What Happens As We Die? | Kathryn Mannix | TED

616,437 views ・ 2023-12-28

TED


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Halley Patt Reviewer: Sakunphat Jirawuthitanant
00:03
Human beings are the only animals capable of contemplating
0
3900
5280
มนุษย์เป็นสัตว์ชนิดเดียวที่สามารถใคร่ครวญ
00:09
their own mortality,
1
9220
2280
ถึงความตายของตนเองได้
00:11
and they've been doing that for thousands of years.
2
11540
3680
และมนุษยชาติทำสิ่งนี้มาร่วมหลายพันปี
00:16
And yet somehow, in the very recent past,
3
16460
4520
แต่ถึงกระนั้น ไม่กี่ปีทีผ่านมา
00:21
we have lost the practical wisdom of what happens as people die.
4
21020
6240
เราได้สูญเสียภูมิปัญญาภาคปฏิบัติ ว่าด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเราตาย
00:28
I think that that's a problem.
5
28900
2240
ฉันคิดว่านั่นเป็นปัญหา
00:32
And if you agree with me that it is a problem,
6
32380
2520
และถ้าคุณเห็นด้วยกับฉัน ว่านั่นเป็นปัญหา
00:34
then we have to work out what we're going to do about it.
7
34900
3320
เราจึงต้องมานั่งถกกัน ว่าเราจะทำยังไงกับมัน
00:40
When she was in her mid-20s, in the 1920s,
8
40140
4280
ตอนที่ยายฉันอายุ 20 กลาง ๆ ในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 20
00:44
my grandmother was already deeply familiar with the sequence of events
9
44460
5120
ท่านได้มีความคุ้นเคยอย่างยิ่ง เกี่ยวกับเหตุการณ์ต่อเนื่อง
00:49
that happened to a human person
10
49620
2280
ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างกับมนุษย์
00:51
as they were coming to the end of their life.
11
51940
2160
ในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต
00:54
And that’s because, as a woman --
12
54140
1840
และนั่นเป็นเพราะ
00:56
and it was usually women’s work --
13
56020
1960
เพราะเป็นหน้าที่ของผู้หญิง
00:57
she was doing what women had done for centuries,
14
57980
3960
ท่านทำในสิ่งที่ผู้หญิง ปฏิบัติสืบต่อกันมาหลายศตวรรษ
01:01
looking after people at the very end of their lives,
15
61940
3240
นั่นคือการดูแลผู้คน ในวาระสุดท้ายของชีวิต
01:05
in their own beds, in their own homes,
16
65180
2320
บนเตียงของพวกเขา ในบ้านของพวกเขา
01:07
supported by their own people,
17
67540
2080
ซึ่งรายล้อมด้วยผู้คนคุ้นหน้า
01:09
because hospital had nothing to offer,
18
69620
2560
เพราะโรงพยาบาลยังไม่มีบริการนี้
01:12
once a person was so sick that their death was imminent.
19
72220
4160
ในยามที่มนุษย์ผู้หนึ่งป่วยไข้ จนความตายมาเยือนตรงหน้า
01:18
And yet, when I reached my mid-twenties,
20
78140
3560
แต่เมื่อฉันอายุ 20 กลาง ๆ
01:21
in the 1980s,
21
81740
2520
ในคริสต์ทศวรรษที่ 80
01:24
I had none of her wisdom and understanding and knowledge of dying,
22
84260
5080
ฉันไม่มีภูมิปัญญา ความเข้าใจ และความรู้ เกี่ยวกับความตาย
ที่สืบทอดมาจากท่าน
01:29
and that was even though I'd just finished five years of medical school.
23
89340
4160
แม้ว่าฉันจะใช้เวลาห้าปี เรียนจบจากคณะแพทย์มาหมาด ๆ
01:34
As a newly qualified doctor,
24
94140
1600
ในฐานะหมอมือใหม่
01:35
I'd spent five years being trained to stop people from dying.
25
95780
5120
ฉันเข้ารับการฝึกฝนเป็นเวลาห้าปี เพื่อยับยั้งการตายของผู้คน
01:41
And actually, if a death happened,
26
101860
2960
และจริง ๆ แล้ว เมื่อความตายเกิดขึ้น
01:44
it was a thing that was seen as a medical disaster.
27
104860
3400
มันถูกมองว่าเป็นมหันตภัยทางการแพทย์
01:48
It was a thing that was embarrassing,
28
108300
1800
เป็นเรื่องน่าอับอาย
01:50
it was a thing of which we do not speak.
29
110100
2520
เป็นเรื่องที่เราไม่พูดกัน
01:56
Why the difference,
30
116420
1480
ทำไมจึงแตกต่างกัน
01:57
and why within just a couple of generations?
31
117900
3840
และทำไมมุมมองจึงเปลี่ยนไป ในช่วงเวลาแค่ไม่กี่รุ่น
02:01
Think about what happened to medicine over the course of the 20th century.
