What the World Can Learn From China’s Innovation Playbook | Keyu Jin | TED

Translator: Jimmy Tangjaitrong Reviewer: Chatthip Chaichakan

So when I was born in China in the early 1980s,

ตอนที่ฉันเกิดที่จีน ในช่วงต้นทศวรรษ 1980

my country was still a place of scarcity.

บ้านเมืองของฉันยังแร้นแค้นอยู่

We lived on rationed food, cooked from communal kitchens

เรามีชีวิตอยู่ได้ด้วยอาหารปันส่วน ที่ทำจากครัวส่วนกลาง

and even in Beijing had three nights of blackouts every week.

และแม้กระทั่งในกรุงปักกิ่ง ก็จะมีการดับไฟสามคืนต่อสัปดาห์

I remember reading poems with my father by candlelight.

ฉันยังจำตอนที่นั่งอ่านบทกวี กับคุณพ่อใต้แสงเทียน

A special memory from times when Chinese people had little.

เป็นความทรงจำแสนพิเศษ ในยุคที่คนจีนยังยากไร้

And fast forward three decades,

กรอไปข้างหน้าสามทศวรรษ

China has turned into a country of abundance,

จีนกลายได้เป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์

especially when it comes to technological power.

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึง อำนาจทางเทคโนโลยี

From high tech to business tech to everyday tech,

ตั้งแต่เทคโนโลยีขั้นสูง ถึงเทคโนโลยีทางธุรกิจ

ไปจนถึงเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน

there isn't anything you can't find, only things you can't imagine.

ไม่มีอะไรที่คุณหาไม่ได้ มีแต่สิ่งที่คุณจินตนาการไม่ถึง

I can buy a can of Coke by scanning my face.

ฉันสามารถซื้อโค้กกระป๋อง โดยวิธีสแกนใบหน้า

A few years ago,

ไม่กี่ปีที่แล้ว

I called for toothpaste from my hotel room,

ฉันโทรเพื่อขอยาสีฟัน จากห้องพักในโรงแรม

and it was delivered to me by a robot.

และมันถูกส่งมาให้ฉัน โดยหุ่นยนต์

I've seen people live in remote Tibetan mountains blast off cool music

ฉันเคยเห็นคนที่อยู่ในภูเขาทิเบตอันห่างไกล เปิดเพลงเจ๋ง ๆ

with Walkmans powered by solar cells

ด้วยเครื่องวอล์กแมน ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์

and Chinese solar technology light up homes for African kids

และเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ของจีน ทำให้บ้านสว่างขึ้นสำหรับเด็กแอฟริกัน

who used to study by candlelight, just like me when I was growing up.

ผู้ซึ่งเคยอ่านหนังสือใต้แสงเทียน เหมือนกับฉันตอนเด็ก ๆ

So this striking swell of innovation happened

เห็นได้ชัดว่า นวัตกรรมได้เกิดขึ้นแล้ว

even though China remains a developing country,

ถึงแม้ว่าจีนจะยังเป็น ประเทศกำลังพัฒนา

with just a little more than 10,000 dollars of per capita GDP.

ด้วยจีดีพีต่อหัวสูงกว่า 10,000 ดอลลาร์เพียงเล็กน้อย

So today I want to offer you a different lens to look through,

ดังนั้น วันนี้ฉันจึงอยากเสนอ เลนส์อีกแบบหนึ่งให้คุณมองผ่าน

one that shows a unique model that has fostered innovation

เลนส์ที่แสดงให้เห็นโมเดลที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งโอบอุ้มนวัตกรรม

and technological growth.

และการเติบโตทางเทคโนโลยี

Now the system is far from perfect.

ตอนนี้ระบบนั้นยังห่างไกล จากความสมบูรณ์แบบ

And like you, I worry about the rising tensions of a tech race and beyond.

เช่นเดียวกับคุณ ฉันก็กังวลถึงความตึงเครียด ที่เพิ่มขึ้นของการแข่งขันด้านเทคโนโลยี

But I also believe that, as in any relationship,

แต่ฉันก็เชื่อเช่นกันว่า ในความสัมพันธ์ใด ๆ

a better understanding of each other

ความเข้าใจที่ดีขึ้นซึ่งกันและกัน

is going to help us more likely to find common goals to work on

จะช่วยให้เรามีโอกาสมากขึ้น ในการหาเป้าหมายในการทำงานร่วมกัน

rather than a downward spiral that harms all.

