How to describe APPEARANCE in English - Essential Advanced Adjective Vocabulary Lesson

สวัสดีค่ะทุกคน และขอต้อนรับเข้าสู่ "อังกฤษกับลูซี่"

วันนี้ฉันมีบทเรียนวิดีโอสั้น ๆ สำหรับคุณเล็กๆน้อยๆ

เรากำลังจะพูดถึงคำศัพท์

และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิธีการอธิบายรูปลักษณ์ของคน

นี่เป็นหัวข้อที่สำคัญมากๆ

มันเป็นสิ่งแรกเลยที่คุณเคยเรียน

เมื่อตอนที่คุณเริ่มที่จะเรียนภาษาอังกฤษ

แต่ฉันอยากจะเจาะลึกมากกว่านี้อีกเล็กน้อย

โดยปกติแล้วคนเราสามารถที่จะอธิบาย รูปลักษณ์ะแบบพื้นๆ

ฉันอยากที่จะสอนให้คุณรู้จักใช้ คำศัพท์ที่สูงขึ้นอีกนิดนึง

เพื่อให้คุณสามารถที่จะอธิบายได้ถูกต้องจริงๆ

ของรูปลักษณ์ผู้คน

ถ้าคุณเจอในส่วนที่ไม่เข้าใจ

คุณสามารถเปิดคำบรรยาย เพื่อให้คุณจะสามารถ

เห็นคำที่ด้านล่างของหน้าจอ

ก่อนอื่นนะคะ ก่อนที่เราจะเริ่มกัน วิดีโอนี้จะช่วยคุณ

เกี่ยวกับการพูด การเขียน และการใช้คำศัพท์ของคุณ

นอกจากนี้ยังจะช่วยเกี่ยวกับการฟัง

เพราะคุณจะต้องฟังฉันที่ฉันพูด

และคุณจะต้องเรียนรู้คำศัพท์มากขึ้น

แต่ถ้าคุณต้องการให้การฟังของคุณ

และการออกเสียงของคุณสูงขึ้นอีกระดับ

ทำไมไม่ลอง audible.com ละคะ

Audible เป็นเว็บไซต์ที่คุณสามารถ

ดาวน์โหลดและฟังหนังสือเสียง

ในนั้นมีหนังสือกว่าพันเล่ม

ส่วนตัวฉัน ฉันฟังตลอดเวลาที่ฉันไปวิ่งนานๆ

เล่มหนึ่งยาวราวเท่ากับพี่ตูนวิ่ง 1 มาราธอน

แต่ฉันก็สนุกไปกับมันนะคะ

หากคุณดาวน์โหลดหนังสือเป็น ภาษาอังกฤษนั้นก็เป็นวิธีที่ดีมาก

ในการปรับปรุงการฟัง และการออกเสียงของคุณ

พวกเขาจะให้คุณมีหนังสือเสียงฟรี

สิ่งที่คุณต้องทำคือการคลิกที่ลิงค์

ในกล่องคำอธิบายใต้คลิปและลงทะเบียน

และถ้าหลังจากหนึ่งเดือน คุณไม่ต้องการที่จะจ่ายเงิน

คุณก็สามารถยกเลิกได้ค่ะ ทุกอย่างก็จะฟรี~

ฉันได้แนะนำหนังสือบางเล่ม

ที่อยู่ในกล่องคำอธิบายด้านล่างค่ะ หนังสือในนั้นจะเป็นเป็นสำเนียงอังกฤษ

มาเริ่มเลยกันเลยค่ะ

อย่างแรกนะคะ เราจะมาคุยกันเกี่ยวกับรูปร่างของคน

และฉันคิดว่าฉันจะเริ่มต้นด้วยการ

พูดคุยเกี่ยวกับความสูง ว่าคนๆนั้นสูงเท่าไหร่

ดังนั้นคุณอาจอยู่แล้ว พื้นฐานเหล่านี้แล้ว

เตี้ย กับ สูง - เตี้ย กับ สูง

แล้วถ้าคนๆนั้นมีความสูงแบบคนทั่วๆไปละ?