32
121780
4240
ลองนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับการแพทย์ ในช่วงศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา
02:06
It was not worth going to hospital when you were dying
33
126660
3400
ช่วงปี 1920 มันไม่คุ้มที่จะไปโรงพยาบาล
02:10
in the 1920s.
34
130100
1520
เมื่อคุณใกล้ตาย
02:12
But by the 1960s, '70s, '80s and onwards,
35
132580
3760
แต่ในยุค 60 70 และ 80 เรื่อยมา
02:16
think of the fantastic progress that had been made
36
136340
3080
ลองนึกถึงความก้าวหน้า ที่เกิดขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์
02:19
so that people who were so sick that they might die,
37
139420
2800
จนถึงขั้นที่คนป่วยหนักใกล้ตาย ถูกพาตัวส่งโรงพยาบาล
02:22
of course we took them to hospital, because there were antibiotics,
38
142260
3600
แล้วได้รับยาปฏิชีวนะ
02:25
there were really clever anesthetics
39
145900
2160
ทั้งยังมียาสลบดี ๆ
02:28
that allowed surgeons to spend a long time unpicking things
40
148060
3760
ที่ทำให้ศัลยแพทย์มีเวลาเลาะตะเข็บแผล ระหว่างผ่าตัดเป็นเวลานาน ๆ
02:31
during operations.
41
151860
1480
02:33
There were new and very sophisticated treatments for cancers,
42
153380
4040
มีวิธีการใหม่ ๆ และสลับซับซ้อน สำหรับใช้รักษามะเร็ง
02:37
for heart failure, for kidney failure.
43
157460
2120
หัวใจวาย และไตวาย
02:39
There were intensive care units,
44
159620
1800
มีแผนกไอซียู
02:41
there was transplantation of organs,
45
161460
2080
มีการปลูกถ่ายอวัยวะ
02:43
some of that pioneered in this very city.
46
163540
2640
ซึ่งบางวิธีคิดค้นขึ้นในเมืองนี้ด้วยซ้ำ
02:46
Medical progress was astonishing,
47
166740
2760
ความก้าวหน้าทางการแพทย์มันช่างน่าประทับใจ
02:49
taking dying people to hospital very often saved their lives,
48
169540
3960
การพาคนใกล้ตายส่งโรงพยาบาล บ่อยครั้งช่วยรักษาชีวิตเอาไว้ได้
02:53
and that is fantastic.
49
173500
2080
และนั่นคือเรื่องมหัศจรรย์
02:57
And yet ...
50
177340
1160
แต่กระนั้น
03:00
By taking dying people out of home and putting them in hospital,
51
180060
5160
การพาคนตายออกจากบ้าน แล้วนำไปฝากไว้ที่โรงพยาบาล
03:05
we changed our understanding of the process.
52
185260
3760
ทำให้ความเข้าใจต่อกระบวนการเปลี่ยนแปลงไป
03:09
We lost our ownership of the process and we gave it to healthcare ...
53
189660
4840
เราสูญเสียความเป็นเจ้าของของกระบวนการนี้ แล้วนำไปยื่นให้แก่ระบบสาธารณสุข
03:15
And we forgot what dying looked like.
54
195100
3200
จนเราลืมว่าความตายหน้าตาเป็นยังไง
03:20
So, having been qualified for just over four years,
55
200460
3920
ดังนั้น ในช่วงเวลากว่าสี่ปี หลังจากที่ฉันได้รับใบรับรอง
03:24
I find myself in a new job.
56
204420
2080
ฉันพบว่าตัวเองมีงานใหม่
03:26
Having originally intended a career in cancer medicine,
57
206940
3160
จากความตั้งใจเดิม ที่จะมุ่งไปยังด้านเวชศาสตร์มะเร็ง
03:30
I’d spent the last four years choosing to train
58
210140
2640
ฉันใช้เวลาสี่ปีให้หลังนี้ เลือกฝีกฝนตัวเอง
03:32
in the places where the most sick people were.
59
212780
3080
ในสถานที่ที่คนป่วยส่วนมากอยู่กัน
03:37
And then I realized that actually, what was really interesting to me
60
217100
3520
ฉันพบว่าสิ่งที่น่าสนใจสำหรับฉันจริง ๆ แล้ว
03:40
was the detective journey of symptom management
61
220660
4080
ก็คือการเดินทางเพื่อสืบค้น การจัดการอาการต่าง ๆ
03:44
and the emotional integration of feeling well enough
62
224740
4480
รวมถึงดูแลอารมณ์ให้อยู่ในระดับที่ดีเพียงพอ
03:49
to live a little bit during the very end of life,
63
229220
3120
สำหรับการอยู่ต่อไปทีละนิด ในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต
03:52
and I went to work in a hospice.