แทนที่จะเป็นน้ำวนที่ดูดทุกคนลงไป

So I'm an economist,

ฉันเป็นนักเศรษฐศาสตร์

straddling multiple worlds, as it turns out.

ที่ทำงานในหลายโลก อย่างที่เห็น ๆ กัน

One foot in London, where I do my research.

ขาข้างหนึ่งอยู่ในกรุงลอนดอน ที่ที่ฉันทำวิจัย

And one foot in China,

อีกข้างอยู่ในจีน

where I spend time with my family and also do a bit of work.

ที่ที่ฉันอยู่กับครอบครัว และทำงานนิด ๆ หน่อย ๆ

And if I had a third foot,

ถ้าฉันมีขาข้างที่สาม

it would be in the US, where I was educated.

มันก็คงจะอยู่ในสหรัฐฯ ที่ที่ฉันเรียนจบมา

So I can totally see why there's so much misunderstanding

ดังนั้น ฉันจึงเห็นอย่างแจ่มชัด ว่าทำไมจึงมีความเข้าใจผิด

and incomprehension about this megacountry

และความไม่เข้าใจมากมาย เกี่ยวกับประเทศยักษ์ใหญ่แห่งนี้

that has defied conventional wisdom.

ที่ท้าทายภูมิปัญญาเดิม ๆ

So let's start out with how China's innovating.

ดังนั้น เรามาเริ่มกันที่ วิธีการสร้างนวัตกรรมของจีน

Now, innovation isn't just about inventing the next new thing,

นวัตกรรมไม่ได้เป็นเพียงแค่ การประดิษฐ์สิ่งใหม่ ๆ

like the iPhone or 3D printing or sending people to Mars.

อย่างการผลิตไอโฟน การพิมพ์แบบ 3 มิติ หรือการส่งคนไปดาวอังคาร

Technologies that go from zero to one.

เทคโนโลยีที่เริ่มจากศูนย์ไปสู่หนึ่ง

It could be new applications, business models,

มันอาจเป็นแค่แอปพลิเคชันใหม่ ๆ รูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ

better processes that lower costs.

กระบวนการดี ๆ ที่ลดต้นทุนได้มากกว่า

These one-to-n innovations are just as important.

นวัตกรรมที่เริ่มจากหนึ่ง ไปสู่จำนวนนับอื่น ๆ ก็มีความสำคัญพอ ๆ กัน

Whatever makes us leaner, cleaner and more productive,

อะไรก็ตามที่ทำให้เราลีนขึ้น คลีนขึ้น และมีประสิทธิผลมากขึ้น

all count.

ล้วนมีความสำคัญ

So TikTok might not be the first short-video app,

ติ๊กต็อกอาจไม่ใช่แอปวิดีโอสั้นแอปแรก

but it has garnered more than a billion users around the world.

แต่มันกลับรวบรวมผู้ใช้งาน ได้มากกว่าพันล้านคนทั่วโลก

The Chinese EV company, BYD, didn't make the first prototype.

บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน บ.บีวายดี ไม่ได้สร้างรถต้นแบบคันแรก

But compared to Tesla's price point,

แต่เมื่อเทียบจุดตัดราคาของเทสลา

รถแท็กซี่ไฟฟ้าที่ฉันนั่ง ราคา 15,000 ดอลลาร์

the 15,000-dollars EV cabs that I've taken

with half a million kilometers of range

ซึ่งมีระยะวิ่งได้ถึงครึ่งล้านกิโลฯ

can meaningfully lead to lower emissions and mass adoption.

สามารถนำไปสู่การลดการปล่อยมลพิษ และเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง

And in the same way,

และในลักษณะเดียวกัน

Chinese mobile phones might not be as revolutionary as iPhone,

โทรศัพท์มือถือสัญชาติจีน อาจมิได้ปฏิวัติวงการอย่างไอโฟน

but in African countries, their market share is well over half.

แต่ในประเทศแถบแอฟริกา ส่วนแบ่งตลาดของจีนมีมากกว่าครึ่ง

So this actually solves one big problem for developing countries,

นี่จึงเป็นการแก้ปัญหาใหญ่อย่างหนึ่ง สำหรับประเทศกำลังพัฒนา

which is the lack of access to suitable technologies that they can actually use.