มันก็มีวิธีสองสามแบบที่คุณสามารถอธิบายได้

คุณสามารถพูดว่า พวกเขามีความสูง("average" = เฉลี่ย)ทั่วๆไป

พวกเขามีความสูง("medium" = ปานกลาง)

ถ้าคุณต้องการที่จะพูดแบบแม่นยำมากขึ้น

แบบบอกความสูงแบบเซนติเมตร

หรือฟุต เและ นิ้ว คุณสามารถพูดว่า ("around" = ประมาณ)

ดังนั้นวิธีพูดก็คือ I am around five foot six. ฉันสูงประมาณ 5 ฟุต 6 นิ้ว

จริงๆแล้วฉันสูง 5 ฟุต 5 นิ้วครึ่ง แต่ชั่งมันเถอะ

บางครั้งฉันก็บอกคนอื่นว่าฉันสูงห้า ฟุต 6 นิ้ว

คำอื่น ๆ ที่ใกล้เคียงกันคือคำว่า (very=มาก) และ (quite = ค่อนข้าง)

ดังนั้นเราก็จะได้ตัวอย่างว่า he is very tall เขาสูงมาก she is quite short เธอค่อนข้างจะเตี้ย

ต่อไปเรามาดูลักษณะของร่างกายและน้ำหนัก

จุดนี้คุณจะต้องระมัดระวังนิดนึง

เมื่อคุณอธิบายลักษณะร่างกายหรือน้ำหนักของใครสักคน

เพราะบางทีคุณอาจทำร้ายความรู้สึกของพวกเขาได้~

ดังนั้นอย่างแรกเลย ฉันจะมีคำคุณศัพท์ในเชิงบวก

เพื่ออธิบายน้ำหนักของใครสักคนแล้วหลังจากนั้น

ฉันมีตัวอย่างที่เป็นคำคุณศัพท์ด้านลบ

เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจว่า ต้องใช้ตอนไหนหรือตอนไหนที่ไม่ควรใช้

แต่ฉันขอเตือนคุณเลยว่าน้ำหนักเนี่ย, ในสหราชอาณาจักรหรือโดยเฉพาะอย่างยิ่ง

และที่อื่น ๆ ในโลก

น้ำหนักเป็นเรื่องที่ละเอียดละอ่อนมาก

ถ้าคุณคิดว่าคุณอาจเผลอดูถูกใครสักคน

มันจะดีที่สุดถ้าเราไม่พูดอะไรเลย

แต่นั้นมันไม่ใช่หน้าที่ของฉันตอนนี้ ฉันแค่จะสอนคำเหล่านี้ให้แก่พวกคุณ

ดังนั้นเรามาเริ่มกันเลยค่ะ (555)

เรามีคำว่าผอมกะหร่องและอ้วน

คำเหล่านี้โดยทั่วไปเป็นคำพูดเชิงลบ

ดังนั้นมาดูคำที่เป็นทางเลือกในเชิงบวกกันค่ะ

สำหรับผอมกะหร่องคุณอาจจะใช้แทนว่า (slender=สมส่วน)หรือ(slim=เพรียว)

คำเหล่านี้เป็นคำที่สุภาพ

เพราะถ้าใครบอกว่าฉันสมส่วนหรือฉันผอมเพรียว ฉันคงจะปลิ้มจนลอยได้

อีกคำคือคำว่า (lean=ผอมบาง)

และแปลว่าพวกเขาผอมแบบมีแค่หนังกับกล้ามเนื้อ

จริงๆแล้วมันเป็นคำเชิงบวกเพราะ มันหมายความว่า รักษารูปร่าง

พวกเขามีแต่กล้ามเนื้อ ไม่มีไขมันเลย

นอกจากนี้คุณยังสามารถเรียก ใครสักคนที่มีรูปร่างเล็กว่า (petite=เล็กกระทัดรัด)