64
232380
1760
ฉันทำงานในสถานบริบาลผู้ป่วยระยะสุดท้าย
03:55
But I'd been working in a big teaching hospital,
65
235020
2360
แต่ฉันก็เคยทำงานในโรงเรียนแพทย์ขนาดใหญ่
03:57
I'd learned a lot of medicine,
66
237420
1440
รู้จักหยูกยามากมาย
03:58
I'd seen a lot of dying.
67
238860
1680
เห็นการตายมามาก
04:02
We had a patient in the hospice.
68
242460
2120
มีผู้ป่วยคนหนึ่งในสถานบริบาล
04:05
She was a memorable woman for many reasons.
69
245700
3080
มีหลายเหตุผล ที่ทำให้เธอเป็นหญิงที่น่าจดจำ
04:08
She had been a member of the French Resistance
70
248820
3320
เธอเคยเป็นสมาชิก ของกลุ่มต่อต้านของฝรั่งเศส
04:12
during the Second World War.
71
252180
2120
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
04:14
She'd married a British airman,
72
254340
1840
เธอแต่งงานกับนักบินอังกฤษ
04:16
she'd come to live in England.
73
256220
1800
แล้วก็มาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่
04:18
She'd never lost her French accent.
74
258060
3160
เธอพูดอังกฤษติดสำเนียงฝรั่งเศสตลอด
04:22
She had a cloud of glorious white hair,
75
262580
4280
กระบังผมของเธอมีสีขาวสง่า
04:26
like a halo.
76
266860
1240
ราวกับรัศมีทรงกลด
04:28
She had piercing brown eyes,
77
268140
1960
เธอมีแววตาคมกริบสีน้ำตาล
04:30
the kind of gaze that you feel a person can see your soul.
78
270140
3640
เป็นลักษณะการมองที่ทำให้คุณรู้สึก ว่าเหมือนถูกมองทะลุจนถึงจิตวิญญาณ
04:34
She was self-contained, she was a little bit aloof.
79
274740
3560
เธอไม่สุงสิงกับใคร และค่อนข้างไม่เป็นมิตร
04:38
In fact, she was a little bit scary.
80
278300
2760
เอาจริง ๆ เธอดูน่ากลัวหน่อยนึง
04:41
(Laughter)
81
281060
1400
(หัวเราะ)
04:42
One day, she told the nurse who was looking after her
82
282500
3280
วันหนึ่ง เธอบอกกับพยาบาล ที่มาดูแลเธอ
04:45
that she was terrified of dying in agony,
83
285780
3280
ว่าเธอกลัวที่จะตายอย่างทรมาน
04:49
because if she were to die in agony, she might despair in God.
84
289060
3600
เพราะถ้าเธอตายอย่างทรมาน เธออาจจะสิ้นศรัทธาในพระเจ้า
04:52
And if she were to despair in God,
85
292660
2680
เพราะถ้าเธอสิ้นศรัทธาในพระเจ้า
04:55
as a French Roman Catholic,
86
295340
1720
ในฐานะโรมันคาทอลิกฝรั่งเศส
04:57
her belief was that that would be a mortal sin,
87
297100
3600
เธอเชื่อว่านั่นจะเป็นบาปหนัก
05:00
so she would not be able to go to heaven,
88
300740
2080
จนเธอมิอาจขึ้นสวรรค์ได้
05:02
and heaven was the place she knew her husband was waiting for her.
89
302860
4160
ซึ่งสวรรค์เป็นที่ที่ สามีรอเธออยู่ที่นั่น
05:07
This was a profound existential distress.
90
307780
3800
มันเป็นความทรมานของการดำรงอยู่อันหนักอึ้ง
05:12
And my boss said, "We need to go and talk to her, and you should come,
91
312340
3360
หัวหน้าฉันพูดว่า "เราต้องไปคุยกับเธอ และคุณควรมาด้วยกัน
05:15
you'll find this interesting."
92
315700
1920
จะได้รู้ว่ามันเป็นยังไง"
05:18
I was 26.
93
318420
1520
ตอนนั้นฉัน 26
05:19
Do you remember 26?
94
319980
1160
คุณจำตัวเองตอน 26 ได้ไหม
05:21
It's the last age when you know that you know everything.
95
321140
2840
มันเป็นขวบปีสุดท้าย ที่คุณคิดว่าคุณรู้ทุกอย่าง
05:24
(Laughter)
96
324020
1840
(หัวเราะ)
05:25
So I went along, wondering what I might learn,
97
325900
2680
ฉันก็ตามไปด้วย พลางสงสัยว่าจะได้เรียนรู้อะไร
05:28
because I thought I was quite good at pain control.
98
328620
2560
เพราะฉันเก่งพอตัว ในเรื่องการจัดการความเจ็บปวด
05:31
That conversation ...
99
331540
1680
บทสนทนานั้น
05:33
changed my life.
100
333980
1280
เปลี่ยนชีวิตฉัน
05:35
It changed my career.