ซึ่งก็คือการเข้าไม่ถึงเทคโนโลยี ที่เหมาะสมในการนำไปใช้จริง

And even if China doesn't do many zero-to-one technologies yet --

และแม้ว่าจีนจะยังไม่มี เทคโนโลยีแบบจากศูนย์สู่หนึ่ง มากนัก --

at least not yet --

อย่างน้อยก็ยังไม่มาก --

it doesn't mean that it can't master high tech, right?

ก็ไม่ได้หมายความว่าจีนจะเชี่ยวชาญ เทคโนโลยีขั้นสูงไม่ได้ ใช่ไหม

It conducted the first quantum video call,

จีนทำการสนทนาทางวิดีโอควอนตัมครั้งแรก

and it launched the first drone that can carry a passenger in air.

และเปิดตัวโดรนลำแรก ที่สามารถบรรทุกผู้โดยสารในอากาศได้

So let's go behind the scenes.

งั้นเราไปดูเบื้องหลังกันเลยดีกว่า

Now, yes, many of you would say China's got money, markets, talent

เอาละ พวกคุณหลายคนอาจพูดว่า จีนมีเงิน ตลาด บุคลากรเก่ง ๆ

and troves of data, which is so critical in this information age.

และข้อมูลมหาศาล ซึ่งสำคัญมาก ๆ ในยุคข้อมูลข่าวสารนี้

But it wasn't just that.

แต่มันไม่ใช่แค่นั้น

Part of the success was also a "whole nation" approach,

ส่วนหนึ่งของความสำเร็จ มาจากวิธีการแบบ “ทั้งประเทศ”

or what they call a "juguo" system.

หรือที่เรียกว่าระบบ “จูกั๋ว”

So turning an idea or scientific discovery into commercial success

การเปลี่ยนความคิดหรือการค้นพบ ทางวิทยาศาสตร์ไปสู่ความสำเร็จในเชิงพาณิชย์

requires an innovation ecosystem.

ต้องอาศัยระบบนิเวศแห่งนวัตกรรม

The collaboration of universities, national labs and industries,

ความร่วมมือของมหาวิทยาลัย ห้องปฏิบัติการระดับชาติ และอุตสาหกรรม

not to mention enormous amount of funding

ไม่ต้องพูดถึงเงินทุนจำนวนมหาศาล

that covers long and uncertain investment cycles.

ที่ครอบคลุมวงจรการลงทุน ที่ทั้งยาวนานและไม่แน่นอน

Now, many of you might think

เอาละ พวกคุณหลายคนอาจคิด

that groundbreaking technologies are the products of stars,

ว่าเทคโนโลยีล้ำสมัย คือผลผลิตของคนดัง ๆ

the likes of Steve Jobs or Elon Musks.

คนอย่าง สตีฟ จอบส์ หรือ อีลอน มัสก์

But every time you use the internet,

แต่ทุกครั้งที่คุณใช้อินเทอร์เน็ต

the GPS or yell at your Alexa,

ใช้จีพีเอส หรือโวยวายใส่อเล็กซ่าของคุณ

you have the US government to thank for.

คุณต้องขอบคุณรัฐบาลสหรัฐ

We often forget that the Apollo program, the Manhattan Project,

เรามักลืมว่าโครงการอพอลโล โครงการแมนฮัตตัน

even Japan's rise to semiconductor stardom,

แม้กระทั่งการผงาดขึ้นสู่การเป็น ผู้นำด้านเซมิคอนดักเตอร์ของญี่ปุ่น

were all horizontal systems with critical state backing.

ล้วนมาจากระบบการทำงานแบบแนวราบ ที่ได้รับการสนับสนุนที่สำคัญจากภาครัฐ

Now, China's "juguo" system is an entire nation

ทีนี้ ระบบ “จูกั๋ว” ของจีน คือระบบที่ทั้งประเทศ

behind one strategic goal.

อยู่เบื้องหลังเป้าหมายเชิงกลยุทธ์เดียวกัน

Mobilizing national resources, casting the net wide,

ระดมทรัพยากรของชาติ ขยายเครือข่าย

not tallying costs.

ไม่นับต้นทุน

And it’s the same system that’s used to reap

และมันก็เป็นระบบเดียวกันกับที่ใช้ในการ

as many Olympic gold medals as possible.

เก็บเกี่ยวเหรียญทองโอลิมปิกให้ได้มากที่สุด

And so thanks to this ecosystem,

และด้วยระบบนิเวศนี้

China became the largest consumer and producers of EVs

จีนจึงกลายเป็นผู้บริโภค และผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุด

in less than a decade.

