียนว่า "เจอครูหลังเลิกเรียน"

And I'd have to talk to them about translation services

และฉันก็จะได้พูดคุยกับพวกเขาเรื่องโปรแกรมช่วยแปลเหล่านี้

but won't worry, we all do it.

แต่อย่ากังวลไปเลย พวกเราทุกคนก็ทำกันทั้งนั้นแหละ

And the last one, number 12,

และอันสุดท้าย 12.

you know that you are fluent in another language

คุณจะรู้ว่าคุณคล่องในการใช้ภาษา

when people can't tell where you're from.

เมื่อคนอื่นๆไม่สามารถบอกได้ว่าคุณเป็นคนประเทศอะไร

If somebody has to ask you, "Where are you from,

ถ้ามีคนมาถามคุณว่า "คุณมาจากประเทศอะไร

I just can't tell from you accent?"

ฉันไม่แน่ใจสำเนียง?"

Or if they ask you that you're from the country

หรือ มีคนมาถามว่าคุณมาจากประเทศ

of the language that you are speaking,

ที่คุณกำลังฝึกภาษานั้นๆอยู่หรือเปล่า

you know you're fluent, you do.

แสดงว่า คุณพูดคล่องมากเลย

My Spanish accent is not perfect,

สำเนียงการพูดภาษาสเปนของฉัน ไม่ได้สมบูรณ์แบบ

but people do have a hard time

แต่คนทั่วไปก็ใช้เวลานาน

guessing that I'm English because I've worked hard

ในการคิดว่าฉันเป็นคนอังกฤษ เพราะฉันฝึกหนัก

to lose the majority of the pronunciation errors

เพื่อจะลดข้อผิดพลาดต่างๆ ในการพูด

that speakers of English usually make in Spanish.

ที่คนอังกฤษ มักทำผิดพลาดเวลาพวกเขาพูดภาษาสเปน

Right guys, that's it for today's lesson.

โอเคทุกคน สำหรับวันนี้พอแค่นี้

Don't forget to comment down below

อย่าลืมแสดงความคิดเห็นด้านล่างกันนะ

with which of these situations have happened to you.

ว่ามีอันไหนบ้างที่เกิดขึ้นกับพวกคุณ

And if you can add anymore to the list,

และถ้าอยากจะเสริมอะไรเพิ่ม

that would be fantastic.

นั่นมันจะดีมากๆเลย

Also, don't forget to check out Skillshare.

และอย่าลืมไปดู Skillshare กันด้วยนะ

Remember that the first 500 people

อย่าลืมนะว่า 500 คนแรก

that click on the link in the description box

ที่คลิ๊กลิ้งก์ในกล่องข้อความด้านล่าง

will get their first two months free.

จะได้ใช้เว็บไซด์ฟรี 2เดือนแรก

And you can connect with me on all of my social media,

และคุณสามารถจะเชื่อมต่อกับฉันได้ทาง Social Media ทุกอย่างเลย

I've got my Facebook, I've got my Instagram,

ฉันมี Facebook, Instagram

and I've got my Twitter.

มี Twitter

And I will see you soon for another lesson.

แล้วเรามาเจอกันในบทเรียนถัดไป

Muah!

จุ้บ !

Which gives you unlimited access to (blows raspberry)

ซึ่งมันจะทำให้คุณเข้าได้อย่างไม่จำกัดถึง....

And since you'll (sighs)

และตั้งแต่คุณ .. เฮ้อ

And since Skillshare (blows raspberry)

และตั้งแต่ Skillshare...

I feel like I've got a lisp.

ฉันรู้สึกว่า ฉันมีเสียงกระเพื่อม

And I didn't understand a (speaks foreign language)

และฉันไม่เข้าใจ ....

When people don't adapt to your level they just...

เมื่อพวกเขาไม่ต้องพยายามปรับมาพูดในระดับของคุณ พวกเขาแค่ ...

What do they do? (laughs)

พวกเขาทำอะไร ? (555)

Way at a roundabout...

ที่วงเวียน ...

Number 9, hair in my face.

9. ผมอยู่บนหน้าฉัน..

♪ Hair in my face ♪

♪ ผมอยู่บนหน้าฉัน ♪

Number 9, something we all aspire to do

9. บางสิ่งที่เราปราถนาจะทำ

when we start learning a la la la (laughs)

เมื่อเราเริ่มจะเรียน ลา ลา ลา

(upbeat music)