101
335980
1680
เปลี่ยนเส้นทางอาชีพฉัน
05:38
And it's brought me here.
102
338700
1680
และพาฉันมายืนบนนี้
05:41
Sitting on her bed, with me on a little footstool
103
341420
3160
เธอนั่งอยู่บนเตียง ส่วนฉันนั่งบนเก้าอี้วางขา
05:44
so I can see him and her, and the nurse sitting on the chair,
104
344620
4560
ฉันก็เลยมองเห็นทั้งเจ้านายและเธอ พยาบาลนั่งอยู่บนเก้าอี้
05:49
he said to her,
105
349220
1960
เขาพูดกับเธอว่า
05:51
"I'm concerned that you've got worries about what might happen as you're dying."
106
351180
4520
"ผมกังวลเรื่องที่คุณดูทุกข์ร้อน ว่าช่วงใกล้ตายจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง"
05:55
And she said yes. She knew him well, she trusted him.
107
355740
2920
เธอบอกว่าใช่ เธอรู้จักเขาดี และเชื่อใจเขา
05:58
And he said, "I'm sorry to hear that,
108
358660
1920
เขาพูดต่อ "ผมเสียใจที่ได้ยินอย่างนั้น
06:00
and I wondered whether it might help you
109
360620
2360
และผมสงสัยว่ามันจะช่วยคุณได้ไหม
06:02
if I described to you what usually happens as a person is dying."
110
362980
4120
ถ้าผมอธิบายว่ามันมักจะเกิดอะไรขึ้น กับคนที่กำลังจะตาย"
06:08
And I'm sitting on the stool of all knowledge, thinking,
111
368260
2720
ฉันซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ พร้อมความรู้ทั้งหมดที่มี คิดว่า
06:11
"You can't tell her that."
112
371020
1240
"คุณอย่าบอกเธอนะ"
06:12
(Laughter)
113
372300
1120
(หัวเราะ)
06:13
Because I’ve seen lots of dying, and I know they’re all different.
114
373460
3360
เพราะฉันผ่านการตายมามาก และมันแตกต่างกันทั้งหมด
06:17
And she said, "Yes, please."
115
377860
1360
เธอตอบกลับว่า "ค่ะ ได้โปรด"
06:19
And he said, "I'll describe what we usually see,
116
379260
2320
เขาพูดว่า "ผมจะเล่าถึง สิ่งที่พวกเรามักจะพบเจอ
06:21
and if it gets too much, you tell me.
117
381620
2240
ถ้ามันมากเกินจะรับไหว บอกผมนะ
06:23
Promise, I'll stop.
118
383900
1600
ผมสัญญาว่าผมจะหยุด
06:26
The thing that's really interesting, Sabine,
119
386980
3080
ซาบีนครับ สิ่งที่น่าสนใจมาก ๆ เลยก็คือ
06:30
is that as people are dying,
120
390100
1360
ในขณะที่คนกำลังจะตาย
06:31
it doesn't really matter what the illness is they're dying from.
121
391500
3520
ไม่ว่าจะด้วยความเจ็บป่วยอะไรก็ตาม
06:35
The pattern of events is very similar.
122
395020
2680
รูปแบบของเหตุการณ์จะคล้ายกันมาก
06:38
We see people becoming more and more tired.
123
398580
3000
ผู้ป่วยจะเหนื่อยง่ายมากขึ้นเรื่อย ๆ
06:41
It's harder and harder for them to find the energy to do things.
124
401620
3560
มันจะยากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับพวกเขา ที่จะมีกำลังวังชาทำกิจวัตรบางอย่าง
06:46
In fact, they recharge their energy not so much by eating and drinking,
125
406140
3800
แม้จะทานข้าวหรือดื่มน้ำ ก็ไม่ช่วยให้มีกำลังขึ้นมาได้
06:49
but by sleeping.
126
409980
1280
หากเป็นการนอนตะหาก
06:52
And as time goes by,
127
412060
1200
เมื่อเวลาดำเนินไปเรื่อย ๆ
06:53
what we see is that people sleep more and they're awake less.
128
413260
4160
สิ่งที่เราพบคือผู้ป่วยจะนอนมากขึ้น และตื่นน้อยลง
06:57
And if they want to do something important,
129
417460
2040
ถ้าพวกเขาต้องทำอะไรสำคัญ
06:59
they should take a snooze before it."
130
419500
2000
พวกเขาก็มักจะของีบหลับต่อ"
07:02
She nodded, and she got hold of his hand.
131
422980
2720
เธอพยักหน้า และจับมือของคุณหมอไว้
07:07
"As time goes by," he said, "we see people are asleep for longer,
132
427100
3840
"เมื่อเวลาผ่านไป ผู้ป่วยจะนอนนานขึ้น
07:10
they're awake for shorter,
133
430940
1800
แล้วตื่นมาเป็นระยะเวลาสั้น ๆ
07:12
and something interesting we notice that they don’t is,
134
432780
2680
เรื่องที่น่าสนใจคือ เราสังเกตว่าพวกเขามักจะไม่ตื่น
07:15
maybe it's medicine time, or there's a visitor,
135
435460
2360
บางทีเป็นเวลาให้ยา หรือมีแขกมาเยี่ยม
07:17
we need to waken them ...