ภายในเวลาไม่ถึงทศวรรษ

With more cars sold there

มีการซื้อขายรถในจีน

than in the rest of the world combined in 2020.

มากกว่าทุกประเทศรวมกัน ในปี 2020

Now in the West,

ในโลกตะวันตก

we often talk about "nudging" consumers to make better choices.

เรามักพูดถึงการ “สะกิด” ผู้บริโภค ให้เลือกตัวเลือกที่ดีขึ้น

But in China, mass adoption of next-gen transportation happened like that.

แต่ที่จีน การนำระบบขนส่งที่ล้ำสมัยมาใช้ อย่างกว้างขวาง ก็เกิดขึ้นง่าย ๆ แบบนั้น

Well, in part thanks to the state rolling out four million charging stations

ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณภาครัฐ ที่เปิดตัวสถานีชาร์จสี่ล้านแห่ง

around the country,

ทั่วประเทศ

coordinating supply chains from battery makers to control systems

เชื่อมต่อห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ผู้ผลิตแบตเตอรี่ไปจนถึงระบบควบคุม

and manufacturers.

และผู้ผลิต

Today, there are 140,000 chargers in the US in the entire country.

ปัจจุบันมีที่ชาร์จเพียง 140,000 เครื่อง ในทั้งประเทศสหรัฐฯ

So that is kind of, the "whole nation" approach.

นั่นคือวิธีการ “ทั้งประเทศ”

But that's not actually the story I want to tell you.

แต่ที่จริงแล้ว นั่นไม่ใช่ เรื่องที่ฉันอยากจะเล่าให้คุณฟัง

There's an even more nuanced story that happens on the ground.

มีเรื่องราวที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนกว่านี้ ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง

We call it the “mayor economy,”

เราเรียกมันว่า “เศรษฐกิจนายกเทศมนตรี”

and it's a decentralized economic model

มันเป็นโมเดลเศรษฐกิจ แบบกระจายอำนาจ

that galvanizes creativity from the ground up.

ที่กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ตั้งแต่ตั้งต้น

And contrary to popular perception,

ซึ่งตรงกันข้ามกับการรับรู้ของคนทั่วไป

it isn't a centralized approach dominated by an almighty state.

เพราะมันไม่ใช่วิธีการรวมศูนย์ ที่ครอบงำโดยรัฐที่มีอำนาจล้นฟ้า

And so here's how it works.

นี่คือวิธีการทำงานของมัน

So Nio is one of the top three EV companies in China.

นีโอ เป็นหนึ่งในสาม บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของจีน

Its cars are driven everywhere on the streets of Beijing and Shanghai.

รถยนต์เจ้านี้ถูกใช้อยู่ทุกที่ บนท้องถนนในกรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้

Now, two years after it was listed on Nasdaq in 2018,

สองปีหลังจากจดทะเบียนในตลาดแนสแด็ก ในปี 2018

it was on the verge of bankruptcy.

บริษัทก็เกือบจะล้มละลาย

Now, at this point,

ณ จุด ๆ นี้

the local government of Hefei,

รัฐบาลท้องถิ่นของเหอเฟย์

a small town in eastern China with five million people,

เมืองเล็ก ๆ ทางตะวันออกของจีน มีประชากรห้าล้านคน

convinced it to move its headquarters there.

ได้โน้มน้าวบริษัท ให้ย้ายสำนักงานใหญ่ไปอยู่ที่นั่น

The local government injected a billion dollars

รัฐบาลท้องถิ่นอัดฉีดเงิน 1 พันล้านดอลลาร์

in exchange for a 25-percent stake,

เพื่อแลกกับสัดส่วนการถือครองหุ้น 25 เปอร์เซ็นต์

arranged more loans for the company

จัดหาเงินกู้เพิ่มเติมให้กับบริษัท

and most importantly,

และที่สำคัญที่สุด

organized an entire supply chain around Nio.

คือจัดระเบียบห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด ให้เอื้อกับนีโอ

It took only a year before Nio's production grew by 81 percent,

ใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งปี ก่อนที่ การผลิตของนีโอจะเติบโตถึง 81 เปอร์เซ็นต์

its market cap went from four to 100 billion dollars.

มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้น จาก 4 พันล้าน เป็น 1 แสนล้านดอลลาร์

และรัฐบาลท้องถิ่นของเหอเฟย์ ก็ถอนทุนคืนได้ภายในเวลาหนึ่งปี

And the local government of Hefei cashed out within a year,

and Nio's life was saved.

บ.นีโอ ก็สามารถเปิดดำเนินการต่อไปได้

And so for every local government behind a Nio,

ดังนั้น ทุก ๆ รัฐบาลท้องถิ่น ที่อยู่เบื้องหลังบริษัทอย่างนีโอ

there's another mayor behind a competitor.

ก็จะมีอีกนายกเทศมนตรี ที่อยู่เบื้องหลังบริษัทคู่แข่ง

And there are literally hundreds of EV companies vying for survival

มีบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าหลายร้อยแห่ง ที่แข่งขันกันเพื่อความอยู่รอด

in ruthless competition.

ในการแข่งขันที่โหดเหี้ยมนี้

So,

ด้วยประการนี้

if you are actually a promising tech company,

หากคุณเป็นบริษัทเทคโนโลยี ที่น่าจับตามองจริง ๆ

local governments will move mountains to help.

รัฐบาลท้องถิ่นก็จะช่วย ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย

Remove red tape, check.

ขจัดกฎระเบียบที่ไม่จำเป็น ได้จ้ะ

Find you more financing, check.

หาแหล่งเงินทุนเพิ่มให้ จัดไป

Get a job for your spouse, check.

หางานให้คู่สมรสของคุณเหรอ จะเหลืออะไร

Piece of cake.

ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก

They are a one-stop shop, as they like to call themselves.

พวกเขาเป็นดั่งร้านค้าครบวงจร พวกเขาชอบเรียกตัวเองอย่างงั้น

Now in the vigorous bid for Amazon's second headquarters,

ในการประมูลอันดุเดือด เพื่อดึงสำนักงานใหญ่แห่งที่สองของแอมะซอน

there were some creative offers.

มีข้อเสนอที่สร้างสรรค์จำนวนมาก

One state sent a giant cactus as a gift.

ที่หนึ่งส่งกระบองเพชรยักษ์เป็นของขวัญ

Another state offered to rename a town Amazon.

อีกที่เสนอจะเปลี่ยนชื่อเมือง เป็นเมืองแอมะซอน

But it basically came to some tax breaks,

แต่สุดท้ายมันก็มาสู่ เรื่องของการลดหย่อนภาษี

not quite like what the Chinese mayors had to offer.

ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ นายกเทศมนตรีจีนเสนอซะทีเดียว

But of course,

แต่แน่นอนว่า

the US government is no stranger to supporting big-shot companies

รัฐบาลสหรัฐฯ เองก็คุ้นเคย กับการสนับสนุนบริษัทขนาดใหญ่

like SpaceX and Tesla, offering billions in benefits.

อย่าง บ.สเปซเอ็กซ์ และ บ.เทสล่า ก็มอบสิทธิประโยชน์นับพันล้าน

But in China, it's really this marriage between hyper-charged local officials

แต่ที่จีนนั้น มันคือการแต่งงานกันระหว่าง เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่บ้าพลัง

and intrepid entrepreneurs of all ilk

กับผู้ประกอบการที่หาญกล้า จากหลายอุตสาหกรรม

that is at the heart of its model.

นั่นคือหัวใจของโมเดลดังกล่าว

And here's why.

และนี่คือเหตุผลว่าทำไม

So the local government of Hefei,

อย่างรัฐบาลท้องถิ่นของเหอเฟย์

the one that made a killing with Nio,

ที่ประสบความสำเร็จกับ บ.นีโอ

well, it wasn't just after the return on investment, per se.

มันไม่ใช่แค่การได้รับผลตอบแทน จากการลงทุนเท่านั้น

But it was by luring companies like Nio

แต่ด้วยการดึงดูดบริษัทอย่างนีโอเข้ามา

that it’s looking to create a mini Silicon Valley of sorts.

ที่จะช่วยสร้างซิลิคอนแวลลีย์ขนาดย่อม ๆ

An industrial clutter, a talent pool,

การรวมกลุ่มของอุตสาหกรรม กลุ่มผู้มีความสามารถพิเศษ

a flourishing retail and service industry

อุตสาหกรรมการค้าปลีก และการบริการที่เฟื่องฟู

that gets them more jobs, more tax revenues.

ซึ่งทำให้พวกเขามีงานมากขึ้น มีรายได้จากภาษีมากขึ้น

And guess what?