ใช้เมื่อคนนั้นมีโครงสร้างร่างกายเล็ก

โดยปกติจะใช้เพื่ออธิบายผู้หญิง

ที่มีไหล่เล็กแคบ และรูปร่างค่อนข้างเตี้ย

ก็เหมือนกับผู้หญิงทั่วๆไป แต่แค่ที่มีขนาดเล็กลงเท่านั้น

พวกเขากำลังเล็กกระทัดรัด

ถ้าใครผอมแบบโครตๆ คุณสามารถเรียกพวกเขาว่า (slight=เอวบางร่างน้อย)

พวกเขามีรูปร่างเอวบางร่างน้อยมาก

และอีกคำหนึ่งคือ(lanky=ผอมโย่ง)

ซึ่งหมายความว่าสูงและผอมมาก

พวกเขามีแขนขาที่ยาวมาก นั้นแปลว่าเขา (lanky=ผอมโย่ง)

ถ้าหากใครซักคนมีเนื้อหนังมากมากกว่าคนอื่นๆหน่อย

คุณไม่ควรเรียกพวกเขาว่าอ้วน แต่ควรใช้คำที่สุภาพขึ้น

ที่คุณสามารถใช้คือคำว่า (curvy=มีส่วนเว้าโค้ง) หมายความว่าผู้หญิงมีน้ำมีนวล มีทรวดทรงองค์เอว

สามารถใช้คำเหล่านี้ได้เช่นกัน (curvaceous=มีน้ำมีนวล) (womanly=ละเมียดละมัย) (voluptuous=ยั่วยวน)

นี้หมายถึงว่าปกติแล้วพวกเขาจะมี

สะโพกและหน้าอกค่อนข้างใหญ่

คำพวกนี้เราสามารถใช้ชมใครซักคนได้ ตราบใดที่เราไม่ได้ใช้ไปในทางน่ากลัวๆนะ

สำหรับผู้ชายเราจะใช้คำว่า (stocky=กำยำล่ำสัน) (well-built=รูปร่างดี) (muscly=มีกล้าม)

เอาล่ะตอนนี้เรามาดูคำที่เป็นเชิงลบดีกว่า

ใครสักคนที่มีรูปร่างขนาดใหญ่ เรามีคำว่า

(plump=อวบ) (chubby=อ้วน) (round=กลม)

แต่นี้ไม่ได้หมายความไขมันเยอะ หรือตัวใหญ่แต่แค่หมายความว่า

พวกเขาแค่มีส่วนเกินนิด ๆ หน่อย ๆ ในร่างกาย

นอกจากนี้ยังมีคำว่า (overweight=น้ำหนักเกิน) (large=กว้าง) (big=ใหญ่) (heavy=หนัก)

และถ้าใครซักคนที่รูปร่างที่ผอมมากๆ บางคุณสามารถเรียกพวกเขา

(underweight=น้ำหนักไม่ถึงเกณฑ์ ) (skinny=กะหร่อง) (bony=ผอมจนเห็นกระดูก)

หนึ่งคำที่มักจะใช้ เพื่ออธิบายคนที่ผอมมากๆ

ที่ไม่ควรนำมาใช้จริงๆ คือคำว่า (anorexic=คนที่มีอาการเบื่ออาหาร)

มันเป็นคำศัพท์เฉพาะทางแพทย์และก็ไม่ใช่คำคุณศัพท์

ที่จะมาใช้อธิบายถึงเป็นลักษณะรูปร่างของใครซักคน

จึงควรพยายามที่จะหลีกเลี่ยงคำนั้น

เอาล่ะ ทีนี้เรามาเรื่องของเส้นผมกันเลย

มี 2 วิธี

ที่เราจะพูดถึงสีผมของใครซักคน

คุณสามารถเรียงประโยคได้ว่า to have + adj. + hair

หรือจะเรียงได้ว่า to be + adj. + "-" haired

ตัวอย่างเช่นฉันมีผมสีบลอนด์ (I have blonde hair.)

ฉันมีผมสีบลอนด์ (I am blonde-haired.)

คำที่สองจะค่อนข้างแปลกๆเวลาพูด

สีผมสีบลอนด์

ฉันเป็นผมสีบลอนด์? 55

นอกจากนี้คุณยังสามารถพูดแค่ว่า ฉันคือสาวผมบลอนด์ (I am blonde.)