136
437820
1240
เราต้องปลุกพวกเขา
07:19
For a period, we can't waken them.
137
439860
2000
แต่เราปลุกพวกเขาไม่ได้ไปพักหนึ่ง
07:22
They're not just asleep,
138
442580
2280
พวกเขาไม่ใช่แค่นอนหลับไป
07:24
they're actually unconscious.
139
444860
1960
แต่จริง ๆ แล้วคือหมดสติ
07:27
And when they waken, they tell us they've had a lovely sleep.
140
447140
2880
เมื่อลืมตาตื่น พวกเขาบอกว่านอนหลับไปสบายมากเลย
07:30
It turns out that human beings don't recognize
141
450020
2920
มันแปลว่ามนุษย์เราไม่รู้ตัว
07:32
when we become unconscious.
142
452980
1920
ว่าเราหมดสติไป
07:36
And so at the very end of somebody's life, they're not just asleep,
143
456620
4800
ดังนั้นในช่วงเวลาท้าย ๆ ของชีวิตใครสักคน พวกเขาไม่ใช่แค่นอนหลับ
07:41
they're actually deeply unconscious.
144
461460
2040
แต่จริง ๆ แล้วคืออาการวูบไม่ได้สติ
07:43
And when the brain is unconscious,
145
463540
1720
เมื่อสมองหมดสติ
07:45
the only part of it that's still working
146
465300
2240
ส่วนเดียวที่ยังทำงานอยู่
07:47
is the part that's working their breathing."
147
467580
2320
คือส่วนที่ยังทำให้การหายใจยังทำงานได้"
07:50
By now, she is sitting right up in bed.
148
470540
2400
ถึงตอนนี้ เธอนั่งตัวตรงขึ้นมา
07:52
She's got hold of one of his hands, and she's stroking it.
149
472980
3920
เธอจับมือคุณหมอไว้ และลูบไปมา
07:56
She's nodding at everything he says.
150
476940
2960
เธอพยักหน้า ในทุก ๆ ประโยคที่เขาเล่า
08:00
And in the meanwhile, I’m sitting on my stool,
151
480260
3080
และในขณะนั้น ฉันที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้วางขา
08:03
horrified that he seems to be describing dying to a dying person.
152
483380
6000
ก็กลัวว่าเหมือนเขากำลังอธิบายความตาย ให้กับคนใกล้ตาย
08:09
And that feels, to me, to be really not very OK.
153
489420
3240
สำหรับฉัน ฉันคิดว่ามันไม่โอเคมาก ๆ
08:13
But she is mesmerized.
154
493940
1680
แต่เธอกลับดูสนอกสนใจ
08:17
"By the time the brain is deeply unconscious,"
155
497180
2240
"เมื่อถึงคราวที่สมองหมดสติในระดับลึก"
08:19
he's saying to her now,
156
499460
1240
เขาพูดกับเธอต่อ
08:20
"the only bit that's still working is the bit that drives the breathing.
157
500700
3640
"ส่วนเสี้ยวที่กำลังทำงานอยู่ คือส่วนที่คอยขับเคลื่อนการหายใจ
08:24
And so breathing cycles we don't normally see start to happen.
158
504380
5040
แล้วจังหวะการหายใจที่เราไม่ค่อยพบเจอ ก็เริ่มปรากฏขึ้น
08:29
Reflex automatic breathing
159
509460
2160
การหายใจแบบอัตโนมัติ
08:31
cycles from very deep breaths becoming shallower and shallower,
160
511660
3960
จากการสูดลมเข้าออกลึก ๆ จะค่อย ๆ ตื้นขึ้น ตื้นขึ้น
08:35
and then going back to the beginning again,
161
515660
2120
และจะกลับไปเริ่มใหม่อีกครั้ง
08:37
cycles of fast breathing that gradually become slower,
162
517780
4080
วัฏจักรของการหายใจถี่ ๆ ที่ค่อย ๆ ช้าลง
08:41
maybe with pauses,
163
521900
1800
และอาจจะหยุดได้บ้าง
08:43
and then back to the beginning again.
164
523740
2000
แล้วก็กลับไปเริ่มต้นใหม่
08:45
The person can't feel their throat.
165
525740
1880
ผู้ป่วยรับรู้ลำคอตนเองไม่ได้
08:47
They don't notice if they breathe out through their voice box,
166
527660
3400
พวกเขาไม่ทราบว่าถ้าหายใจออกผ่านกล่องเสียง
08:51
making a noise families might think that they're sighing
167
531060
3360
มันจะเกิดเสียงที่คนในครอบครัว จะคิดว่าเหมือนเสียงถอนหายใจ
08:54
or groaning, or uncomfortable.