แล้วยังไงต่อหละ

Even the real estate and land they own are suddenly worth more,

แม้แต่อสังหาริมทรัพย์และที่ดิน ก็มีมูลค่าสูงขึ้นทันที

all because of the economics of agglomeration and multiplier effects,

ทั้งหมดนี้เป็นเพราะ เศรษฐศาสตร์ของการรวมกลุ่ม

และผลทวีคูณต่อระบบเศรษฐกิจ

because the local mayors are actually an equity stakeholder of the entire city.

เนื่องจากนายกเทศมนตรีท้องถิ่น เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเมืองทั้งเมือง

So in sum,

โดยสรุป

it's this political centralization

การรวมอำนาจทางการเมือง

and economic decentralization

และการกระจายอำนาจทางเศรษฐกิจ

that is actually a simple representation of China's model.

คือการนำเสนอโมเดลของจีนอย่างง่าย ๆ

It's the same model used to urbanize, to grow and now to innovate.

คือโมเดลเดียวกับที่ใช้ทำเมืองให้เป็นเมือง ให้เติบโต และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ

Now, for all of its successes,

เอาละ สำหรับความสำเร็จทั้งหมด

there were huge costs, I admit.

ฉันยอมรับว่า มันมีต้นทุนมหาศาล

Waste left in the wake,

ขยะเหลือใช้มากมาย

inefficient investments, wrong bets.

การลงทุนที่ไม่มีประสิทธิภาพ การเดิมพันที่ผิดพลาด

Now, some of these challenges are being addressed, thankfully,

ยังดีที่ความท้าทายบางอย่าง กำลังได้รับการแก้ไข

like environmental degradation,

เช่น ความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม

but there are others that remain in urgent need of fixing.

แต่ยังมีอีกหลายเรื่อง ที่ยังจำเป็นต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน

So I'm not suggesting that there's some universal recipe

ฉันจึงไม่ได้บอกว่าเป็นสูตรสากล

or that it's perfect

หรือเป็นสูตรที่สมบูรณ์แบบ

or that it can be easily replicated.

หรือลอกเลียนแบบได้ง่าย

But what we do know is that there's more than one way of making things work.

แต่สิ่งที่เรารู้แน่ ๆ ก็คือ มันมีมากกว่าหนึ่งวิธี

ในการทำให้สิ่งต่าง ๆ เป็นไปได้

And recognizing that there is some wisdom to China's approach

และการตระหนักถึงภูมิปัญญา ในแนวทางของจีน

doesn't mean endorsing all of it.

ก็ไม่ได้หมายความว่า จะต้องสนับสนุนทั้งหมด

But I guess there's something to learn from each other.

แต่ฉันเดาว่ามีบางสิ่ง ที่ต้องเรียนรู้จากกันและกัน

And for one,

อย่างหนึ่งหละ

China didn't sit on the tarmac waiting for a technological takeoff.

จีนไม่ได้แค่นั่งดูอยู่เฉย ๆ แล้วรอให้เกิดความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

Instead, it was the big push from the ground up.

ในทางกลับกัน มันเป็นการผลักดันครั้งใหญ่ตั้งแต่ต้น

So I came to the US as an exchange student in 1997,

ฉันมาที่สหรัฐฯ ในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยนในปี 1997

and I was mesmerized.

และฉันก็รู้สึกทึ่ง

I saw enormous possibility between the East and the West,

ฉันเห็นความเป็นไปได้มหาศาล ระหว่างโลกตะวันออกและโลกตะวันตก

as they competed, collaborated and spurred each other forward.

ขณะที่พวกเขาแข่งขันกัน ร่วมมือกัน และกระตุ้นกันและกันไปข้างหน้า

I still believe in this,

ฉันยังคงเชื่อในสิ่งนี้

even though frost has set in

แม้ว่าน้ำค้างจะเริ่มแข็งตัว

and there may be chill in the air for some time

และอาจมีความหนาวเย็นในอากาศ ไปอีกสักพัก

between the two largest economies in the world.

ระหว่างสองประเทศ มหาอำนาจทางเศรษฐกิจ

Some may fear China's juggernaut innovation.

บ้างอาจกลัวนวัตกรรมยักษ์ใหญ่ของจีน

Some may not like competition, which is rarely comfortable.