แต่จะดีกว่านั้นคือการใช้สีที่ชี้เฉพาะ

ที่มีความเฉพาะเจาะจงกับสีผมมากกว่าทั่วๆไป

เหมือนสีบลอนด์ สีขิง(=สีน้ำตาลแดงอมเหลือง) และสีน้ำตาล

ดังนั้นเราก็จะพูดได้ว่า ฉันคือคนผมบลอนด์ , ฉันคือคนผมน้ำตาลแดงอมเหลือง , ฉันคือคนผมนัำตาล

แต่ถ้าคุณพูดว่าฉันเป็นคนผมสีขาวหรือฉันเป็นคนผมสีดำ

มันอาจจะสับสนกับสีผิว

ดังนั้นจึงวิธีที่ดีที่สุดคือพูดว่า ฉันมีผมสีดำ, (I am black-haired) ฉันมีผมสีขาว (I have white hair.)

เรามีสีมากมายในโลกใบนี้

แต่ฉันจะยกตัวอย่างสีที่พบมากที่สุด

แต่คำเหล่านี้ค่อนข้างจะเฉพาะเจาะจงไปหน่อย คุณอาจจะไม่เคย

ได้ยินมาก่อน

งั้นขอเริ่มต้นด้วยสีสว่างสุดและไล่ไปถึงสีมืดที่สุดค่ะ

มี (white=สีขาว) (grey=สีเทา)

(platinum blonde=สีบลอนด์แพลทินัม) และ (white-blonde=สีขาว-บลอนด์)

ปกติแล้วสีพวกนี้จะไม่ใช่สีผมธรรมชาติและบางคน

มีบุญพอที่จะมีผมสีขาวบลอนด์แบบธรรมชาติ

หรือแม้แต่ผมสีแพลทินัม ก็มันเป็นสีที่เลิศจริงๆ

ถัดจากนั้นก็คือสีบลอนด์

แต่ถ้าเข้มกว่านั้นเราอาจจะเรียกมันว่า ผมสีทอง

แล้วถ้ามีสีที่เข้มกว่าบลอนด์มานิดนึง

ก็มีสองวิธีที่จะอธิบายเช่นกัน

ถ้าเป็นสีบลอนด์ๆเกือบน้ำตาล คุณอาจจะบอกได้ว่านี่คือสี (dirty blonde=ผมออกสีบลอนด์สกปรกๆ หรือ บลอนด์ออกน้ำตาลนั้นแหละ)

ถ้ามันเป็นสีบลอนด์ เกือบๆน้ำตาลแดงอมเหลือง

นั้นคือสี (strawberry blonde=บลอนด์สตรอเบอร์รี่)

ถ้าเป็นผมที่มีสีน้ำตาลแดงอมเหลือง แต่ออกส้มมากกว่า

และมีสีแดงที่เข้มมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด นั้นคือสีผมสีแดง ก็แน่นอนละมันคือผมสีดีแดง 55

จากนั้นเรามีสีที่เรียกว่า (mousy brown=สีน้ำตาลอ่อนๆเกือบจะเทา)

ซึ่งเป็นสีน้ำตาลอ่อน

แล้วแน่นอนสีผมสีน้ำตาล (brunette=สีน้ำตาล)

ซึ่งเป็นคำที่เรียกผมน้ำตาลได้เช่นกัน

สีนี้เป็นสีที่ออกจากเข้มขึ้นนิดหน่อย

จากนั้นเป็น(dark brown=สีน้ำตาลเข้ม) และ (black=สีดำ)

จุดนี้ถ้าคุณไม่ต้องการที่จะระบุเจาะจงสีผม

หรือสีผิวหรือสีตา คุณก็แค่เพียงพูดว่าสีอ่อนหรือสีเข้ม

คุณสามารถพูดได้ว่า (fair=อ่อน) หรือ (dark=เข้ม)

จะได้ว่า ฉันมีตาสีอ่อน,ผมสีอ่อน และ ผิวสีอ่อน

ซึ่งหมายความฉันผิวขาว

คนอื่นอาจจะมีผมสีเข้ม,ตาสีเข้ม,ผิวสีเข้ม

ดังนั้นปกติเราจะใช้คำว่า (fair=อ่อน) หรือ (dark=เข้ม)

แล้วความยาวของเส้นผมละ?