168
534460
1560
หรือเสียงคำราม หรือกำลังไม่สบายตัว
08:56
We'll always check,
169
536020
1520
ซึ่งเราตรวจดูอยู่ตลอด
08:57
but it's part of this reflex breathing.
170
537580
2600
แต่มันก็เป็นส่วนหนึ่ง ของการหายใจแบบอัตโนมัติ
09:01
Saliva or mouth-cleaning fluid won't irritate their throat,
171
541940
3800
น้ำลายหรือของเหลวในปาก จะไม่ทำให้ลำคอระคายเคือง
09:05
it won't make them cough or swallow.
172
545780
2440
ไม่ทำให้ไอ หรือเกิดการกลืนเข้าไป
09:08
They just lie there with a little pool of fluids,
173
548220
2320
พวกเขาแค่นอนตรงนั้น ด้วยปริมาณของเหลวเพียงน้อยนิด
09:10
sometimes in the back of their throat.
174
550580
1840
บางทีมันก็ไหลย้อนเข้าไปในคอ
09:12
It's not in the way.
175
552420
1320
แต่ไม่ได้ไปขวางทาง
09:13
Air is moving in and out of their lungs,
176
553780
1920
อากาศเคลื่อนที่ผ่านเข้าออกปอด
09:15
and it bubbles through that little film of fluid,
177
555740
2720
แล้วเกิดเป็นฟองฟอด ผ่านชั้นของเหลวบาง ๆ
09:18
but families can mistake that for drowning or choking.
178
558460
4240
แต่คนในครอบครัวจะเข้าใจผิด ว่าเป็นการสำลักน้ำลาย
09:22
So one of the things that we'll do, Sabine,
179
562740
2040
ดังนั้นหนึ่งในสิ่งที่เราจะทำ
09:24
if your nieces and nephews are here,
180
564780
2560
ถ้าหลาน ๆ ของคุณมาอยู่ที่นี่
09:27
is we will make sure we explain to them what is happening to you."
181
567340
4520
คือเราจะอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ ให้พวกเขารับรู้อย่างแน่นอน
09:34
She's stroking his hands, she's nodding.
182
574660
2640
เธอลูบมือเขา พลางพยักหน้าไปด้วย
09:37
She is absolutely taking in everything that he says.
183
577820
3240
เธอซึมซับทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณหมอพูดจริง ๆ
09:42
And then he says -- and I think,
184
582780
1720
แล้วเขาก็เริ่มพูดต่อ
09:44
"Oh my goodness, he's going to the last breath."
185
584500
2960
ส่วนฉันคิดในใจว่า "โอ้ มาถึงลมหายใจสุดท้ายแล้วสินะ"
09:48
"And then, during, usually, one of those phases of slow breathing,
186
588740
5480
"และจากนั้น ระหว่างที่กำลังหายใจแผ่ว ๆ
09:54
there'll be a breath out ...
187
594260
1520
มันจะเป็นการหายใจออก
09:58
that just isn't followed by another breath in.
188
598620
2880
ที่ไม่มีการหายใจเข้าตามมา
10:01
There is nothing special about the last breath.
189
601900
3600
ไม่มีเหตุการณ์พิเศษเกิดขึ้น ในช่วงลมหายใจสุดท้าย
10:05
It's so not like on the television or in cinema.
190
605540
3800
มันไม่เหมือนอย่างในละครหรือในภาพยนตร์
10:09
There's no rush of pain at the end. There's no sudden panic.
191
609820
3200
ไม่มีความเจ็บปวดในตอนท้าย ไม่มีอาการตื่นตกใจ
10:13
There's no feeling of fading away.
192
613060
2280
ไม่มีความรู้สึกของการค่อย ๆ จากไป
10:15
Sometimes, we who work in palliative care,"
193
615340
2480
บางครั้งคนที่ทำงาน ด้านการรักษาแบบประคับประคอง"
10:17
and I've subsequently discovered this to be true,
194
617820
3240
ซึ่งในเวลาต่อมาฉันพบว่านี่เป็นความจริง
10:21
"sometimes, we will walk into a room where a family has been around a person
195
621060
5120
"บางครั้ง เราเดินเข้าไปในห้องพัก ที่ที่คนในครอบครัวกำลังยืนล้อมเตียงผู้ป่วย
10:26
who is in the act of dying,
196
626220
1800
ซึ่งกำลังจะหมดลมหายใจ
10:28
and we'll realize the person has stopped breathing,
197
628060
3560
เราพบว่าผู้ป่วยคนนั้นหยุดหายใจไปแล้ว
10:31
and the family hasn't noticed yet,
198
631660
2880
แต่คนในครอบครัวกลับยังไม่สังเกต
10:34
because the Hollywood finale that they're waiting for hasn't happened."