บ้างอาจไม่ชอบการแข่งขัน ซึ่งก็ไม่ค่อยสะดวกสบายอยู่แล้ว

But having someone in your rearview mirror

แต่การมีใครสักคน ในกระจกมองหลัง

helps you keep up the pace.

ช่วยให้คุณก้าวเดินต่อไป

Japan's technological rise in the 1980s

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของญี่ปุ่น ในทศวรรษที่ 1980

pushed the US to overhaul its innovation system

ผลักดันให้สหรัฐฯ ต้องยกเครื่องระบบนวัตกรรมของตน

and regain the lead in the 1990s.

และกลับมาเป็นผู้นำอีกครั้ง ในทศวรรษที่ 1990

The US subsequently did the same for Japan,

สหรัฐฯ เอง ก็ทำเช่นเดียวกันกับญี่ปุ่น

and as a result, we all have cheaper and better products.

เป็นผลให้เราทุกคน มีสินค้าที่ถูกลงและดีขึ้น

Today, Chinese EV company BYD is pushing Tesla to new heights and vice versa.

ในวันนี้ บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจีน บ.บีวายดี ผลักให้ บ.เทสล่า ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น

และเทสล่าก็ทำเช่นเดียวกัน

Tesla opted for a Chinese battery maker,

เทสล่าเลือกใช้ผู้ผลิตแบตเตอรี่จากจีน

which is pushing the German government to do more in that space.

ซึ่งผลักดันให้รัฐบาลเยอรมัน ต้องทำด้านนั้นให้ดีขึ้น

And it's that mutual learning

นั่นคือการเรียนรู้ร่วมกัน

and constant threat of being overtaken

และความกดดันอย่างต่อเนื่อง ที่จะถูกแซง

that pushes the technology frontier further and beyond.

ที่ผลักดันพรมแดนแห่งเทคโนโลยี ให้ไกลออกไป

But one thing's for sure, true,

แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือ

it just doesn't happen in geographical isolation.

สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นในพื้นที่ ที่แยกตัวออกไป

So ...

เพราะฉะนั้น

I’ve come here, and I imagine the possibilities

ฉันมายืนอยู่บนเวทีนี้ และจินตนาการถึงความเป็นไปได้

between the two countries,

ระหว่างประเทศทั้งสอง

and I understand that there are national security concerns

และฉันเข้าใจว่ายังคงมีความกังวล ในด้านความมั่นคงของชาติ

that countries will have to respect.

ที่ประเทศทั้งสอง จะต้องเคารพต่อกัน

But not everything is about national security.

แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ

The trillion dollars or more at stake with the economic disengagement

เงินหลายล้านล้านดอลลาร์หรือมากกว่า กำลังถูกเดิมพันจากการแยกทางกันทางเศรษฐกิจ

between the two largest countries

ระหว่างสองประเทศที่ใหญ่ที่สุด

can do so much as eradicate malaria, end world hunger,

ซึ่งสามารถทำอะไรได้มากมาย เช่น กำจัดโรคมาลาเรีย ยุติความหิวโหยของโลก

conserve biodiversity and more.

อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และอีกมากมาย

So let's not forget that there are more sacred things in life.

อย่าลืมว่ายังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อีกมากมายในชีวิต

Such as a brighter future for our children and a cleaner Earth.

เช่น อนาคตที่สดใสของลูกหลาน และโลกที่สะอาดขึ้น

Let's not forget that in the developing world,

อย่าลืมว่าในประเทศกำลังพัฒนา

there's still so much unnecessary misery.

ยังมีความทุกข์ยากที่ไม่จำเป็นอีกมากมาย

And that its people also have the right to enjoy the dignity in life

และผู้คนเหล่านั้น ก็มีสิทธิ์มีศักดิ์ศรีในการใช้ชีวิต

as those who are more fortunate.

ได้เหมือนกับผู้ที่โชคดีกว่า

And so for all of this to happen,

เพื่อให้ทั้งหมดนี้เกิดขึ้น

it seems to me

สำหรับฉันแล้ว

that what we ultimately need is the cheapest and best technologies,

ดูเหมือนว่าสิ่งที่เราต้องการในท้ายที่สุด คือเทคโนโลยีที่ถูกที่สุดและดีที่สุด

rather than worry about where they come from

แทนที่จะกังวลว่า เทคโนโลยีเหล่านั้นมาจากไหน

or who will dominate.

หรือใครจะเป็นผู้ครอบครอง

Thank you.

ขอบคุณค่ะ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)