อื้ม.. ถ้าหากคุณไม่มีผมละ? นั้นก็แปลว่าคุณ (bald=หัวล้าน)

I am bald ฉันหัวล้าน

และในวิดีโอที่ฉันอัดในช่องของ Aly

ชื่อช่องว่า Papa Teach Me English ในคลิปนั้นฉันหัวล้าน

หากใครอยากจะเห็นฉันในแบบไม่มีผม

และไม่มีการแต่งหน้าแบบผู้หญิงๆ เป็นการแต่งหน้าที่เปลี่ยนไปจากเดิน

งั้นคุณก็คลิกดูตรงข้างบนเลยค่ะ

ลองดูว่าคุณจะจำฉันได้มั้ยเมื่อฉันเปลี่ยนไปนิดนึง

กลับมาต่อกันเลยค่ะ จากนั้นเรามี (short hair=ผมสั้น) (long hair=ผมยาว)

แต่ระหว่างผมสั้นกับผมยาว ในความยาวเท่านี้ คุณจะเรียกมันว่า (bob=ผมยาวระดับคอ)

ในวิดีโอแรกของฉัน ฉันก็ตัดทรงนี้แหละค่ะ

แต่ผมบ๊อบของฉันมันสั้นมากๆตอนนั้น

ฉันไม่ได้ขอให้มันเป็นทรงนั้น มันก็น่าประหลาดใจมากๆ

(Shoulder-length hair=ผมยาวประบ่า), (medium-length hair=ผมยาวปานกลาง)

หากคุณต้องการที่จะบอกว่าผมยาวของคุณยาวแค่ไหน

คุณสามารถพูดว่า "My hair goes down to my ..." "ผมของฉันยาวลงไปถึง ..."

ดังนั้นจะได้ว่า my hair goes down to my armpit. ผมของฉันยาวลงไปถึงรักแร้ หรือ ผมของฉันยาวเท่ารักแร้

My hair goes down to my waist. ผมของฉันยาวลงไปถึงเอวของฉันหรือผมของฉันยาวเท่าเอว

ลักษณะของเส้นผมก็มีเช่นกัน เช่น (straight hair - ผมตรง)

(wavy hair - ผมหยักศก) (curly hair - ผมหยิก) (afro hair - ผมแอฟโฟร่)

ซึ่งหยิกหนาจริงๆ

คุณภาพของเส้นผมของคุณยังสามารถอธิบายได้อีก

ถ้าผมของคุณนุ่มมากๆ เราจะใช้คำว่า (silky-นุ่มเหมือนไหม) หรือคำว่า (shiny-เงางาม)

แล้วถ้ามันไม่อ่อนนุ่ม ถ้าผมเสียหนักมากละ?

คุณก็สามารถใช้คำว่า (dry hair-ผมแห้งเสีย)

หรือคุณใช้คำว่า (straw like - พันกันเหมือนฟาง)

งั้นเราไปต่อเรื่องผิวกันเลยค่ะ

นี่เป็นอีกครั้ง และเป็นอีกอย่างที่ยากมาก

เรามีหลากหลายสีผิวที่อยู่ระหว่างสีขาวกับสีดำ

แต่ละคนก็อยากจะถูกเรียกแบบต่างกัน

ดังนั้นฉันจะขอเรียกตัวเองว่า ฉันมีผิวขาว

ฉันมีเพื่อนหลายคนที่มีสีผิวที่เข้มกว่าฉัน

ที่มักจะถูกเรียกว่า คนผิวดำ แต่

แต่จริงๆแล้วพวกเค้าจะปลื้มมากกว่าถ้าเรียกว่า คนผิวน้ำตาล

ใช้อ่อนหรือเข้ม

เพื่ออธิบายโทนสีผิวของคน

สีผิวที่อยู่ตรงกลางคือ(tanned - ผิวสีแทน)