199
634540
4680
เพราะฉากจบแบบในหนังฮอลลีวูดที่พวกเขารอคอย
ยังไม่เกิดขึ้น
10:44
She got hold of both of his hands.
200
644860
2560
เธอกุมมือคุณหมอไว้ทั้งสองข้าง
10:48
She shook them in hers,
201
648260
1960
และใช้อุ้งมือนั้นเขย่าขึ้นลง
10:50
and then she pulled his hands to her face and she kissed them.
202
650260
4320
จากนั้นเธอดึงมือคุณหมอมาไว้ที่ใบหน้า แล้วประทับจูบลงไป
10:57
And then, she closed her eyes,
203
657180
2840
แล้วเธอก็หลับตาลง
11:00
she lay back on her pillows.
204
660060
1760
ล้มตัวลงนอนบนหมอน
11:01
I just watched her relax,
205
661860
2840
เธอดูผ่อนคลายลง
11:04
and in her own inimitable and aloof way,
206
664740
3560
แล้วด้วยท่าทีที่ไม่เป็นมิตรและเหินห่าง
11:08
she told us that we were no longer required.
207
668340
2480
เธอบอกว่าพวกเราไม่จำเป็นอีกต่อไป
11:10
(Laughter)
208
670860
3440
(หัวเราะ)
11:14
And my boss said to me, “Are you OK?” And I said, “Yes.” (Voice breaking)
209
674340
3760
หัวหน้าพูดกับฉันว่า "คุณเป็นยังไงบ้าง" ฉันตอบว่า "พอไหว" (เสียงหัวเราะแทรก)
11:18
And I went to the kitchen to blow my nose and dry my eyes,
210
678100
4040
แล้วฉันก็ไปที่ครัว ไปสั่งน้ำมูกและเช็ดน้ำตาให้แห้ง
11:22
and think about what just happened.
211
682180
3240
แล้วมานั่งคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
11:26
Two huge ideas exploding in my brain at the same time.
212
686060
5040
มีความคิดใหญ่สองก้อนปะทุขึ้นมา ในหัวฉัน ในเวลาเดียวกัน
11:31
One is "How have I never noticed that?"
213
691100
4600
ความคิดแรกคือ "ฉันไม่เคยสังเกตเลยได้อย่างไร"
11:36
That pattern that he has just explained,
214
696460
3240
รูปแบบการตายที่เขาเพิ่งอธิบายไปนั้น
11:39
I have seen hundreds of times.
215
699700
3000
ฉันพบเห็นมาเป็นร้อยครั้ง
11:43
But I was the most junior doctor.
216
703140
1800
แต่ฉันเป็นหมอน้องใหม่สุด
11:44
It was my job to stop the person dying, remember?
217
704980
3200
หน้าที่ของฉันคือการยับยั้งการตาย ไม่ให้เกิดกับคนไข้ จำได้ไหมคะ
11:48
So I was so busy worrying about this person's oxygen levels
218
708220
3000
ฉันจึงยุ่งอยู่ระดับออกซิเจนของคนนั้น
11:51
and that person's pulse, and this person's kidney function
219
711260
3200
ชีพจรของคนนี้ และค่าไตของคนโน้น
11:54
that I didn't stand back and see that there's a pattern going on here.
220
714460
4880
ยุ่งจนไม่ได้ถอยหลังกลับมามอง แบบแผนการตายที่เกิดขึ้นตรงหน้า
12:00
We can describe the process of ordinary human dying,
221
720580
4680
เราสามารถบรรยายได้ว่า กระบวนการตายของมนุษย์เป็นอย่างไร
12:05
and it's as much a process as the process of giving birth is.
222
725300
4280
และมันก็เป็นขั้นเป็นตอน พอ ๆ กันกับกระบวนการถือกำเนิด
12:09
It has stages.
223
729580
1760
มันมีระยะของมัน
12:11
We can recognize them, we can pace ourselves.
224
731380
2920
เรารับรู้ได้ เราจับจังหวะของเราเองได้
12:14
We can work out where we are in it.
225
734300
2360
เราจัดการมันได้ว่าเรากำลังอยู่ในระยะไหน
12:18
But even more fascinating
226
738300
2960
แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าก็คือ
12:21
was that realization from watching Sabine's reaction,
227
741260
5080
การตระหนักรู้ถึงบางอย่าง จากการเฝ้ามองปฏิกิริยาของซาบีน
12:26
that we can describe ordinary dying to a dying person ...
228
746340
5240
คือการที่เราพรรณนาการตายแบบธรรมดา ๆ ให้กับคนที่กำลังจะตาย
12:33
and it shines the light of understanding and information
229
753180
3960
ซึ่งมันฉายแสงแห่งความเข้าใจและข้อมูล
12:37
into that dark place
230
757180
2000
ไปยังพื้นที่อันมืดมิด
12:39
where all their fears and imagination were at play.
231
759220
3200
ที่ที่เต็มไปด้วยความกลัวและจินตนาการ
12:44
I've gone on in my career in palliative care
232
764740
2120
ฉันเลือกทำงาน ด้านการดูแลแบบประคับประคอง
12:46
to have that conversation thousands of times, countless times.
233
766900
4000
ฉันมีบทสนทนาแบบนั้น เป็นพัน ๆ ครั้ง นับไม่ถ้วน
12:50
I always offer to stop.
234
770940
1840
ฉันพูดทุกครั้งว่าให้หยุดเล่าได้นะ
12:53
I've never been stopped.
235
773940
2040
แต่ฉันไม่เคยต้องหยุดเล่า
12:57
But what happens at the end is that relaxation,
236
777180
3920
สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนท้าย คือความสบายใจ
13:01
that moment of, "Well, that isn't what I was expecting,"
237
781100
4800
มันเกิดคำพูดแบบนี้ขึ้น "นั่นไม่เหมือนที่ฉันคาดไว้เลย"
13:05
followed almost immediately by "Can you tell my family that?"
238
785900
4040
แล้วตามมาแทบจะในทันทีว่า "ช่วยบอกครอบครัวฉันแบบนี้ได้ไหม"
13:09
“Can you tell my wife, my husband, my kids, my parents?
239
789980
3520
"ช่วยบอกภรรยา สามี ลูก พ่อแม่ของฉันให้ที
13:13
That’s not what we’re expecting.”
240
793500
2160
ว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่คาดคิดเอาไว้"
13:15
And I think we can do that.
241
795980
1800
ฉันคิดว่าเราทำแบบนั้นได้
13:19
So losing the wisdom really matters.
242
799940
3840
การสูญเสียภูมิปัญญา เป็นเรื่องเร่งด่วน
13:23
And we can't leave it to palliative care people,
243
803820
2640
เราไม่สามารถทอดทิ้ง ให้เป็นเรื่องของการดูแลแบบประคับประคอง
13:26
or even medical people,
244
806500
2120
หรือแม้แต่บุคลากรทางการแพทย์ได้
13:28
to reclaim that lost wisdom, one family at a time.
245
808620
3640
เราต้องนำภูมิปัญญาที่สาบสูญกลับคืนมา
ทีละครอบครัว
13:32
This is a massive social public health issue.
246
812300
4160
นี่เป็นปัญหาใหญ่ด้านสาธารณสุขทางสังคม
13:37
And I invite everybody who's listening to step up.
247
817380
4080
และฉันขอเชิญทุกคนที่กำลังฟังอยู่ ให้ก้าวออกมาข้างหน้า
13:42
The reason my grandmother understood about dying
248
822260
3040
สาเหตุที่คุณยายฉันเข้าใจเกี่ยวกับการตาย
13:45
was that she'd seen it alongside people who knew it,
249
825340
3280
คือการที่ท่านได้เห็น และอยู่เคียงข้างคนที่รู้เรื่องนี้ดี
13:48
who described to her, as the process was happening,
250
828620
3200
ผู้ซึ่งอธิบายให้ท่านฟัง เมื่อกระบวนการต่าง ๆ กำลังดำเนินไป
13:51
what she was seeing,
251
831860
1480
ในขณะที่ท่านเฝ้ามองความตาย
13:53
so that she would understand and not be afraid.
252
833380
3200
ท่านจึงเข้าใจ และไม่กลัว
13:57
And it requires all of us who are mortals,
253
837740
3720
มันจำเป็นที่พวกเราทุกคนซึ่งเป็นมนุษย์
14:01
all of us who love other mortals,
254
841460
3400
พวกเราทุกคนซึ่งรักมนุษย์คนอื่น
14:04
to step up, to say, “Enough,
255
844900
3640
ก้าวขึ้นมาเพื่อพูดว่า
"พอได้แล้ว
14:08
death is not a medical event, it's a social event.
256
848580
3920
ความตายไม่ใช่เหตุการณ์ทางการแพทย์ แต่เป็นเหตุการณ์ทางสังคม
14:12
It's a deeply personal event.
257
852540
2280
เป็นเหตุการณ์ที่เป็นส่วนตัวอย่างยิ่ง
14:15
And we can understand it,
258
855780
1920
และเราสามารถ ทำความเข้าใจมันได้
14:17
we can describe it,
259
857700
1720
เราพรรณนาถึงมันได้
14:19
we can console each other.
260
859460
2080
เราปลอบประโลมกันและกันได้
14:22
We can accompany each other.
261
862580
2360
เราเกื้อกูลกันและกันได้
14:24
We can reclaim dying."
262
864980
2720
เราเรียกคืนความตายได้"
14:28
Thank you.
263
868780
1160
ขอบคุณค่ะ
14:29
(Applause)
264
869980
3040
(ปรบมือ)
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7