นั้นหมายความว่าคุณตากแดดมา

ผิวของคุณถูกแสงแดด ทำให้คุณนั้นผิวเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาล

และในอังกฤษบริทิชนั้น เราใช้คำว่า tanned

และในอังกฤษอเมริกันเราใช้คำว่า tan

และถ้าหากคุณไม่ได้มีผิวแทน งั้นก็แปลว่าคุณมีผิวสีขาวซีด

และนั่นคือฉันในทุกๆเวลา

ฉันจะมีผิวสีขาวซีดตลอเวลา ถึงแม้ว่าฉันจะไปเที่ยวพักผ่อน

เรามาต่อกันที่สีตากันค่ะ

อีกครั้งนะคะ คุณสามารถใช้คำว่า อ่อนหรือเข้มก็ได้

ตาสีอ่อน , ตาสีเข้ม

เรียงประโยคได้อย่างงี้ค่ะ to have + adj + eyes

หรือ to be + adj + "-" + eyed

จะได้ว่า I have grey eyes, I am grey-eyed. ฉันมีตาสีเทา

I am dark-eyed. ฉันมีตาสีดำ

ส่วนใหญ่แล้วสีตาจะเป็นอะไรที่ง่ายมาก

สีฟ้า, สีน้ำตาล, สีเขียว, สีดำ, สีเทา, สีน้ำตาล

ฉันพูดสีน้ำตาลซ้ำกันใช่มั้ยเนี่ย??

แต่สีหนึ่งที่ใช้ค่อนข้างบ่อยคือ (hazel=สีน้ำตาลแดง)

หากคุณมีสีที่ตาที่ออกจากน้ำตาลเขียวๆ

ก็สามารถเรียกได้ว่านั้นคือสีน้ำตาลแดง

they have hazel eyes. พวกเขามีดวงตาสีน้ำตาลแดง

ตอนนี้มาที่ริมฝีปาก

คุณอาจจะมีริมฝีปากบาง แต่ ถ้าคุณต้องการที่จะพูดถึง

คนที่มีริมฝีปากใหญ่ คุณสามารถพูดได้ว่าพวกเขามี(full lips=ริมฝีปากอวบอิ่ม)

ดังนั้นถ้าใครมีลิปฝีปากที่เหมือนรูปจูบ หรือปากเบ้

คุณก็สามารถพูดได้ว่าพวกเขามีริมฝีปากที่อวบอิ่มมาก

ถ้าใครที่มีลิปฝีปากออกมาและพูดแบบนี้

คุณสามารถเรียกพวกเขาว่า Pouty lips

แต่ก็นั้นแหละ

ถัดไปเราจะมาคุยกันเกี่ยวกับจมูก

ดังนั้นเล็กหรือใหญ่ก็เป็นแค่พื้นฐาน

ถ้าจมูกใครโค้งๆ

เราจะเรียกว่า (a crooked nose = จมูกเบี้ยว)

หากพวกเขาไม่ได้มีจมูกโค้งๆ

งั้นมันอาจจะเป็นจมูกตรง

ถ้าใครมีจมูกเล็ก คุณสามารถเรียกว่า (a button nose = จมูกเล็กสั้น)

ถ้าพวกเค้ามีจมูกเหมือนตะขอ (a hooked nose = จมูกแบบจะงอยปากนก)

และถ้าจมูกของใครเป็นแบบนี้

นั้นคือ (a turned up / upturned nose = คือจมูกเปิดขึ้นหรือจมูกหงายขึ้น)

มาถึงรูปร่างของใบหน้า ฉันหาข้อมูลทางออนไลน์และเห็นได้ชัดว่า

ใบหน้านั้นจะมีอยู่ 9 รูปร่างที่แตกต่างกัน

แต่เราจะยกเอามาพูดถึงกันแค่ 4 อันในวันนี้

จะมี(oval-หน้ารูปไข่) (round-หน้ารูปกลม ) (heart-shaped-หน้ารูปหัวใจ)

และสุดท้ายคือ (square-รูปหน้าเหลี่ยม)

และบางคนอาจจะมีขากรรไกรเหลี่ยมๆ

แล้วลักษณะทั่วไปละ?

ฉันได้ทำวิดีโอร่วมกับ Anna จากช่อง English like a Native

เกี่ยวกับการชมเชยและเราได้พูดถึง

บางส่วนของวิธีการที่คุณสามารถใช้ในการชมเชยคน

นั้นคือคำคุณศัพท์ในเชิงบวก

ฉันจะพยายามครอบคลุมคำเหล่านั้นในบทเรียนนี้

แต่ถ้าคุณอยากจะเรียนรู้แบบเต็มๆ คลิกบนนี้ได้เลยค่ะ

มันเยี่ยมมากเลยค่ะที่เราได้ทำการแยกมันเป็นสองส่วนคือผู้ชายและผู้หญิง

เพราะคำคุณศัพท์บางคำอาจจะ

น่าชื่นชมและเป็นไปในเชิงบวกสำหรับเพศชาย

แต่มันอาจจะเหมือนดูถูกถ้าใช้สำหรับหญิง

คำคุณศัพท์ที่สามารถใช้สำหรับทั้งสอง

อย่างคำเชิงบวกก็จะมี attractive, beautiful, stunning, มีเสน่ห์,สวยงาม,งดงาม

ซึ่งรวมๆแล้วหมายความว่าคนๆนั้นสวยจนน่าประหลาดใจ

แต่สำหรับผู้ชายแล้วเราจะใช้คำว่า (handsome-หล่อ)

และสำหรับผู้หญิงเราจะใช้คำว่า (pretty-สวยน่ารัก)

ถ้าคุณอยากจะบรรยายว่าผู้หญิงคนนั้นหล่อ

คุณอาจจะบอกเป็นนัยๆได้ว่า she has manly features. ว่าเธอมีคุณลักษณะหมือนผู้ชาย

ในทางเดียวกันถ้าคุณจะใช้ในการบอกลักษณะของผู้หญิง

แต่ในทางเดียวกันกับการที่คุณอยากบอกว่าผู้ชายคนนั้นสวย

คุณอาจจะบอกว่าเขามีคุณลักษณะเหมือนผู้หญิงมาก

ซึ่งบางทีก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่บางคนต้องการจะได้ยิน

และคำเชิงลบก็จะมี หน้าเกลียด และ ธรรมดา

วิธีการอื่นๆที่จะอธิบายผู้อื่น

คุณยังสามารถพูดว่าพวกเขาดูเป็นผู้ชายหรือดูเป็นผู้หญิง,

boyish, manly, มีความเป็นเด็กผู้ชาย , มีความเป็นลูกผู้ชาย girly, womanly มีความเป็นเด็กผู้หญิง,มีความเป็นผู้หญิง

แน่นอนค่ะ การบ้านของคุณคือการอธิบายลักษณะของตัวคุณเอง

ให้ละเอียดมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ส่งการบ้านได้ในคอมเม้นต์และฉันรอไม่ไหว

ที่จะได้อ่านการบ้านของพวกคุณ

นอกจากนี้ถ้าคุณสามารถเพิ่มเติมคำศัพท์อื่นๆ

ลงในการบ้านของคุณได้เช่นกัน

บทเรียนของเราก็มีแค่นี้ค่ะสำหรับวันนี้

อย่าลืมลองไปใช้ audible.com ด้วยค่ะ

ข้อมูลทั้งหมดจะอยู่ใต้คลิป

ฉันหวังว่าคุณจะเพลิดเพลินไปกับบทเรียนในครั้งนี้

และฉันหวังว่าคุณจะได้เรียนรู้อะไรบ้างจากมัน

เพราะฉันได้ให้ความรู้กับคุณไปเยอะมาก

อย่าลืมที่จะติดต่อฉันมานะคะ ในsocial media ต่างๆของฉัน

ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ค ไอจี หรือ ทวิต

แล้วพบกันใหม่ในบทเรียนครั้งหน้าค่ะ

จุ๊บ!

(เพลงป๊อปช้า)